อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ – บทที่ 357 เกิดเรื่องกับหนานกงเยว่

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 357 เกิดเรื่องกับหนานกงเยว่

หรูเยียนเพิ่งจะหันกลับมา โม่เยว่ก็เข้ามาด้วยสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึก

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

หยุนหว่านหนิงเดินเข้าไปหา “เมื่อครู่นี้ท่านฉินเฉิงเซี่ยงจากไปด้วยความโกรธเคือง เกือบจะพังประตูใหญ่ของจวนอ๋องเราแล้ว!”

เพียงแค่เห็นท่าทางที่โกรธเคืองของฉินตงหลิน ก็รู้แล้วว่าเขากับโม่เยว่ “เจรจาล้มเหลว” แล้ว

“ไม่มีอะไร ข้าจะเข้าวังไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อทันที”

โม่เยว่ตบไหล่ของนางเบาๆ “อยู่ในจวนดีๆอย่าออกไปไหน ข้าจะรีบกลับมาโดยเร็ว กินมื้อกลางวันกับเจ้า”

“ข้าไม่ใช่เด็กน้อยเสียหน่อย ยังต้องการให้ท่านอยู่ด้วยงั้นหรือ?”

หยุนหว่านหนิงบ่นพึมพำ มองดูโม่เยว่จากไป

นางเอามือเท้าคาง ท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่

ฉินตงหลินมาที่นี่ หนีไม่พ้นเรื่องร้องขอความยุติธรรมให้กับฉินซื่อเสวีย

นี่คือประการที่หนึ่ง

ประการที่สอง แน่นอนว่าต้องเป็นแผนการยัดฉินเย่วหลิ่วเข้ามาในจวนอ๋องหมิงเช่นกัน……ไม่รู้ว่าคนพวกนี้ล้วนคิดอะไรกันอยู่ หยุนเจิ้นซงคิดเช่นนี้ ฉินตงหลินก็คิดเช่นนี้เช่นกัน

โม่เยว่ของนาง เป็นคนเก็บขยะหรืออย่างไร? !

ฉินซื่อเสวียมาหาเรื่องนาง เป็นเพราะหยุนธิงหลานติดตามโม่หุยเฟิงออกจากเมืองหลวง

หยุนหว่านหนิงเป็นคน “โน้มน้าว” หยุนธิงหลานด้วยเหตุผลจริงๆ

แต่ว่านางไม่ได้ใจดีขนาดที่จะช่วยหยุนธิงหลานรักษาตำแหน่งหรอก

นางก็แค่ วางเบี้ยเอาไว้ข้างกายโม่หุยเฟิงไปตามสถานการณ์เท่านั้น

ถึงแม้โม่หุยเฟิงจะอยู่ไกลถึงเขาซีเซียง ทันทีที่เขามีความเคลื่อนไหวใดๆ หยุนหว่านหนิงก็จะสามารถรู้จากหยุนธิงหลานได้ทันถ่วงที

มูลเหตุสำคัญอันดับแรกคือ——หยุนธิงหลานต้องเชื่อฟังเป็นอย่างดี

……

ฉินเย่วหลิ่วบอกว่า จะให้หยุนหว่านหนิงเห็นความจริงใจของนาง

ไม่เกินสองวัน นางก็ได้แสดง “ความจริงใจ” ของนางออกมาจริงๆ

หรูเยียนได้ตรวจสอบฉินเย่วหลิ่วอย่างละเอียดแล้ว

“พระชายา คุณหนูรองฉินท่านนี้ เติบมากับฉินฮูหยินในเมืองฮุยมาตั้งแต่เด็ก ต่อมาฉินฮูหยินเสียชีวิตด้วยอาการป่วย นางถึงถูกฉินตงหลินรับกลับมาเมืองหลวง”

หรูเยียนรายงานอย่างระมัดระวัง “บ่าวตรวจสอบการกระทำทุกอย่างของนางแล้ว”

“พบว่าคุณหนูรองฉินท่านนี้ ไม่ได้มีความแปลกประหลาดอะไร”

นางขมวดคิ้วเล็กน้อย “เพียงแต่ว่าหลังจากกลับจากเมืองฮุยมายังเมืองหลวง คุณหนูรองฉินและฉินซื่อเสวียเข้ากันได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก”

“บอกว่าเป็นพี่น้อง แต่เหมือนศัตรูมากกว่า”

“เหตุใดพวกนางถึงเป็นศัตรูกันได้?”

หยุนหว่านหนิงก็สังเกตเห็นเช่นกัน ท่าทีที่ฉินเย่วหลิ่วมีต่อฉินซื่อเสวีย ราวกับเป็นศัตรูกันมาสามชาติ……

“ไม่ทราบเจ้าค่ะ”

หรูเยียนส่ายหน้า แล้วก็เปลี่ยนวิธีพูดอีกแบบหนึ่ง “บ่าวสืบดูแล้ว ไม่ได้มีสาเหตุใดๆในการเป็นศัตรูกัน ด้วยเหตุนี้บ่าวคาดเดาว่า เป็นไปได้อย่างมากว่าเป็นเพราะคุณหนูรองฉินรู้สึกไม่พอใจ”

“ไม่พอใจ?”

หยุนหว่านหนิงเงยหน้ามองดูนาง “เหตุใดถึงไม่พอใจ?”

“เพราะฉินซื่อเสวียเติบโตในเมืองหลวงตั้งแต่เด็ก ฐานะสูงส่ง และคุณหนูรองฉินอยู่ไหลถึงเมืองฮุย ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อ”

หรูเยียนตอบ

เมืองฮุย ไกลออกไปนอกเมืองหลวง

ฉินซื่อเสวียถูกประคบประหงมเอาใจตั้งแต่เด็ก ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น

และชีวิตในวัยเด็กของฉินเย่วหลิ่ว ย่อมไม่ถูกโอ๋จนบอบบางเท่านางเช่นนี้อยู่แล้ว

ดังนั้นจึงเกิดความริษยาในใจ ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่

หยุนหว่านหนิงพยักหน้า ดังนั้นนางจึงพูดต่อไป

“หมดแล้ว”

หรูเยียนมองดูนางอย่างเอาจริงเอาจัง

หยุนหว่านหนิง: “……”

เดิมทีนางคิดจะสงสัยในคำพูดของหรูเยียน แต่ว่าหรูเยียนไม่ใช่หรูอวี้ หรูเยียนทำงานละเอียดรอบคอบน่าเชื่อถือ มีเพียงหรูอวี้ที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ ปัญหาบางอย่างยังใคร่ครวญได้ไม่ครอบคลุมเพียงพอ

“ก็ได้”

ทั้งสองคนสบตากันครู่หนึ่ง หยุนหว่านหนิงปลดอาวุธยอมจำนน “เช่นนั้นฉินเย่วหลิ่วเข้ามาสวามิภักดิ์ต่อข้า หมายความว่าอย่างไร?”

“เป็นเพราะอิจฉาริษยาฉินซื่อเสวียอย่างเดียวเลย เพราะในใจไม่สมดุล ก็จะฆ่าพี่สาวแท้ๆให้ตายเลย?”

คนเช่นนี้ น่ากลัวเกินไปแล้วมั้ง? !

กำลังคุยกันอยู่ หรูโม่ก็เข้ามา

“พระชายา”

เขาเดินเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว ลดเสียงลงแล้วกล่าวว่า “เกิดเรื่องขึ้นกับจวนอ๋องฉู่แล้ว!”

หลายวันมานี้ เพราะหยวนเป่าอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลกู้ ดังนั้นพี่หรูอวี้ที่สนิทกับเขาที่สุด จึงถูกโม่เยว่ส่งไปปกป้อง และอยู่เป็นเพื่อนหยวนเป่าที่ตระกูลกู้

หรูโม่ติดตามอยู่ข้างกายของโม่เยว่

“นายท่านยังอยู่ในวัง อ๋องฉู่ร้องเรียนไปถึงหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท นายท่านให้ข้าน้อยมารายงานต่อพระชายา”

ความเร็วในการพูดก็รวดเร็วมากเช่นกัน “นายท่านให้พระชายาอ้างว่าป่วย”

“อีกสักครู่ จวนอ๋องฉู่จะส่งคนมาเชิญพระชายา ไปตรวจให้กับพระชายาฉู่”

ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ หยุนหว่านหนิงก็รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับหนานกงเยว่แล้ว

“แท้งแล้วหรือ?”

นางเลิกคิ้วถาม

“ยัง”

หรูโม่ส่ายหน้า “พบได้ทันถ่วงที หมอหลวงหยางไปที่จวนอ๋องฉู่แล้ว รักษาเด็กเอาไว้ได้แล้ว แต่ว่าสถานการณ์ของพระชายาฉู่ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก”

“อ๋องฉู่ขอร้องต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท ขอให้ฝ่าบาทออกพระบัญชาให้พระชายาไปตรวจให้กับพระชายาฉู่”

ทั้งร้องเรียน ทั้งขอร้อง หยุนหว่านหนิงฟังจนสับสนวุ่นวายไปหมดแล้ว

“ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระชายาฉู่กันแน่?”

นางสับสนงุนงง

“ได้ยินว่าคนของพระชายาสาม หาข้ออ้างส่งของว่างไปให้พระชายาฉู่ แต่กลับแอบทำอะไรลงไปในของว่าง หลังจากที่พระชายาฉู่กินของว่างเข้าไปแล้ว ก็ตกเลือดเลย”

หรูโม่เล่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์หนึ่งรอบ

เวลานี้หยุนหว่านหนิงเข้าใจแล้ว

นางเพียงแค่ตกใจเล็กน้อย

หนานกงเยว่ได้รับการวินิจฉัยว่าตั้งครรภ็ ยังไม่ถึงห้าวัน

ฉินซื่อเสวียถึงกับอดทนไม่ไหวขนาดนี้แล้ว ต้องการจะลงมือกับลูกในท้องของหนานกงเยว่? !

ตอนนั้นนางเป็นคนยุยงให้ฉินซื่อเสวียไปต่อกรกับหนานกงเยว่ก็จริง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะโหดเหี้ยมขนาดนี้ ลงมือรวดเร็วเช่นนี้!

“ดังนั้นอ๋องฉู่เข้าวัง ประการแรกคือร้องเรียน ประการที่สองคือข้อร้องให้ฝ่าบาทออกพระบัญชา ให้พระชายาท่านไปตรวจให้กับพระชายาฉู่”

โม่หุยเหยียนรู้ตัวเองดีมาก

รู้ว่าถึงแม้เขาจะมาเชิญหยุนหว่านหนิงด้วยตัวเองถึงจวนอ๋องหมิง นางก็จะไม่ช่วย

ด้วยเหตุนี้เลยไปขอร้องต่อหน้าโม่จงหรานโดยตรง

เมื่อเป็นเช่นนี้ กลับทำให้หยุนหว่านหนิงตกอยู่ในสถานการณ์ที่เจ็บปวดอย่างมาก

หากนางไป ก็รู้สึกอัดอั้นในใจ

หากไม่ไป ก็คือการเห็นคนตายต่อหน้าต่อตาแต่กลับไม่ช่วยเหลือ

โม่หุยเหยียนขอร้องต่อหน้าโม่จงหรานโดยตรง ก็ยิ่งเป็นการส่งข้อความให้กับเขา: หยุนหว่านหนิงใจดำอำมหิต เห็นหนานกงเยว่กับลูกตายต่อหน้าต่อตาแต่กลับไม่ช่วย

โม่เยว่ชิงตัดหน้าก้าวหนึ่ง แอบสั่งการให้หรูโม่กลับมาส่งข่าว มีมาตรการรับมือโดยการ “แกล้งป่วย”

“ข้ารู้แล้ว”

ในใจของหยุนหว่านหนิงค่อนข้างประทับใจเล็กน้อย “เจ้าไปรับใช้นายท่านของเจ้าเถอะ”

นางคิดไม่ถึงว่า โม่เยว่จะสามารถคิดได้อย่างละเอียดรอบคอบเช่นนี้

หรูเยียนฉวยโอกาสกล่าวว่า “พระชายา กลวิธีนี้ของนายท่านเหนือชั้นจริงๆ! ไม่ว่าพระชายายินดีจะไปรักษาให้พระชายาฉู่หรือไม่ ใครก็ไม่สามารถเอาผิดกับพระชายาได้!”

อย่างไรเสียตัวหยุนหว่านหนิงก็ไม่สบายเช่นกัน ใครจะสามารถบังคับได้? !

“ข้ารู้ พูดดีแทนนายท่านของเจ้าจริงๆ”

หยุนหว่านหนิงเหล่มองนางครู่หนึ่ง

นางคิดทบทวน ควรใช้เหตุผลอะไรแกล้งป่วย

คิดทบทวนไปมา……

“อีกเดี๋ยวไม่ว่าใครมา ก็บอกว่าข้าไม่สบาย ไม่พบใครทั้งนั้น! หากถามว่าข้าไม่สบายตรงไหน ก็บอกว่าหลายวันก่อนถูกพระชายาสามทำให้โกรธจนล้มลง เจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง ไม่สามารถลงมาได้”

หยุนหว่านหนิงยกริมฝีปากแดงขึ้นเล็กน้อย

เดิมทีนางทนที่จะทำร้ายลูกของหนานกงเยว่ไม่ได้ คิดว่าจะไปที่จวนอ๋องฉู่สักครั้ง

แต่ได้ยินคำพูดของหรูโม่ รักษาเด็กเอาไว้ได้แล้ว

เพียงแค่สถานการณ์ของหนานกงเยว่ไม่สู้ดีนัก……

ในเมื่อหมอหลวงหยางก็อยู่ด้วย ก็ไม่ถึงกับต้องให้นางลงมือ

หนานกงเยว่จะเป็นหรือตาย ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนางเลยสักนิด!

สิ่งที่นางเกลียดที่สุด คือคนที่ปากกับใจไม่ตรงกัน เบื้องหน้ากระตือรือร้นแต่จิตใจเย็นชา!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกหนานกงเยว่เริ่มสงสัยในฐานะของหยวนเป่าแล้ว หากได้รู้ฐานะที่แท้จริงของหยวนเป่า จะต้องลงมือกับหยวนเป่าโดยไม่ลังเลแน่นอน!

นางไม่มีทางยอมให้ใครมาทำร้ายลูกชายของนางเด็ดขาด!

ไอสังหารปรากฏขึ้นมาในดวงตาของหยุนหว่านหนิงกะทันหัน

“บ่าวเข้าใจแล้ว”

หรูเยียนหันหลังเดินออกไป

เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป โม่หุยเหยียนก็มาที่จวนอ๋องหมิงด้วยตัวเองจริงๆ

เขาไม่เพียงแค่มาเท่านั้น ยังนำสิ่งที่หยุนหว่านหนิงไม่อาจปฏิเสธได้มาด้วย——

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์

Status: Ongoing
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ เป็นเรื่องราวความรักเกี่ยวกับการเดินทางที่ยากลำบากของตัวเอกชายและหญิง รู้จักกัน ตกหลุมรัก ผ่านเหตุการณ์และความยากลำบากมากมาย แต่สุดท้ายก็กลับมารวมกัน?คืนวันข้ามภพ ณห้องหอ หยุนหว่านหนิงถูกชายชั่วโม่เยว่เนรเทศออกมาจากวังหลัง ถูกจองจำสี่ปีเต็มๆ! เดิมคิดว่า สี่ปีมานี้นางอยู่อย่างยากลำบาก ต้องกลายเป็นยายแก่ขี้เหร่เป็นแน่! แต่หุ่นเธอช่างอรชรอ้อนแอ้นเต่งตึงเสน่ห์บาดใจ ผิวขาวราวกับหิมะ ใช้เงินมือเติบ ข้างกายยังมีเจ้าก้อนแป้งที่หน้าเหมือนเขาอย่างกับแกะ…… โม่เยว่นัยน์ตาร้อนเผ่า “เจ้าเอาเงินมาจากที่ใด!แล้วลูกมาจากไหน?!” เจ้าก้อนแป้งถลึงตามองเขา:“ไปให้ไกลจากท่านแม่ข้า!” หลังจากสืบรู้เรื่องเมื่อปีนั้นแล้ว โม่เยว่สีหน้าจริงใจ:“เมียจ๋า ข้าผิดไปแล้ว!ลูกชาย พ่อผิดไปแล้ว!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท