“หรือว่านางก็เกิดใหม่เช่นเดียวกัน” เยี่ยนซูซูมองกระจกตรงหน้าอย่างสงสัย “ไม่ใช่สิ หากนางเกิดใหม่จริงเหตุใดนางจึงไม่แต่งงานกับใต้เท้าจ่างสื่อเหมือนชาติที่แล้วล่ะ”
เยี่ยนซูซูจำได้ว่าในความทรงจำชาติที่แล้วของนาง เยี่ยนจื่ออวี๋ในเวลานี้แต่งงานกับกู้จ่างสื่อไปแล้ว นางมีชีวิตสุขสบาย ขอลมได้ลม ขอฝนได้ฝน กลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่สมปรารถนาคือมิสามารถคลอดบุตรได้ กู้จ่างสื่อจึงแต่งเยี่ยนชิงถังเป็นภรรยารอง
แม้จะเป็นเช่นนี้ คนที่กู้จ่างสื่อรักมากที่สุดก็ยังเป็นเยี่ยนจื่ออวี๋ ถึงแม้นางจะไม่มีความสามารถใดๆ แม้แต่คลอดลูกก็มิสามารถทำได้ก็ตาม แต่หลังจากที่นางตายกู้จ่างสื่อก็ไม่แต่งงานกับผู้ใดอีกเลย เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของตนไว้เพื่อนางตลอดชีวิตและไม่ก้าวเข้าไปในเรือนหลังแม้แต่ก้าวเดียว เขามีเพียงลูกชายคนโตคนเดียวที่มีเยี่ยนชิงถังเป็นมารดาเท่านั้น
“เหตุใดจึงเปลี่ยนไปเสียหมด เยี่ยนจื่ออวี๋ไม่เพียงแต่คลอดลูกแล้ว แต่นางยังปรุงยาเป็นอีกด้วย! หรือว่าชาติที่แล้วข้าพลาดอะไรไป” เยี่ยนซูซูไม่เข้าใจ
“แต่ในเมื่อนางไม่ได้แต่งงานกับกู้จ่างสื่อตามที่หวังแสดงว่านางไม่ได้เกิดใหม่! มิเช่นนั้นนางชอบพอกับกู้จ่างสื่อมากเพียงนี้จะยอมให้ตนเองไม่ได้แต่งงานกับกู้จ่างสื่อได้อย่างไร ต้องมีสิ่งใดผิดเพี้ยนไปแน่ๆ…”
เยี่ยนซูซูที่เพิ่งจัดการความคิดของตนเองเสร็จได้ยินเสียงฝีเท้าเร่งรีบของบ่าวรับใช้คนหนึ่งเดินดังจากห้องข้างๆ และนางพูดว่า “คุณหนูซาซา ได้ยินมาว่ากู้จ่างสื่อไปสู่ขอกับเจ้าสำนักแล้วเจ้าค่ะ!”
“อะไรนะ!” เยี่ยนซาซาลุกนั่งพรวดด้วยแรงฮึดสุดท้ายและเลือดพุ่งออกมาจากปากทันที “เป็นไป…ได้อย่างไร เยี่ยนจื่ออวี๋คลอดเด็กนรกนั่นออกมาแล้ว กู้จ่างสื่อยังไปสู่ขอนางอีกรึ”
“คุณหนูซาซา…” บ่าวรับใช้สูงวัยไม่รู้จะพูดอะไรดี
เยี่ยนซาซาตะเกียกตะกายจะลงจากเตียง เพื่อไปสอบถามในสำนักให้รู้เรื่อง บ่าวรับใช้สูงวัยเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่เป็นผล
เยี่ยนซูซูได้ยินเสียงดังนั้นก็ห้ามปรามบ่าวรับใช้สูงวัย พูดขึ้นว่า “ข้าจะประคองท่านพี่ไปเอง” นางเองก็ไม่เชื่อว่ากู้จ่างสื่อจะสู่ขอเยี่ยนจื่ออวี๋ในตอนนี้เช่นกัน
ไม่เพียงสองพี่น้องเท่านั้นที่ไม่เชื่อ เยี่ยนชิงถังที่อยู่ในสำนักฝ่ายในก็ไม่เชื่อเช่นกัน “เป็นไปไม่ได้! เป็นไปได้อย่างไร เหตุใดกู้จ่างสื่อยังต้องการรองเท้าที่ถูกใช้แล้วอย่างเยี่ยนจื่ออวี๋คนนั้นอีก!”
“คุณหนูถัง ท่านเป็นห่วงสภาพตอนนี้ของตนก่อนเถิดเจ้าค่ะ” บ่าวรับใช้ของหออาวุโสพูดพลางทอดถอนหายใจ
เยี่ยนชิงถังกลับไม่ฟัง นางวิ่งออกจากหออาวุโสและมุ่งไปทางหอเจ้าสำนักทันที
และในเวลานี้ผู้คนที่มุ่งหน้าไปยังหอเจ้าสำนักก็มีมากนัก
“กู้จ่างสื่อจะสู่ขอศิษย์น้องจื่ออวี๋อีกหรือ”
“เพราะว่าศิษย์น้องจื่ออวี๋มีวิชาปรุงยาอย่างนั้นหรือ”
“น่าจะเป็นไปไม่ได้หรอก กู้จ่างสื่อเป็นถึงคนในราชสำนัก อีกทั้งมารดายังเป็นผู้อาวุโสในสำนักเหยาไถเซียนด้วย เขาเป็นผู้สูงศักดิ์เพียงนั้นคงไม่ใช่คนตื้นเขินเช่นนั้นหรอก…”
เหล่าลูกศิษย์ที่มุ่งมายังหอเจ้าสำนัก แต่เดิมก็ไม่เชื่อข่าวลือมากนัก แต่เมื่อพวกเขามาถึงหอเจ้าสำนัก กลับพบว่าเป็นเรื่องจริง
กู้หยวนเหิงมาสู่ขอจริงๆ ด้วย!
“คุณหนูใหญ่…” ชุ่ยชุ่ยกระวนกระวายใจ นางไม่อยากให้คุณหนูใหญ่แต่งงานกับกู้จ่างสื่อ เพราะนางรู้สึกไม่ดีกับเขาเท่าไรนัก ราวกับว่าเขามักจะเอาเปรียบคุณหนูใหญ่ แต่นางก็รู้ว่าคุณหนูใหญ่ชอบกู้จ่างสื่อมาก
เยี่ยนอวี๋ได้ยินเรื่องนี้แล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าเขาไม่ใช่พ่อของเสี่ยวเป่า”
“ท่านเป็นคนดีเช่นนี้ เขาไม่ยอมตัดใจง่ายๆ แน่นอนเจ้าค่ะ” เม่ยเอ๋อร์กลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ สำหรับนางแล้ว เหล่าบุรุษย่อมชอบคุณหนูใหญ่ กู้จ่างสื่อคนนี้อยากเป็นบิดาก็ไม่น่าแปลก
เยี่ยนอวี๋สั่ง “ชุ่ยชุ่ย เจ้าไปบอกเขาทีว่าข้าไม่แต่ง”
“เจ้าค่ะ!” ชุ่ยชุ่ยกำลังจะวิ่งออกไปอย่างกระตือรือร้น แต่แล้วก็นึกถึงข้อห้ามแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ ไม่ดีหรอกเจ้าค่ะ กลับไปสำนักให้เจ้าสำนักจัดการเถิด” ตามธรรมเนียมไม่ควรมีการปฏิเสธการสู่ขอโดยฝ่ายหญิง
“ก็ได้ เช่นนั้นเจ้าไปบอกเยี่ยนชิงที” เยี่ยนอวี๋ไม่ได้สนใจว่าจะปฏิเสธอย่างไร
“อ้ะ!” สิ่งมีชีวิตตัวน้อยส่งเสียงร้องไม่พอใจ กู้จ่างสื่อ? เขาจำได้ คนเลว ต้องตี!
เยี่ยนอวี๋กลับคิดว่าเขาไม่อยากให้นางปฏิเสธการแต่งงาน นางจึงถามด้วยความสงสัยว่า “เสี่ยวเป่าอยากให้เขาเป็นพ่อหรือ”
“อ้ะ!” สิ่งมีชีวิตตัวน้อยเบิกตากว้างแสดงท่าทีเหลือเชื่อ
เยี่ยนอวี๋คิดว่าเขาไม่รู้ว่าบิดาคืออะไร นางจึงอธิบายอย่างใจเย็นว่า “พ่อเหมือนกับแม่มีสายเลือดใกล้ชิดกับเสี่ยวเป่ามากที่สุด เอ่อ ไม่ใช่สิ แม่ใกล้ชิดกับลูกที่สุดรองลงมาคือพ่อ”
“อ้ะ!” สิ่งมีชีวิตตัวน้อยพลันกระจ่าง เขาคิดว่าพ่อและแม่เหมือนกัน จากนั้นก็ดิ้นทันที “อ้ะเนะเนะ…” ไม่เอาคนเลวเป็นพ่อหรอก!
เยี่ยนอวี๋ยิ้มเล็กน้อย ปลอบเด็กน้อยว่า “พอแล้ว แม่เข้าใจแล้ว เจ้าก็ไม่เอาคนอัปลักษณ์คนนั้น”
“เนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงหยุดดิ้นอย่างพอใจ
ชุ่ยชุ่ยเตรียมจะออกไปรายงานท่านเจ้าสำนัก เพราะความเห็นของคุณชายน้อยก็สำคัญมากเช่นกัน แต่แล้วนางไม่ทันได้ก้าวออกจากประตูห้องก็ไม่ต้องไปเสียแล้ว
“ไสหัวไป” เยี่ยนชิงตะคอก นัยน์ตาลุกโชน เมื่อเขาได้ยินว่าไอ้ลูกหมาตัวนี้จะมาสู่ขอจึงได้รีบออกมาจากหอโอสถทันที เขาไม่มีทางให้สารเลวคนนี้แต่งงานกับลูกสาวสุดที่รักของตนอย่างแน่นอน
แม้จะไม่มีหลักฐาน แต่เยี่ยนชิงรู้สึกได้ว่าเยี่ยนชิงถังหลานสาวคนนั้นของเขาคบค้ากับไอ้ลูกหมาตัวนี้อยู่ ซึ่งเป็นไปได้ว่าเรื่องที่สำนักเหยี่ยวถูกซื้อก็อาจเป็นเพราะไอ้ลูกหมาตัวนี้!
ที่ผ่านมาเขาคงตาบอดเองที่คิดว่าหากเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ชอบก็ให้นางแต่งงานกับไอ้ลูกหมาตัวนี้คงจะไม่เป็นไร แต่ตอนนี้พอมาคิดดูแล้วโชคดีที่เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ปฏิเสธด้วยตัวเองไปแล้ว
ให้ตายเถอะ! ไอ้ลูกหมาเช่นนี้ ยังมีหน้ามาสู่ขออีกหรือ
“ท่านเจ้าสำนักเยี่ยน ข้าขอพูดอีกครั้ง ท่านฟังความเห็นของจื่ออวี๋ก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ข้าจะมาอีกครั้ง” สีหน้ากู้หยวนเหิงไม่สู้ดีนัก อย่างน้อยเขาก็เป็นถึงศิษย์ตระกูลสูงศักดิ์ที่มีหน้ามีตาเช่นกัน
“หากพรุ่งนี้เจ้ายังกล้ามาอีก ข้าจะตีขาไอ้ลูกหมาอย่างเจ้าให้หักซะ!” เยี่ยนชิงเก็บอารมณ์ไม่อยู่ คนของหอเจ้าสำนักสำนักเริ่มว้าวุ่นใจกลัวว่าท่านเจ้าสำนักของพวกเขาจะทำเรื่องไร้สติ
“ท่านเจ้าสำนักเยี่ยน ท่านเข้าใจอะไรข้าผิดไปหรือไม่” กู้หยวนเหิงถามขึ้นอย่างรู้สึกได้ว่ามีความผิดปกติ “ท่านได้ยินอะไรมาอย่างนั้นหรือ”
เยี่ยนชิงทนแล้วทนอีก ตอนนี้ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว! เขาหยิบไม้กวาดของบ่าวรับใช้ที่อยู่นอกห้องมาแล้วฟาดลงบนใบหน้าของกู้หยวนเหิงทันที
เสียงกระแทกลงใบหน้าดัง ตุบ เขาตีกู้หยวนเหิงจนงงงัน ทั้งขบวนสู่ขอของกู้หยวนเหิงและยอดฝีมือของหอเจ้าสำนักต่างก็งงงันไปด้วย
“นี่มัน…”
เยี่ยนชิงกลับไม่สนใจใยดี เขาทุบตีกู้หยวนเหิงที่เลือดกำเดาไหลต่อไป ทุบตีจนผู้คนตะลึงกว่าจะตั้งสติได้ จึงได้รีบเข้าไปห้ามปราม “ท่านเจ้าสำนัก! ใจเย็นก่อนขอรับ…”
“ได้! เจ้าสำนักเยี่ยน เจ้าบังอาจมาทุบตีคุณชายของพวกข้ารึ!”
เพียงแค่เยี่ยนชิงลงมือ กู้หยวนเหิงก็ถูกทุบตีจนใบหน้าปูดบวมราวกับหน้าสุกรในทันใดและ ‘ศีรษะสุกร’ ยังถูกจับโยนออกไปอย่างคล่องแคล่วด้วย!