ตอนที่ 162 ต้าซือมิ่งออกจากการเก็บตัว!
เจ้าตัวน้อยบางคนที่ได้ยินวาจาของท่านอ๋องเมืองโยวตูแล้วก็มองไปทางท่านแม่ของเขาตาปริบๆ ทั้งยังดิ้นรนยื่นมืออวบเล็กที่ถูกห่ออยู่ในเสื้อคลุมออกมา และชี้ไปทางตะเกียงไฟเหล่านั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาต้องการจะเล่นตะเกียงไฟที่ส่องสว่าง “เนะ…”
อินสวินอี้คิดจะเอ่ยต่อ แต่เยี่ยนอวี๋ได้ส่ายหน้าให้กับบุตรชายแล้ว และเอ่ยว่า “ไม่ได้”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าซุกศีรษะเข้ากับซอกคอท่านแม่ของเขา “เนะ…”
“ออดอ้อนก็ไม่ได้เช่นกัน” เยี่ยนอวี๋ฝืนทนไม่ให้ใจอ่อน พลางเอ่ยปลอบว่า “เสี่ยวเป่าเด็กดี พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะนอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยเล่น ไม่อาจไม่รักษาสัญญานะ”
“อืม…” อินสวินอี้อยากจะพูดว่าเล่นสักครู่เดียวนั้นไม่เป็นไร แต่ถูกอินหลิวเฟิงหยุดเอาไว้
เยี่ยนอวี๋เอ่ยปลอบบุตรชายต่อว่า “เสี่ยวเป่าที่น่ารักที่สุดของพวกเรา แน่นอนว่าต้องเป็นเสี่ยวเป่าที่รักษาสัญญา ถูกต้องไหม”
“เนะๆ…” เสี่ยวเป่าที่ท่าทางหงอยเล็กน้อยลูบศีรษะโล้นเกลี้ยงของตัวเองแล้วพยักหน้าเชื่องช้า พร้อมกับหาวแล้วเอ่ยถามว่า “อะเนะ?”
เยี่ยนอวี๋ที่สามารถเดาได้เอ่ยสัญญาอีกครั้งว่า “แม่รับประกันว่าพรุ่งนี้จะพาเจ้าออกไป และพาเจ้าไปเล่นตะเกียงไฟเช่นกัน”
หาว เยี่ยนเสี่ยวเป่าหาวอย่างวางใจ ความมีชีวิตชีวาถดถอยไปในที่สุด และซุกตัวเข้ากับอ้อมแขนของท่านแม่เขา
เยี่ยนอวี๋รีบตบหลังเขาเบาๆ พลางเอ่ยเสียงเบากับอินสวินอี้ว่า “ถ้าหากว่าท่านอ๋องไม่มีเรื่องใดอีก ไม่ทราบว่า…”
ไม่รอให้เยี่ยนอวี๋พูดจบ อินสวินอี้ก็รีบเอ่ยเสียงเบาทันทีว่า “ข้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว! เชิญปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนเข้าไปในคฤหาสน์เถอะ ข้าสั่งให้คนจัดการห้องรับแขกเรียบร้อยแล้ว พ่อบ้านเหอจะนำพวกท่านไป”
“รบกวนแล้ว” เยี่ยนอวี๋พยักหน้าขอบคุณ
อินสวินอี้ก็ไม่พูดอันใดให้มากความ เขาเพียงแค่พาอินหลิวเฟิงไป เขาต้องรู้เรื่องทั้งหมด! เกี่ยวกับสถานการณ์ของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนในตำนานท่านนี้
…
สองวันหลังจากนั้น
งานประมูลสมบัติล้ำค่าจวินเป่าก็จัดขึ้นตามกำหนดเวลา
เป็นดั่งเช่นคำกล่าวของท่านอ๋องเมืองโยวตู งานประมูลสมบัติล้ำค่าจวินเป่าที่จัดปีละครั้งนั้นได้รับความสนใจจากสำนักใหญ่ต่างๆ และผู้ฝึกฌานจริงๆ
ตามที่อินหลิวเฟิงรู้มา งานประมูลสมบัติล้ำค่าจวินเป่าในครั้งนี้ นอกจากลัทธิเซิ่งเหลียนแห่งสำนักคุนอู๋ที่ไม่สามารถเข้ามาในจงหยวนได้อย่างง่ายดายแล้ว สำนักอื่นๆ ล้วนมีคนมาที่นี่
นี่ทำให้เยี่ยนจื่อเสาเอ่ยถามประโยคหนึ่งตามจิตใต้สำนึกว่า “สำนักชางอู๋ของพวกเราก็มีคนมาด้วยหรือ”
“พวกท่านไม่ใช่หรือ” อินหลิวเฟิงถามกลับ
เยี่ยนจื่อเสา “…”
เขานึกว่านอกจากพวกเขา ยังมีคนอื่นๆ จากสำนักชางอู๋มาอีก ยกตัวอย่างเช่นพี่ใหญ่
“คนเยอะจริงๆ” ความสนใจของเยี่ยนอวี๋อยู่ที่กลุ่มคนหนาแน่น นางปรับตัวไม่ค่อยได้
แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่านั้นไม่เหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าเขามองไปรอบด้านด้วยความตื่นเต้นมาก “เนะ!”
“แม้ว่าคนจะเยอะ แต่พวกเรามีช่องทางสำหรับแขกผู้สูงศักดิ์ ไปกันเถอะ” อินหลิวเฟิงที่รู้ว่าเยี่ยนอวี๋ชอบความสบายก็เอ่ยขึ้นแล้วเดินนำไปอีกทางหนึ่ง “พวกเราไปทางนี้”
เยี่ยนอวี๋มองแล้วก็พบว่าไม่ต้องไปเบียดเสียดจึงอุ้มเจ้าตัวน้อยตามไปด้วยความพอใจ
คนทั้งขบวนเข้าไปในห้องโถงประมูลได้อย่างราบรื่น ทั้งยังถูกนำไปยังห้องส่วนตัวชั้นหนึ่งโดยพนักงานดูแลต้อนรับที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น “ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน นี่คือห้องส่วนตัวของท่าน คุณชายจวินฮวนได้สั่งเอาไว้ว่า หากท่านมีสิ่งใดที่ต้องการ สามารถเรียกเขามาได้ทุกเมื่อขอรับ”
“อืม” เยี่ยนอวี๋ที่พยักหน้าเล็กน้อยนั้นเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวแล้ว
พนักงานดูแลต้อนรับรีบช่วยปิดประตู พลางเอ่ยว่า “ข้าน้อยจะเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนกับนายน้อยอินต้องการสิ่งใด ก็สามารถเรียกข้าน้อยได้ตลอดเวลานะขอรับ”
“ไปชงชามาสองกา” อินหลิวเฟิงเอ่ยสั่งอย่างไม่เกรงใจ
“ได้ขอรับ! ข้าน้อยจะไปนำมาเดี๋ยวนี้” พนักงานดูแลต้อนรับรีบถอยออกไปทันที
เมื่อประตูปิดสนิท เสียงส่วนใหญ่นอกห้องส่วนตัวก็ถูกตัดขาด
“จัดวางค่ายกลได้ไม่เลว” เยี่ยนอวี๋ชมเชยเสียงเบา นางสามารถรู้สึกได้ว่า ค่ายกลตัดขาดจากโลกภายนอกในห้องส่วนตัว ไม่ใช่เพียงแค่สามารถตัดขาดเสียงจากด้านนอกได้ แต่ยังสามารถขวางกั้นการตรวจสอบจิตเหนือสำนึกของทุกคนต่อคนในห้องส่วนตัวเช่นกัน
นอกจากนี้ ค่ายกลของทั้งจวินเป่าเก๋อก็มีมากมาย แม้ว่าจะเป็นนาง แต่ถ้าไม่พยายามตรวจสอบให้ละเอียดสุดความสามารถก็ไร้ซึ่งหนทางในการรับรู้ถึงตำแหน่งซ่อนเร้นของค่ายกลเหล่านั้น คิดๆ ดูแล้ว นี่ก็คือรากฐานที่ทำให้จวินเป่าเก๋อสามารถทำการค้าได้เป็นระเบียบอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
“อะเนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่คุ้นชินอยู่บ้าง “เนะ?”
เยี่ยนอวี๋จิ้มหน้าผากนุ่มของบุตรชายอย่างเบามือ “จอมซุกซน”
“ฮี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายิ้มตาโค้งหยีเผยให้เห็นแผงเหงือกที่ยังไม่มีฟันขึ้น
เยี่ยนอวี๋ย่อมรู้สึกว่าน่ารักเป็นธรรมดาจึงจุมพิตที่ศีรษะโล้นเกลี้ยงของบุตรชายตามสัญชาตญาณ
…
ในเวลาเดียวกันนั้น ส่วนลึกของจวินเป่าเก๋อ…
ประตูห้องฝึกฌานบานหนึ่งก็เปิดออกดัง ครืด
เมื่อประตูบานนี้เปิดออก จวินอั้นหยวนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกประตูก็รีบคุกเข่าคารวะทันที “ต้าซือมิ่ง!”
“ลุกขึ้น” เสียงสง่างามไพเราะราวกับเสียงของกู่เจิง [1]ดังออกมาจากด้านในห้องฝึกฌาน ขณะเดียวกันนั้นก็มีกลิ่นอายลึกลับเบาบางชั้นหนึ่งที่ทำให้จวินอั้นหยวนเกิดความรู้สึกหวั่นเกรงในใจตามสัญชาตญาณ
“สองแม่ลูกคู่นั้นของสำนักชางอู๋มาแล้วหรือ”
ตอนที่ 163 ไปดูเจ้าก้อนมอมแมม…
ต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักที่เก็บกระบี่ไท่ชางแล้วนั้น สิ่งแรกสุดที่เขาคิดถึงในช่วงเวลาที่เขาออกจากการเก็บตัวก็คือแม่ลูกคู่นั้น โดยเฉพาะเจ้าหนอนน้อยมอมแมมตัวนั้น
นี่ทำให้ต้าซือมิ่งบางคนที่ถามคำถามนี้แย้มรอยยิ้มตามจิตใต้สำนึกหลายส่วนโดยไม่รู้ตัว ทำให้จวินอั้นหยวนที่ได้ยินตอบรับด้วยความโล่งใจเล็กน้อย “ท่าน ท่านหมายถึงแม่ลูกปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนหรือขอรับ นาง พวกเขามาถึงแล้ว! เพิ่งจะ เพิ่งจะถึงขอรับ!”
จวินอั้นหยวน ผู้รับผิดชอบดูแลจวินเป่าเก๋อที่แต่ไหนแต่ไรก็มีชื่อเสียงเรื่องความสุขุมนุ่มลึกในกลุ่มผู้ฝึกฌานก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดตนเองถึงได้กลายเป็นคนพูดติดอ่างไปเสียได้ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าต้าซือมิ่งสุภาพอ่อนโยน! แต่ว่าเขาตื่นเต้นนี่…มันควบคุมไม่อยู่…
ทว่าตื่นเต้นก็ส่วนตื่นเต้น จวินอั้นหยวนยังไม่ลืมภารกิจของตนเอง เขารีบสงบจิตสงบใจแล้วเอ่ยต่อว่า “ยังมีบัญชีรายชื่อของงานประมูลสมบัติล้ำค่าที่ท่านต้องการ ล้วนอยู่ที่นี่แล้วขอรับ”
“อืม” ต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักที่ออกมาจากห้องฝึกฌาน เดินมาถึงหน้าจวินอั้นหยวนก็หยิบบัญชีรายชื่อสมบัติในการประมูลที่จวินอั้นหยวนนำมามอบให้ขึ้นมา และอ่านดูอย่างตั้งใจ
จวินอั้นหยวนรอโดยไม่ขยับเขยื้อน แม้ว่าความจริงแล้วจวินอั้นหยวนจะไม่รู้สึกว่า สิ่งที่อยู่ในบัญชีรายชื่อจะถูกตาต้องใจต้าซือมิ่งก็ตาม แต่ว่าเขาได้รับการบอกใบ้จากท่านอ๋องแห่งเมืองโยวตูล่วงหน้า ฝ่ายหลังบอกกับเขาอย่างจริงจังว่า ต้าซือมิ่งน่าจะถูกตาต้องใจของไม่น้อย
ดังนั้นจวินอั้นหยวนได้เตรียมการเรียบร้อยไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว เขาไม่ได้มอบบัญชีรายชื่อการประมูลให้กับแขกผู้สูงศักดิ์ท่านอื่นๆ อีกทั้งยังเตรียมสมบัติชิ้นอื่นๆ มาทดแทนเผื่อเอาไว้แล้วเช่นกัน
แม้สมบัติที่นำมาทดแทนสู้สมบัติล้ำค่าที่เตรียมเอาไว้แต่เดิมไม่ได้ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อรูปแบบและลำดับขั้นของงานประมูล แต่ถ้าหากว่าต้าซือมิ่งถูกใจอะไรขึ้นมาจริงๆ เขาก็จะมอบให้โดยไม่ลังเลแน่นอน แม้ว่าจะมากกว่าสามชิ้น! นั่นก็ไม่เป็นอะไร
ล้อเล่นน่ะ มีผู้คนเท่าใดที่ต้องการมอบของขวัญให้กับต้าซือมิ่ง คาดหวังว่าจะสามารถเข้าไปอยู่ในสายตาเขาได้ โอกาสครั้งนี้ของพวกเขาจวินเป่าเก๋อ ย่อมต้องคว้าเอาไว้ให้มั่น!
แต่ทว่า…
ต้าซือมิ่งบางคนที่ตั้งใจอ่านบัญชีรายชื่อสมบัติในงานประมูลจนจบกลับเอ่ยเสียงเบาว่า “ไปเถอะ ไปดูกัน”
“ขอรับ หือ?”
จวินอั้นหยวนรับคำตามสัญชาตญาณ แต่หลังจากนั้นถึงได้อึ้งไปเพราะรู้สึกถึงความผิดปกติ
ทว่าต้าซือมิ่งเดินผ่านข้างกายเขาไปแล้ว กำลังเดินไปทางด้านหน้าจวินเป่าเก๋อ
จวินอั้นหยวน “…”
ดังนั้น ต้าซือมิ่งไม่ชอบสิ่งที่อยู่ในบัญชีรายชื่ออย่างที่คาดเอาไว้เลยจริงๆ
จวินอั้นหยวนที่สีหน้างงงวยรีบตามต้าซือมิ่งไปติดๆ จิตใต้สำนึกยังคงครุ่นคิดต่อไปว่าต้าซือมิ่งท่านนี้หมายความว่าอะไรกันแน่
ส่วนความคิดของต้าซือมิ่งแห่งราชสำนักที่ถูกเขาคาดคะเนอยู่นั้น ดูแล้วอารมณ์ไม่เลวอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากแดงระเรื่อเฉกเช่นดอกไม้ที่กำลังผลิบานโค้งขึ้นเล็กน้อย
…
ในเวลาเดียวกันนั้น บริเวณชั้นสามในห้องโถงประมูลของจวินเป่าเก๋อ คุณหนูเฉาสามผู้เคยกล่าววาจาโอหังที่หน้าประตูเมืองท่านนั้นก็กำลังเดินออกมาจากห้องส่วนตัวธรรมดาห้องหนึ่ง
เมื่อครู่นี้ นางที่ก้มมองไปด้านล่างจากในห้องส่วนตัวสำหรับบุคคลทั่วไปที่นางอยู่ก็เห็นขบวนของเยี่ยนอวี๋เดินเข้าไปในห้องส่วนตัวสำหรับแขกผู้สูงศักดิ์ที่ชั้นสองพอดี ดังนั้นนางในตอนนี้กำลังจ้องมองห้องส่วนตัวของพวกเยี่ยนอวี๋ด้วยแววตาที่เจือไปด้วยความโกรธแค้นชิงชัง
“เป็นนางอีกแล้ว!” เฉาผิงผิงไม่เข้าใจว่า เหตุใดชายหนุ่มที่หล่อเหลาฉลาดเฉลียว มีรสนิยมเช่นนายน้อยอินถึงมองนิสัยร้ายกาจของสาวงามโหดเหี้ยมผู้นั้นไม่ออกกัน
อีกอย่างหลายวันมานี้ ความจริงมากมายที่นางกระจายข่าวออกไปทั้งหมดล้วนถูกตำหนักอ๋องกำจัดทิ้งด้วยความรวดเร็ว! ในทางตรงกันข้ามมีข่าวลืออื่นๆ บางอย่าง ข่าวลือที่ว่าเจ้าเด็กอัปรีย์นั่นเป็นทายาทตำหนักอ๋องนั้นกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
นี่มันหมายความว่าอะไร?
เฉาผิงผิงรู้ชัดเจนดี
นางรู้ว่านายน้อยอินต้องเป็นผู้ลงมือแน่นอน เขาต้องการล้างมลทินให้กับสตรีโหดเหี้ยมดุร้ายผู้นั้น! แม้กระทั่งตำหนักอ๋องก็อาจจะยอมรับการกระทำทั้งหมดของนายน้อยอินเช่นกัน
มิเช่นนั้นอาศัยอิทธิพลตระกูลเฉาของพวกเขา เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่มีทางทำไม่สำเร็จ! แม้จะบอกว่าอิทธิพลหลักตระกูลเฉาของพวกเขามีศูนย์รวมอยู่ที่เป่ยเหา แต่ระยะทางระหว่างเป่ยเหากับโยวตูนั้นไม่นับว่าห่างไกล การควบคุมเมืองโยวตูของพวกเขาถึงขั้นที่เหนือชั้นกว่าสำนักคุนอู๋ และสำนักเหยาไถเซียน
ทว่าในวันนี้…
“สมควรตาย! นายน้อยอินชอบสตรีผู้นั้นตรงที่ใดกันแน่นะ แค่เพราะว่านางรูปโฉมงดงามหรือ!?” เฉาผิงผิงไม่เชื่อว่า นายน้อยอินที่นางชอบจะเป็นบุคคลตื้นเขินขนาดนั้น
แต่การกระทำตรงหน้าทั้งหมดของตำหนักอ๋อง ทำให้เฉาผิงผิงไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้ และทำให้เฉาอิงเหรินที่เดินตามเฉาผิงผิงออกมาจากห้องส่วนตัวค่อนข้างมึนงง “สตรีร้ายกาจแพศยาที่เจ้าพูดถึง ก็คือสตรีเลอโฉมเมื่อครู่นางนั้นหรือ”
“เป็นนาง!” เฉาผิงผิงพยักหน้า “แต่ว่าท่านพูดว่าเลอโฉมอะไรกัน หรือว่าเหล่าบุรุษเช่นพวกท่านล้วนมองแค่รูปลักษณ์ภายนอกกัน นางร้ายกาจขนาดนั้น! นาง…”
กริ๊ง!
—————
[1] กู่เจิง คือเครื่องดนตรีแบบดั้งเดิมของจีน ลักษณะคล้ายพิณ มีสาย 21 สาย ใช้มือในการดีดบรรเลง