ตอนที่ 45 ชื่อเสียงของคุณถูกผมทำลายแล้ว
“ไม่ต้องการ!”
มู่เทียนซิงเห็นหลิงเล่ออกมา ในใจก็เจ็บ!
ความทรงจำที่ไม่ดีก็แผ่กระจายออกมาในหัว ทำให้หล่อนหายใจอึดอัด:“ฉันไม่ต้องการ!ของที่โดนคุณแตะต้องแล้วฉันไม่เอา!ไม่เอาบัตรประชาชน!ไม่เอากระเป๋าตัง!อะไรก็ไม่เอา!”
พอเห็นหน้าเขาก็เจ็บ พอคิดถึงประโยคนั้นของฉวีซือเหวิน“หญิงขึ้นบนชายอยู่ล่าง”หล่อนก็รู้สึกอยากตาย!
พอคำรามกับหลิงเล่เสร็จ หล่อนกัดฟัน:“ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณ!ฉันเกลียดคุณ!คุณมันสกปรก!”
หลิงเล่เริ่มพูด สายตามองไปที่ใบหน้าของมู่เทียนซิงที่โกรธๆ อย่างไร้ความรู้สึก:“ไม่เอาของที่ถูกผมแตะต้องแล้ว รวมถึงคุณด้วยไหม?”
“อะไรนะ?”
มู่เทียนซิงงง เขาพูดอะไร?
หลิงเล่เข็นรถเข้าไปใกล้หล่อนไปที่ตรงหน้าหล่อน พูดอย่างนุ่มๆ :“ผมเคยแตะต้องคุณแล้ว ไม่ใช่เหรอ?”
ทุกคนขำออกมา!
จั๋วหรันมองฉวีซือเหวินอย่างนึกไม่ถึง ฉวีซือเหวินก็ส่ายหัวทำเหมือนตัวเองไม่รู้เรื่อง!
ส่วนจั๋วซีก็หน้าแดงพูดออกมา:“งั้นแต่งงานครั้งนี้ถอยไม่ได้แล้ว!ไม่แน่ใจคุณชายตัวน้อยๆ ตอนนี้อาจจะอยู่ในท้องคุณหนูมู่!”
ตู้ม!
หัวของมู่เทียนซิงระเบิดออกมา!
หล่อนจ้องหลิงเล่อย่างโหดๆ อย่าพูดคำกำกวมแบบนี้ไม่ได้หรือไง?
ส่วนหลิงเล่จ้องมองจั๋วซีอย่างตำหนินิดๆ แล้วหันกลับไปมองที่หน้าอกของมู่เทียนซิง หูแดงนิดๆ :“ก็แค่ ไม่ได้ไปถึงตรงนั้น”
“คุณหุบปาก!”มู่เทียนซิงจะบ้าแล้ว:“ตอนนี้ฉันไม่อยากคุยกับคุณ!”
หลิงเล่ส่ายหัว:“แต่ว่าชื่อเสียงของคุณถูกผมทำลายแล้ว ผมต้องรับผิดชอบ”
“พอได้แล้ว!”
“เมื่อคืนไม่ได้สวมเสื้อในให้คุณ แล้วพวกเราก็นอนเตียงเดียวกัน”
“หุบปาก!”
“คุณหอมมาก นุ่มมาก บนอกซ้ายมีใฝแดงเล็กๆ เล็กๆๆๆ แต่ว่าประณีตและก็สวยมาก”
“อ๊า~!”
“ไม่ถูกเหรอ?”
“หลิงเล่!ฉันจะฆ่าคุณ~!”
มู่เทียนซิงเข้าไปที่หลิงเล่อย่างระห่ำ สองมือจับคอหลิงเล่แล้วออกแรง ฉวีซือเหวินรีบเข้าไปกอดเอวหล่อนดึงออกมา!
จั๋วหรันเข้าไปแกะมือของหล่อนออก!
จั๋วซีดึงรถเข็นของหลิงเล่ออกไป!
ทุกคนต่างออกแรงสุดชีวิตให้เขาแยกออกจากกัน!
“คุณหนูมู่!ใจเย็น!”
“คุณหนูมู่ อย่าใจร้อน นี่ไม่ได้ล้อเล่น!”
“คุณหนูมู่ น่าจะเข้าใจผิดแน่ๆ เราค่อยๆ คุยกันเถอะ!”
ผู้ชายบนรถเข็นก็ยังยั่วหล่อน:“คุณคิดว่าเมิ่งเสี่ยวหลง พี่ชายที่อุ้มคุณกลับมาที่โรงแรมหรือผู้ชายทั้งโลกดีกว่าผมก็ไม่มีประโยชน์”
มู่เทียนซิง:“ปล่อยฉัน!วันนี้ฉันจะฆ่าคุณ!จะกัดคุณให้ตาย!”
จั๋วหรัน:“คุณชายสี่ อย่าพูดสิครับ!”
หลิงเล่:“ชีวิตนี้นอกจากผม ไม่มีใครกล้าเอาคุณแล้ว”
มู่เทียนซิง:“หลิงเล่ คุณไปตาย!ไปตายไป!”
จั๋วซี:“คุณชายสี่ อย่าพูดอีกสิครับ!”
หลิงเล่:“ใครกล้าเอาคุณ ผมก็จะเอาเรื่องไฝแดงนี่ไปบอกเขา!”
ฉวีซือเหวิน:“คุณชายสี่ หุบปาก!พอได้แล้ว!”
ทั้งห้องเงียบ——
สักพัก มู่เทียนซิงก็ทำลายความเงียบ มองฉวีซือเหวินอย่างนับถือ:“พี่อาซือ พี่เท่มาก~!”
ฉวีซือเหวินขมวดคิ้ว
สายตาที่เฉียบคมและตกใจ หล่อนพูด:“ฉัน ฉันก็ไม่อยากให้พวกคุณทะเลาะกันต่อ อีกอย่าง คุณชายสี่ ฉันคิดว่าคุณทำแบบนี้กับหญิงสาวที่ลืมไม่ได้นั้นเกินไปจริงๆ ค่ะ!ในสายตาคุณคุณหนูมู่คือผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง แต่ว่าในสายตาหลายคนหล่อนก็ยังเป็นเด็กสาวนะคะ”
หลิงเล่จ้องฉวีซือเหวิน หรี่ตามอง:“ต่อไปงานของคุณให้จวงเสว่มารับต่อ”
ฉวีซือเหวินได้ยินก็ตกใจ มองหลิงเล่หน้าซีด:“คุณชายสี่!”
หล่อนไม่ได้ตั้งใจลืมเขาไม่ได้ แค่คิดว่ามู่เทียนซิงเด็กขนาดนี้ และในช่วงเวลาสั้นๆ ต้องมาเจอเรื่องยากลำบากพวกนี้ในใจก็ต้องเจ็บปวดน้อยใจ ไม่มีเพื่อนอยู่ข้างๆ ไม่มีคนสามารถคุยเรื่องในใจได้ น่าสงสารจริงๆ
กลับไปคิดถึงเมื่อคืนที่ใต้แสงไฟข้างถนน เจี่ยงซินห่อกระเป๋ามาให้มู่เทียนซิง มันคือความรักของแม่ที่มีต่อมู่เทียนซิง ฉวีซือเหวินมองแล้วรู้สึกประทับใจ
จั๋วหรันขมวดคิ้ว ดึงมือภรรยาแล้วมองหลิงเล่:“คุณชายสี่ อาซือผิด ผมรับโทษแทนเขานะครับ?”
จั๋วซีเห็นพี่กับพี่สะใภ้แบบนี้ เขาจะหลบอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรไม่ได้
พอเขาจะเริ่มพูดแต่ก็ถูกสายตาของพี่ชายห้ามไว้!
ในตอนนี้ ยิ่งไปต่อรองเยอะ คุณชายสี่ก็อารมณ์ไม่ดี คนที่เกี่ยวข้องก็จะมากขึ้น
มู่เทียนซิงมองฉากตรงหน้าอย่างสงสัย ไม่ใช่ว่าหล่อนกับคุณชายสี่ทะเลาะกันเหรอ ทำไมกลายเป็นแบบนี้?
หล่อนเอนไปที่ข้างหูของจั๋วซีแล้วพูด:“จวงเสว่คือใคร?”
จั๋วซีมองหล่อนแล้วอธิบายเบาๆ :“เป็นผู้หญิง สนใจพี่ผมเป็นพิเศษ จีบเขามาหลายปี”
ได้ยินดังนั้น ในที่สุดมู่เทียนซิงก็เข้าใจ
หล่อนจ้องหลิงเล่อย่างคิดไม่ถึงแล้วพูดอย่างผิดหวัง:“คุณนี่มันเลวจริงๆ !คุณไม่นึกถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวเลยเหรอ?เรียกคนที่สามมาให้อยู่กับจั๋วหรัน คุณคิดถึงความรู้สึกของฉวีซือเหวินไหม?ได้ยินว่าพวกเขาก็มีลูกแล้ว คุณทำแบบนี้ก็ทำผิดศีลธรรม ทำผิดเรื่องความรักแล้ว!อีกอย่างก็โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ฉันว่าคุณมันไม่มีจิตใจ!”
มู่เทียนซิงมองเขาอย่างโกรธๆ คำรามใส่เล็กน้อย!
หลิงเล่จ้องหล่อนเช่นกัน:“งั้นในความคิดคุณ อะไรเรียกว่าความรัก?”
“ความรักต้องทุ่มเทอย่างสุดใจ ตั้งแต่ต้นจนจบ เชื่อใจกันและกัน ภักดีต่อกัน!”มู่เทียนซิงกำมือแน่นพูดว่า:“ยังไงซะ คนแบบคุณจะเข้าใจว่าความรักคืออะไรได้ไง?พูดกับคุณก็เหมือนสีซอให้ควายฟัง!”
หลิงเล่ยิ้มออกมา สายตายังมองหล่อน คำพูดนั้นนุ่มนวลมากครูที่กำลังชี้นำ:“คุณไม่เคยคบกับผม รู้ได้ยังไงว่าผมเป็นควายหรือคน?”
“คุณมันไม่ใช่คน!คนเขาไม่นอนกับผู้หญิงมั่วๆ !”
“คุณเห็นหรือไง?”
“ไม่!แต่ฉันได้ยินด้วยตัวเอง!”
“ได้ยิน?ได้ยินมา แล้วหลักฐานล่ะ?”
“ฉัน”มู่เทียนซิงนิ่งไป ถูกเขาทำให้โกรธ หล่อนเข้าไปในอ้อมกอดของฉวีซือเหวิน หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าของฉวีซือเหวิน แล้วเปิดบันทึกการโทรพูดว่า:“คนมีชีวิตอยู่ แต่ว่าสิ่งของน่ะตาย ฉันจะทำให้คุณเข้าใจว่าอะไรเรียกว่าของตายแล้วแต่ยังพูดได้!”
แต่ว่าสาวสวยดูอยู่นาน
“เอ๋?”
บันทึกการโทรของเมื่อเย็นมีแค่สายเดียวที่โทรไปคือ“เสีย” จากนั้นก็โทรหาสายการบิน
ไม่มีบันทึกโทรหาหลิงเล่หรือจั๋วหรัน
มู่เทียนซิงนิ่งไป:“บันทึกการโทรก็ลบไปเหรอ?”
หลิงเล่ส่ายหัวและยิ้มฝืนๆ มองฉวีซือเหวินอย่างหมดหนทาง:“ให้เวลาคุณห้านาที ถ้าอธิบายเรื่องนี้ดีๆ ไม่ได้ก็ให้จวงเสว่มาทำงานแทน!”