บทที่ 31ไซซีบาร์บีคิว
จูเจียนเฉียงเหล่ตา แสร้งทำเป็นมองไปทางอื่น แต่ความจริงแล้วกำลังแอบพิจารณาอยู่
เขาไม่กล้ามองอย่างโจ่งแจ้ง แต่ตอนที่สายตามองผ่านไป กลับพบเรื่องประหลาด สายตาของเซียวหยางมองไปยังวิวทิวทัศน์บริเวณสาบเสื้อของเถ้าแก่เนี้ย ตรงๆ
เปิดเผยตรงไปตรงมา!
กำเริบเสิบสาน ไม่เกรงกลัวผู้ใด!
บัดซบ พี่หยางช่างเป็นคนยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง
นี่เรียกว่าการถ้ำมองที่ไหนกัน เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการมองอย่างตรงไปตรงมา ส่วนเถ้าแก่เนี้ยก็คล้ายกับจะไม่สังเกตเห็นอย่างไรอย่างนั้น เปิดขวดเบียร์ให้ทั้งสองคนต่อไป
เถ้าแก่เนี้ยเพิ่งจะยืดตัวขึ้นมา จู่ๆก็เท้าลื่น
อ๊า!
เถ้าแก่เนี้ยโอนเอนไปมา ชนขวดเบียร์ล้มลง ทันใดนั้นขวดเบียร์ขวดหนึ่งก็เอนล้มไปทางด้านหน้าเซียวหยาง
เซียวหยางตาเร็วมือไว เท้าเตะขาโต๊ะ ระหว่างโต๊ะกับม้านั่งก็เกิดช่องว่างขึ้นมา ในเวลาเดียวกันนั้น มือข้างหนึ่งก็โอบเอวเล็กบางของเถ้าแก่เนี้ยเอาไว้เบามือ ทำให้ร่างกายของเถ้าแก่เนี้ยยืนได้อย่างมั่นคง
ความรู้สึกที่ส่งผ่านมาทางมือนั้น นุ่มนิ่มเหมือนไม่มีกระดูก
ความรู้สึกที่ได้จากการสัมผัสด้วยมือนั้นไม่เลวเลย
แต่กางเกงของเซียวหยางกลับเปียกชื้นจากเบียร์ที่หกรด
เถ้าแก่เนี้ยรีบประคองตัวออกจากแขนของเซียวหยาง อย่างขออภัย “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ คือว่านั่น…..ฉันจะช่วยคุณเช็ดนะคะ”
เถ้าแก่เนี้ยวุ่นวายอยู่พักหนึ่ง ดึงกระดาษทิชชู่ที่อยู่บนโต๊ะออกมา โค้งตัวลงไปเช็ดทำความสะอาดให้กับเซียวหยาง
การโค้งตัวลงในคราวนี้องศายิ่งกว้างขึ้นกว่าเดิม อยู่ใกล้ชิดกับเซียวหยางมาก จะไม่ดูก็ไม่ได้แล้ว
จูเจียนเฉียงชะงักไปชั่วขณะ ดวงตาคู่นั้นหรี่ลง พิจารณามองอย่างรอบคอบ
เถ้าแก่เนี้ยยุ่งวุ่นวายกับความผิดพลาด ห่วงแต่เช็ดทำความสะอาดกางเกงให้กับเซียวหยาง ไม่ได้ระมัดระวังต่อสายตาของทั้งสองคนที่อยู่ด้านบนเลยแม้แต่น้อย
ตอนที่เช็ดทำความสะอาด มือของเถ้าแก่เนี้ยเลี่ยงไม่ได้ที่จะแตะโดนต้นขาของเซียวหยาง ครู่หนึ่งก็เกิดกระแสไฟไหลผ่านไปทั่วร่างของเซียวหยาง
เถ้าแก่เนี้ยคล้ายกับสังเกตเห็นถึงความผิดปกตินี้ ตอนที่สาวงามน่าทะนุถนอมหยุดการเคลื่อนไหวในมือ เงยศีรษะขึ้นมองนั้น ก็พบว่านัยน์ตาคู่นั้นของเซียวหยางกำลังมองอยู่ที่สาบเสื้อของตัวเอง
เธอเพิ่งจะพบว่าตัวเองไม่ระมัดระวังเผยยอดปทุมถันของตัวเองออกมา จึงรีบปิดบริเวณอกของตัวเอง
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เถ้าแก่เนี้ยหมดคำพูดก็คือ ดวงตาของเซียวหยาง มองอย่างตรงไปตรงมาเกินไปหน่อย ไม่มีการหลบเลี่ยงเลยแม้แต่น้อย
เมื่อถูกเธอพบแล้ว ก็ยังคงมองอย่างไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนกับว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องธรรมชาติ
เถ้าแก่เนี้ยโมโหจนกลอกตามองบน “คนลามก”
เซียวหยางประคองร่างของเถ้าแก่เนี้ยให้ลุกขึ้นมา พูดอย่างจริงจังว่า “ลูกไม้สีดำ แบบไม่เลว เพียงแต่ขนาดเล็กไปไซส์หนึ่ง เต้านมจะอักเสบได้ง่าย เปลี่ยนเป็นไซส์ใหญ่กว่านี้ไซส์หนึ่งจะเหมาะสมกว่านะ”
“คุณ……..ต่ำช้า ไร้ยางอาย!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว ใบหน้าของเถ้าแก่เนี้ยก็เห่อร้อนขึ้นมาในเสี้ยววินาที สะบัดแขนของเซียวหยางออกในทันที พร้อมกับถลึงตามองเขาอย่างดุร้าย และหมุนตัวจากไป
จูเจียนเฉียงชื่นชมอยู่พักหนึ่ง วิธีการจีบสาวแบบนี้ของเซียวหยางยอดเยี่ยมจริงๆ
“พี่หยาง คิดไม่ถึงเลยว่าคุณเก่งเรื่องเกมส์แล้ว เรื่องแต๊ะอั๋งก็เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครด้วย ผมแทบจะประนมมือกราบคุณแล้ว”
ทันใดนั้นจูเจียนเฉียงเริ่มมีความคิดที่จะกราบเซียวหยางเป็นอาจารย์ขึ้นมา
เซียวหยางยิ้มอย่างหมดคำพูด เขาพูดความจริงชัดๆ ทำไมถึงได้กลายเป็นการจีบสาวขึ้นมาล่ะ
เพียงแต่ว่า ตอนที่เขาเห็นสีหน้าแดงก่ำของจูเจียนเฉียง ก็เกิดความรู้สึกดูถูกขึ้นมา
“ดูพฤติกรรมหน้าแดงคอแดงแบบนี้ของนายสิ คงไม่ได้เป็นชายยังบริสุทธิ์อยู่หรอกนะ”
“พี่หยาง สิ่งนี้คุณยังดูออกมาได้นี่ พูดความจริงเถอะ คุณเคยจีบสาวมาเยอะมากใช่ไหม” จูเจียนเฉียงเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉา
“อยากฟังจริงๆหรือ” เซียวหยางเคาะโต๊ะ ยิ้มตอบ
“อิอิ นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว พี่หยาง คุณก็สอนผมเยอะหน่อยเถอะ เบียร์แก้วนี้ผมขอคารวะคุณ ผมดื่มหมดแล้ว คุณก็ตามสบายเถอะ”
จูเจียนเฉียงดื่มหมดแก้วในทีเดียว เซียวหยางก็ดื่มตามแก้วหนึ่งเช่นกัน
“พูดไปแล้วเรื่องมันยาว ในปีนั้น ตอนที่อยู่ที่ยุโรป……..”
เซียวหยางและจูเจียนเฉียง กินไป พูดโอ้อวดสัพเพเหระไปพลาง จูเจียนเฉียงได้ฟังแล้วนัยน์ตาก็ทอประกาย จิตใจเคลิบเคลิ้มหลงใหล แทบจะคุกเข่า ประนมมือขึ้นเหนือหัว ก้มกราบในทันที
“พี่หยาง สาวญี่ปุ่นเชื่อฟังขนาดนี้เชียวหรือ ให้ทำอะไรก็ทำอย่างนั้น”
“บัดซบ พี่หยาง ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูดแล้ว หากผมหาสาวรัสเซียมาคนหนึ่ง แบบนี้ก็วุ่นวายแย่น่ะสิ”
……..
ทั้งสองคนกำลังแลกเปลี่ยนความรู้ ในตอนนั้น โต๊ะด้านข้างโต๊ะหนึ่งก็มีเสียงโวยวายขึ้นมากะทันหัน
“ไอ้นั่นมันเถอะ เถ้าแก่ ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้ ทำไมในอาหารถึงได้มีเส้นผมกัน ไม่อยากทำการค้านี้แล้วใช่ไหม”
บนโต๊ะนี้ มีคนนั่งอยู่ 5 คน แต่งกายแตกต่างกันไป ท่าทางเป็นอันธพาล บนแขนยังมีรอยสักด้วย
ชายหนุ่มผมสั้น หน้าตาดุดัน ที่ส่งเสียงเอะอะเมื่อครู่นี้ ด้านข้างยังมีชายที่ใบหน้าด้านข้างมีรอยแผลเป็นที่เกิดจากมีดนั่งหันมาทางโต๊ะของพวกเซียวหยาง จึงเห็นได้อย่างชัดเจน
เมื่อชายหนุ่มหน้าตาดุดันคนนั้นเอ่ยขึ้น คนที่เหลือไม่กี่คนก็เอ่ยสำทับตาม ขวดเบียร์ถูกทุบแตกเต็มพื้น
เสียงแสบแก้วหูดังขึ้นมาในทันที
สายตาของผู้คนรอบด้านล้วนมองไปทางนั้น เถ้าแก่เนี้ยได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเหล่านี้แล้วก็กระวีกระวาดมาหน้าโต๊ะ มองดูอย่างละเอียดแล้ว ในจานก็มีเส้นผมอยู่เส้นหนึ่งจริงๆ
เธอยิ้มกระอักกระอ่วนอย่างขออภัย พร้อมกับตอบว่า “ขอประทานโทษทุกท่านด้วยนะคะ อาหารมื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง ขอให้คุณสุภาพบุรุษทั้งหลายให้อภัยด้วยนะคะ”
“แกเลี้ยง แกจะนับเป็นตัวอะไรได้ พวกเรามากินข้าวจะไม่มีเงินได้อย่างไร ต้องให้แกเลี้ยงด้วยหรือ” ชายหนุ่มผู้ดุดันตะคอกกลับเสียงเย็น
“พี่ชายทั้งหลาย ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันกำลังขอโทษพวกคุณค่ะ พ่อครัวทำอาหารไม่ระวัง ขอให้พี่น้องทุกท่านโปรดเข้าใจ อดทน และให้การสนับสนุนด้วยนะคะ”
“ยกโทษให้แกก็ได้ เพียงแต่ว่าก็ต้องแสดงความจริงใจสักหน่อยใช่หรือไม่”
“หึ ไม่เลวเลย ไม่สู้เคารพพวกเราหลายคนด้วยเบียร์สักขวดเป็นอย่างไร”
เถ้าแก่เนี้ยก็ไม่ได้เลอะเลือน พยักหน้า เอ่ยตอบว่า “เป็นเรื่องสมควรแล้ว เบียร์แก้วนี้ ถือว่าฉันดื่มแทนคำขอโทษให้กับพี่ชายทั้งหลาย พวกคุณตามสบายเลยค่ะ ฉันดื่มหมดแล้ว”
เอ่ยพูดแล้วก็หยิบแก้วเบียร์บนโต๊ะขึ้นมาแก้วหนึ่ง ดื่มหมดในทีเดียว
“เดรัจฉาน ดูถูกพวกเราสินะ ใช้แก้วดื่มจะไปนับอะไรได้ ต้องดื่มทั้งขวดสิ!”
ชายผู้ที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นที่เกิดจากมีดพูด พร้อมกับส่งเบียร์ขวดหนึ่งให้กับเถ้าแก่เนี้ย
เถ้าแก่เนี้ยชะงักค้างไปครู่หนึ่ง สีหน้าดูลำบากใจเล็กน้อย เธอก็แค่คนทำการค้าเล็กๆน้อยๆคนหนึ่ง ผู้ชายเหล่านี้ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นผู้ที่แตะต้องไม่ได้
ไม่มีทางอื่นแล้ว เธอรับขวดเบียร์มา ยิ้มให้กับแขกทั้งโต๊ะ และเงยหน้าขึ้น
อึกๆๆๆ
อาศัยความเร็วที่สายตาสามารถมองเห็นได้ เบียร์ในขวดก็ถูกดื่มจนหมดภายในเวลาครู่หนึ่ง ความสามารถในการดื่มสุราของเถ้าแก่เนี้ยไม่เลวเลย
เสียงปึกดังขึ้น เถ้าแก่เนี้ยวางขวดเบียร์ลงบนโต๊ะ ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ ใบหูก็แดงก่ำ
ภายใต้ประกายสดใสในนัยน์ตา สัดส่วนที่ชวนให้เมามาย เรือนร่างบอบบางดั่งต้นหลิว คล้ายกับว่าสามารถล้มลงได้ทุกเมื่อ
ปลายลิ้นเลียไปมาระหว่างริมฝีปากกับฟันสวย ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน พลางตอบว่า “พี่ชายทั้งหลาย ฉันไม่สามารถดื่มต่อได้แล้ว เบียร์ขวดนี้ถือว่าฉันชดใช้ให้พวกพี่ชายแล้ว ผู้น้อยทำการค้าเล็กๆ ขอให้คุณช่วยดูแลด้วย เรื่องนี้ขอให้แล้วกันไปเถอะนะ”
อันธพาลเหล่านี้มองอย่างสนใจ คล้ายกับว่ายังไม่อยากจบเรื่อง
ชายผู้มีรอยแผลเป็นที่เกิดจากมีดบนใบหน้าแสยะยิ้ม เอ่ยว่า
“แกพูดว่าจบก็จบแล้วหรือ คิดจะไล่พวกเราไปด้วยเบียร์ขวดหนึ่ง มีเรื่องง่ายๆแบบนั้นที่ไหนกัน”
“ให้พวกเรา 50000 หยวน แล้วจะถือว่าเรื่องนี้แล้วกันไป ไม่อย่างนั้น พวกเราหลายคนจะไม่จบไม่สิ้นกับแกอย่างแน่นอน”
50000 หยวน??(230000บาท)
เห็นเส้นผมในอาหารแค่เส้นเดียวกลับกล้าเรียกร้องมากขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ไปแย่งกันนะ
เห็นได้ชัดว่าคนกลุ่มนี้กำลังหาเรื่อง เส้นผมเส้นนั้นก็ไม่แน่ว่าเป็นพวกเขาเองที่ทำหล่นลงไปในอาหาร
เถ้าแก่เนี้ยเห็นแล้วก็เข้าใจเช่นกัน ร่างงามค่อยๆถอยห่างจากโต๊ะ ยืดตัวตรงขึ้นมา
สีหน้าเธอเย็นเยียบหลายส่วน “ฉันว่าพวกคุณไม่ได้มากินข้าว แต่มาหาเรื่องสินะ”
ชายผู้มีรอยแผลเป็นที่เกิดจากมีดบนใบหน้าแสร้งทำเป็นตกใจ จับหน้าอก พลางเอ่ยว่า
“ไอ้หยา สาวน้อยโกรธแล้ว ฉันกลัวจังเลย ทำไม รอให้ผู้ชายมาสนับสนุนแกอย่างนั้นหรือ”
“อย่ามาพูดจาไร้สาระ รู้ความแล้วก็ไสหัวไปเสีย อย่าทำให้แขกคนอื่นเสียเวลากินข้าว” เถ้าแก่เนี้ยมือเท้าสะเอว ตะคอกเสียงหวาน
ชายหนุ่มผู้ดุดันยิ้มเย็นชา คว่ำโต๊ะในทันที พร้อมกับเอ่ยด่าว่า
“เดรัจฉาน แกมันโสเภณี ไม่ก็ให้เงิน ไม่ก็เล่นสนุกเป็นเพื่อนพวกเราหลายคน ใครไม่รู้บ้างว่าผู้ชายของแกตายไปนานแล้ว ยังคิดจะขุดมันขึ้นมาช่วยสนับสนุนแกจากโลงศพอีก ฮ่าๆๆ!”
พูดประโยคนี้แล้ว ก็ก้าวเข้ามาดึงตัวเถ้าแก่เนี้ย