เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 141 ต้าซือมิ่งจิตวิปริต!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เมื่อเยี่ยนหงชวนประสานเป็นหนึ่งกับต้นอู๋ถงและหงส์เพลิงแล้ว ระดับฌานตบะของเขาไม่เพียงเข้าขั้นถอดจิต แต่ยังข้ามขั้นไปสู่จุดสูงสุดของขั้นถอดจิตด้วย!

หึ่ง!

หวีด…

เงาต้นอู๋ถงที่ปรากฏกลางอากาศเหนือเมืองชางอู๋ก็ขยายใหญ่จนคนที่อยู่ในเขตชางอู๋มองเห็นได้ อย่างน้อยผู้ฝึกฌานที่มีความสามารถระดับขั้นสุวรรณชาดขึ้นไปก็เห็นได้แล้ว

ส่วนหงส์เพลิงที่บินวนอยู่รอบต้นอู๋ถง แม้มันจะไม่ได้ใหญ่มโหฬารเช่นต้นอู๋ถง แต่ก็สามารถทำให้ผู้ฝึกฌานขั้นวิญญาณปฐมภูมิเห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว

เมืองชางอู๋ชุลมุนไปทั่วทั้งเมือง…

“นั่น… นั่นคือปรากฏการณ์อะไรกัน”

“มะ เหมือนกับ… เหมือนกับว่าเป็นปรากฏการณ์กำเนิดผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน?”

“ไม่ใช่! ไม่ใช่เพียงเท่านี้แน่นอน! ข้าเคยเห็นการเลื่อนขั้นผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ที่เมืองหลวง มิได้มีปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่เช่นนี้!”

เหล่านักฝึกฌานที่อยู่ในเมืองชางอู๋ค่อนข้างมั่นใจว่านี่คือปรากฏการณ์การเลื่อนขั้นสองขั้นพร้อมกันของผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์และยอดผู้แข็งแกร่งขั้นถอดจิต

โดยทั่วไปแล้ว ผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ในตำนานหมายถึง ผู้อัญเชิญวิญญาณท่านนี้มีความสามารถที่จะกำจัดผู้ฝึกฌานทุกแขนงในขั้นถอดจิตได้ ทว่าร่างกายของเหล่าผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่มีเพียงพลังขั้นวิญญาณปฐมภูมิหรือขั้นสุวรรณชาดเท่านั้น ดังนั้นเมื่อผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์กำเนิด จึงไม่มีปรากฏการณ์ใหญ่โตและทรงพลังเหมือนเยี่ยนหงชวนเช่นนี้

ปรากฏการณ์นี้ก็ทำให้กองทัพราชสำนักที่เข้ามาในเขตชางอู๋แล้วเห็นในทันที แม่ทัพเฉินคั่วโบกส่งสัญญาณให้หยุดเคลื่อนทัพทันทีและถามหยางเทียนชื่อที่อยู่ด้านข้างว่า “เจ้าสำนักหยางรู้หรือไม่ว่านั่นคืออะไร”

“เยี่ยนหงชวนกำลังเลื่อนขั้น” หยางเทียนชื่อพูดถูกแล้ว เพราะว่าเขาและเยี่ยนหงชวนเป็นศิษย์ในสำนักศึกษารุ่นเดียวกัน อีกทั้งต่อมาทั้งสองได้เป็นเจ้าสำนัก เคยคลุกคลีกันไม่น้อยจึงถือว่า ‘รู้จัก’ กันพอตัว

“นี่ไม่น่าจะเป็นการเลื่อนขั้นธรรมดาๆ” แม้เฉินคั่วไม่ใช่ผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาก็เป็นผู้ฝึกฌานขั้นวิญญาณปฐมภูมิจึงมีความรู้ไม่น้อย

“ไม่เสมอไป” หยางเทียนชื่อกล่าว “ท่านแม่ทัพเฉินไม่ทราบว่าปรมาจารย์วิญญาณของสำนักชางอู๋นั่นเปลี่ยนไปแล้ว มันไม่เพียงงอกเงยแล้ว ยังนำมาซึ่งวิญญาณหงส์เพลิงด้วย ข้าคิดว่านี่คงเป็นเพราะการเลื่อนขั้นของเยี่ยนหงชวนปลุกเร้าปรมาจารย์วิญญาณสำนักชางอู๋จึงก่อเกิดความเคลื่อนไหวใหญ่โตเช่นนี้ ในครานั้นที่องค์จักรพรรดิเลื่อนขั้นเป็นผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ในตำนานและความสามารถขั้นถอดจิตพร้อมกัน จึงเคยเกิดปรากฏการณ์ใหญ่โตเช่นนี้”

“… ก็ใช่” เฉินคั่วจำเหตุการณ์ในปีนั้นได้ เขาจึงเห็นด้วยกับคำพูดของหยางเทียนชื่อ

ในเมื่อทั่วทั้งต้าซย่ารู้ว่าองค์จักรพรรดิต้าซย่าของพวกเขามีพรสวรรค์ล้ำเลิศ จักรพรรดิหยวนคังที่อายุน้อยเช่นนี้ได้เป็นผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ในตำนานเมื่อนานมาแล้ว พลังกายก็เข้าขั้นถอดจิต หากมิใช่เช่นนี้ จักรพรรดิผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลมก็คงไม่กล้าท้าทายต้าซือมิ่งผู้มีอำนาจสวรรค์สูงสุด ถึงแม้สุดท้ายจักรพรรดิจะพ่ายแพ้ แต่ผู้รู้เหตุการณ์ย่อมรู้ว่าการพ่ายแพ้ของจักรพรรดิในครานั้นไม่ใช่เพราะเขาไม่แข็งแกร่งพอ แต่เป็นเพราะต้าซือมิ่งองค์ใหม่วิปริตเกินไป!

“เช่นนั้นก็เคลื่อนทัพต่อไปเถิด เพียงแค่ผู้อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ในตำนานเพียงหนึ่งคน มิจำเป็นต้องกลัว” เฉินคั่วโบกมือเคลื่อนทัพ เขามิได้ส่งข่าวกลับไปที่เมืองหลวง เพราะคิดว่าไม่มีความจำเป็น

ในขณะเดียวกัน เยี่ยนหงชวนที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้จากการเลื่อนขั้นด้วยตนเองนั้น เขาก็เพิ่งลืมตาขึ้นและมองไปทางเยี่ยนอวี๋ที่อยู่ไม่ไกลออกไป

“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่อยู่ในอ้อมอกของเยี่ยนอวี๋ก็ส่งเสียงร้องดีใจไปทางเยี่ยนหงชวน หลังที่เขากินอิ่มแล้วได้ดู ‘การแสดง’ อันยอดเยี่ยมก็ร่าเริงสดใสมาก

“อ้ะเนะเนะ…” ตัวน้อยส่งเสียงร้องไม่หยุด เขาอยากให้ท่านตาเทียดของเขาแสดง ‘ดอกไม้’ ให้ดูอีกครั้ง ‘ดอกไม้’ ที่สวยงามเหล่านั้น

ทว่าเยี่ยนชิงไม่ทราบ เขาก็ช่วยแปลความให้เจ้าตัวน้อย “ท่านปู่ เสี่ยวเป่าแสดงความยินดีกับท่านอยู่ หลานเองก็ขอยินดีกับท่านปู่ที่เลื่อนขั้นด้วย สำนักชางอู๋ของเรามีผู้มีความสามารถขั้นถอดจิตสูงสุดแล้ว!”

“อ้ะเนะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ส่งเสียงตาม เพื่อบอกว่าถึงแม้เขาก็รู้สึกยินดีด้วย แต่เขายังอยากดู ‘ดอกไม้’ อีก ‘ดอกไม้’ ที่สวยงามเหล่านั้น แต่เยี่ยนหงชวนไม่รู้ เขาก็หัวเราะแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปข้างหน้าอุ้มเจ้าตัวน้อยไว้ พูดว่า “เจ้าหมอนี่ฉลาดเป็นกรดจริงๆ”

“นั่นน่ะสิ ฉลาดจริงๆ!” หยางชีซานกล่าวด้วยความเข้าอกเข้าใจ “ช่างน่ารักน่าเอ็นดู ครั้งที่แล้วเยี่ยนชิงตาเฒ่าหน้าไม่อายก็ติดสินบนข้าด้วยเจ้าตัวน้อยคนนี้ จนข้ามิอาจปฏิเสธได้เลย”

“ฮ่าๆๆ…” เยี่ยนหงชวนที่อุ้มเยี่ยนเสี่ยวเป่าไว้แล้วก็พูดขึ้นว่า “ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ”

“อ้ะเนะเนะ! อ้ะเนะเนะ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่าอุ้มข้าแล้วก็ควรแสดง ‘ดอกไม้’ ให้ดูแล้วใช่หรือไม่

ถึงอย่างไรเยี่ยนหงชวนก็ฟังไม่รู้เรื่องอยู่ดี เขาลูบศีรษะน้อยๆ ของเขา ก่อนจะยิ้มพูดว่า “เดี๋ยวเทียดจะพาเจ้าไปจัดการสวะคุนอู๋หน้าไม่อายกลุ่มนั้น”

“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าคิดครู่หนึ่ง เมื่อรู้ว่ากำลังจะไปจัดการคนอื่นถึงจะแสดง ‘ดอกไม้’ ให้ดูได้ เขาก็เอี้ยวตัวกลับไปหาท่าแม่ของเขาทันที “อ้ะเนะเนะ…” ท่านแม่กอดๆ

ทำเอาเยี่ยนหงชวนตบก้นน้อยๆของเขาเบาๆ อย่างมันเขี้ยว “เจ้าเด็กน้อยติดแม่จังเลย”

“เสี่ยวเป่ายังเด็ก ย่อมติดแม่เป็นเรื่องธรรมดา สมัยจื่อเสาเป็นเด็ก เขาติดแม่มากกว่านี้อีก ถูกข้าตีทุกวันยังไม่ยอมหยุดให้แม่อุ้ม” เยี่ยนชิงรีบปกป้องหลานชายน้อยทันที และถือโอกาส ‘เหยียบย่ำ’ ลูกชายที่เก็บมาเลี้ยงด้วย

เยี่ยนจื่อเสา “…”

เขาก็ไร้คำพูดใดๆ

เยี่ยนอวี๋ยิ้มพูดว่า “ท่านทวดเลื่อนขั้นแล้ว เป็นเวลาที่เราต้องโจมตีกลับแล้วล่ะ”

“เจ้ามีแผนอย่างไร” เยี่ยนหงชวนถามกลับ เขารู้ว่าเด็กคนนี้มีแผนการในใจแล้ว

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท