บทที่ 688 ก้อนหิน ‘อย่าว่าแต่ทางเลย ประตูหน้าต่างก็ไม่มี!’
ก้อนหินเหินเข้าไปในกระจก และมาอยู่ริมลำธารในฉับพลัน
“ทิวทัศน์ที่นี่ยังเป็นเช่นคราวก่อน ทว่าน่าเสียดาย เมื่อไม่มีข้าอยู่ ก็ออกจะเงียบเหงาไปหน่อย…”
น้ำเสียงก้อนหินเจือแววเสียดายยามกล่าว
ต้นหลิวยังคงฝังรากไว้ริมลำธาร ลำต้นดูสูงใหญ่ ใบไม้เขียวชอุ่มขึ้นดก
ก้อนหินตั้งใจกลับมาอวดเบ่งใส่มัน หวังดีประสงค์ร้ายหรือไร?
ทันทีที่ต้นหลิวได้ยินคำกล่าวของก้อนหิน มันก็รู้ได้เลยว่าก้อนหินไม่หวังดี
ไม่เรียกพี่หลิวด้วยซ้ำ เจ้านี่ชักจะเหลิงเกินไปแล้ว…
“เงียบเหงาหรือ ข้าไม่เห็นรู้สึกเช่นนั้น ทว่าไม่มีเจ้าอยู่ ก็เงียบลงจริง ๆ มิได้น่ารำคาญอย่างเก่า”
ต้นหลิวหาได้ไว้หน้าก้อนหิน มันกล่าวต่อ “เหตุใดถึงกลับมานี่ โดนคุณชายไล่มาหรือไร”
ก้อนหินโมโหแทบแย่ ต้นหลิวพูดจาอะไรกัน!
ทุกประโยคล้วนแดกดันมันทั้งสิ้น
ที่ว่าพอมันไม่อยู่ก็ไม่รู้สึกรำคาญหมายความอย่างไร
ไหนจะที่บอกว่าโดนคุณชายไล่กลับมาอีก
ทว่าเมื่อลองคิดดูแล้ว มันก็ไม่รู้สึกโกรธอีกต่อไป ต้นหลิวอิจฉาจนตาร้อนเท่านั้นแหละ!
“ขุ่นข้องหมองใจใช่หรือไม่ ข้ารู้ว่าคุณชายไม่พาเจ้าไปด้วย เจ้าเลยไม่พอใจ ไม่ชอบใจ ทว่าเราสองพี่น้องอยู่กันมาตั้งหลายปี ต่อให้เจ้าไม่พอใจ ไม่ชอบใจเพียงใด ก็ไม่ควรทำลายความสัมพันธ์ของเราสองพี่น้องมิใช่หรือ”
ก้อนหินกล่าว “เจ้าว่าจริงหรือไม่ น้องหลิว…ของข้า!”
น้อง…หลิว?!
เมื่อต้นหลิวได้ยินคำนี้ ก็หัวเราะออกมาในใจ
ดี!
ดีจริงเชียว!
เจ้าก้อนหินโง่เง่านี่คิดจะอวดดี หวังดีประสงค์ร้ายใส่มันให้ถึงที่สุดจริง ๆ!
ดูท่า เจ้าก้อนหินยกระดับพลังขึ้นไม่น้อยหลังได้ติดตามอยู่ข้างกายคุณชาย มิฉะนั้น ก้อนหินไฉนเลยจะกล้าหยิ่งผยองต่อหน้ามัน อวดอ้างตนเอง ซ้ำยังเรียกมันว่าน้อง…หลิว!
ไม่มีปัญหา!
เช่นนั้นมันจะประชันกับก้อนหินสักครา
“ก้อนหิน เจ้ารู้สึกว่าเปลือกหินของเจ้าแข็งพอ ต้านทานการหวดจากก้านหลิวของข้าได้แล้วใช่หรือไม่”
ต้นหลิวเอ่ยเสียงเรียบ
“ไม่แข็งก็โดนเจ้าหวดจนแข็งแล้ว!”
ก้อนหินเอ่ยเสียงโกรธเคือง ท่าทางเคียดแค้น “เจ้าลองว่ามา เมื่อครั้งเราสองอยู่ด้วยกัน มีวันไหนที่เจ้าไม่หวดข้าบ้าง หวดข้าอยู่ทุกวี่วัน เจ้านี่ก็เหลือเกิน ทำลงไปได้อย่างไร!”
ยิ่งคิดมันยิ่งอัดอั้นตันใจ ต้นหลิวหวดมันทุกวัน หวดจนมันเจ็บปวดเหลือแสน ร้าวรานไปถึงทรวง!
ทว่ายังดี มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มันไม่โดนหวด
นั่นเป็นช่วงเวลาเดียวที่มันรู้สึกสุขสันต์
มิใช่ว่าต้นหลิวเปลี่ยนนิสัย รู้จักสงสารมัน แต่เพราะช่วงนั้นมีคนแทนที่มัน ต้นหลิวไม่หวดมัน ไปหวดคนผู้นั้นแทนโดยเฉพาะ
ใช่แล้ว เจ้าคนโชคร้ายนั่นก็คือตงฟางเวิ่น
บัดนี้มันมาคิดดูแล้ว มันกับตงฟางเวิ่นนับว่าเจ็บปวดจากเรื่องเดียวกันโดยแท้!
‘เรียกตงฟางเวิ่นมาแก้แค้นด้วยดีหรือไม่’ ก้อนหินคิดในใจ
“พี่หิน ข้าสนับสนุนท่าน! ล้มล้างเผด็จการ ต่อต้านการข่มเหงรังแก! ต้นหลิวไม่หวดพี่หินก็มาหวดข้า โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!”
คิดสิ่งใดได้สิ่งนั้นจริง ๆ เมื่อครู่ก้อนหินยังคิดอยู่ว่าควรเรียกตงฟางเวิ่นมาแก้แค้นด้วยกันดีหรือไม่ ตงฟางเวิ่นก็มาที่นี่พอดี
ตงฟางเวิ่นตั้งใจมาทำความเคารพต้นหลิว ไม่มาทำความเคารพต้นหลิวบ่อย ๆ เขารู้สึกไม่สบายใจ เขามาทำความเคารพต้นหลิวทุกสองสามวัน
และเขามาครั้งนี้ ก็พอดีกับที่ก้อนหินกลับมา และกำลังท้าทายต้นหลิว
ต้นหลิวกับก้อนหินอยู่ด้วยกันมาตลอด เขารู้สึกว่าพลังก้อนหินกับต้นหลิวคงห่างกันไม่มาก และหลังจากนั้น ก้อนหินได้ออกเดินทางกับคุณชาย เมื่อกลับมาก็กล้าท้าทายต้นหลิว ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าก้อนหินคงได้รับประโยชน์มหาศาล พลังยกระดับแบบก้าวกระโดด
มิฉะนั้น ก้อนหินไม่มีทางกล้าท้าทายต้นหลิว
แม้ว่าก้อนหินก็ทำไม่ดีกับเขา รังแกเขาไว้ไม่น้อย ทว่า หากเขาไม่อยู่ฝ่ายเดียวกับก้อนหิน เขาคงไม่ได้ล้างแค้นเลยแม้แต่น้อย!
อยู่ฝ่ายเดียวกับก้อนหิน อย่างน้อยก็ได้ติดตามก้อนหิน ล้างแค้นต้นหลิวที่เคยรังแกเขาไว้!
เพราะอย่างนั้น เขาจึงเลือกอยู่ข้างก้อนหินอย่างเด็ดขาด ปราบปรามต้นหลิวด้วยกัน
ส่วนเรื่องนั่งบนภูดูเสือกัด ปล่อยให้ทั้งสองฝ่ายห้ำหั่นกันแล้วค่อยตักตวงผลประโยชน์นั้น เขาไม่แม้แต่จะคิด
ด้วยระดับพลังของต้นหลิวและก้อนหิน ต่อให้สู้กันจนบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย เขาก็ไม่มีทางได้อะไรจากการนี้ เรื่องจะฉวยโอกาสที่บาดเจ็บทั้งสองฝ่ายแล้วจัดการทั้งต้นหลิวและก้อนหิน เท่ากับรนหาที่ตาย หาเรื่องให้ตัวเองถูกเหยียบย่ำ!
“ใช่แล้ว! ต้นหลิวนี่ระยำจริง ๆ ข้ายังทนดูมิได้ เหตุใดถึงต้องหวดพี่หินของข้าอยู่ตลอด เรื่องอะไรพี่หินของข้าต้องต้อยต่ำกว่าต้นหลิวด้วย?!”
เวลานั้นเอง จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงก็มาถึง
เขากลับจากแดนสังสารวัฏแล้ว มานี่เพื่อเยี่ยมเยียนคุณชาย และมาเห็นภาพก้อนหินท้าทายต้นหลิวพอดี เขาจึงเข้าร่วมในบัดดล ทั้งยังเลือกอยู่ข้างก้อนหิน
ก่อนนี้เขาได้ยินบทสนทนาระหว่างก้อนหินและต้นหลิว แม้ไม่กี่ประโยค กระนั้นเขาก็เข้าใจแจ่มแจ้ง
ดูเหมือนต้นหลิวถูกทิ้งไว้ที่นี่ คุณชายพาเพียงก้อนหินไป บัดนี้ก้อนหินกลับมาแล้ว จึงตัดสินใจแก้แค้นต้นหลิวที่เคยหวดมันบ่อย ๆ
เช่นนี้ได้เรื่องแน่!
ก้อนหินไม่เหมือนกับเขา
ก่อนหน้านี้เขาเคยกลับมาล้างแค้นถึงสองครั้ง ที่เขาเคยถูกต้นหลิวและก้อนหินรุมซ้อม สุดท้ายเขาล้มเหลว ถูกต้นหลิวและก้อนหินซ้ำหนักกว่าเดิม
ทว่านั่นเพราะเขายังไม่รู้จักพลังของต้นหลิวและก้อนหินอย่างถ่องแท้ สองครั้งนั้น เขาคิดไปอย่างไร้เดียงสาว่า ตัวเองแข็งแกร่งกว่าต้นหลิวและก้อนหินจริง ๆ ถึงได้เสียเปรียบมหันต์กับต้นหลิวและก้อนหินถึงสองครั้ง
ก้อนหินนั้นไม่เหมือนกัน
อีกฝ่ายอยู่กับต้นหลิวทุกวัน คิดแล้วต้องรู้ดีว่าขอบเขตพลังของต้นหลิวนั้นเป็นเช่นไร ที่ก้อนหินกล้ากลับมาท้าทายต้นหลิวเยี่ยงนี้ เห็นได้ชัดว่ามั่นใจเต็มร้อยว่าสามารถกำราบต้นหลิวได้
เขาไม่อยู่ข้างเดียวกับก้อนหินจะให้อยู่ข้างเดียวกับผู้ใดเล่า
อีกอย่าง เขาก็คิดไม่ต่างจากตงฟางเวิ่นนัก เขาไม่ชอบทั้งต้นหลิวทั้งก้อนหิน คิดอยากกำราบทั้งคู่ จับหวดให้เข็ดหลาบ
ทว่าความคิดที่อยากกำราบทั้งต้นหลิวและก้อนหินด้วยกันนั้นออกจะเกินจริงไปหน่อย แทบเป็นไปไม่ได้เลย แก้แค้นตนใดได้ ก็เอาตนนั้นก่อน
หากพลาดโอกาสนี้ไป เป็นไปได้ว่าเขาจะมิได้ล้างแค้นผู้ใดเลย!
น่าสนใจดีนี่…
ต้นหลิวหัวเราะในใจดังขึ้นไปอีก กระโดดออกมาหมดเลยหรือ!
ใช้ได้ ใช้ได้!
พอดีเลย ขอจัดการทีเดียว!
“ดี ๆๆ!”
ก้อนหินมองตงฟางเวิ่นและจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง พึงพอใจกับท่าทีของพวกเขามาก
“น้องหลิวของข้า เห็นหรือไม่ เจ้าเป็นที่โกรธแค้นของปวงชนแล้ว!”
จากนั้น มันบอกกับต้นหลิว “ผู้สำเร็จมีกำลังหนุนมาก ผู้ล้มเหลวมีกำลังหนุนน้อย! น้องหลิวของข้า ความผิดที่เจ้าก่อไว้ในอดีตมากเกินไป ถึงเวลาชดใช้ให้กับความผิดที่เจ้าเคยก่อแล้ว!”
“อ๋อ อย่างนั้นหรอกหรือ”
ต้นหลิวหัวเราะเบา ๆ “ด้วยสายสัมพันธ์ตลอดหลายปีของเรา เจ้าลงมือกับข้าได้ลงคอเชียวหรือ ซ้ำยังพาพวกเขาสองคนมารุมข้า”
ได้ยินวาจานี้ของต้นหลิว ตงฟางเวิ่นกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงพลันสะดุ้งโหยง
ก้อนหินจะยอมสมานฉันท์กับต้นหลิวมิได้เด็ดขาด หากสมานฉันท์ พวกเขาสองคนได้ซวยแน่!
บัดซบ เจ้าเฒ่าชั่วร้ายอย่างต้นหลิวกับก้อนหิน ‘วางเบ็ดหลอกล่อ’ อยู่หรือไร จงใจวางกับดักลวงพวกเขา รอพวกเขามาติดเบ็ดอยู่หรือนี่!?
ทันใดนั้น พวกเขาคิดเช่นนี้ขึ้นในใจ พลันกลัวขึ้นมาอย่างเหลือแสน
หากเป็นเช่นนี้จริง พวกเขาจะโง่ดักดานเกินไปแล้ว!
ไม่ได้ ๆ ต่อไปนี้ เรื่องราวระหว่างต้นหลิวและก้อนหิน พวกเขาจะไม่เข้ามายุ่งด้วยอีกเด็ดขาด!
‘เด็กละอ่อน’ อย่างพวกเขาสองคน แค่ต้นหลิวและก้อนหินลวงพวกเขาด้วยกับดักง่าย ๆ พวกเขาก็อาจไม่เหลือแม้แต่เศษกระดูก
แต่ยังดี ถ้อยคำต่อมาของก้อนหินช่วยให้พวกเขาสบายใจได้
“แหม น้องหลิวของข้า เจ้ากลัวหรือ อ้างความสัมพันธ์ขึ้นมาเชียวหรือ เหอะ ๆ ข้าไม่หลงกลหรอก! ก่อนหน้านี้ที่เจ้าหวดข้า ไม่เห็นเอ่ยถึงสายสัมพันธ์ระหว่างเราสอง?!”
ก้อนหินไม่คิดสมานฉันท์
วันนี้มันจะกำราบต้นหลิวให้อยู่หมัด จนต้นหลิวต้องเรียกมันว่าพี่หิน หากไม่ได้ล้างแค้นในอดีตที่ต้นหลิวเคยหวดมัน มันไม่มีทางยอมเลิกราแน่
“นี่ ก้อนหิน ไม่มีโอกาสเจรจากันเลยหรือ” ต้นหลิวแสร้งถอนหายใจ
“ก่อนนี้ที่เจ้าหวดข้า เคยเจรจากับข้าบ้างหรือไม่”
ก้อนหินกล่าว “อยากเจรจาหรือ ไม่มีทาง!”
เหมือนมันคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงเสริมอีกประโยค
“อย่าว่าแต่ทางเลย ประตูหน้าต่างก็ไม่มี!”
มันมั่นใจเต็มร้อย แน่วแน่ในการกำราบต้นหลิว