ตอนที่ 135 ไม่ยอมให้
อุณหภูมิของยางมะตอยนั้น สูงถึงหลายพันองศาเซลเซียส เทลงบนหลังคาแบบนี้ คนที่อยู่ในรถไม่ถึงกี่นาทีก็คงไหม้ไปหมดแล้ว!
ช่วงแวบสุดท้าย จั๋วหรันกัดฟันแล้วเหยียบคันเร่งจนมิด รถเล็กของพวกเขาก็พุ่งออกไปจากข้างทาง ชนที่กั้นของทางด่วนเสีย แล้วพุ่งเข้าไปในป่าอันมืดมิด!
หลังจากที่กลิ้งไปแบบตะกุกตะกักแล้ว รถก็ชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่อย่างจัง!
ถุงลมภายในรถนั้นได้เปิดออกทั้งหมด ในคืนที่มืดมิด มืดจนยกมือขึ้นแล้วมองไม่เห็นห้านิ้ว ผู้ชายทั้งสี่คนได้ยินเพียงเสียงหอบของแต่ละคน!
จั๋วหรันกับจั๋วซีกัดฟันไว้ เปิดไฟที่อยู่บนรถไว้ แล้วคลานออกมาจากในรถ เข้าไปใกล้กับเจ้านายที่อยู่ด้านหลัง!
แวบตานี้ ทั้งสองคนตกใจแล้ว!
หนีหน่าจูนหลับตาไว้ เลือดที่ไหลออกมาจากหัวนั้นไหลอาบแก้มและติ่งหูของเขา รู้สึกน่ากลัวภายใต้แสงไฟบนรถ!
หน้าผากของหลิงเล่ก็เลือดออกเช่นกัน แต่เป็นแบบกึ่งสลบ เขาพยายามขยับหูแล้วก็นิ้วมือ อยากจะให้ตัวเองมีสติไว้!
สองพี่น้องจั๋วหรันคนหนึ่งเปิดประตูออก อีกคนหนึ่งก็โทรเรียกรถพยาบาลมา
สายที่โทรไปหารถพยาบาลเพิ่งวางลง ก็เห็นมีมอเตอร์ไซค์สามสี่คันขับมาจากไกลๆ แล้วก็เปิดแสงไฟสูงที่แสบตาไว้เช่นกัน ขยับเข้าใกล้พวกเขาจากสี่ทิศที่แตกต่างกัน!
ในตอนนี้ ในใจของสองพี่น้องตระกูลจั๋วก็มีคำตอบแล้ว!
วันนี้มีคนจ้องพวกเขาไว้แล้ว!
คนที่มานั้นไม่ดี!
จั๋วหรันมือหนึ่งจับมีดไว้ อีกมือหนึ่งก็จะไปจับปืน จั๋วซีก็ปิดประตูหลังไว้ แล้วมองดูรอบๆด้วยสายตาที่น่าเกรงขาม
สองพี่น้องมองดูมอเตอร์ไซค์สี่คันที่เข้าใกล้แล้วจอดนิ่งแบบระมัดระวัง ที่ข้างตัวของพวกเขามีแต่เสียงมอเตอร์ที่ดังจนทำให้พวกเขาปวดศีรษะ!
“เห้อๆ พี่ครับ ไม่ได้ต่อยกันตั้งนานแล้วนะ รอบนี้พวกผมเหลือชีวิตไว้เล่นสักคนนะ!”
“ได้!”
สองพี่น้องเตรียมตัวจะสู้สุดแรงแล้ว ขณะเดียวกัน ผู้ชายคนหนึ่งที่ขี่มอเตอร์ไซค์ก็บอกว่า:”ส่งหนีหย่าจูนมาให้พวกผม พวกคุณจะได้รอดชีวิตไปได้!”
จั๋วหรันยิ้ม:”งั้นคงต้องดูว่าพวกคุณมีความสามารถนั้นมั้ยนะ!”
เพิ่งพูดจบ สีเงินที่สวยสะดุดตาก็ทะลุผ่านค่ำคืนอันมืดมิดแล้ว แทงเข้าไปในลำคอของผู้ชายที่อ้าปากไว้!
คนล้ม รถล้ม การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นแล้ว!
รถทั้งสามคันพุ่งไปทางสามพี่น้องพร้อมกัน พวกเขาสองคนพุ่งออกไปทางที่รถล้มเมื่อกี๊นี้ จั๋วซีโดดขึ้นสูงอย่างกะทันหัน เท้าหนึ่งเตะไว้บนต้นไม้ใหญ่ ยืมแรงมาแล้วโดดสูงขึ้นกว่าเดิม จากนั้นก็หมุนตัวกลางอากาศ แวบที่ตกลงมา ก็ตกลงบนมอเตอร์ไซค์ที่กำลังชนมาแบบพอดี!
เขาใช่สองมือกอดหัวของผู้ฆ่าที่อยู่ด้านหน้าไว้ ยังไม่ทันที่อีกฝั่งจะทำอะไร ก็บิดออกสุดแรง!
คนข้างหน้าร่างกายอ่อนยวบลง ไม่มีแรง จั๋วซีก็โยนเขาออกไปเหมือนโยนลูกไก่ แล้วขับมอเตอร์ไซค์ของเขาพุ่งไปชนมอเตอร์ไซค์อีกสองคันที่กำลังจะโจมตีจั๋วหรันอย่างแรง!
หลังจากที่เขาชนคันหนึ่งล้ม ก็จัดการเขาทิ้งด้วยกระสุนนัดเดียว แล้วเอามือที่ว่างดึงจั๋วหรันขึ้น ก็ชนไปหารถคันสุดท้าย คนนั้นไม่เคยเห็นคนที่ไม่กลัวตายอย่างจั๋วซีนี้ มองดูความเร็วที่จั๋วซีพุ่งมาด้วยความลังเล ในชั่วเวลาที่เขาลังเลนี้ จั๋วซีก็เพิ่มความเร็วพุ่งเข้าไป ตอนที่ใกล้จะถึงหน้าเขาแล้วก็เลี้ยวอย่างกะทันหัน รถนั้นเลี้ยวไปอีกทางก็ข้ามหลังคารถของหลิงเล่ไป!
ตอนที่มอเตอร์ไซค์ของพวกเขาจอดลงบนพื้นอย่างปลอดภัยแล้ว คู่ต่อสู้คนสุดท้ายก็ล้มลง
ตรงลำคอของผู้ชายนั้น ก็มีมีดสีเงินอยู่หนึ่งเล่ม!
สองพี่น้องจอดมอเตอร์ไซค์ลง จั๋วซีก็ไปตรวจสอบทีละคน แล้วพูดออกมาแบบเสียดายว่า:”บอกไว้ว่าจะเหลือรอดไว้สักคนนะ อดไม่ได้อีกแล้ว!แย่จริงๆเลย!”
จั๋วหรันลงรถ เดินไปถึงข้างมอเตอร์ไซค์ที่กึ่งล้มไว้ แต่มอเตอร์ยังมีเสียงดังอยู่ ดันรถขึ้นลองดูแล้วก็บอกว่า:”พวกผมสิงคนรถคนละคัน รีบส่งเจ้านายไปโรงพยาบาลกันนะ!”
“ไป!”
หนึ่งชั่วโมงถัดมา—
นายอำเภอของเมืองเอ็ม ผู้จัดการเลขานุการเมือง แล้วก็เลขานุการสำหรับสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะ ประธานทีมอาชญากรทั้งหมดนี้ก็ยืนอยู่หน้าห้องผ่าตัด!
พวกเขาแต่ละคนตกใจจนวิญญาณออกจากร่างไปแล้วกว่าครึ่ง!
ใครจะไปรู้ว่าคนมีฐานะแบบหนหย่าจูนนี้ ขึ้นทางด่วนตอนกลางดึกยังจะโดนไล่ล่าอีกละ?
แต่แล้ว ตอนที่คำสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ตอนที่โกรธอยู่ พวกเขาก็รู้เลยว่า ถ้าจัดการเรื่องนี้ไม่ดี หรือว่าเจ้านายที่อยู่ข้างในนั้นมีข้อเสียหายอะไรแล้วก็ ชีวิตของพวกเขาก็คงจบแล้ว!
จั๋วซีกับจั๋วหรันก็ทำแผลแบบง่ายๆไว้ เพื่อความปลอดภัยแล้ว พวกเขาก็ไปถ่ายฟิล์ม หมอบอกว่าสมองของพวกเขาสั่นสะเทือนเล็กน้อย ควรที่จะพักผ่อน แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะพัก
หลังจากที่โทรหาบ้านหนีแล้ว พวกคนใหญ่คนโตของเมืองเอ็มก็มากันหมดแล้ว
จั๋วซีกับจั๋วหรันบอกว่า พวกเขาฆ่าคนแค่จะปกป้องตนเองเฉยๆ ถ้าไม่จัดการผู้ฆ่าพวกนั้นทิ้ง คนที่ตายก็จะเป็นพวกเขากับหนีหย่าจูนนะ!
พูดมาเช่นนี้แล้ว ใครยังกล้าไปสืบอีกละ?
ขนาดคุณนั่วยีที่อยู่ข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ยังโทรมาถามว่า:”ลูกชายสองคนของผมเป็นยังไงบ้างแล้ว?”
และก็เป็นรอบนี้ ทั้งเมืองเอ็มได้เดิอดกัน เพราะว่าบอดี้การ์ดสองคนที่ที่อยู่ข้างกายซือซ่าวนั้น จะเป็นลูกแท้ๆของ Royal Servant!
คุณหญิงเยว่หยาลงจากเครื่องปุ๊บ สายของหนีจื่อหยางก็โทรเข้าไป บอกสถานการณ์ตอนนี้ของหนีหย่าจูนกับหลิงเล่ให้กับเธอ
เธอตกใจจนหน้าซีดขาว พาโม่หลินหารถส่วนตัวที่มารับในท่าอากาศยานเจอ แล้วก็เคลื่อนตัวมาทางของโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเลย!
ค่ำคืนของเมืองเอ็มนั้นคึกคะนองแปลกๆ ตอนที่ขับผ่านชุมชนที่มีเรื่องบ่อยนั้น รถติดไปสักพักใหญ่
โม่หลินพูดปลอบเธอพร้อมกับตนเองก็เกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว หลังจากที่ได้ยินว่าพี่ชายสองคนของตนเองไม่ได้มีเรื่องอะไร เธอถึงจะสงบลงบ้าง
และแน่นอน เธอไม่รู้ว่าคุณหญิงเยว่หยาไม่ได้กระวนกระวายเพราะว่าหนีหน่าจูนเพียงอย่างเดียว แต่ก็เป็นห่วงหลิงเล่ด้วยเช่นกัน!
ระหว่างที่รถติด สายของโล่เจปู้ก็โทรเข้า
หนีซีโย่วกดวาง ไม่รับสาย
เขาก็โทรอีก
แล้วเธอก็วาง
เขาโทรอีก เธอจึงรับ แต่ก็มีความหงุดหงิด:”ทำไมคุณถึงโทรมาไม่หยุดละ?”
“ถึงโรงพยาบาลแล้วหรอ?”เสียงที่อ่อนนุ่มลอยมา เขาไม่ได้รู้สึกโกรธ สัมผัสได้ถึงความรีบร้อนของเธอ เขาก็ยังบอกกับเธอแบบอ่อนโยนว่า:”ไม่ต้องรีบนะ สถานการณ์ในโรงพยาบาลนั้นผมพอรู้แล้ว คนที่ชั้นสูงของเมืองเอ็มอยู่ตรงนั้นแล้ว”
“มีเรื่องอะไรอีกมั้ย?”หนีซีโย่วตอนนี้คือกระตือรือร้นมาก อะไรก็ไม่ยอมฟัง อละไม่อยากพูด:”ฉันเหนื่อยแล้ว ตอนนี้ฉันแค่อยากอยู่เงียบๆ อยากเห็นพวกลูกๆอยู่ต่อหน้าฉันอย่างปลอดภัย!”
พอโล่เจปู้ได้ยิน ก็เงียบไปสองวินาที ว่า:”ผมได้ข่าวว่า ที่เกิดเรื่องพร้อมกับหย่าจูนนั้น มีเด็กคนนั้นด้วย สภาพของเด็กนั้นดีกว่าหน่าจูนนิดหนึ่ง คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
หนีซีโย่ว:”……”
“ห้ามไปพบเขา!”อยู่ๆโล่เจปู้ก็สั่งขึ้นมา:”ผมไม่ยอมให้คุณพบกับเด็กนั้น!ห้าม!”
หนีซีโย่วตัดสายของเขาไปเลย!
ตาใหญ่ที่ดูดีนั้นมองดูนอกหน้าต่างรถ เธออยากให้เวลานั้นหยุดอยู่ตอนที่ยังเป็นเด็ก ในตอนนั้น เธอกับโล่เจปู้ กับหลิงหวิน ยังดีกันขนาดนั้น
สายของโล่เจปู้โทรมาอีกรอบ หนีซีโย่วจึงปิดเครื่องมือถือไปเลย!