… ตัวที่เจ็ด!
ข้าวกล่องสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ก่อนจะดึงดาบโค้งของตนออกจากลำคอของก็อบลินผู้โชคร้าย
ความรู้สึกของการฟันร่างเนื้อด้วยใบดาบมีความสมจริงเป็นอย่างมาก เลือดอุ่น ๆ สาดกระจายทั่วใบหน้าของเขา
ข้าวกล่องไม่ได้ใช้ ‘ฟังก์ชันลดความรุนแรง’ ที่มาพร้อมกับระบบเกม
เขาแตกต่างกับผู้เล่นจำนวนมากที่รู้สึกไม่ค่อยดีกับภาพเลือดสาด ข้าวกล่องเพลิดเพลินไปกับการสังหาร มันทำให้เขารู้สึกเหมือนตนเป็นทหารที่กำลังอยู่ในสมรภูมิ
สิ่งเหล่านี้ทำให้ข้าวกล่องสัมผัสได้ถึงความอิ่มเอมและความอิสระที่เขาไม่สามารถหาได้ในชีวิตจริง
ความรู้สึกเหล่านี้ยิ่งทวีความชัดเจนเมื่อข้าวกล่องได้เปลี่ยนอาชีพเป็นนักล่าหลังจากอัพเลเวล 11 ซึ่งมอบทักษะ ลอบเร้น ให้เขา
ข้าวกล่องใช้เสื้อของตนเช็ดคราบบนดาบพลางถอนหายใจ
ใบดาบมีรอยบิ่นเล็ก ๆ ปรากฏอยู่
แม้ว่าดาบโค้งของพวกก็อบลินจะมีความคมมากกว่ามีดไม้ แต่พวกมันกลับมีความทนทานที่ต่ำกว่ามีดเหล่านั้นเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าข้าวกล่องไม่รู้ที่มาของความทนทานนั้น บรรดามีดไม้เป็นสิ่งที่เทพธิดาได้เนรมิตพวกมันขึ้นมาด้วยพลังของตน แม้พวกมันจะมีความคมในระดับต่ำ แต่ความทนทานของมันจัดว่าอยู่ในระดับที่น่าประทับใจ
เขาโยนดาบโค้งเล่มนั้นทิ้งไป และคว้าเอาดาบโค้งอีกด้ามหนึ่งที่เหน็บไว้บนหลังมาใช้งานแทน พวกมันคืออาวุธที่ดรอปมาจากพวกก็อบลินที่ได้สังหารไปในช่วงก่อนหน้านี้
ข้าวกล่องเงยศีรษะขึ้นพลางสอดส่องบริเวณรอบข้าง
ร่างกายของเอลฟ์มอบสายตาที่ยอดเยี่ยมให้กับเขา ความมืดรอบข้างแทบจะไม่ส่งผลต่อทัศนวิสัยของข้าวกล่อง เขาสามารถเห็นแทบทุกสิ่งในเมืองฟลอเรนซ์ได้อย่างชัดเจน
บรรดาก็อบลินในโบราณสถานต่างถูกปลุกด้วยเสียงอึกทึก ในเวลานี้มีผู้เล่นระดับเหล็กขั้นต้นจำนวนกว่า 70 คนที่ล่าสังหารก็อบลินพลางโห่ร้องอย่างบ้าคลั่ง
ความแตกต่างจากการเลเวลอัพเป็นสิ่งที่น่าพรั่นพรึงยิ่งนัก
เมื่อเที่ยงวันที่ผ่านมา เหล่าผู้เล่นยังจำเป็นต้องพึ่งพาการร่วมแรงร่วมใจจากเพื่อนร่วมทีมเพื่อเอาชนะก็อบลินตัวเดียว แต่เมื่อพวกเขาเลเวลอัพเป็นยอดฝีมือระดับเหล็ก ร่างกายและทักษะก็ได้รับการยกระดับจนก็อบลินทั้งหลายล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อของผู้เล่นอีกต่อไป
ผู้เล่นสตรีที่ค่อนข้างขี้อายสามารถพุ่งตัวไปเสียบร่างก็อบลินได้อย่างง่ายดายเมื่อมีทักษะพร้อมกับส่งเสียงกรี้ดด้วยความหวาดกลัวระคนตื่นเต้น พุ่งแทง
ทว่าสายโลหิตที่พุ่งออกมาจากร่างของก็อบลินทำให้พวกเธอชุ่มโชกไปด้วยเลือดสีแดงฉานโดยไม่ทันตั้งตัว เสียงกรีดร้องของผู้เล่นกลุ่มนี้จึงดังขึ้นไปอีกระดับ …
ไม่ต้องพูดถึงบรรดาโปรเกมเมอร์ หรือพวกที่เปี่ยมไปด้วยความกระหายเลือด ซึ่งสามารถปรับตัวให้เข้ากับความรุนแรงของการต่อสู้ได้อย่างต่อเนื่อง
ฟลอเรนซ์ในค่ำคืนนี้จึงกลายเป็นทั้งสนามเด็กเล่นและสนามรบสำหรับผู้เล่นเหล่านี้ไปโดยปริยาย
ข้าวกล่องส่ายศีรษะเบา ๆ เมื่อเห็นภาพอันวุ่นวายเหล่านั้น พลางเลือกใช้ทักษะลอบเร้นอีกครั้ง
ในวินาทีที่ข้าวกล่องใช้งานทักษะ จังหวะการเต้นของหัวใจและลมหายใจของเขาช้าลงจนแทบจะหายไป กลิ่นอายของเขาค่อย ๆ จางหายไปพร้อมกับความมืดมิด
เขากำลังจะล่านักบวชก็อบลินตัวสุดท้าย
ถ้าการคาดเดาของข้าวกล่องไม่ผิดพลาด ก็อบลินตัวนั้นควรจะหนีไปทางซากวิหาร
ผู้เล่นที่มีส่วนร่วมในการสังหารนักบวชจำนวนหนึ่งมีความคิดแบบเดียวกับข้าวกล่อง ผู้เล่นกลุ่มนั้นจึงพร้อมใจกันพุ่งตัวไปที่วิหารอย่างรวดเร็ว
แต้มผลงานที่ได้รับจากการสังหารนักบวชก็อบลิน 1 ตัวมีค่าเท่ากับการฆ่าก็อบลิน 5 ตัว!
นอกจากนี้ ค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากการเอาชนะนักบวชก็อบลินก็จัดว่าสูงกว่าก็อบลินทั่วไปอยู่มากโข ความแข็งแกร่งของนักบวชเหล่านี้ถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับเวิลด์บอสในช่วงก่อนหน้า
ที่สำคัญ คำอธิบายภารกิจจากเทพธิดาได้กล่าวถึงคริสตัลพระโลหิตซึ่งน่าจะอยู่ในวิหาร!
คริสตัลพระโลหิต 1 ก้อนมีมูลค่าถึง 800 แต้ม!
ความปรารถนาอันแรงกล้าที่มีต่อค่าประสบการณ์และแต้มผลงานกลายมาเป็นแรงผลักดันชั้นยอด ให้เหล่าผู้เล่นพุ่งตัวกันเข้าไปในซากวิหารราวกับคลื่นระลอกใหญ่
…
ภายในวิหาร ปรากฏร่างของนักบวชก็อบลินตัวหนึ่งกำลังคุกเข่าภาวนาต่อหน้ารูปบูชาของเทพแห่งฤดูเหมันต์และการล่า
การภาวนาดำเนินต่อไปพร้อม ๆ กับแสงของรูปปั้นที่สว่างขึ้นทุกขณะ แม้แต่หยาดคริสตัลพระโลหิตทั้ง 26 เม็ดก็พากันเรืองแสงอ่อน ๆ
ใต้ร่างของนักบวชก็อบลินมีโครงสร้างของลายเส้นขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาทีละส่วน ลายเส้นปริศนาจากแสงสีเงินค่อย ๆ รวมตัวกันจนกลายเป็นรูปแบบของวงเวทที่ดูลึกลับ
เหล่าผู้เล่นบุกเข้ามาในวิหารในเวลาที่วงเวทได้ก่อตัวขึ้น
“คริสตัลพระโลหิต! คริสตัลพระโลหิตเพียบเลย!”
ตาของพวกเขาเปล่งประกายเจิดจ้าด้วยความตื่นเต้น
ทว่าข้าวกล่องที่แฝงกายเข้ามาด้วยทักษะลอบเร้น กลับมองสถานการณ์เบื้องหน้าอย่างระมัดระวัง เขากวาดสายตาไปตามลายเส้นบนพื้นพร้อมกับสีหน้าที่ค่อย ๆ เคร่งขรึมขึ้น
… วงเวทบวงสรวง?
ข้าวกล่องมีความจำที่ดี เขาเคยยืนมองเบอร์เซิร์กเกอร์บวงสรวงไม้เท้าให้กับเทพธิดาอย่างใกล้ชิด จึงรู้สึกถึงความผิดปกติเมื่อเห็นวงเวทเบื้องหน้า
แม้วงเวทใต้ร่างของนักบวชก็อบลินจะแตกต่างจากของที่วาดโดยเบอร์เซิร์กเกอร์อยู่บางจุด แต่โดยรวมแล้วพวกมันมีความคล้ายคลึงอย่างมาก
ในวินาทีนั้น ข้าวกล่องเข้าใจสถานการณ์โดยรวมทันที
“นั่นมันวงเวทบวงสรวง! แย่แล้ว! ทุกคนรีบหยุดมันเร็ว! มันกำลังจะสังเวยคริสตัลพระโลหิตให้กับเทพ!”
ในเวลาเดียวกัน หลี่มู่ตะโกนลั่นจากบริเวณประตูห้องโถงด้วยความตกใจ เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่จดจำรูปแบบของวงเวทบวงสรวงได้
“วงเวทบวงสรวง?”
เมื่อได้ยินดังว่า เหล่าผู้เล่นพากันตื่นตระหนก
“เวรแล้ว! หยุดมันเร็ว!”
“สกิลระยะไกลอยู่ไหน? ยิงมันเร็ว สอยมัน!”
“รีบทำลายวงเวทเดี๋ยวนี้!!”
เหล่าผู้เล่นที่มีทักษะระยะไกลต่างพากันใช้งานทักษะอย่างรีบร้อน
นักบวชก็อบลินที่กำลังพรั่นพรึงกับภาพตรงหน้า ถูกลูกไฟ คมดาบสายลม กระแสไฟฟ้า เถาวัลย์ … และเวทมนตร์ระดับหนึ่งวงจำนวนนับไม่ถ้วนบทพุ่งเข้าปะทะอย่างพร้อมเพรียง
วงเวทบวงสรวงที่กำลังก่อตัวได้ถูกทำลายไปพร้อม ๆ กับเสียงระเบิดดังสนั่นและคลื่นพลังเวทที่พุ่งเข้าปะทะพื้นหินสีเขียว นักบวชก็อบลินที่ใจกลางวงเวทกระอักเลือดคำโตเนื่องจากแรงสะท้อนจากวงเวท ร่างกายของมันพลันแห้งเหี่ยวลงในชั่วพริบตา …
ทว่า แม้วงเวทจะถูกทำลายลงไป แต่แสงประหลาดที่แพร่กระจายออกมาจากรูปปั้นกลับไม่ลดความสว่างลงเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน มันกลับสว่างขึ้นอย่างฉับพลัน!
ก่อนที่บรรดาผู้เล่นจะได้ยินดีกับการทำลายวงเวทเบื้องหน้า พวกเขาได้ยินเสียงอันทรงพลังและเย็นเยียบเสียงหนึ่ง ….
“ฮืม–!”
มันเป็นเสียงที่สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นวิหาร ให้ความรู้สึกเหนือจริงราวกับข้ามห้วงมิติมาสู่โลก เสียงนั้นเต็มไปด้วยความฉุนเฉียวราวกับเจ้าของเสียงกำลังอยู่ในสภาวะเดือดดาล
ทุกคนนิ่งตะลึงงันไปชั่วขณะ และพบว่าเลือดสด ๆ ของตนกำลังไหลทะลักออกมาจากโพรงจมูกและรูหูพร้อม ๆ กับความวิงเวียนที่ผุดขึ้นมาในบัดดล
แม้กระทั่งข้าวกล่องที่กำลังซ่อนตัวด้วยสกิลลอบเร้นก็มีอาการประหลาดนี้เช่นกัน บัฟลอบเร้นของเขาหายไปทันที
“กะ.. เกิดอะไรขึ้น?”
“เจอบอสอีกแล้วป่ะเนี่ย?”
“แค่ก! เวรเอ้ย! เลือดยุบไปตั้งครึ่งหลอด!”
ผู้เล่นต่างพากันทรุดตัวลงกับพื้นวิหารในขณะที่กระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง ทุกคนมองไปที่รูปบูชาด้วยดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความระแวดระวัง
ในวินาทีนั้น แสงของรูปปั้นพลันสาดกระจายไปทั่วห้องพร้อม ๆ กับคริสตัลพระโลหิตทั้ง 26 เม็ดต่างพากันลอยขึ้นจากพื้น พวกมันพุ่งตรงเข้าไปหารูปปั้นราวกับถูกดูดกลืน!
แรงดันปริศนาทวีความเข้มข้น และแสงเจิดจ้าพลันแผ่ออกมาจากรูปปั้น อนุภาคแสงสีทองและเขียวจำนวนมหาศาลรวมกลุ่มกันกลายเป็นอสูรกายขนาดยักษ์ …
เครื่องหน้าของมันดูไม่ชัดเจน ร่างกายของมันกำยำ มือทั้งสองถือขวานขนาดยักษ์และธนูยาวขนาดใหญ่
รูปลักษณ์ของมันเหมือนกับรูปบูชาของเทพแห่งฤดูเหมันต์และการล่า อูลร์!
…
…
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: บอสเกิดอีกแล้วค่าา
…
วันนี้มีสองตอนนะคะ (ตอนนี้คือ 2/2)
เจอกันพรุ่งนี้ค่า
…
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _