ตอนที่ 178 ต้าซือมิ่งเดินออกมาจากห้องพักแล้ว!
เฉาอิงเหรินที่มาเพราะได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากเฉาผิงผิงแล้ว เยี่ยนจื่อเสาก็ยังคงเหยียบย่ำต่อไป และไม่ยอมปล่อยให้เฉาผิงผิงมีโอกาสสลบไปด้วย เขากำลังทำให้เฉาผิงผิงรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ค่อยๆ ถูกเหยียบจนกลายเป็นเนื้อเละๆ อย่างชัดเจน
“สารเลว!”
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
“ข้าขอสั่งเจ้า! หยุดเดี๋ยวนี้!” เยี่ยนจื่อเสาไม่ได้ยินเสียงร้องตะโกนของเฉาอิงเหรินแม้เพียงน้อย หรืออาจจะได้ยินแล้ว แต่เขายังคงนิ่งเฉย
คนฝั่งเยี่ยนอวี๋ก็ไม่มีใครห้ามเขา ในทางตรงกันข้ามคนที่เฉาผิงผิงพามาถูกเอ้อร์เหมาและเม่ยเอ๋อร์กำจัดจนสิ้นซากไปแล้ว! ส่วนอินหลิวเฟิง…
“หึ เฉาอิงเหริน ตระกูลเฉาแห่งเป่ยเหา ดูท่าสวรรค์มีทางพวกเจ้าไม่อยากไป นรกไร้ประตูกลับส่งตัวเองเข้าไป เช่นนั้นข้าจะช่วยให้พวกเจ้าสมปรารถนาเอง”
“ทหาร! ส่งคำบัญชาของข้า กลับไปจวนอ๋อง เชิญท่านอ๋องส่งทหารไปยังเป่ยเหาตระกูลเฉา” อินหลิวเฟิงไม่ได้ออกคำสั่งธรรมดา เขายังนำป้ายกายสิทธิ์ของเขาออกมาด้วย มันเป็นป้ายกายสิทธิ์ที่แผ่รังสีสีแดงเลือดอ่อนๆ ออกมา บนนั้นสลักตัวอักษร ‘อิน’ สีแดงทอง ทำให้เหล่าชั้นผู้น้อยใหญ่ของหอจวินเป่าที่มาล้อมไว้แต่แรกต่างคุกเข่าลง “ขอรับ นายท่านน้อย!”
เฉาอิงเหรินตกตะลึง “ซวงเสวียนจวิน! เจ้าจะเปิดศึกกับตระกูลเฉาเป่ยเหาเพียงเพราะสตรีนางหนึ่งหรือ”
“ผิดแล้ว” อินสวินอี้เดินออกมาจากห้องพักขนาดใหญ่ เขาปรากฏต่อหน้าทุกคนและพูดชัดถ้อยชัดคำว่า “ไม่ใช่การเปิดศึก แต่คือการถอนชื่อ”
“ท่านพ่อ?” อินหลิวเฟิงชะงักไปครู่หนึ่ง เขาไม่คิดเลยว่าบิดาของเขาจะอยู่ในหอจวินเป่าด้วย อีกทั้งยังเหมือนกับว่าเขาออกมาจากประตูหลังของห้องพักขนาดใหญ่?
“ท่านอ๋องแห่งโยวตู!?” เฉาอิงเหรินตะลึงกว่าเดิม!
“โอ้ย! โอ้ยยย…” เฉาผิงผิงกรีดร้องด้วยเสียงทุกข์ทรมานยิ่งกว่าเดิม นางกรีดร้องอย่างเจ็บปวดจนแทบคลั่ง “ท่านพี่! ช่วยข้า… ช่วยข้าด้วยย…”
เฉาผิงผิงที่เจ็บปวดจนมิอาจหายใจได้ แต่กลับถูกบังคับให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลานั้น นางทำได้เพียงกรีดร้องด้วยสัญชาติญาณ! นางไม่รู้เลยว่าพี่ชายของนางไม่สามารถช่วยนางได้เลย
“ผิงผิง…” เฉาอิงเหรินน้ำตารื้นที่ขอบตา อย่างไรเสียเฉาผิงผิงก็เป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา มิเช่นนั้นเขาคงไม่อนุญาตให้นางออกมาสูดอากาศ หลังจากที่สั่งสอนนางไปแล้วหรอก แต่หากเขารู้ว่าการออกมาสูดอากาศเช่นนี้จะทำให้ตระกูลเฉาแห่งเป่ยเหาของพวกเขาต้องพบเจอกับความพินาศ เขาคงไม่ปล่อยนางออกมาแน่นอน! ไม่แน่นอน!
เฉาอิงเหรินนึกเสียใจจนร้องไห้ เขาจ้องเยี่ยนจื่อเสาอย่างอัดอั้น กลับไม่กล้าพูดอะไรออกไป เขาทำได้เพียงพูดกัดฟันกรอด “ไป พวกเราไป!”
ผู้ติดตามของเฉาอิงเหรินคอยคุ้มกันเฉาอิงเหรินอย่างไม่เกรงกลัว พวกเขาจากไปพร้อมเฉาอิงเหริน ส่วนเฉาผิงผิง… ขอโทษทีนะ! หากเป็นไปได้ พวกเขาหวังเหลือเกินว่าตระกูลเฉาจะไม่เคยมีคนๆ นี้อยู่
น่าเสียดาย…
ฟิ้ว!
คนของหอจวินเป่าขวางทางกลุ่มเฉาอิงเหรินไว้ ทำให้เฉาอิงเหรินที่กำลังปาดน้ำตาอดตวาดใส่ไม่ได้ว่า “ทำไม! หรือว่าข้าเองก็ห้ามไปไหนแล้ว? ต่อให้เป็นศึกสงคราม ก็มิควรทำร้ายทูตส่งสารหรือไม่!”
“ฮ่า!” อินหลิวเฟิงหัวเราะ “เจ้าไม่ได้ยินสิ่งที่ท่านพ่อข้าพูดหรืออย่างไร โปรดทำความเข้าใจว่านี่มิใช่สงคราม แต่คือการถอนชื่อ ข้าตระกูลอินแห่งโยวตูจะกวาดล้างเจ้าตระกูลเฉาแห่งเป่ยเหาให้สิ้นซาก เจ้าคิดว่าเจ้าไม่ใช่คนแซ่เฉาแห่งเป่ยเหาหรือ”
“เจ้า…” เฉาอิงเหรินสีหน้าซีดเผือด ผู้ติดตามของเขาก็หน้าถอดสี! ฟ้ารู้ว่าแต่เดิมพวกเขาคิดว่านี่เป็นการติดตามทั่วไปโดยไร้ซึ่งความเสี่ยง แต่แล้ว…
“ฆ่าไม่ละเว้น!” อินหลิวเฟิงไม่มีทางสงสารคนกลุ่มนี้ เขารู้เพียงว่าหากไม่ใช่เพราะพ่อคุณทูนหัวมีพลังชีวิตแข็งแกร่ง เขาคงตายไปแล้ว! ตายไปแล้วเข้าใจหรือไม่!
แต่แล้วเฉาอิงเหรินที่ใกล้จะตายอยู่รอมร่อกลับคำรามขึ้นว่า “ช้าก่อน! พวกเจ้าคิดว่าตระกูลเฉาแห่งเป่ยเหารังแกได้ง่ายดายเช่นนี้รึ! ความจริงแล้ว ข้าตระกูลเฉาแห่งเป่ยเหาได้คบหากับสำนักคุนอู๋แล้ว! อีกทั้งเมื่อครู่นี้ข้าส่งสารให้ท่านปู่ที่อยู่ทางนั้นแล้ว เกรงว่าพวกเขาคงมาถึงแล้ว! หากพวกเจ้าโยวตูกล้าสังหารข้าก็เท่ากับเปิดศึกกับสำนักคุนอู๋! ข้า…”
ตุบ!
เสียงของร่วงหล่นจากท้องฟ้าเสียงหนึ่งดังขัดจังหวะของเฉาอิงเหริน แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือเฉาอิงเหรินเห็นทันทีว่าสิ่งที่ร่วงลงมานั้นคือใครคนหนึ่ง และยังเป็นผู้อาวุโสที่เขาคุ้นเคยด้วย “ทะ ท่าน… ท่านปู่!?”
เฉาอิงเหรินตะลึงงัน ตัวของเขากระโจนเข้าหาท่านปู่ของเขาทันที แต่สิ่งที่ทำให้เขาหัวใจแตกสลายคือ ท่านปู่ของเขาไม่เพียงจะ ‘ร่วง’ ลงมา เขายังไร้ลมหายใจแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาจากไปแล้ว
เฉาอิงเหริน “…”
เขาถึงกับอึ้ง! เพราะเท่าที่เขาทราบ หลังจากที่ได้รับความช่วยเหลือลับๆ จากสำนักคุนอู๋ ท่านปู่ของเขาก็กลายเป็นผู้แข็งแกร่งในระดับตำนานแล้ว! เขาเป็นผู้แข็งแกร่งระดับตำนานแล้วนี่!
“เป็นไปได้อย่างไร” เฉาอิงเหรินกลายเป็นคนโง่ไปแล้ว
เฉาผิงผิงก็กลายเป็นเนื้อเละไปแล้ว…
นัยน์ตาอินสวินอี้มีแสงวาบผ่าน เขามองไปที่ห้องพักขนาดใหญ่เงียบๆ
เขารู้ว่าต้าซือมิ่งต้องเป็นคนกำจัดตาแก่ระดับตำนานตระกูลเฉาที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นทิ้งแน่นอน มิเช่นนั้นแม้หอจวินเป่าจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่มีทางกำจัดผู้แข็งแกร่งระดับตำนานคนหนึ่งอย่างรวดเร็วและไร้สุ้มเสียงเช่นนี้ได้! ดังนั้นทุกอย่างจึงไปเป็นดังที่เขาคาด
ทว่าต้าซือมิ่งท่านนี้ลงมือช่วยแล้ว เหตุใดยังไม่ปรากฏตัวอีก หรือว่าต้าซือมิ่งทำชั่วต่อปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน และยังเป็นความชั่วที่ชั่วช้ามาก เขาจึงไม่กล้าออกมาเผชิญหน้ากับนาง?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ อินสวินอี้ก็รู้สึกว่าตนเองทาย ‘ความจริง’ ถูกอีกแล้ว
แต่แล้ว… ในณะที่อินสวินอี้คาดเดาไปเองอย่างระมัดระวังและสะปะสะปะนั้น ต้าซือมิ่งท่านหนึ่งก็เดินออกมาจากห้องพักขนาดใหญ่แล้ว เขาออกมาแล้ว!
ตอนที่ 179 พบกัน…
ถึงแม้ต้าซือมิ่งท่านนี้จะไม่ออกมาอย่างเงียบเชียบและไร้ ‘คลื่นลม’ คนระดับชั้นเช่นเขาก็ไม่มีผู้ใดในเหตุการณ์รับรู้การมาถึงของเขาอยู่ดี ทว่าเด็กน้อยเพียงหนึ่งเดียวที่มีสัมผัสอันมหัศจรรย์ก็กำลังสะอึกสะอื้นอย่างเศร้าเสียใจ เพราะเขายังรู้สึกน้อยใจ อีกทั้งท่านแม่ของเขาก็ยังคงปลอบเขาด้วยความอ่อนโยนอยู่ด้วย
“อ้ะเนะเนะ…” สิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่ร้องไห้พลางพูด เขาเล่าสิ่งที่เขาเผชิญทั้งหมดให้ท่านแม่คนงามของเขาฟังอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
ส่วนเยี่ยนอวี๋ แม้นางจะฟังไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารของนางและเด็กน้อย ในระหว่างนี้นางยังเช็ดตัวให้เด็กน้อยจนสะอาดและเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ให้เขา
จนถึงบัดนี้ ‘กลิ่นซุปเนื้อตุ๋น’ ที่อยู่บนตัวเด็กน้อยถึงจะหายไปทั้งหมด เขา ‘กลับมา’ เป็นเด็กน้อยจิ้มลิ้มเนื้อตัวสะอาดสะอ้านและขาวนุ่มผุดผ่องอีกครั้ง
เมื่อองครักษ์หอจวินเป่าเห็นภาพเบื้องหน้านี้ เขาก็รู้สึกไร้คำบรรยายจริงๆ… ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าเด็กคนนี้ไม่ได้ถูกลวก แต่… องครักษ์หอจวินเป่ายังคงรู้สึกเหลือเชื่อ “พ่อครัวใส่กลควบคุมอุณหภูมิที่เป็นเครื่องมือควบคุมขนาดเล็กในถ้วยน้ำซุปเพื่อไม่ให้กระทบต่อรสชาติ ดังนั้นเมื่อซุปเนื้อตุ๋นถูกสาดออกไป มันจึงยังคงร้อนอยู่…“
เช่นนี้แหละ! แต่ทารกน้อยกลับไม่เป็นอะไรเลย
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ หลังจากที่องครักษ์หอจวินเป่าตื่นตะลึงแล้ว เขาก็รีบคุกเข่าลงต่อหน้าเยี่ยนอวี๋ “ท่านปราชญ์มหาสำนัก ทั้งหมดนี้ข้าน้อยมีความผิดที่มิอาจปฏิเสธได้ ท่านได้โปรดลงโทษขอรับ ไม่ว่าท่านจะลงโทษอย่างไร ข้าน้อยล้วนยินยอม”
“อ้ะเนะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ยังคงน้ำตาร่วงอยู่นั้น เขากลับโบกมือเล็กน้อยให้องครักษ์หอจวินเป่าคนนี้ “อ้ะเนะเนะ…”
เมื่อเยี่ยนอวี๋เข้าใจ นางจึงจูบเด็กน้อยเบาๆ ก่อนจะละสายตาจากเด็กน้อยและมองไปที่องครักษ์หอจวินเป่าคนนั้น “เสี่ยวเป่าบอกว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า กลับไปเถอะ”
“ท่านปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน?” องครักษ์หอจวินเป่าชะงัก เพราะว่าจุดจบของเฉาผิงผิงและคนอื่นๆไม่ได้โหดร้ายธรรมดา เขาเตรียมใจว่าต้องตายไว้แล้ว!
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนยกซุปเนื้อตุ๋นที่ทำให้คุณชายน้อยเยี่ยนบาดเจ็บออกมา! อีกทั้งจากการสังเกตในภายหลังของเขา หากไม่ใช่เพราะเขาขวางทางไว้ คุณชายน้อยเยี่ยนคงไม่ถูกรังแกจนเป็นเช่นนี้ คุณชายน้อยท่านนี้ ‘หนี’ ได้รวดเร็วจนน่ากลัว…
ทว่าเยี่ยนอวี๋กลับไม่ได้พูดอะไรอีก นางยังคงปลอบเด็กน้อยของนางต่อไป “เสี่ยวเป่าไม่ร้องแล้วดีหรือไม่จ๊ะ ดูเจ้าสิ ตาบวมหมดแล้ว ไม่น่ารักแล้ว”
เมื่อได้ยินว่าไม่น่ารักแล้ว… เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ร้องไห้เสียงดังอีกครั้ง แต่เดิมเขาเป็นเด็กน้อยจิ้มลิ้มน่ารักน่าชังคนหนึ่ง เป็นเด็กน้อยจิ้มลิ้มที่กำลังจะไปพบท่านพ่อรูปงาม!
“เสี่ยวเป่า…” เยี่ยนอวี๋ทำอะไรไม่ถูก
ทว่าหลังจากที่เด็กน้อยแผดเสียงร้องแล้ว เขาก็คิดขึ้นได้ว่าเขากำลังจะไปหาท่านพ่อรูปงามของเขา ดังนั้นเขาจึงตั้งสติขึ้นได้และพบว่าพ่อรูปงามของเขายังอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้ไปไหน!
“อุแว้?”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เกิดความสงสัยเข้ามาแทนที่เสียงร้องไห้ เขาก็รีบมองไปทางที่ท่านพ่อรูปงามของเขาอยู่
และในตอนนี้เอง ต้าซือมิ่งที่เดินออกจากห้องพักนานแล้ว เขาก็มาปรากฏอยู่บริเวณสุดสายตาของเด็กน้อย ซึ่งก็คือหัวมุมที่เด็กน้อยพยายาม ‘ข้ามผ่าน’ ไปหลายหน เขาอยู่ในระยะใกล้กับเด็กน้อยมาก!
น่าเสียดายที่ฝ่ายหลังร้องไห้จนตาบวมไปหมด ตอนนี้ยังมีหยาดน้ำตาในดวงตา เขาจึงมองไม่ถนัดนัก…
อินสวินอี้ที่มองเห็นต้าซือมิ่งเพียงคนเดียวก็รู้สึกตื่นเต้นมาก และตื้นตันมากเช่นกัน เขารู้สึกได้ว่าละครกำลังจะเริ่มแล้ว ถึงแม้เขาจะไม่รู้เรื่องส่วนตัวของต้าซือมิ่งเลยก็ตาม แต่ปฏิกิริยาต่างๆ ก่อนหน้านี้ของต้าซือมิ่งก็เพียงพอที่จะทำให้อินสวินอี้บุรุษผู้ชอบเพ้อฝันจินตนาการนิยายรักๆ ใคร่ๆมากมายหลายฉบับแล้ว อินสวินอี้จึงรู้สึกตื้นตันนัก เพราะตัวเอกของนิยายเรื่องนี้คือต้าซือมิ่ง! ต้าซือมิ่งยอดบุรุษราชสำนัก ผู้สูงส่งราวกับอมตะคนนั้น! ก่อนหน้านี้อินสวินอี้ไม่กล้าคิดเลยว่าบุคคลผู้ไม่ประสีประสาทางโลกเช่นนี้จะมีประวัติเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ด้วย!
มารดามันเถอะ…
อินสวินอี้ยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้น!
ทว่าต้าซือมิ่งราชสำนักที่เยื้องย่างขาเรียวยาวมาทางนี้อย่างสง่าและใกล้จะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนแล้ว จู่ๆ ก็หยุดชะงักลง!
ในขณะเดียวกัน…
“อ้ะ?”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าขยี้ตา เขาเพิ่งไล่หยาดน้ำตาในตาออกไป และพยายามเบิกตาบวมๆ ของตนเองมองไปที่บิดาของเขา เขาสัมผัสได้ว่าท่านพ่อของเขากำลังใกล้เข้ามา ทว่าเขาเองก็ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะในความทรงจำของเยี่ยนเสี่ยวเป่า ท่านพ่อรูปงามของเขาขี้ขลาดจะตายไป! เขาไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนเสียด้วยซ้ำ และตอนนี้ก็มีคนอยู่ที่นี่ไม่น้อย
ดังนั้นเยี่ยนเสี่ยวเป่าจึงขยี้ตาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาทำท่าจะจ้องมองอีกครั้ง แต่การจ้องมองครั้งนี้ของเขาก็ทำให้เขาไม่เห็นท่านพ่อของเขาแล้ว
“อ้ะเนะเนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่ากะพริบตาปริบอย่างงุนงง เพราะว่าเขายังคงสัมผัสได้ว่าท่านพ่อของเขาอยู่ ‘ข้างหน้า’ เขา แต่เขาไม่เห็นท่านพ่อเลย
ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ท่านพ่อของเขายังอยู่ที่นั่นจริงๆ! และยังอยู่ใกล้กับเขามาก ท่านพ่อของเขากำลังมองใบหน้าอวบอ้วนน้อยๆ ของเขาอย่างตั้งใจ!
พร้อมแสดงสีหน้าราวกับถูกฟ้าฝ่า…