มนุษย์มีวิญญาณจริงเหรอ?
ถ้ามีสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณอยู่จริง แล้วโลกหลังความตายล่ะ มันจะเป็นอย่างไร? เราจะยังมีสิ่งที่เรียกว่าสติสัมปชัญญะอยู่ไหม?
ในตอนที่อีฟยังมีชีวิตอยู่ อีฟหยิบหัวข้อนี้มาคิดนับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุก ๆ ครั้งที่อีฟคิดเรื่องนี้ มักจะจบลงที่ข้อสรุปเดิม … ว่าตัวเองแค่กินมากเกินไปและรู้สึกเบื่อ จนกระทั่งวินาทีที่อีฟมีโอกาสพิสูจน์เรื่องโลกหลังความตาย ทุกอย่างกลับดูสับสนไม่น้อย
ทุกอย่างมันมืดไปหมด
ความมืดที่แผ่ขยายอย่างไร้ขอบเขตเบื้องหน้าทำให้อีฟจมดิ่งสู่ความคิด … ประการแรก ตนเองตายแล้วอย่างแน่นอนและจู่ ๆ ก็โผล่มาในสถานที่ประหลาด แม้จะไม่มั่นใจว่าทำไมตนเองยังมีสติอยู่ แต่ความจริงที่เลี่ยงไม่ได้คืออีฟติดอยู่ในความว่างเปล่าอันลึกลับนี้
ความโดดเดี่ยว ความมืดมิด
สิ่งเดียวทีอีฟมองเห็นคือกลุ่มแสงทรงกลมคู่หนึ่งที่เปล่งแสงระยิบระยับ หนึ่งเขียว หนึ่งฟ้า หลังพยายามยื่นมือออกไป อีฟพบว่าตนเองปราศจากร่างกาย เรียกได้ว่ามีเพียงแต่สติที่ยังคงสภาพอยู่ โชคดีที่อีฟสามารถเคลื่อนที่ได้ราวกับกลุ่มเมฆ
หรือนี่จะเป็นสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณ?
ความคิดผุดขึ้นมาในใจอีฟหลังจากไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ อีฟลอยเข้าใกล้กลุ่มก้อนแสงช้า ๆ ด้วยความลังเล
กลุ่มแสงสีเขียวมีขนาดใหญ่เปล่งประกายระยิบระยับ เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกลึกลับ
ก้อนแสงสีฟ้ามีขนาดเล็กกว่าอย่างเทียบไม่ได้ อีกทั้งฉายแสงนุ่มนวล แต่กลับให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่างประหลาด
อีฟใช้เวลาคิดเพียงชั่วครู่และตัดสินใจสัมผัสบอลแสงสีฟ้าก่อน
เมื่ออีฟพยายามสัมผัสมัน ในวินาทีนั้นกลับปรากฏเสียงสวดภาวนาดังก้องขึ้นมาในห้วงมิติ … เป็นเสียงภาวนาที่ให้ความรู้สึกเหนือธรรมชาติ เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ นุ่มนวลและเปี่ยมด้วยพลัง ราวกับเสียงที่สามารถปลอบประโลมจิตวิญญาณให้จมสู่ห้วงความสงบ
อีฟมุ่งความสนใจไปหาที่มาของเสียงด้วยความแปลกใจ เหมือนว่าเสียงภาวนาจะมาจากกลุ่มแสงสีเขียว เสียงนั้นดำเนินต่อไปอย่างเป็นจังหวะที่แทรกด้วยความเงียบในทุก ๆ ท่อน เป็นภาษาสละสลวยที่อีฟไม่เคยได้ยินมาก่อน
แม้ว่าอีฟจะไม่เข้าใจเนื้อหาของการภาวนานั้น อีฟกลับสัมผัสได้ถึงความเศร้าโศกและสิ้นหวังเหลือคณา
ความสงสัยเอาชนะได้ทุกสิ่ง
อีฟแผ่จิตเข้าใกล้แสงสีเขียวโดยไม่รู้ตัว และในทันทีที่อีฟสัมผัสกับกลุ่มแสงนั้น สภาพของทั้งมิติก็เปลี่ยนไป อีฟตกอยู่ในความงุนงงเมื่อถูกข้อมูลปริมาณมหาศาลโถมเข้าใส่
ทุกอย่างวูบลงชั่วขณะ กลายมาเป็นภาพทิวทัศน์นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นภายในจิตใจ
ดินแดนโบราณกว้างใหญ่ ….
เมล็ดพันธุ์ลึกลับร่วงหล่นจากท้องฟ้า …
ต้นไม้สูงใหญ่เทียมฟ้า งอกจากผืนปฐพี …
ร่างงามที่ถือกำเนิดจากพฤกษา …
“เอลฟ์ …?”
ความคิดผุดขึ้นมาในขณะที่อีฟจ้องมองสิ่งที่มักจะปรากฏในเกม RPG แฟนตาซีจากชีวิตที่แล้ว และก่อนที่อีฟจะทันได้คิดสิ่งใดต่อ กลุ่มก้อนแสงสีเขียวเกิดปะทุแรงดึงดูด ลากอีฟเข้าไปโดยไม่ทันตั้งตัว …
…
“ได้รับดวงวิญญาณที่เหมาะสม”
“เงื่อนไขเหมาะสม เริ่มพิธีฟื้นฟูต้นไม้โลก”
อีฟได้ยินเสียงเย็นเยียบที่ตนไม่คุ้นเคย เป็นประโยคที่ใช้ภาษาประหลาด แต่น่าแปลกใจที่อีฟสามารถเข้าใจได้ทันที
ทันทีที่เสียงสิ้นสุด ทัศนวิสัยของอีฟหวนคืนมาอีกครั้ง อีฟพบตนเองอยู่บนพื้นโลก รอบข้างเต็มไปด้วยละอองแสงสีเขียวจำนวนนับไม่ถ้วน อนุภาคเหล่านั้นมีจำนวนมหาศาล ดูงดงามและน่าพิศมัยไปในเวลาเดียวกัน
เกิดอะไรขึ้น?
อีฟชะงัก
“เริ่มกระบวนการหลอมรวมวิญญาณ เริ่มพิธีสืบทอดต้นไม้โลก …”
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ละอองแสงปริมาณมหาศาลพุ่งเข้าสู่ร่างของอีฟ แหล่งพลังงานลึกลับจำนวนมากกำลังไหลบ่าเข้าสู่ร่างพร้อมกับข้อมูลมากมายที่ถูกถ่ายโอนเข้ามาไม่หยุดหย่อน
ยิ่งกระบวนการหลอมรวมผ่านไปนานเท่าไร อีฟรู้สึกได้ว่าขอบเขตการสัมผัสของตนเฉียบแหลมมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียงสวดภาวนาดังขึ้นอีกครั้ง อีกทั้งยังแจ่มชัดยิ่งขึ้นในห้วงโสต
ทั่วบริเวณเอ่อล้นไปด้วยอนุภาคแสงสีเขียว สภาพจิตของอีฟเปล่งประกายเปี่ยมความศักดิ์สิทธิ์ อาณาบริเวณในห้วงจิตล้วนถูกแสงเขียวปกคลุม …
ในวินาทีสุดท้าย อีฟได้ยินเสียงประหลาดอีกครั้ง
“การหลอมรวมเสร็จสิ้น”
“เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ มหาพฤกษาโลกาแห่งดินแดนซากัส”
“ใต้ฝ่าละอองพระบาท อีฟ อึกก์ดราซิลล์”
…
หลังจากที่ได้ประสาทสัมผัสกลับคืนมา อีฟจมดิ่งลงในห้วงความคิดอีกครั้ง
สภาพโดยรอบไม่ใช่พื้นที่แปลกประหลาดอีกต่อไป ปรากฏเป็นโลกที่เต็มไปด้วยด้วยชีวิต เทือกเขาไกลสุดลูกหูลูกตา ล้อมรอบป่าเขียวชอุ่มหนาทึบ ถ้าอีฟมองข้ามเหล่าพืชพรรณที่แตกต่างกับสายพันธุ์บนโลกไป อีฟคงสงสัยว่าตนหลุดเข้ามาในป่าดึกดำบรรพ์
แต่ป่ารอบตัวและขุนเขาล้วนดูกระจ้อยร่อยอย่างเหลือเชื่อ …
มันเป็นอารมณ์ที่แปลกประหลาด ราวกับว่าได้อยู่ในกองถ่ายอุลตร้าแมน หรือการได้ย่างเท้าเข้ามาในโลกใบจิ๋ว อีฟรู้สึกว่าตนกำลังก้มมองทุกอย่างบนโลก
ภูเขาล้วนเล็กจ้อย แมกไม้ล้วนเล็กจิ๋ว แม้กระทั่งฝูงนกบนท้องฟ้าก็ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มแมลง
แถมมุมมองยังเป็นแบบ 360 องศา อีฟสามารถสำรวจสภาพรอบข้างทุกทิศทางได้ในเวลาเดียวกัน เป็นประสบการณ์ที่เหนือจินตนาการในชาติที่แล้ว …
อีฟเบนความสนใจของตนเพียงนิด พลันปรากฏภาพทะเลสาบที่มีขนาดไม่ต่างอะไรกับฝ่ามือ คลื่นระลอกเล็กสีเขียวมรกต ผืนน้ำใสสะอาดสะท้อนภาพอีฟ—
ร่างของอีฟในปัจจุบันเปี่ยมไปด้วยปมรากอันทรงพลัง ลำต้นมหึมา กิ่งก้านแผ่สาขาเทียมฟ้าปกคลุมทั้งผืนนภา และจากข้อมูลที่ปรากฏในห้วงจิตของอีฟ พลันปรากฏคำตอบของคำถามที่ไม่ทันได้เอ่ย
“ต้นไม้โลก?”
มหาพฤกษาแห่งโลกา – อึกก์ดราซิลล์
ผู้ได้รับความนับถือในฐานะปฐมเทพแห่งธรรมชาติ มารดาแห่งเอลฟ์ ผู้ถือครองและเป็นตัวแทนของปาฏิหาริย์แห่งสรรพชีวิต…
ในดินแดนที่ชื่อซากัสนี้ ตัวตนของอีฟมีประวัติยาวนานและลึกลับเฉกเช่นเรื่องราวของมังกร เป็นสิ่งที่อยู่มาตั้งแต่สมัยบรรพกาล เปี่ยมพลังมหาศาลในระดับองค์เทพ
“เรากลายเป็นต้นไม้โลกแล้วจริง ๆ …”
อีฟถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางชำเลืองก้านใบเหี่ยวเฉาผ่านเงาสะท้อนจากผืนทะเลสาบ อีฟประมวลข้อมูลจนเข้าใจสถานการณ์คร่าว ๆ ของตน
อีฟได้มาสู่โลกใบใหม่ที่ชื่อซากัส
เหมือนว่าอีฟจะถูกเลือกโดยต้นไม้โลกที่ใกล้สิ้นอายุขัย ดวงวิญญาณถูกหลอมรวมกับเทพองค์เดิม ได้รับความทรงจำ และได้สืบทอดตำแหน่งต้นไม้โบราณ และในเวลาเดียวกันก็ยังคงสภาพสติสัมปชัญญะของตนไว้ได้ในขณะที่กลายเป็นต้นไม้โลกต้นใหม่ – อีฟ อึกก์ดราซิลล์
ต้นไม้โลกในสภาพรอมร่อระหว่างความเป็นและความตาย
การสืบทอดตัวตนของต้นไม้โลกเหมือนจะส่งผลต่อความสงบในด้านจิตวิญญาณของอีฟไม่มากก็น้อย อีฟไม่ได้รู้สึกตื่นตะลึงหรือหวาดหวั่น ในทางกลับกันอีฟรู้สึกแปลกใจที่อารมณ์ของตนค่อนไปทางมีความสุขด้วยซ้ำ
“ความสุขงั้นเหรอ …”
แน่นอนว่าอีฟมีความสุข ที่อย่างน้อยที่สุดก็ยังมีชีวิตอยู่
หลังจากเกิดใหม่เป็นต้นไม้โลก อีฟตระหนักว่าตนโชคดีอย่างเหลือเชื่อ ในฐานะวิญญาณพเนจรในห้วงอวกาศที่คงสลายไปหากไม่ได้มีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้น แต่การถ่ายโอนจิตและหลอมรวมนี้ได้ให้ชีวิตใหม่กับอีฟ
ชีวิตในฐานะต้นไม้โลก
“อย่างน้อยตอนนี้เราก็ … กลับมามีชีวิตอีกครั้ง?”
อีฟทอดจิตมองสภาพร่างกายแปลกประหลาดของตนจากภาพสะท้อนบนผิวน้ำด้วยความฉงน ในเวลาเดียวกันอีฟสัมผัสได้ถึงความเสื่อมถอยของร่างกายนี้
สภาพของอีฟดูไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด จากเงาสะท้อนที่แสดงถึงกิ่งก้านและรากที่แห้งเหี่ยวจนดูราวกับเป็นซากไม้แห้งเฉา
อย่างไรก็ตาม อีฟยังสัมผัสได้ถึงพลังโบราณปริมาณมหาศาลที่ยังหลับไหลอยู่ภายใน เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตที่พร้อมจะปะทุขึ้นมา พลังที่เพิ่งตื่นจากการจำศีลอันยาวนาน …
ในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกประหลาดพลันปรากฏขึ้นมาในใจ
มันเป็นความรู้สึกราวกับตนอยู่เหนือโลกและสวรรค์ อีฟสัมผัสถึงการเป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้ และถ้าอีฟต้องการ – อีฟสามารถควบคุมทุกสรรพสิ่งในระยะหลายไมล์ได้อย่างสมบูรณ์
พอไอเดียนี้ผุดขึ้นมาในใจ อีฟเบนความสนใจไปที่ต้นโอ๊คแห้งเฉาต้นหนึ่งที่ไม่ไกลจากตนเท่าไร ก่อนจะเพ่งความคิดมุ่งเป้าไป
บางสิ่งที่แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น
ซากต้นโอ๊คพลันฟื้นคืนชีพ ผุดหน่อเงยงอกงาม และเพียงไม่กี่วินาทีต่อมามันกลับสู่สภาพเขียวชอุ่มพุ่มไสวอีกครั้ง นอกจากนี้อีฟยังรู้สึกถึงการเชื่อมโยงบางอย่างกับต้นโอ๊คนั้น เหมือนว่าอีฟจะบงการมันได้
ในเวลาเดียวกัน อีฟพบว่าการกระทำนี้ส่งลบผลต่อปริมาณพลังในตัว เพียงพริบตาเดียวสูญเสียพลังไปถึงสามส่วน! อีฟตื่นตระหนกและหยุดกระบวนการชุบชีวิตต้นโอ๊คทันที
เมื่อได้หลอมรวมดวงจิตเข้ากับต้นไม้โลก อีฟตระหนักว่าพลังที่ตนมีคือพลังแห่งชีวิต ในทางกลับกันคือพละกำลังของต้นไม้โลก หรือ … พลังศักดิ์สิทธิ์
หากใช้พลังนี้จนหมด ต้นไม้โลกจะจมสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
นั่นหมายถึงจุดจบของอีฟ
การเหลือพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ถึงเจ็ดส่วนจากสิบส่วนทำให้อีฟรู้สึกกดดันไม่น้อย
อีฟประมาทเกินไป
อีฟไม่ได้คิดว่าการฟื้นชีวิตจะสูบพลังของตนในระดับนี้
เมื่อเพ่งจิตไปที่ต้นโอ๊คที่เคยแห้งเหี่ยวที่ตนเพิ่งมอบพลังศักดิ์สิทธิ์ให้ อีฟรู้สึกประหลาด เพราะต้นโอ๊คไม่เพียงจะกลับมางอกงาม ทว่าความสูงของมันเพิ่มมาอีกอย่างน้อยสามเท่าจากเดิม เมื่อประเมินกับต้นอื่น ๆ โดยรอบแล้ว อีฟคาดว่ามันน่าจะสูงอย่างน้อย 30 เมตร …
และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาทำให้อีฟชะงัก
ต้นโอ๊คผู้โชคดีสั่นไหวเล็กน้อยและดึงรากขึ้นจากผืนดินอย่างน่าแปลกใจ
ขดรากทรงพลังเกี่ยวกระหวัดกลายเป็นขาประหลาดสองข้าง กิ่งขนาดเขื่อง ๆ งอกใหม่กลายเป็นสองแขน พุ่มใบหนากลายเป็นผมดก และตาเจิดจ้าคู่หนึ่งปรากฏขึ้นบนลำต้นของมัน …
มันกลายเป็นยักษ์ไม้ในเวลาแค่พริบตาเดียว!
ร่างอันสั่นเทาของมันหันสู่ต้นไม้โลก ยักษ์ไม้คุกเข่าลงข้างหนึ่ง พลันเปล่งเสียงทรงพลัง เปี่ยมด้วยความซื่อสัตย์และภักดี “ใต้ฝ่าละอองพระบาท มารดาแห่งทุกสรรพชีวิต ข้าโอ๊คการ์ดซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ … โปรดประทานนามแด่ข้า พระมารดา”
พระมารดา? โอ๊คการ์ด? ตั้งชื่อให้เจ้ายักษ์ไม้?
อีฟปั้นหน้ามุ่ยพลางมองโอ๊คการ์ดตัวจิ๋วเบื้องหน้า
ในเวลาเดียวกัน อีฟสัมผัสได้ถึงการเชื่อมโยงกับยักษ์ไม้ที่เพิ่งถือกำเนิด ราวกับว่าอีฟจะสามารถสั่งการมันได้โดยตรง อีฟใช้เวลานึกเพียงปราดเดียวด้วยความคิดชั่วร้าย (?) พลันปรากฏเสียงเย็นเยียบขึ้นในใจของโอ๊คการ์ด
“นามของเจ้าจักเป็น เบอร์เซิร์กเกอร์!”
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ ._ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ .
T/N: สวัสดีค่าาา เป็นน้องใหม่ในเนโกะโพสต์ ขอฝากนิยายแปลเรื่องนี้ไว้ให้ทุกท่านลองหยิบมาอ่านเล่นในเวลาว่างนะคะ
โดยส่วนตัวทางผู้แปลได้อ่านเรื่องนี้จบไปประมาณปีนึง รักแทบทุกอย่างในเรื่องนี้มาก ถ้ามีสำนักพิมพ์ไหนจะกรุณา LC มาแปลไทยให้ได้อ่าน จะเป็นพระคุณมากเลยค่ะ มากจริง ๆ มากจนอยากจะซื้อไว้ 4 ชุดเพื่อสะสม เพื่ออ่าน และเพื่อเผยแพร่ และเพื่อเผยแผ่ลัทธิ–
คาดหวังได้ว่าเรื่องนี้จะถึงทวีความเข้มข้นขึ้น และทางผู้แต่งได้ปูหลาย ๆ อย่างไว้ดีจริง ๆ ซึ่งการแปลอาจจะติดขัด หรือมีจุดที่เน้นแปลเอาความมากกว่าแปลตรง ๆ อยู่บ้าง ประมาณว่า localized content ให้อ่านได้ลื่นขึ้น หวังว่าจะชอบกันนะคะ (จะพบได้บ่อยในอนาคต เช่นสำนวน การเปรียบเปรย หรืออะไรที่มีส่วนผสมของวัฒนธรรมประเทศผู้เขียนแบบเข้มข้นก็จะใส่เชิงอรรถไว้)
ยินดีรับคำติ คำชม หรือคอมเมนท์ต่าง ๆ เต็มที่ค่ะ
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทได้ที่ต้นทางนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ ._ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ .
เชิงอรรถท้ายตอนที่ 1:
ชื่อตัวละคร:
สรรพนามที่ใช้ในเรื่อง และสาเหตุของการเลี่ยงสรรพนามบุคคลที่ 3 ของอีฟ: