ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 105 นักฆ่ามืออาชีพ

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ตอนที่105 นักฆ่ามืออาชีพ

จ้าวเฉียนกำลังครุ่นคิดถึงแผนการที่หยางหมิงตละเตรียมเอาไว้ ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน และเขาเองก็ไม่มีอารมณ์มาเล่นเลเซอร์เกมส์แม้สักนิด แต่หวังเฉียงอารมณ์ดีจนผิดแปลก วิ่งมามอบหมายหน้าที่ให้ประจำจุดของแต่ละคน

“จ้าวเฉียน นายไปเป็นมือสไนเปอร์คอยซุ่มยิง ไปหาที่ซ่อนให้มิดชิด เดี๋ยวให้อีกสองคนไปสอดแนมหาตำแหน่งศัตรูมาให้ จากนั้นนายก็ไล่เก็บรายคนได้เลย มีอะไรอยากจะเพิ่มเติมไหม?”

จ้าวเฉียนส่ายหัวบ่งบอกไปว่าตนไม่มีปัญหา เขาหยิบปืนสไนเปอร์ไรเฟิลและรีบไปหาที่ซ่อนตัวทันที

หวังเฉียงรีดจัดแจงตำแหน่งยืนของคนอื่นๆเสร็จสรรพ ก็ไปซ่อนตัวยังมุมหนึ่งและเหลือบมองจ้าวเฉียนที่กำลังดักซุ่มพรางตัวอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“จากทางประตูเข้ามา เลี้ยวซ้ายประมาณสองร้อนเมตรจะมีต้นไม้ใหญ่สูงเด่น บริเวธถังน้ำมันรอบต้นไม้ต้นนั้นแหละคือจุดที่จ้าวเฉียนซ่อนตัวอยู่ ฉันจะสั่งให้ทุกคนเคลื่อนที่ออกไป เวลานั้นจะเหลือแค่มันคนเดียวก็เข้าจัดการได้เลย”

หยางหมิงได้รับข่าวจากหวังเฉียงก็รีบส่งคนลอบเข้าไปให้สนามเลเซอร์เกมส์ทันที เพื่อตามหาจ้าวเฉียน

ในเวลานั้นเอง จ้าวเฉียนก็ได้รับข้อความจากหวงฉิงเช่นกันว่า

“คุณชายจ้าว ลูกน้องผมเพิ่งได้รับรายงานมาว่า พบเห็นลูกน้องหยางหมิงกำลังตีกรอบเข้ามาในสนามเลเซอร์เกมส์ ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะรีบรายงานให้ทราบทันที คุณชายจ้าวระวังตัวด้วยครับ”

จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะพร้อมท่าทีพึงพอใจยิ่ง พลางกล่าวกับตัวเองว่า

“หยางหมิง นี่แกกล้าลงมือลงไม้กับฉันจริงๆ ถ้าอย่างงั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่สุภาพแล้วกัน!”

หยางหมิงจะไปรู้ได้ยังไงว่า ผู้คนทั่วทั้งเกาะแห่งนี้ล้วนแต่เป็นคนของจ้าวเฉียน ต้องการลักพาตัวจ้าวเฉียน นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ

สิบนาทีต่อมา หยางหมิงส่งข้อความถึงหวังเฉียง เพื่อขอให้อีกฝ่ายยืนยันตำแหน่งซ่อนตัวของจ้าวเฉียนอีกครั้ง หวังเฉียงรีบวิ่งไปหลบมุมด้านหนึ่งของสนามและส่งข้อความระบุตำแหน่งจ้าวเฉียนหาหยางหมิง

หยางหมิงตอบกลับหวังเฉียนในทันใด

“คนของฉันกำลังเข้าไปแล้ว พวกเขาจะข้ามรั้วเข้ามาในสนาม แกรีบพาทุกคนออกจากบริเวณนั้นโดยเร็วภายในห้านาที”

หวังเฉียงตื่นอกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง เขารีบวิ่งไปหาเจียงเสี่ยวปิงและที่เหลือ และสั่งให้กระจายตำแหน่งกันออกไป

ในเวลานั้นเอง จ้าวเฉียนก็ได้รับรายงานมาเช่นกัน

“คุณชายจ้าว ผมเพิ่งรับรายงานกลับมาว่า มีคนกระโดดข้ามรั้วสนามเลเซอร์เกมส์บุกเข้ามา เป้าหมายคือนายน้อยจ้าวจริงๆ นี่ไม่ใช่เรื่องดีแล้ว ผมจะรีบส่งคนไปช่วย ระหว่างนี้นายน้อยรีบไปหาที่ซ่อนตัวก่อนครับ”

หลังจากรับทราบดังนั้น จ้าวเฉียนก็รีบเร่งกระโดดข้ามถังน้ำมันที่เป็นจุดซ่อนตัวเก่า ปีนขึ้นต้นไม้หลบเลี่ยงและเข้าระวังด้วยความเงียบสงัด ตามที่ได้รับรายงานมาไม่มีผิด อีกประมาณห้านาทีต่อมา มีกลุ่มชายฉกรรจ์วิ่งเข้ามาค้นหาอะไรบางอย่างแถวถังน้ำมันรอบต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปทันใด

จ้าวเฉียนรีบส่งข้อความถึงหวงฉิงโดยพิมพ์ไปว่า

“พวกมันยังคงวิ่งหาในสนาม ดูท่าแต่ละคนจะแข็งแกร่งมากเลย ฝากนายเตือนทุกคนด้วยว่าให้ระวัง ใส่ใจความปลอดภัยเป็นหลัก”

หวงฉิงตอบกลับโดยเร็ว

“เข้าใจแล้ว”

ไม่กี่วินาทีต่อมา หวังเฉียงก็รีบวิ่งกลับมาดูบริเวณถังน้ำมันซึ่งเป็นที่ซ่อนตัวจ้าวเฉียน แต่เมื่อพบว่าอีกฝ่ายไม่อยู่แล้ว จึงโทรสายหาจ้าวเฉียนทันที

“ฮาโหล จ้าวเฉียน นายหายไปไหน?”

“ฉันรู้สึกว่าตำแหน่งเดิมที่ฉันซ่อนตัวมันดูเงียบเกินไปหน่อย ก็เลยเปลี่ยนตำแหน่งน่ะ”

“แล้วไปอยู่ไหนแล้ว?”

“บนต้นไม้ทางทิศเหนือ”

หวังเฉียงหันควับมปรายตาจับจ้องไปทางต้นไม้ทางเหนือ และรีบวิ่งไปหาอย่างรวดเร็ว

จ้าวเฉียบนโบกมือส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายและกล่าวขึ้นว่า

“ตำแหน่งนี้ดีกว่าเยอะเลย เกือบจะมองเห็นทั้งสนาม เหมาะสำหรับมือสไนเปอร์อย่างฉัน เราชนะแน่นอน!็น”

หวังเฉียงยิ้มตอบในทันทีและยกนิ้วโป้งให้ทีหนึ่ง บอกว่าไม่มีปัญหา จากนั้นก็รีบวิ่งกลับไปที่จุดเดิมเพื่อรายงานหยางหมิง

“ฮาโหล จ้าวเฉียนหายหัวไปไหน?”

“หมอนั่นเปลี่ยนที่ซ่อนเป็นบนต้นไม้สูงทางทิศเหนือ ฉันจะพาทุกคนเคลื่อนพลออกจากตำแหน่งนี้ก่อน แล้วค่อยส่งคนไปจับตัวอีกรอบ”

ทันใดนั้นก็มีชายร่างกำยำคนหนึ่งวิ่งตรงมาที่ใต้ต้นไม้ทางเหนือ หรือก็คือจุดที่จ้าวเฉียนซ่อนตัวอยู่

ดูท่าชายร่างกำยำคนนี้จะเป็นหัวหน้ากลุ่ม มีจุดเด่นที่หัวโล้น เขาเงยหน้าขึ้นพร้อมกล่าวกับจ้าวเฉียนว่า

“เจ้าหนุ่มลงมา เรามีเรื่องต้องคุยกัน”

จ้าวเฉียนตอบแค่ว่า

“บอกตรงนี้ได้เลย ผมได้ยิน”

“ไม่ค่อยสะดวกน่ะ ลงมาคุยกันดีๆ”

“ไม่เอา”

“อย่าให้พวกฉันต้องบังคับ!”

ชายหัวโล้นยกมือข้างหนึ่งที่ห่อด้วยผ้าสีทึบ ถ้าให้พูดรูปทรงมันคล้ายกับปืนพกมาก

จ้าวเฉียนใจหายวับในทันใด เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่า คนพวกนี้จะเป็นมือสังหารมืออาชีพ ถึงขนาดที่ว่าพกอาวุธปืนมาพร้อมแบบนี้

ไม่ว่าจะเป็นปืนจริงหรือปลอม แต่จ้าวเฉียนไม่ยอมเสี่ยงกับเรื่องนี้แน่ เขาจึงรีบลงจากต้นไม้อย่างช่วยไม่ได้ พลางคิดแค่ว่าหยางหมิงแค่ต้องการจะสั่งสอนเขาสักบทเรียน คิดไม่ถึงว่าจะเล่นของหนักแบบนี้จริงๆ

ผ่านไปได้ครึ่งทางระหว่างที่จ้าวเฉียนปีนลงมาจากต้นไม้ กลุ่มคนที่หวงฉิงส่งมาก็รีบตรงเข้ามา ล้อมกรอบกลุ่มชายฉกรรจ์พวกนั้นอีกชั้นหนึ่ง

ชายฉกรรจ์ทั้งสี่หยิบผ้าคลุมมือโยนทิ้ง ปรากฏเป็นวัตถุสีดำคลับคล้ายกับปีนพกอยู่ในมือกระชับแน่น

คนของหวงฉิงที่เห็นดังนั้นร่นถอยไปสองก้าว บอดี้การ์ดสวมแว่นดำคนหนึ่งพยายามกล่าวประณีประนอมขึ้นว่า

“พี่ชาย ถ้ามีเรื่องขับข้องใจอะไรค่อยว่ากันหลังเดินทางออกจากเกาะซ่งต้าวดีกว่าไหม? ลงไม้ลงมือตรงนี้เท่ากับสังหารนักท่องเที่ยวและอาจตกเป็นข่าว ส่งผลกระทบไปถึงอุตสหกรรมการท่องเที่ยวของที่นี่ได้ เอาล่ะ วางปืนลงก่อน…”

ชายหัวโล้นท่าทียังคงแน่วแน่ เขากล่าวตอบไปว่า

“เราจะรีบลงมือรีบเก็บงาน ไม่ต้องห่วง เราจะไม่ให้เป็นข่าวแน่นอน พวกแกนั้นแหละวางปืนลง!”

บอดี้การ์ดเหล่านี้คือลูกน้องของหวงฉิง พวกเขาได้รับคำสั่งมาว่า ต่อให้พวกเขาต้องแลกมาด้วยชีวิต แต่ห้ามให้จ้าวเฉียนเป็นอะไรเด็ดขาด แม้กระทั่งรอยขีดข่วนก็ต้องไม่มี ถึงจะไม่รู้ว่าจ้าวเฉียนแท้จริงแล้วเป็นใคร ทว่าโดนสั่งเข้มชนิดที่ว่าหัวเด็ดตีนขาด แสดงให้เห็นได้ว่า นี่ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน บอดี้การ์ดสวมแว่นดำตระหนักดี เป็นตายอย่างไร พวกเขาต้องปกป้องตัวประกันให้จงได้

เนื่องด้วยกลัวว่าตัวประกันจะได้รับอันตราย พวกบอดี้การ์ดจึงจำต้องลงปืนลงอย่างจำนนใจ

ในเวลานี้เอง ฟางนี่และคนอื่นๆสังเกตเห็นด้ามปืนชัดแจ้ง ทั้งยังพบว่าจ้าวเฉียนกำลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ล้อมไว้อยู่อีก ก็ค้นพบได้ในทันใด จ้าวเฉียนกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว จึงรีบวิ่งไปหาอย่างรวดเร็ว

“พวกนายเป็นใคร? คิดจะทำอะไรกัน?”

ได้ยินเสียงตะโกนของฟางนี่ ทุกคนที่อยู่บริเวณโดยรอบยุติการเล่นลงทันที และรีบวิ่งไปหา

ในไม่ช้า เหล่าพนักงานบริษัทเกมฟางนี่กว่าหลายสิบก็เข้ารวมพลกัน

มือสังหารทั้งสี่ชะงักชะงันไปชั่วขณะหนึ่ง ส่วนจ้าวเฉียนไม่กล้าลงมาจากลำต้น ปีนค้างอยู่แบบนั้นเพื่อหาทางหนีทีไล่

ซึ่งจ้าวเฉียนไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานพวกนี้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง จึงตะโกนตอบกลับไปว่า

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกนาย อย่ามาขวาง รีบหนีไปซะ!”

จางหยางคำรามลั่นด้วยความโกรธจัด

“แกเป็นบ้าอะไรอีก?! คิดว่าพวกเราอยากช่วยแกนักรึไง! ถ้าแกมาตายแบบนี้ บริษัทเราต้องจ่ายค่าชดเชยเพื่อรับผิดชอบ! รีบๆขอโทษพวกนั้นและหยุดสร้างความเดือดร้อนได้แล้ว!”

ฟางนี่รีบเอ่ยปากถามชายฉกรรจ์ทั้งสี่ทันทีว่า

“ดิฉันต้องขอโทษทุกคนในนามหัวหน้าเขาแทนด้วยค่ะ ถ้าต้องการอะไรสามารถบอกได้เลยนะคะ ขอแค่อย่าทำอะไรเขาก็พอ”

ชายฉกรรจ์อีกสามคนหันมาถามชายหัวโล้นว่าจะทำยังไงกันต่อ? จะหนีถอยไปตั้งหลักหรือรีบเก็บงานให้เสร็จไปเลย

ชายหัวโล้นดูลังเลเล็กน้อย ชั่วครู่ถัดมาเขากัดฟันแน่นและหยิบกระบอกเก็บเสียงจากเสื้อหนัง มาติดตั้งไว้กับปากกระบอกปืนพกของตน อุปกรณ์เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ สมกับเป็นมืออาชีพจริงๆ

“มีคนจ่ายพวกเราให้มาสังหาร โดยมีเป้าหมายคือชายนามว่าจ้าวเฉียน ใครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาก็หุบปากแล้วหมอบลงไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าทิ้งให้หมด!”

หลังจากพูดจบ ชายหัวโล้นก็ยิงขู่ลงเพื้นไปนัดหนึ่ง

ฟางนี่และคนอื่นๆรีบนั่งยองด้วยความตกใจ ปรากฏว่านี่เป็นปืนพกของแท้ ไม่ใช่ปืนอัดแก๊สแต่อย่างใด

จางหยางสบถขึ้นว่า

“ไอ้เวร มันสร้างปัญหาให้พวกเราได้ทุกเวลาจริงๆ! คราวนี้ฉันจะขอดูหน่อยว่า มันจะมีปัญญาจ่ายเงินให้เรื่องจบอีกไหม!!”

หวังเฉียงเสแสร้งทำเป็นตื่นตระหนก เอ่ยปากขึ้นลั่นว่า

“เรียก…เรียกตำรวจเถอะ”

หวังเฉียงจงใจตะโกนเสียงดังเพื่อให้ชายหัวโล้นและพรรคพวกของมันได้ยิน

ชายหัวโล้งเล็งปากดระบอกปืนไปที่หัวหวังเฉียงและขู่ว่า

“มึงลองโทรหาตำรวจดูสิ!”

หวังเฉียนเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆบ้างแล้ว เขาร้องลั่นขอความเมตตาโดยไวว่า

“อย่า อย่า ผมแค่ล้อเล่น พี่ชายอย่าฆ่าผมเลย ผมเองก็เกลียดไอ้หมอนั่นมานานแล้ว ผม…ผมเป็นพวกเดียวกับพี่ชาย”

ชายหัวโล้นยกปืนหันไปจ่อหัวจ้าวเฉียนแทนและสั่งให้รีบๆลงมาจากต้นไม้

จ้าวเฉียนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากรูดตัวลงมาโดยไว

ชายหัวโล้นคว้าร่างจ้าวเฉียนพร้อมปากกระบอกปืนหลังแนบชิด กล่าวขึ้นว่า

“ไปกับฉัน ขอสัญญาเลยว่าแกยังสบายดีแน่นอน แต่ถ้าไม่ให้ความร่วมมือ ปืนอาจจะลั่นได้นะ!”

จ้าวเฉียนเอ่ยเตือนขอให้อีกฝ่ายใจเย็นๆค่อยพูดค่อยจา

“พี่ชาย อย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ทำเรื่องเสี่ยงอันตรายนอนตารางแบบนี้ ก็คงทำไปเพื่อเงินใช่ไหม? เอาแบบนี้ดีกว่า ผมจะให้พี่ชาย100ล้าน จ้างพี่ชายไปจับตัวคนสั่งมาอีกที?”

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

Status: Ongoing
จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน จนเวลาผ่านไปเขาเพิ่งมารู้ความจริงอย่างไรก็ตาม ความจริงที่ชวนน่าตกตะลึงกว่าคือ ตัวตนที่ที่แท้จริงของเขาคือทายาทมหาเศรษฐี บุตรชายของจ้าวฝู บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่ฉลองปาร์ตี้ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาก็ขับรถกลับทั้งๆที่อยู่ในอาการเมา จนแล้วจนรอด บังเอิญไปเฉี่ยวชนเข้ากับสาวน้อยคนหนึ่ง จนเธอได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ขาดสติหนัก เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น ตะโกนโหวกเหวกโวยวายสร้างปัญหาไปทั่วสถานีตำรวจ ระหว่างนั้นเองก็มีมือดีที่ไหนไทม่ทราบแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ได้ทัน พร้อมถูกอัปโหลดลงโซเชียลออนไลน์ ก่อให้เกิดเป็นประเด็นข้อฉกเถียงยกใหญ่ของผู้คนในเวลานั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็กระทบไปถึงชื่อเสียงขงอตระกูล จ้าวฝูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อำนาจเงินตรา เพื่อไล่ลบคลิปวีดีโอเหล่านี้จนหมด ไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวลูกชายของเขา คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็งตัดขาดจ้าวเฉียน ไล่ไสส่งออกจากตระกูลจ้าว และให้จ้าวเฉียนหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาสาวน้อยคนนั้นเป็นจำนวน 200,000หยวน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ถึงจะกลับเข้ามาในตระกูลอีกครั้งได้ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จ้าวเฉียนจำต้องทนกับความอัปยศนานาชนิด ทั้งยังต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด จนในที่สุดเขาก็จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจนควบตามที่กำหนดไว้ เขาได้ทุกอย่างคืนกลับมาอีกครั้ง และสิ่งแรกที่เขาต้องการคือ การแก้แค้นพวกที่เคยดูถูกเขา!“ประธานฟาง ฉันยินดีร่วมหุ้นกับบริษัทของคุณเป็นจำนวนเงิน3ล้านหยวน โดยมีเงื่อนไขว่า คุณไม่ได้รับอนญาตให้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงของผม ไม่อย่างนั้นผมจะถอนทุนทั้งหมดออกทันที”“เข้าใจแล้วค่ะคุณจ้าว”“ฮิฮิ….ตราบใดที่เข้าใจแล้ว ก็ทำให้ได้ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้จัดการหวัง เจ้านั้นมันต้องการขับไล่ผมออกจากบริษัท คิดว่าผมควรทำยังไงดี?”“ง่ายมากค่ะ! ฉันจะไล่เขาออกเดี๋ยวนี้!”“ไม่ ไม่… ผมยังเล่นกับเขาไม่จุใจเลย จะไล่ออกไปง่ายๆได้ยังไง?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท