อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ – บทที่ 243 พี่น้อง เชื่อข้าเถอะ

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 243 พี่น้อง เชื่อข้าเถอะ

เห็นฮองเฮาจ้าวยืนยันว่าไม่ให้นางรักษา หยุนหว่านหนิงก็ไสหัวออกไปอย่างรวดเร็ว

พอกลับไปถึงห้องทรงพระอักษร นางน้ำตาคลอและฟ้องว่า”เสด็จพ่อเพคะ ฮองเฮายังสามารถตะโกนให้สะใภ้ไสหัวออกไปเลยนะ!เหตุใดถึงพูดว่าลงเตียงไม่ได้แล้วล่ะ?”

“ใช่หรือ?”

โม่จงหรานเห็นว่านางร้องไห้อย่างน่าสงสาร”เจ้าไม่กลัวอะไรเลยไม่ใช่หรือ?”

“ทำไมยังถูกนางไล่ออกอีก?”

ปกตินางคนนี้ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นไม่ใช่หรือ?!

“นั่นเป็นตั้งฮองเฮา!สะใภ้จะกล้าต่อต้านกับฮองเฮาได้อย่างไรล่ะ?”

หยุนหว่านหนิงร้องไห้แรงกว่าเดิม นางคุกเข่าแล้วทิ้งผ้าเช็ดหน้าไปข้างๆ จากนั้นกอดเข่าร้องไห้ออกมา”เสด็จพ่อเพคะ สะใภ้ไปรักษาให้ฮองเฮาด้วยความหวังดี แต่กลับถูกฮองเฮากระทำเช่นนี้ต่อหน้าหมอหลวงหยาง……”

“ถึงแม้สะใภ้จะต่ำต้อยขนาดไหน ก็เป็นหน้าตาของท่านอ๋องด้วยเพคะ!”

“ต่อจากนี้ไปสะใภ้ยังมีหน้าอยู่ในวังอีกหรือเพคะ!”

หมอหลวงหยางที่เกาหัวอยู่ข้างๆ : โกหก ท่านโกหกเก่งจริง!

นางเปลี่ยนแปลงสีหน้าเร็วมาก!

“ใช่หรือ หมอหลวงหยาง?”

โม่จงหรานเหลือบตามองไป

หมอหลวงหยางรีบเดินหน้าขึ้นไป”ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮาให้พระชายาหมิงไสหัวออกไปจริงพ่ะย่ะค่ะ แต่ว่า……”

ยังพูดไม่จบ ก็ถูกหยุนหว่านหนิงขัดจังหวะ”เสด็จพ่อดูสิ สะใภ้ไม่ได้โกหกท่านเลยนะ ฮองเฮาให้สะใภ้ไสหัวออกไปจริงๆเพคะ!”

โม่จงหรานรู้สึกจนปัญญา

สิ่งที่เขากลัวที่สุด ก็คือหยุนหว่านหนิงคุกเข่า แล้วกอดเข่าร้องไห้

ทุกครั้งที่มาฟ้องที่ห้องทรงพระอักษรล้วนใช้วิธีนี้ ทุกขั้นตอนเขาล้วนจำได้อย่างแม่นแล้ว!

“เจ้าลุกขึ้นมาก่อน”

เขาย้ายขาไปข้างๆ

แต่หยุนหว่านหนิงเหมือนเป็นเครื่องประดับบริเวณขาของเขา”สะใภ้ไม่ลุกเพคะ วันนี้สะใภ้เสียหน้าไปหมด อนาคตไม่กล้าไปเจอใครทั้งสิ้นแล้วเพคะ?”

การแสดงที่ดีเลิศเช่นนี้ แม้กระทั่งหมอหลวงหยางก็รู้สึกสู้ไม่ได้

“แล้วเจ้าคิดจะทำอะไร?”

โม่จงหรานถามอย่างจนปัญญา

หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ ไอ้เด็กนี่ถูกเขาสับเป็นเนื้อสับตั้งนานแล้ว!

หยุนหว่านหนิงโบกมือ สะกิดให้โม่จงหรานเข้าใกล้ และกระซิบข้างๆหูเขา

โม่จงหรานลังเลเล็กน้อย

“เสด็จพ่อลำเอียงฮองเฮาใช่ไหมเพคะ?”

หยุนหว่านหนิงคุกคามจากใจ”หากท่านลำเอียงฮองเฮา งั้นข้าจะไปฟ้องเสด็จแม่เต๋อว่า ข้าถูกพวกเจ้าสองผัวเมียร่วมมือกันรังแก!”

สองผัวเมียที่นางพูดถึงนั้น หมายถึงโม่จงหรานและฮองเฮาจ้าว……

โม่จงหรานปวดหัวมาก”ได้ๆ ข้ายอมรับเจ้า”

แล้วหยุนหว่านหนิงถึงลุกขึ้นอย่างดีใจ

นางเก็บผ้าเช็ดหน้าเข้าไปในอ้อมอก แล้วปัดฝุ่นบนชายกระโปรงออก

เมื่อกี้ยังร้องไห้อยู่เลย ตอนนี้ก็ปรากฏรอยยิ้มแล้ว”เสด็จพ่อ งั้นสะใภ้จะไม่รบกวนท่านแล้วนะ สะใภ้จะไปเยี่ยมเสด็จแม่เพคะ”

ได้ยินว่านางจะไปเจอเต๋อเฟย……

สีหน้าของโม่จงหรานบึ้งตึงขึ้นมา”เจ้าจะหักหลังข้าลับหลังหรือเปล่า?”

เมื่อกี้นางบอกว่าไปฟ้องเต๋อเฟย……

“ไม่อยู่แล้ว!เสด็จพ่อ เราสองคนเป็นความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว?เจ้ายังไม่เชื่อข้าเลยหรือ?”

หยุนหว่านหนิงตบไหล่ของเขา”พี่น้อง เชื่อข้าด้วย!”

“ข้าจะตีเจ้าให้ตายเลย!”

โม่จงหรานใช้ขาเตะไป

หยุนหว่านหนิงเหมือนกับตั๊กแตนตัวหนึ่ง กระโดดไปที่ริมประตู”เสด็จพ่ออย่าโมโหเลยนะ!วันหลังสะใภ้ค่อยมาเยี่ยมท่าน!”

“ไสหัวออกไป!”

โม่จงหรานหยิบหมวกประจำหมอหลวงที่อยู่บนหัวของหมอหลวงหยางมา และโยนไปที่ประตูอย่างแรง”ใครเป็นพี่น้องกับเจ้า!”

ถึงแม้หมอหลวงหยางยังไม่ถึงหกสิบ แต่เนื่องจากทำงานดึกเป็นเวลานาน เวลาการทำงานและการพักผ่อนจึงไม่เป็นระเบียบ

ดังนั้นจึงหัวล้านค่อนข้างเร็ว

ตอนนี้ไม่มีอะไรปกปิด หมวกของเขาถูกโยนไปบริเวณประตูแล้ว

หมอหลวงหยางจับหัวล้านของตัวเอง แล้ววิ่งไปเก็บหมวกกลับมาจากประตู

เขาอยากจะร้องไห้

นี่มันมีความแค้นอะไรหรือ ถึงกับต้องทิ้งหมวกของเขา!!

โม่จงหรานนั่งลงไปในข้างๆอย่างโกรธ”หมอหลวงหยาง เจ้ามาทำอะไร?”

หมอหลวงหยาง”?? ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทให้กระหม่อมมาไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“อ้อ ข้าโกรธไอ้เด็กนั่นจนลืมไปเลย”

โม่จงหรานนั่งตัวตรง พอหายใจเข้าลึกๆแล้วถึงสลบลง”สำหรับเรื่องที่ตั้งครรภ์เท็จของหยุนธิงหลาน เจ้าเล่าให้ข้าฟังอย่างชัดเจนสิ”

……

ณ ตำหนักหย่งโซ่ว

หยุนหว่านหนิงควบคุมอารมณ์ของตัวเอง แล้วเดินเข้าไปในตำหนัก

เดิมทีนึกว่าเต๋อเฟยอยู่ในตำหนักคนเดียว แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่า……พอเข้าไปแล้วตกใจมาก!

มีพระสนมสิบกว่าคนนั่งอยู่ในตำหนักอยู่เป็นระเบียบ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของนาง พระสนมสิบกว่าคนนี้ล้วนหันมามองนาง

สีหน้าของหยุนหว่านหนิงบึ้งตึง”สวัสดีทุกคน”

เหล่าพระสนม”???”

หยุนหว่านหนิงพบว่า นอกจากเต๋อเฟยที่นั่งอยู่ข้างบนแล้ว นางไม่รู้จักใครทั้งสิ้น!

ในวังหลัง นอกจากฮองเฮาจ้าว เต๋อเฟยและซุนตายิ่งแล่ว พระสนมคนอื่นๆของโม่จงหรานนางล้วนไม่รู้จัก!

“พระชายาหมิง”

ลี่กุ้ยเหรินที่นั่งอยู่ขวามือล่างของเต๋อเฟยลุกขึ้น”ข้ารู้สึกมาตลอดว่าพระชายาหมิงเป็นคนเลิศ”

“แต่เสียดายที่ไม่มีโอกาส เลนไม่สามารถคุยกับเจ้าดีๆได้”

หยุนหว่านหนิงยิ้มอย่างมีมารยาท

พี่สาวคนนี้คือใครหรือ?

หลิ่วผินที่อยู่ตรงข้ามยิ้มเบาๆ”พวกเราล้วนรู้สึกอิจฉาเต๋อเฟยเหนียวเหนียงจริงๆเลย เหนียงเหนียงเป็นคนที่มีบุญสุดในวัง!”

“ไม่เพียงแต่ได้รับการโปรดปรานจากฝ่าบาทมาหลายปีขนาดนี้ ยังมีทั้งลูกชายและลูกสาวอีก”

เสียงของหลิ่วผินเพราะมาก คำพูดก็น่าฟัง”แม้กระทั่งลูกสะใภ้ ก็หน้าตาดี และเป็นคนที่สนุกด้วย”

“พวกเราอิจฉาบุญวาสนานี้จริงๆเลย!”

เห็นได้ชัดว่า เต๋อเฟยก็ชอบคำพูดนี้มาก

นางโบกมือ”เหล่าพี่น้องไม่ต้องรู้สึกอิจฉานะ อนาคตพวกเจ้าก็จะมีกัน”

สีหน้าของหยุนหว่านหนิงไม่มีการแปรปรวนใดๆ แต่ในใจแอบด่าว่า : จอมปลอม!

พระสนมเหล่านี้ คนที่โตหน่อยก็สี่สิบแล้ว คนที่อายุน้อยหน่อยก็สามสิบกว่าแล้ว

คนที่อายุน้อยกว่านี้อีก ก็เพิ่งเข้าวังได้ไม่นาน ตอนนี้ยังไม่สามารถประจบสอพลอเต๋อเฟยได้……พระสนมเหล่านี้ ล้วนเป็นคนที่ติดตามเต๋อเฟยตลอดหลายปีนี้!

หลายปีนี้โม่จงหรานไม่เคยได้โปรดปรานพวกนางเลย

อนาคตจะกลับมาโปรดปรานพวกนางหรือ?

หลายปีนี้ยังคลอดลูกไม่ได้เลย อนาคตยังคลอดได้อีกหรือ?

อย่าว่าแต่เต๋อเฟย ฮองเฮาจ้าวจะปล่อยให้พวกนางคลอดลูกหรือ?!

พระสนมเหล่านี้มองนางด้วยความ”รักใคร่” หยุนหว่านหนิงก็พยายามยิ้มอย่างมีมารยาท

เห็นว่านางยังมีอะไรจะพูด เต๋อเฟยก็ให้”พี่น้อง”ของนางกลุ่มนี้ไปกัน และนัดทุกคนมาพูดคุยกันที่ตำหนักหย่งโซ่วอีกทีหนึ่งในวันพรุ่งนี้

ส่วนพวกนางจะคุยกันเรื่องอะไร หยุนหว่านหนิงไม่รู้หรอก

แต่คนที่พวกนางพูดถึงนั้น เมื่อกี้ถูกนางทำจนโมโหจนอาเจียนเลือดออกมา……

หลังจากเหล่าพระสนมจากไปแล้ว เต๋อเฟยถึงมองนางด้วยรอยยิ้ม และกล่าวชมนางทันที”หนิงเอ๋อร์ ข้าได้ยินผลงานของเจ้าในวันนี้แล้วนะ”

หยุนหว่านหนิงงงไปหมด”?? เสด็จแม่เพคะ ผลงานอะไรหรือเพคะ?”

“วันนี้เจ้า……แก้แค้นให้ข้าไง!พวกเราแม่ลูกสองคนใจตรงกัน เจ้ายังนึกว่าข้าไม่รู้อีกหรือ?”

เต๋อเฟยมองนางด้วยสายตาที่รักใคร่และห่วงใย

หยุนหว่านหนิงมึนงงเข้าไปใหญ่

หลี่หมัวมัวที่อยู่ข้างๆถึงยิ้มและอธิบายว่า”เหนียงเหนียงรู้เรื่องที่พระชายาได้ไปที่ตำหนักคุนหนิงแล้วเพคะ”

หยุนหว่านหนิงฝืนยิ้มอยู่ตลอด”……เสด็จแม่ไม่ต้องเกรงใจเพคะ”

เต๋อเฟยยกแก้วน้ำชาขึ้นมาจิบอึกหนึ่ง”เจ้ามาพบข้าในเวลานี้ ในเรื่องอะไรหรือ?”

หยุนหว่านหนิงก็ยกแก้วน้ำขึ้นขึ้นมาจิบอึกหนึ่ง

ท่าทางที่ยกแก้วน้ำชาและนั่งไขว่ห้างของแม่สามีและลูกสะใภ้สองคนนี้……เหมือนกันมาก!

สมชื่อที่เป็นแม่สามีและลูกสะใภ้ ตามสำนวนที่ว่าเข้าฝูงหงส์เป็นหงส์ เข้าฝูงกาเป็นกา!

หลี่หมัวมัวทอดถอนใจ

หยุนหว่านหนิงวางแก้วน้ำชาลง สีหน้าค่อยๆจริงจังขึ้น”เสด็จแม่เพคะ จริงๆแล้วที่สะใภ้เข้าวังในวันนี้ เพราะมีเรื่องหนึ่งจะขอร้องเพคะ”

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

Status: Ongoing
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ เป็นเรื่องราวความรักเกี่ยวกับการเดินทางที่ยากลำบากของตัวเอกชายและหญิง รู้จักกัน ตกหลุมรัก ผ่านเหตุการณ์และความยากลำบากมากมาย แต่สุดท้ายก็กลับมารวมกัน?คืนวันข้ามภพ ณห้องหอ หยุนหว่านหนิงถูกชายชั่วโม่เยว่เนรเทศออกมาจากวังหลัง ถูกจองจำสี่ปีเต็มๆ! เดิมคิดว่า สี่ปีมานี้นางอยู่อย่างยากลำบาก ต้องกลายเป็นยายแก่ขี้เหร่เป็นแน่! แต่หุ่นเธอช่างอรชรอ้อนแอ้นเต่งตึงเสน่ห์บาดใจ ผิวขาวราวกับหิมะ ใช้เงินมือเติบ ข้างกายยังมีเจ้าก้อนแป้งที่หน้าเหมือนเขาอย่างกับแกะ…… โม่เยว่นัยน์ตาร้อนเผ่า “เจ้าเอาเงินมาจากที่ใด!แล้วลูกมาจากไหน?!” เจ้าก้อนแป้งถลึงตามองเขา:“ไปให้ไกลจากท่านแม่ข้า!” หลังจากสืบรู้เรื่องเมื่อปีนั้นแล้ว โม่เยว่สีหน้าจริงใจ:“เมียจ๋า ข้าผิดไปแล้ว!ลูกชาย พ่อผิดไปแล้ว!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท