ตอนที่146 เป็นไปไม่ได้
เมื่อคนอื่นเห็นว่าทั้งคู่เปิดฉากกันแล้ว แต่ละคนก็คลี่ยิ้มอย่างมีความสุข พวกเขาคิดเช่นเดียวกับอวู่เฉียน น้ำหน้าอย่างจ้าวเฉียนไม่มีทางขออนุญาตเจ้าหน้าที่ได้อยู่แล้ว
“เสี่ยวเฉียน เธอชนะเดิมพันตั้งแต่เริ่มแล้ว!”
“ไอ้หมอนั่นจะมีปัญญาพาเซียวหยุนไปยืนบนหลังลูกวาฬได้ยังไง? ไร้สาระ!”
“อย่างที่บอกไปนั้นแหละ ต่อให้สวมชุดคลุมมังกรก็ดูออกว่าเขายากจนขนาดไหน ต่อให้แต่วตัวดี หน้าตาดี แต่ก็แค่คนจนที่ไร้ซึ่งภูมิหลังครอบครัวที่ดี”
…….
กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวเหล่านี้ไม่ได้สนใจเลยว่า เหลียวเซียวหยุนจะรู้สึกอย่างไร ขอแค่ได้ด่าคนแล้วสนุกปากก็พอแล้ว
เหลียวเซียวหยุนไม่ได้โกรธอะไรเท่าไหร่นัก ประการแรก จ้าวเฉียนไม่ใช่แฟนจริงๆของเธอ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องโกรธแทนเขาเลย และสอง ด้วยความสามารถของจ้าวเฉียน เธอสามารถขึ้นไปยืนบนหลังลูกวาฬได้อย่างแน่นอน
ห้านาทีต่อมา หยางหมิงเดินกลับมาพร้อมรอยยิ้ม เขากล่าวกับอวู่เฉียนว่า
“เสี่ยวเฉียน ผมคุยกับเจ้าหน้าที่ให้แล้ว เขาจะไปบอกครูฝึกให้พาลูกวาฬมาตรงนี้เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสมัน”
“หุหุ…น่ารักที่สุดเลย! จุ๊บ…”
อวู่เฉียนกระโดดกอดพร้อมจุ๊บหยางหมิงไปทีหนึ่งฟอดใหญ่ บรรดาเพื่อนฝูงที่อยู่เคียงข้างต่างสบถติดตลกขึ้นว่า
“มากเกินไปแล้ว มากเกินไปแล้ว นี่มันสาธารณะ!”
“กลิ่นอายความรักฉุนเหลือเกิน!”
“นายน้อยหยางพูดจริงใช่ไหม พวกเราจะได้จับมันทุกคน?”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว พวกเราต้องได้จับมันด้วยนะ”
หยางหมิงพูดกับทุกคนอย่างสถภาพว่า
“แน่นอนครับ พวกคุณทุกคนเป็นเพื่อนของเสี่ยวเฉียน ดังนั้นไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ยังไงก็ตาม คนที่ได้ขึ้นไปบนเวทีคงมีแค้เสี่ยวเฉียนคนเดียวนะครับ เพราะเธอคือคนพิเศษสำหรับผม”
อวู่เฉียนยืดอกอวดเบ่งต่อหน้าเหลียวเซียวหยุนด้วยความภาคภูมิใจ
“เธอเห็นไหมล่ะว่า ทำไมพวกเราถึงควรมีแฟนเป็นคนในวงการธุรกิจ เพราะพวกเขามีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่แบบเธอที่เก็บมันขึ้นมาเลี้ยงจากข้างถนน”
หยางหมิงเอ่ยถามอย่างงุนงงขึ้นว่า
“จะว่าไปจ้าวเฉียนออกไปไหน? เห็นเขาโทรคุยกับใครสักคนหน้าประตูทางออก?”
“ฮ่าฮ่าๆๆ…”
ทุกคนที่ได้ยินแบบนั้นต่างหัวเราะท้องแข็ง
“ดูเหมือนว่ามันเองก็คงสำเนียกตัวเองอยู่บ้าง รู้ตัวว่าทำไม่ได้อย่างนายน้อยหยางก็เลย แอบไปยืนถ่วงเวลาตรงทางออก ตอนกลับมาหาก็คงแก้ตัวไปว่า ผมทำเต็มที่แล้ว แน่ๆเลย! ขอทานอย่างมันใครจะให้หน้าเกรงใจมันกัน? ฮ่าฮ่าๆๆ…”
อวู่เฉียนกล่าวสบประมาทอย่างสนุกปาก
เสียงหัวเราะเยาะระเบิดดังลั่นรอบตัวเหลียวเซียวหยุน
รอบยิ้มบนใบหน้าของเธอเริ่มจางอ่อนลงแล้ว และตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นเล็กน้อย
“หรือฉันจะประเมินความสามารถของหมอนั่นสูงเกินไป? แต่คนที่สามารถเป็นพี่น้องคนสนิทกับลุงห้าได้ ก็ไม่ควรยากจนจริงไหม? กับแค่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ถ้ายังไม่มีเส้นสายอะไรบ้างเลย แล้วเขาจะเป็นคนสนิทของลุงห้าได้ยังไงกัน?”
เหลียวเซียวหยุนยิ่งคิดยิ่งสงสัยมากขึ้น
ทุกคนต่างเห็นว่า สีหน้าการแสดงออกของเหลียวเซียวหยุนดูอึดอัดอย่างมาก ดังนั้นบรรดาเพื่อนๆจึงรีบเข้ามาปลอบประโลมว่า ไม่ต้องเสียใจไป สุดท้ายจะเป็นยังไงก็แค่โยนภาระทั้งหมดให้กับจ้าวเฉียนก็สิ้นเรื่อง
ไม่นานนัก จ้าวเฉียนก็กลับมา
“เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเริ่มการแสดงครูฝึกจะเรียกชื่อคุณให้ขึ้นไปยืนบนตัวลูกวาฬ ถึงตอนนั้นก็อย่าลืมลุกแล้วกัน”
จ้าวเฉียนกล่าวน้ำเสียงเคร่งขรึม
ตอนนี้ธุระของจ้าวเฉียนก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว เขาจึงนั่งลงและหลับตาพักผ่อนไป แต่ไม่วายที่อวู่เฉียนและคนอื่นๆจะเอ่ยปากล้อเลียนอย่างอดไม่ได้
“โหวโห่! เขาทำได้จริงๆน่ะเหรอ? เมื่อกี่นายออกไปคุยกับนายกที่หน้าประตูทางออกมา?”
“อย่าพูดแบบนั้นสิ ไม่ใช่ว่าเขาออกไปโทรคุยกับนายกจริงๆหรอกนะ?”
“จะเป็นไปได้ยังไง? ที่โทรไปคงโทรไปขอเบี้ยยังชีพเพิ่มมากกว่า ฮ่าฮ่าๆๆ…”
“ฮ่าฮ่า…”
จ้าวเฉียนไม่ได้สนใจฟังอะไรทั้งสิ้น ในเวลานี้ไม่มีใครสามารถทำให้เขาโกรธได้
“ปากก็เหม็น พูดก็มาก ปากของพวกคุณสร้างมลพิษยิ่งกว่าขยะอีกนะ”
หลังจากพูดจบจ้าวเฉียนก็ลุกขึ้นไปโทรศัพท์สักครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม
เหลียวเซียวหยุนไม่พอใจอย่างยิ่งกับคำสบประมาทของอวู่เฉียนและคนอื่นๆ จึงตวาดคำโตไปว่า
“พวกเธอช่วยหุบปากสักทีได้ไหม? ไม่รำคาญตัวเองกันบ้างเหรอ?”
ทุwกคนต่างรู้ว่า เหลียวเซียวหยุนกำลังหัวเสียอย่างชัดเจน ดังนั้นจึไม่มีใครพูดอะไรตอบ อวู่เฉียนรู้สึกได้ว่าตัวเองชนะเดิมพันแล้ว และเธอกำลังคิดว่าจะตบหน้าจ้าวเฉียนยังไง ให้มันรู้สึกอับอายชนิดไม่มีหน้ามาพบพวกเธออีกเลย
“เหลียวเซียวหยุน เราควรทำตามสัญญาที่เดิมพันไว้ได้แล้วนะ เท่านี้ก็รู้ผลแล้วจริงไหม?”
จ้าวเฉียนเอ่ยถามทันทีด้วยความงุนงงว่า
“เดิมพันอะไร?”
อวู่เฉียนเหลือบมองจ้าวเฉียนด้วยสายตาแสนดูถูกเหยียดหยาม และกล่าวขึ้นว่า
“พวกเราเดิมพันกันไว้ว่า ถ้านายไม่สามารถทำให้เธอขึ้นไปยืนบนลูกวาฬได้ ฉันจะตบหน้านายสิบครั้ง ยื่นหน้ามาให้ฉันตบได้แล้ว!”
จ้าวเฉียนหันควับไปมองเหลียวเซียวหยุนด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาพยายามสงบสติอารมณ์ลงและเอ่ยถามไปว่า
“ทำไมถึงต้องเอาผมไปเดิมพัน?”
“เอ่อ…ก็ทีแรกฉันคิดว่านายจะทำได้หนิหน่า นายนั้นแหละที่ผิด ทำให้ฉันผิดหวังอย่างมาก แถมยังทำให้ฉันต้องอับอายอีกด้วย!”
จ้าวเฉียนอยากจะหัวเราะดังๆสักคำหนึ่ง และตอบกลับไปว่า
“ตลกมากใช่ไหม?”
“นี่เป็นความผิดของผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงต้องผิดหวัง นายสมควรโดยตบแล้ว! ถ้าคิดหนีถือว่านายไม่ใช่ผู้ชาย!”
เหลียวเซียวหยุนตอบกลับอย่างไร้เหตุผล
เมื่อเห็นเหลียวเซียวหยุนเริ่มมีปากเสียงกับจ้าวเฉียน ทั้งหยางหมิง อวู่เฉียนและคนอื่นๆต่างเฝ้ามองอย่างมีความสุข
“คุณเหลียว อย่าไปโกรธเขาเลยครับ หลายสิ่งอย่างบนโลกไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยเงิน แต่นี่ยังต้องหวังเพิ่งเส้นสายและคนรู้จัก”
อวู่เฉียนกล่าวต่อทันที
“ไอ้ขยะรีบยืนขึ้นแล้วยื่นหน้ามาให้ฉันตบเดี๋ยวนี้ แล้วหลังจากนี้อย่ามาให้พวกเราเห็นหน้าอีก สถานะต่ำต้อยอย่างแกไม่เหมาะสมกับพวกฉันแม้สักนิด!”
“ใช่แล้ว! คิดว่าตัวเองดีมาจากไหน อย่าว่าเป็นคนรู้จักในแวดวงธุรกิจเลย คงเป็นได้แค่ไอ้ขอทานเกาะผู้หญิงกิน!”
“ไสหัวไปซะ! นี่ถือว่าพวกเราเห็นแก่หน้าเซียวหยุนมากแล้วนะ!”
“ออกไปซะ…”
ไม่ว่าจ้าวเฉียนจะอารมณ์เป็นยังไง แต่เขาไม่เสียเวลามานั่งโมโหเกหล่านกโง่กลุ่มนี้แน่นอน
“นี่ปากคนหรือปากสุนัขกันครับ? ทำไมถึงได้เหม็นเน่าแบบนี้ ของเสียแบบพวกคุณสักวันย่อมไม่มีใครเอาแน่นอน อย่างมากก็คบหาเพื่อหวังผลประโยชน์ได้เสร็จก็จากไป คุณค่าของคนๆหนึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินทอง คนแบบพวกคุณคงเกินเยียวยาแล้วจริงๆ สักวันจะรู้เองครับว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปมันแย่ขนาดไหน โชคดีนะครับพวกขยะ!”
หลังจากจ้าวเฉียนด่าจบ เขาก็ลุกขึ้นและจากไปทันที
อวู่เฉียนและคนอื่นๆยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ และพวกเขาไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆแบบนี้แน่นอน
“หยุดเดี่ยวนี้! กล้าด่าพวกฉันว่าขยะงั้นเหรอ?!”
“มึงเก่งมาจากไหนวะถึงกล้าด่าพวกเรา!”
“ไอ้เวรนี่ กูต้องสั่งสอนสักหน่อย! ไม่งั้นคง…”
“ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านครับ! โปรดปรบมือต้อนรับคุณเหลียวเซียวหยุนออกมาบนเวที แฟนของคุณได้เตรียมของขวัญเซอร์ไพรส์สุดพิเศษเอาไว้ให้แล้ว โปรดเชิญครับ!”
ขณะที่ทุกคนกำลังวิ่งไล่ตามจ้าวเฉียนไป ผู้ฝึกสอนที่อยู่บนเวทีโลว์ก็ป่าวประกาศออกมาเสียงดังชัดเจน
เพียงได้ยินสามพยางค์ ‘เหลียวเซียวหยุน’ ทุกคนต่างเงียบสงัดลงในทันใด
ทุกคนหันควับมองไปที่ผู้ฝึกสอนวาฬบนเวทีด้วยความมึนงง
“คุณเหลียวเซียวหยุน แฟนของคุณได้เตรียมของขวัญเซอร์ไพรส์สุดพิเศษเอาไว้ให้แล้ว คุณเหลียวเซียวหยุนครับ คุณเหลียวเซียวหยุน…”
ครูฝึกสอนวาฬตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทุกคนแน่ใจว่าได้ยินถูกต้อง เขากำลังเรียกเหลียวเซียวหยุนอยู่จริงๆ!
“ฮ่าฮ่า…”
เหลียวเซียวหยุนเพิกเฉยต่อท่าทางการแสดงออกของทุกคน และวิ่งออกไปทางเวทีอย่างรวดเร็ว
กลุ่มหนุ่มสาวคนที่เหลือต่างอ้างปากค้างด้วยความตกตะลึงยิ่ง นี่มันเกินกว่าจะยอมรับความจริงได้!
“เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้!! นี่ต้องมีอะไรผิดพลาด! ขยะอย่างมันจะมีอำนาจขนาดนั้นได้ยังไง?”
“ใช้เงินตบหน้ารึไงกัน…”
“ไม่มีทาง! นี่ถึงขั้นขึ้นไปยืนบนตัวลูกวาฬเลยนะ! อย่างน้อยๆต้องซื้อวาฬตัวนั้นมาได้ ไม่อย่างนั้นใครคงไม่ยอมให้คนแปลกหน้าขึ้นมาเหยียบเล่นๆได้แน่นอน แถมวาฬชนิดนี้ทั้งแพงทั้งหายาก ไม่มีเศรษฐีคนไหนในเมืองตงไห่กล้าซื้อมาเพียงเพื่อเรื่องแค่นี้…”
“แล้วที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้จะอธิบายยังไง?”
“ไม่…ฉันไม่รู้!”
“แล้วไอ้ขยะนั้นหายไปไหนแล้ว?”
“มันไปแล้ว…”