(T/N: มีการปรับคำแปลเล็กน้อยนะคะ เดินลมปราณ –> โคจรพลัง // ปราณ –> เวท)
…
“การโคจรพลัง?”
หลี่มู่และเดมาเซียล้วนชะงักเมื่อได้ยินดังว่า
แววตาของเดมาเซียพลันฉายแววตื่นเต้น
“ไอ้นี่มันวิชาลับเหมือนในเกมอื่นใช่ป่ะ!”
นกกาเหว่าพิจารณาศิลาจารึกในมืออย่างรอบคอบ พยักหน้าครั้งหนึ่ง แล้วจึงส่ายศีรษะเป็นเชิงปฏิเสธ
“ไม่ค่ะ เหมือนจะเป็นวิธีฝึกพลังเวทมากกว่า…”
“นั่นไง! วิชาลับจริงด้วย!!”
เดมาเซียตบเข่าฉาดด้วยความตื่นเต้น
สายอาชีพนักรบต้องใช้พลังเวทในการเรียกใช้ทักษะบางส่วน การฝึกพลังเวทจึงมีประโยชน์ต่อเดมาเซียในระดับหนึ่ง
“ฝึกพลังเวท?”
หลี่มู่ตาเป็นประกายเช่นเดียวกับสหายของตน
พลังเวทถือเป็นขุมพลังของดรูอิด
“แต่ว่า เราทำได้แค่อ่านมันแบบคร่าว ๆ นะคะ ยังไงลองไปหาอลิซเพื่อถามรายละเอียดเชิงลึกดีกว่าค่ะ”
นกกาเหว่ากล่าว
เอลฟ์สาวลังเลอยู่ครู่นึ่ง ก่อนจะถามขึ้นด้วยความเอียงอาย
“คือ… ถ้าอลิซช่วยถอดความหมายจารึกพวกนี้แล้วถ่ายทอดวิชาให้… รบกวนช่วยสอนเราด้วยได้ไหมคะ?”
หลี่มู่และเดมาเซียสบตากัน ก่อนจะตอบกลับพร้อมยิ้มกว้าง
“แน่นอน!”
เอลฟ์หนุ่มทั้งสองต่างมุ่งหน้าไปหาอลิซด้วยความเร่งรีบ
…
ภายในห้องโถง ณ วิหารแห่งธรรมชาติ
“วิธีโคจรพลัง?”
นักบวชสาวหยุดการทำความสะอาดรูปปั้นเมื่อได้ยินเรื่องเล่าจากหลี่มู่
อลิซหันมามองเอลฟ์หนุ่ม พลางรับศิลาจารึกมาพิจารณาอย่างละเอียด
เธอเผยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปีติหลังจากที่ผ่านไปครู่หนึ่ง
“สิ่งนี้คือวิธีโคจรพลังจริงด้วยค่ะ! มันคือวิชา “โคจรพลังธรรมชาติ” ที่สูญหายไปในอดีต! สามารถใช้พัฒนาพลังจนถึงช่วงระดับเงินขั้นสูงเลยค่ะ! วิชานี้มีประสิทธิภาพสูงมาก ช่วยเพิ่มพลังเวทแถมยังเพิ่มความเข้ากันได้กับพลังธรรมชาติค่ะ!”
เป็นวิชาโคจรพลังจริงด้วย! แถมยังใช้ได้จนกว่าจะถึงระดับเงินขั้นสูง!
หลี่มู่และเดมาเซียรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก
พวกเขาทราบว่าเลเวลสูงสุดในเกมเวอร์ชันปัจจุบันคือเลเวล 40 ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของระดับเหล็กขั้นสูง!
ถ้าวิชานี้สามารถใช้ได้จนถึงระดับเงินขั้นสูง นั่นหมายถึงการที่พวกเขาจะใช้วิชานี้ได้จนถึงเวอร์ชันถัดไป!
เป็นเคล็ดวิชาที่แกร่งกล้ายิ่งนัก!!
“งั้น.. ผมขอถามนิดนึง เราจะได้สิ่งใดจากการส่งมอบแผ่นจารึกนี้? จะว่าไป พอจะถ่ายทอดวิชานี้ให้พวกเราได้ไหมครับ?”
เอลฟ์หนุ่มพากันถามด้วยความคาดหวัง
อลิซจ้องมองแผ่นศิลาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายศีรษะเบา ๆ
“ไม่มีทางเรียนวิชานี้เลยค่ะ เพราะจารึกในส่วนของข้อมูลสำคัญมันเลือนลางเกินไป ข้าจึงไม่สามารถทำความเข้าใจเนื้อหาของเคล็ดวิชานี้ และสำหรับรางวัล… ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน พวกท่านจะทราบเมื่อบวงสรวงสิ่งนี้แด่พระมารดาค่ะ”
หลังจากที่ได้สนทนากับเหล่าผู้ถูกเลือกอยูหลายวัน อลิซได้รับรู้ว่าพวกเขาและพระมารดามีความรูปแบบความสัมพันธ์บางอย่าง… คล้าย ๆ กับการแลกเปลี่ยน
เมื่อผู้ถูกเลือกทำภารกิจลุล่วงตามเป้าหมาย พระมารดาจะมอบพลังให้กับพวกเขา
สิ่งนี้ทำให้อลิซเข้าใจสาเหตุที่บรรดาผู้ถูกเลือกต่างทุ่มเททำงานอย่างหนัก แม้พวกเขาจะดูไม่ค่อยศรัทธาในพระมารดา
ผู้ถูกเลือกส่วนใหญ่มีความกระหายในพลังอย่างแรงกล้า พวกเขาต่างปรารถนาในความแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกมนุษย์
“อ๋า… ไม่ได้เหรอ…”
หลี่มู่และเดมาเซียดูห่อเหียวโดยพลัน
อลิซชะงักอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นความผิดหวังของหลี่มู่ ก่อนจะกล่าวขึ้นมาด้วยความลังเล
“…พระมารดาอาจจะซ่อมแซมจารึกพวกนี้ได้นะคะ ในระหว่างการบวงสรวง อาจจะลองภาวนาเพื่ออธิษฐานให้ท่านช่วยซ่อมให้ค่ะ”
อลิซชำเลืองมองหลี่มู่พลางลอบคิดบางสิ่ง
บางที… นี่อาจจะเป็นโอกาสให้เหล่าผู้ถูกเลือกยอมรับในพลังแห่งธรรมชาติ แล้วกลายมาเป็นสาวก…
อธิษฐานต่อเทพธิดา?
หลี่มู่และเดมาเซียจ้องมองกันและกันอย่างตื่นเต้น
เอลฟ์หนุ่มทั้งสองไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกเผยแผ่ความเชื่ออย่างแนบเนียน
เดมาเซียขยับตัวเข้ามาข้างหลี่มู่และกระซิบด้วยความลิงโลด
“เควสเนื้อเรื่องแหงพี่มู่! เอาชื่อเสียงของชั้นในฐานะผู้เริ่มเควสหลักเป็นประกัน! ดีไม่ดีรางวัลจะเป็นเคล็ดวิชาอันนี้!”
หลี่มู่เกิดความคาดหวังอย่างยิ่งยวดเมื่อได้ฟังเดมาเซีย
เขามีความเห็นคล้ายคลึงกับสหายของตน
เอลฟ์หนุ่มทั้งสองพยักหน้าอย่างเห็นพ้องต้องกัน
“ถ้าเช่นนั้น คงต้องรบกวนคุณอลิซช่วยเตรียมวงเวทบวงสรวงครับ”
หลี่มู่ไหว้วานอลิซด้วยความเคารพ
นักบวชสาวพยักหน้ารับคำ
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
การที่สาวกและเทพอยู่ในภพเดียวกัน จะมีข้อดีอย่างมหาศาลต่อพลังงานที่จำเป็นต้องใช้ในการบวงสรวง
อีฟสามารถรับการบวงสรวงด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ในปริมาณน้อย และเหล่าสาวกก็สามารถบวงสรวงด้วยพลังในปริมาณน้อยเช่นกัน
ตราบใดที่อีฟยังไม่เบื่อหน่าย เหล่าสาวกย่อมสามารถบวงสรวงได้ทุกวัน
อลิซวาดวงเวทบวงสรวงภายในเวลาอันสั้น
เธอภาวนาแด่มหาพฤกษา และรอการตอบกลับของเทพธิดา…
…
อีฟสัมผัสได้ถึงการสั่นสะเทือนของกลุ่มแสงเมื่ออลิซเริ่มการภาวนา จึงหยุดซ่อมแซมลูกแก้วกักเก็บวิญญาณ ก่อนจะเบนความสนใจมาด้วยความฉงน
“อลิซ? กำลังจะบวงสรวงอะไรมาน่ะ?”
ความตื่นเต้นบังเกิดในใจของอีฟ
“หรือว่า… พวกผู้เล่นจะเจอบางสิ่งในโบราณสถาน?”
คิดได้ดังว่า อีฟจึงเปิดช่องทางบวงสรวงเพื่อรับเครื่องสังเวยจากนักบวชแห่งธรรมชาติ
แสงพลันปะทุขึ้นวูบหนึ่ง พร้อมกับแผ่นศิลาจำนวนมากที่ปรากฏขึ้นในห้วงมิติปัจเจกของเทพธิดา
“เหะ? แผ่นหิน?‘
อีฟอุทานพลางตรวจสอบพวกมันด้วยความสนใจ
“เขียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเอลฟ์ล่ะค่ะ!”
เทพธิดารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“เอ๋? เขียนเกี่ยวกับวิธีพัฒนาพลังด้วย!”
อีฟรู้สึกตื่นเต้นระคนยินดีเมื่อได้เห็นเนื้อความในจารึกแผ่นหนึ่ง
แม้เนื้อหาเกี่ยวกับการโคจรพลังในศิลาจารึกแผ่นนี้จะขาดหายไปบางส่วน แต่อีฟสามารถซ่อมแซมมันได้อย่างง่ายดายด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของตน แถมกระบวนการนี้ยังใช้พลังแค่เพียงเล็กน้อย
นอกจากนี้ อีฟยังสามารถพัฒนาวิธีโคจรพลังที่มีประสิทธิภาพสูง โดยใช้วิธีในจารึกมาเป็นต้นแบบ!
แต่เทพธิดาเลือกที่จะยังไม่สร้างมันขึ้นมาในเวลานี้ เนื่องจากเลเวลของบรรดาผู้เล่นยังไม่สูงพอที่จะใช้งานมัน การฟื้นฟูเคล็ดวิชาโคจรพลังสำหรับการใช้งานของผู้เล่นจึงใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เพียงไม่ถึง 1 แต้มเท่านั้น
คิดได้ดังนั้น อีฟจึงเริ่มจ่ายพลังออกไป และเคล็ดวิชาก็ถูกฟื้นฟูในทันที
ทั้งสองคน เก่งมากค่า–!!
อีฟพึงพอใจอย่างยิ่งยวดเมื่อเห็นแผ่นศิลาที่ลอยอยู่เบื้องหน้า
เทพธิดากวาดมือเพื่อใช้พลังศักดิ์สิทธิ์อย่างใจกว้าง…
หน้าต่างแจ้งเตือนจากระบบพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหลี่มู่และเดมาเซีย เนื้อความระบุว่าพวกเขาทั้งสองคนได้บรรลุเป้าหมายของภารกิจ และได้รับรางวัลเป็นค่าประสบการณ์ 3,000 หน่วยกับค่าผลงานอีก 500 แต้ม
“จ– จบแล้ว?”
เอลฟ์หนุ่มทั้งสองต่างตื่นตะลึงเมื่อเห็นข้อความจากระบบ
“ช่องทางบวงสรวงยังเปิดอยู่นะคะ พระมารดาจะได้ยินคำภาวนาของพวกท่าน อธิษฐานเร็วค่ะ”
นัยน์ตาของหลี่มู่ฉายแววขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงของอลิซ
เขานั่งคุกเข่าลงด้วยท่าทางที่เห็นจากนักบวชสาว ปลายนิ้ววาดสัญลักษณ์ของพระมารดาแห่งธรรมชาติในระดับอก พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ขอสรรเสริญพระมารดาแห่งธรรมชาติ เทพธิดาแห่งสรรพชีวิต ผู้ปกครองแห่งปวงเอลฟ์ – อีฟ อึกก์ดราซิลล์! ท่านเทพธิดาผู้งดงามและสูงศักดิ์ โปรดช่วยพวกเราฟื้นฟูเคล็ดวิชาโคจรพลังธรรมชาติ และถ่ายทอดวิชานั้นให้กับพวกเราด้วยเถิด!”
อีฟได้ยินคำขอของหลี่มู่ผ่านความว่างเปล่า
เทพธิดาชะงักเล็กน้อยพลางไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
อีฟลอบยิ้มเมื่อเห็นท่าทางการภาวนาที่จริงจังของหลี่มู่
“พวกนายนี่… ปรับตัวกันเร็วจริงนะ”
ถึงแม้การกระทำของหลี่มู่จะเป็นการแสดง ทว่าสีหน้าท่าทางของเขาดูราวกับเหล่าสาวกผู้ศรัทธา
ต่อให้หลี่มู่ไม่ได้อธิษฐานออกมา อีฟก็ตั้งใจว่าจะมอบเคล็ดวิชานี้ให้กับบรรดาผู้เล่นเมื่อตนได้ปรับปรุงพวกมันจนเสร็จ
อีฟไม่กังวลว่าการถ่ายทอดวิชาที่ใช้บ่มเพาะพลังในโลกของซากัสจะส่งผลต่อสถานการณ์ในฝั่งดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
เนื่องจากฝั่งดาวเคราะห์น้ำเงินมีระดับพลังงานที่น้อยเกินกว่าจะใช้สนับสนุนการบ่มเพาะพลัง ซึ่งถ้านำการโคจรพลังนี้ไปใช้ในโลกอีกฝั่ง อย่างมากก็คงเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายเท่านั้น
แน่นอนว่าผู้เล่นจำเป็นต้องจ่ายค่าผลงานเพื่อเรียนเคล็ดวิชานี้
อีฟตั้งใจว่าจะนำวิชาเข้าไปบรรจุไว้ในร้านแลกเปลี่ยน แต่เมื่อหลี่มู่ขอให้ตนช่วยถ่ายทอดวิชาให้ อีฟจึงตัดสินใจมอบวิชาให้กับผู้เล่นทั้งสองในฐานะที่เป็นผู้ค้นพบมัน
“ผลงานนี้ใหญ่หลวงนัก ควรค่าแก่การปูนบำเหน็จเจ็ดขั้นค่ะ–”
อีฟแปลเคล็ดวิชาโคจรพลังธรรมชาติให้เป็นภาษาจีนและส่งพวกมันเข้าสู่จอเกมของเดมาเซียและหลี่มู่ ก่อนจะเปิดใช้ระบบแลกเปลี่ยนเคล็ดวิชาพร้อมกับระบบช่วยฝึกฝนอย่างเป็นทางการ
…
…
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: ถ้าตามสูตรเกมจีน ยิ่งโคจรตามที่สูง ๆ ก็ยิ่งได้ EXP เยอะค่ะ
…
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _