ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 108 บอกเงื่อนไข

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ตอนที่108 บอกเงื่อนไข

ในไม่ช้า จ้าวเฉียนก็กลับไปที่ห้องพักโรงแรม พอเห็นเขากลับมา หวานเจียงก็ปั้นสีหน้าท่าทางสูงส่งดุจราชินีนั่งรอให้เขามาขอร้องเธอ

ทว่ากลับผิดคาด จ้าวเฉียนเดินตรงมาหาพร้อมยิ้มเยาะ และนั่งลงบนเตียงแทน

เรียวคิ้วทรงคันธนูสวยของหวานเจียงมุ่นขมวดในทันใด เธอเอ่ยถามว่า

“นี่นายกำลังจะทำอะไร?”

“ฉันเหนื่อย อยากนอนน่ะ”

“เจ้านายของนายไม่ได้บอกอะไรเลยรึไง? ลืมอะไรไปไหม?”

“ลืมอะไรเหรอ?”

สีหน้าการแสดงออกของหวานเจียงเปลี่ยนไปทันที เธอยกเท้าขึ้นมาถีบกลางหลังจ้าวเฉียนจนล้มขมำ

“ยังกล้ามาถามอีกเหรอห๊ะ?! ถ้าคิดไม่ได้ก็ห้ามขึ้นเตียงฉัน!”

จ้าวเฉียนลุกขึ้นพลางประคองหลังด้วยสองมือ เอ่ยสวนไปว่า

“เดี๋ยวก่อนนะ เธอเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า? ที่นี่คือห้องของฉัน ส่วนนั้นก็เตียงของฉันเช่นกัน แล้วมันกลายมาเป็นเตียงของเธอตอนไหมมิทราบ?”

หวานเจียงแสยะยิ้มเยาะขึ้นบนมุมปาก ตอบติดตลกไปว่า

“เลดี้เฟิร์สจ๊ะ!”

“ออกไป! นี่มันเตียงของฉัน ลงมาจากเตียงของฉันเดี๋ยวนี้!”

“โอ๊ะ!ได้ข่าวว่านายใช้ฉันให้แกล้งเป็นแฟน ดังนั้นแฟนก็มีอภิสิทธิ์นอนบนเตียงนี้ได้ แหม แหม…ไม่อยากนอนกอดแฟนคนนี้แล้วรึไงห่ะ? แต่ฉันไม่ให้ขึ้นหรอกนะ ลองดูได้! ขึ้นมางั้นฉันถีบส่ง! ฮ่าฮ่าๆๆ…รีบๆขอร้องฉันก่อนเร็ว!”

จ้าวเฉียนกรอกตามองบนขึ้นรอบหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดนี้ เขายังต้องพูดในสิ่งที่ควรพูดอยู่ดี

“ฉันเยินมาว่า เกาะแห่งนี้ไม่ปลอดภัย พวกเพื่อนร่วมงานของฉันก็เลยอยากกลับบ้าน บังเอิญว่าเธอมีเรือยอทช์ส่วนตัว ถ้าสะดวกใจก็เชิญพาพวกเราติดไปด้วย…”

น้ำเสียงของหวานเจียงดูเย็นยะเยือกลงฉับพลัน กล่าวแซะไปว่า

“อะไรนะ? นายก็ตัวสูงใหญ่ดีนะ แต่ทำไม…เวลาจะขอร้องใครถึงพูดเสียงเบาจังฮึ่ม?”

“นี่เธอจะให้ฉันเอายังไง? คุกเข่าขอร้องเลยไหม?”

“ไม่ ไม่ ฉันไม่ต้องการให้นายคุกเข่าซะหน่อย แต่นายต้องแสดงความจริงใจให้ฉันเห็นก่อน”

“เอาล่ะ เธอต้องการอะไร ไหนว่ามา?”

“ฉันต้องการสิทธิ์การมีส่วนร่วมในการตลาดและโปรโมทเรื่อง‘ล้ำฟ้าย่ำสวรรค์’ และฉันต้องการถือหุ้นจำนวน40%ในบริษัทของนายด้วย!”

ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะเสียงดังลั่น ข้อแม้แบบนี้นี่มันปล้นกันชัดๆ ถ้าจะให้เอาจริง เขาใช้เวลาไม่นานก็สามารถโทรเรียกเรือยอทช์มาได้เช่นกัน แล้วทำไมต้องมาวิตกกังวลกับการแลกเปลี่ยนในราคาที่สูงลิบแบบนี้?

“ฉันว่าเธอคิดเยอะเกินไปหน่อยนะ ฉันขออยู่บนเกาะนี้นอนกับเธอบนเตียงต่อดีกว่า”

หวานเจียงลุกขึ้นพรวดจากเตียงด้วยความโกรธเกรี้ยว เดินไปตรงหน้าและประเคนส้นเท้าใส่อีกดอก พร้อมพูดกับจ้าวเฉียนว่า

“นี่นายยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ไหม? เห็นผู้หญิงเป็นอะไรกันห่ะ? คำพูดคำจาหัดใช้ให้มันดีๆหน่อย”

“ตามที่เธอพูดนั้นแหละ ฉันมันปากหมาแบบนี้อยู่แล้วขอยอมรับแต่โดยดี ที่ขอขนาดนี้ไม่ใช่ว่าหน้าเงินรึไง? ฉันจะแบ่งทรัพย์สมบัติให้เธอสักครึ่งหนึ่ง แลกกับมานอนกับฉันสักคืนเป็นไง? หรือจะสูบให้ฉันหมดตัวเลย?”

“นายนี่มันยังไงห่ะ? ต้องการให้ฉันแกล้งเป็นแฟนนาย อย่างน้อยก็หัดปฏิบัติให้เหมือนแฟนหน่อยไม่ได้รึไง นี่ทำอย่างกับฉันเป็นทาส! หรือไม่รู้จักวิธีอ่อนน้อมถ่อมตัวต่อผู้หญิงกัน? ยังเป็นผู้ชายอยู่รู้เปล่า?”

จ้าวเฉียนลุกขึ้นยืนพร้อมหัวเราะดังสนั่น จู่ๆเขาก็ถอดกางเกงออกมาและยิ้มกล่าวว่า

“ฉันเป็นผู้ชายรึเปล่าใช่ไหม? งั้นจะถอดกางเกงในให้เธอเช็คดูเดี๋ยวนี้แหละ!”

หวานเจียงรีบยกมือปิดตาทันที เธอกรี๊ดลั่นว่า

“ไอ้บ้า! อย่ามาถอดตรงนี้! ไม่งั้นฉันแจ้งตำรวจแน่!”

จ้าวเฉียนเดินไปหาหวานเจียงทั้งเปลือยท่อนล่างแบบนั้น และโอบกอดร่างบางของเขาเข้ามาในอ้อมแขน แสยะยิ้มบางกล่าวว่า

“โทรหาตำรวจเหรอ? ก็ลองดู เป็นแฟนกันทำเรื่องแบบนี้กันใครจะมาเอาผิด หื้ม?”

“นาย…นายถอยออกไปเดี๋ยวนี้!”

หวานเจียงผลักร่างจ้าวเฉียนออกไปสุดแรง และวิ่งไปอีกมุมหนึ่งของห้อง เธอพยายามหาที่ซ่อนตัว

จ้าวเฉียนหัวเราะร่า ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มอย่างสบายใจและกล่าวกับหวานเจียงว่า

“มันเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่ฉันจะยอมรับเงื่อนไขนี้ แต่ฉันก็ไม่ปล่อยให้เธอไม่ได้อะไรไปเลยหรอกนะ ถ้าอยากได้เธอต้องจ่ายเงินกันหน่อย”

หวานเจียงรีบเอ่ยถามทันทีว่า จ้าวเฉียนต้องการเท่าไหร่

“ที่ต้องจ่ายไม่ใช่เงิน ฉันจะให้เธอสองทางเลือก หนึ่งต้องมีลูกผู้ชายให้ฉัน ถ้าคลอดออกมาเป็นผู้หญิง เธอต้องท้องจนกว่าจะได้ลูกผู้ชาย หรือสอง…ยกหุ้นฮวาหยิน กรุ๊ปให้ฉัน30% จะเลือกข้อไหนดีล่ะ?”

หวานเจียงระเบิดอารมณ์ใส่ทันทีที่เธอได้ยิน เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าทางไหน เขาก็จงใจที่จะแกล้งเธอชัดๆ

“ที่พูดออกมาเนี่ยใช้สมองคิดแล้วใช่ไหม? คิดหรือว่าฉันจะยอมรับเงื่อนไขบ้าบอพวกนี้จริงๆ?”

“ก็สิ่งที่เธอขอฉันไปก็มากไม่ใช่น้อยเลย ทุกสิ่งบนโลกย่อมมีราคาแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม หรือเคยได้ของดีมาฟรีๆกัน? เธอต้องการของดีจากฉัน ฉันเองก็ต้องการของดีจากเธอเหมือนกัน”

“แต่ตอนนี้พวกเราเป็นแฟนกัน ดังนั้นนายก็ควรให้ของขวัญแบบที่คู่แฟนให้กันจริงไหม? ฉันไม่เอาหรอกนะ ช่อดอกไม้หรือรถน่ะ แต่ฉันขอหุ้นส่วนจากนาย!”

ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูกันดังขึ้นจากด้านนอก

จ้าวเฉียนรีบลุกขึ้นจากเตียงและกระซิบข้างหูหวานเจียงไปว่า

“ส่วนผู้ถือหุ้นฮวาหยิน กรุ๊ปไม่น้อยกว่า20% หรือมีลูกชายให้ฉัน ลองคิดดูให้ดี!”

คล้อยหลังกล่าวจบ จ้าวเฉียนก็เร่งไปเปิดประตู ด้านนอกปรากฏเป็นฟางนี่และบรรดาเพื่อนร่วมงานที่มาหา และเอ่ยถามจ้าวเฉียนทันทีว่า ตกลงกับแฟนได้รึยัง สรุปว่าพวกเขาทั้งหมดสามารถกลับเมืองตงไห่ได้หรือเปล่า?

จ้าวเฉียนรีบเอ่ยชักชวนทันที

“แต่อันที่จริงนี่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเลยนะ แค่ทางเจ้าหน้าที่เกาะทำการปราบปรามบุคคลเสี่ยงอันตรายเฉยๆ ไม่จำเป็นต้องกังวลกันเลย ยังมีเวลาเที่ยวอีกตั้งสองวันแหนะ”

“มีเรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มทริปแล้ว ตอนนี้พวกเราไม่เหลืออารมณ์เที่ยวเล่นกันต่อแล้วล่ะ”

“ใช่ นี่เพิ่งมาวันแรก แต่ฉันรู้สึกเหนื่อยล้าจริงๆ ขอใช้เวลาที่เหลือกลับบ้านนอนหลับให้ฝันดี แล้วค่อยกลับไปทำงานต่อดีกว่า”

“อยู่ต่อไปทุกคนก็ไม่มีความสุขกันแล้ว จ้าวเฉียน นายคุยกับแฟนรึยัง? สรุปว่าเธอจะพาเรากลับไหม?”

ยามนี้จับจ้องไปที่แววตาอันแสนอ้อนวอนของทุกคน จ้าวเฉียนพลันรู้สึกอับอายเกินแถต่อได้ไหว แต่อย่างไร เงื่อนไขที่หวานเจียงต้องการกลับมากเกินจะรับได้จริงๆ ทันใดนั้นหวานเจียงก็เดินออกมา เธอยิ้มทักทายทุกคนและกล่าวว่า

“อันที่จริงฉันก็อยากพาทุกคนกลับนะ แต่จ้าวเฉียนไร้ซึ่งความเป็นสุภาพบุรุษเกินไป อะไรที่ขัดต่อผลประโยชน์เขา กลับปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใย ให้ของขวัญแฟนสักนิดสักหน่อยบ้างได้ไหม? หรือถามคำถามฉันให้ชื่นใจหน่อย ชอบดอกไม้ไหม? อยากได้เครื่องสำอางยี่ห้อนี้หรือเปล่า?”

บรรดาเพื่อนร่วมงานสาวพยักหน้าเห็นด้วยกับคำกล่าวของหวานเจียงทันที และบอกว่า เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ

‘กลเม็ดพิชิตบุรุษด้วยศักดิ์ศรี’ของหวานเจียงประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เธอกล่าวต่อว่า

“ใช่ไหมล่ะ? นี่คือสิ่งที่แฟนหนุ่มควรทำให้สาวๆอย่างเรา แต่จ้าวเฉียนไม่เต็มใจทำอะไรให้ฉันสักอย่าง เป็นพวกเธอจะยินดีช่วยเขาคืนไหม?”

ทันใดนั้นเอง บรรดาเพื่อร่วมงานผู้หญิงต่างเริ่มเอ่ยปากตำหนิจ้าวเฉียนทันควัน

“จ้าวเฉียน นี่เป็นความผิดของนายเลย ในฐานะที่เป็นแฟนกันก็ควรทำให้อีกฝ่ายมีความสุข หรือนายหวังคบเพื่อเอาเปรียบอย่างเดียว?”

“ถูกต้องที่สุด ทีนายยังซื้อขอขวัญให้คนอื่นได้ ถ้าอย่างนั้นให้เรารวมเงินให้นายไปซื้อขอขวัญให้แฟนนายดีไหม?”

พวกเพื่อนร่วมงานชายเองก็พยายามเซ้าซี้กล่าวช่วย

“จ้าวเฉียน ทำไมจู่ๆวันนี้นายก็ขี้เหนียวเฉยเลย ปกตินายใจกว้างพาพวกเราไปเลี้ยงก็บ่อย?”

“มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า? ผู้หญิงน่ะต้องรู้จักเอาใจหน่อยรู้ไหม?”

จ้าวเฉียนถึงกับพูดไม่ออก โดนเพื่อนร่วมงานต่างร่วมกันสวดไม่หยุด หวานเจียงปิดปากเงียบเฝ้ามองภาพฉากนี้ด้วยท่าทีสนุกสนาน

พอเห็นจ้าวเฉียนเริ่มลังเล จางหยางได้โอกาสกล่าวซ้ำไปว่า

“จ้าวเฉียน นายไม่อยากให้พวกเราได้กลับไป หรืออยากให้เราตกอยู่ในอันตรายบนเกาะนี้? กับแค่ให้ของขวัญแฟนสักชิ้นมันยากนักรึไง? เห็นได้ชัดว่านายไม่อยากให้พวกเรากลับไปจริงๆ ทำไม? หรือเห็นพวกเราเป็นตัวปัญหา พวกเราจะเป็นยังไงก็ช่าง แล้วไปมีความสุขกับแฟนสองต่อสอง?”

หวังเฉียงกล่าวเสริมต่อทันใด

“ผู้จัดการจางพูดถูก ผมเองก็คิดว่าต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน ไม่อย่างนั้นกับแค่เงื่อนไขง่ายๆทำไมถึงทำไม่ได้กัน? สภาพการเงินย่ำแย่แล้วรึไง?”

เจวียงหยวนส่ายหัวเล็กน้อย กล่าวว่า

“จ้าวเฉียน ฉันเพิ่งจะมองนายใหม่เองนะ แต่คิดไม่ถึงเลยว่านายจะทำตัวแบบนี้ เห็นชีวิตพวกเราไม่มีค่าเลยรึไง? ตอนนี้มันเกี่ยวพันไปถึงความปลอดภัยของทุกคนนะ? นายไม่อยากพาพวกเรากลับไปจริงๆงั้นเหรอ?”

หลังจากที่ได้ยินทั้งสามพูดบิ้วอารมณ์แบบนั้น ทุกคนก็เริ่มเชื่อแล้วว่า จ้าวเฉียนอาจจะต้องการทิ้งทุกคนไว้จริงๆ

“จ้าวเฉียน นาย…นายไม่อยากพาพวกเรากลับไปจริงๆเหรอ?”

“พวกเราเชื่อใจตัวนายนะ นายจะมาทิ้งเราแบบนี้ไม่ได้!”

“ถูกต้อง! ฉันทั้งมองและปฏิบัติกับนายราวกับคุณชายจ้าวจริงๆ แต่จะมาทิ้งกันในช่วงเวลาตับขันแบบนี้ไม่ได้!”

คราวนี้จ้าวเฉียนหมดหนทางแล้วจริงๆ เขาไม่สามารถบอกกับทุกคนได้เลยว่า เงื่อนไขของหวานเจียงแท้จริงแล้วเป็นยังไง อย่างไรเสีย มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะยกผลประโยชน์จำนวนมหาศาลขนาดนี้ให้แก่เธอง่ายๆ

“เอาล่ะ ฉันจะคุยกับเสี่ยวเจียงอีกที ขอเวลาห้านาทีแล้วจะให้คำตอบ”

หลังจากจ้าวเฉียนพูดจบ เขาก็ปิดประตูใส่หน้าทุกคน ออกแรงจับร่างของหวานเจียงกระชับแน่น ทันใดนั้นเขาก็โยนเธอลงบนเตียงโดยตรง

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

Status: Ongoing
จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน จนเวลาผ่านไปเขาเพิ่งมารู้ความจริงอย่างไรก็ตาม ความจริงที่ชวนน่าตกตะลึงกว่าคือ ตัวตนที่ที่แท้จริงของเขาคือทายาทมหาเศรษฐี บุตรชายของจ้าวฝู บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่ฉลองปาร์ตี้ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาก็ขับรถกลับทั้งๆที่อยู่ในอาการเมา จนแล้วจนรอด บังเอิญไปเฉี่ยวชนเข้ากับสาวน้อยคนหนึ่ง จนเธอได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ขาดสติหนัก เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น ตะโกนโหวกเหวกโวยวายสร้างปัญหาไปทั่วสถานีตำรวจ ระหว่างนั้นเองก็มีมือดีที่ไหนไทม่ทราบแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ได้ทัน พร้อมถูกอัปโหลดลงโซเชียลออนไลน์ ก่อให้เกิดเป็นประเด็นข้อฉกเถียงยกใหญ่ของผู้คนในเวลานั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็กระทบไปถึงชื่อเสียงขงอตระกูล จ้าวฝูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อำนาจเงินตรา เพื่อไล่ลบคลิปวีดีโอเหล่านี้จนหมด ไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวลูกชายของเขา คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็งตัดขาดจ้าวเฉียน ไล่ไสส่งออกจากตระกูลจ้าว และให้จ้าวเฉียนหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาสาวน้อยคนนั้นเป็นจำนวน 200,000หยวน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ถึงจะกลับเข้ามาในตระกูลอีกครั้งได้ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จ้าวเฉียนจำต้องทนกับความอัปยศนานาชนิด ทั้งยังต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด จนในที่สุดเขาก็จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจนควบตามที่กำหนดไว้ เขาได้ทุกอย่างคืนกลับมาอีกครั้ง และสิ่งแรกที่เขาต้องการคือ การแก้แค้นพวกที่เคยดูถูกเขา!“ประธานฟาง ฉันยินดีร่วมหุ้นกับบริษัทของคุณเป็นจำนวนเงิน3ล้านหยวน โดยมีเงื่อนไขว่า คุณไม่ได้รับอนญาตให้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงของผม ไม่อย่างนั้นผมจะถอนทุนทั้งหมดออกทันที”“เข้าใจแล้วค่ะคุณจ้าว”“ฮิฮิ….ตราบใดที่เข้าใจแล้ว ก็ทำให้ได้ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้จัดการหวัง เจ้านั้นมันต้องการขับไล่ผมออกจากบริษัท คิดว่าผมควรทำยังไงดี?”“ง่ายมากค่ะ! ฉันจะไล่เขาออกเดี๋ยวนี้!”“ไม่ ไม่… ผมยังเล่นกับเขาไม่จุใจเลย จะไล่ออกไปง่ายๆได้ยังไง?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท