ตอนที่ 207 เกิดอะไรขึ้นกับแม่ของลูกน้อย…
เยี่ยนเสี่ยวเป่าตื่นเต้นจนแทบอยากจะโผบิน เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ดังนั้นเขาจึง ‘กรีดร้อง’ ออกมาแล้ว!
แต่ทว่าเจ้าตัวน้อยที่กลัวว่าจะทำให้ท่านพ่อคนงามตกใจจนหนีไปก็ได้ควบคุมตัวเองไว้อย่างเงียบๆ ส่งเสียงร้องไม่ดังมากนัก แต่ท่าทางยิ้มแก้มปรินั้นไม่สามารถควบคุมได้เลยจริงๆ
เยี่ยนอวี๋ที่ใจจดใจจ่อไม่ถูกปลุกด้วยสิ่งนี้ แต่ต้าซือมิ่งที่ระมัดระวังมากก็ไม่มีท่าทีที่จะ ‘ล้ำเส้น’ แม้แต่น้อย เขาไม่ได้แตะต้องเกราะ ‘วงกลม’ ที่เยี่ยนอวี๋ร่ายไว้เลย
แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่ากำลังจะเคลื่อนที่เข้าไปหาท่านพ่อของเขาแล้ว!
ชู่ว์
ต้าซือมิ่งบางคนทำได้เพียงตักเตือนเจ้าตัวน้อยอีกครั้งแล้วใช้นิ้วมือเรียวงามชี้ไปยังร่างที่อยู่ข้างๆ เจ้าตัวน้อย เขาไม่อยากถูกเข้าใจผิดอีกแล้ว
“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าอึ้งไปครู่หนึ่ง แต่ก็ ‘เข้าใจ’ ในสิ่งที่ท่านพ่อจะสื่อแล้ว ท่านพ่อกลัวท่านแม่คนงามอย่างนั้นหรือ!
เยี่ยนเสี่ยวเป่าอยากจะอธิบาย “อ้ะเนะเนะ…”
ชู่ว์
ต้าซือมิ่งที่ทำมือเป็นสัญญาณบอกให้เงียบอีกครั้ง เขาจำต้องเสี่ยงอันตรายในการพูด “อย่ารีบร้อนไป พ่อ…เอ่อ…แม่ของเจ้ากำลังยุ่งอยู่ อย่ารบกวนนาง รอให้แม่ของเจ้าเสร็จเรื่องแล้ว พ่อค่อยไปอุ้มเจ้า”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเผยสีหน้าตกใจแล้วรีบปิดปากน้อยๆ ไว้ทันที จากนั้นก็มองท่านพ่ออย่างใสซื่อ ราวกับว่าเต็มไปด้วยความสงสัย
หว่างคิ้วของต้าซือมิ่งบางคนเผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เขารู้ว่าเจ้าก้อนน้อยเข้าใจในความหมายของเขาแล้ว ช่างปราดเปรื่องเสียจริง ปราดเปรื่องกว่าทารกโง่เขลาของพวกจักรพรรดิเป็นร้อยเท่าพันเท่า ไม่เสียทีที่เป็นลูกของเขาจริงๆ! อืม…ลูก…
ใช่หรือไม่
น่าจะใช่
ใช่แน่นอน
โยวตูอ๋องเองก็บอกว่าเจ้าตัวน้อยนี้ต้องเป็นเมล็ดพันธุ์ของเขาแน่นอน นอกจากนี้แล้วไม่มีทางที่จะมีทารกน้อยที่มีหน้าตาคล้ายกับเขามากเพียงนี้อีกแล้ว
ส่วนเพราะเหตุใดจึงมีเด็กคนนี้ได้นั้น
ต้าซือมิ่งบางคนมองไปทางแม่ของลูกน้อยอย่างเป็นธรรมชาติ สิ่งที่เห็น…
มีเพียงแผ่นหลังของแม่ของลูกเท่านั้น
แม้จะดูอ่อนหวานแสนดี แต่ก็ดูแปลกหน้ามาก
“…”
ต้าซือมิ่งที่หน้าผากพับเป็นสามขีดอย่างไม่รู้ตัว เขาพยายามที่จะมองหน้าของหญิงสาวบางคน แต่หากเขาก้าวเข้าไปอีกนิดก็จะสัมผัสโดนเกราะ ‘วงกลม’ ของเจ้าตัวน้อยแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแปลกประหลาดจากปีกอิงหลงขนาดยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าเขาอีกด้วย “แม่ของเจ้าก้อนน้อยคงจะไม่มีกำลังมากพอ”
“อ้ะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่เข้าใจ เจ้าก้อนน้อยนี้หมายถึงเสี่ยวเป่าหรือ แต่เสี่ยวเป่าไม่ได้ชื่อเจ้าก้อนน้อยนะ ชื่อเสี่ยวเป่าต่างหากเล่า!
ต้าซือมิ่งไม่เข้าใจความคิดในใจของเจ้าตัวน้อย หลังจากที่เขาเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ แล้วก็ได้เตือนเจ้าตัวน้อยอีกครั้ง “ข้าจะไปช่วยท่านแม่ของเจ้า เจ้าเป็นเด็กดีนะ”
“อ้ะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ตอบเสียงเบาพยักหน้าจริงจัง ทั้งยังยื่นนิ้วมือออกมานิ้วหนึ่งตามท่านพ่อของเขา และ ‘ปิด’ ริมฝีปากน้อยเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่นิ้วมืออ้วนป้อมของเขาไม่คล่องแคล่วเท่าไหร่ ทำได้เพียง ‘ปิด’ ปากพร้อมกันทั้ง ‘สามนิ้ว’
ท่าทางจริงจังและน่าชังเช่นนี้ ทำเอาต้าซือมิ่งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ…
เยี่ยนเสี่ยวเป่าได้ยินดังนั้นจึงเบิกตากว้าง พร้อมแสดงกิริยาท่าทาง ‘ห้ามส่งเสียงมิใช่หรือ’ ออกมา
“…”
ต้าซือมิ่งบางคนจึงทำได้เพียงหัวเราะอย่างไร้เสียง ริมฝีปากยกขึ้นอย่างหยุดไม่ได้ รอยยิ้มแถบจะทะลักล้นออกมา ประดุจมีดาวตกอยู่ในดวงตา
เยี่ยนเสี่ยวเป่ามองจนอึ้งไป…
ท่านพ่อคนงามงดงามนัก! งดงามยิ่งนัก! งดงามจริงๆ!
อ๊ากกก…
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ตื่นเต้นจนเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ แทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ อยากพุ่งเข้าไปหาท่านพ่อแล้ว
แต่ขณะที่เขา ‘ตื่นเต้น’ อยู่นั้น ต้าซือมิ่งบางคนก็ได้เตือนเขาเบาๆ ว่า “อยู่ข้างกายท่านแม่ของเจ้า อย่ารบกวนนาง” มิเช่นนั้นสถานการณ์ของนางต้องไม่ดีแน่
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ได้สติทันทีรีบปิดปากเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจปกปิดเสียงหัวเราะ ‘ฮี่ๆ’ ของเขาเอาไว้ได้ ดวงตากลมโตทั้งสองยิ้มจนโค้งเป็นเส้นสองเส้นแล้ว
หากไม่ใช่ว่ากลัวจะไปรบกวนเยี่ยนอวี๋เข้าล่ะก็ ต้าซือมิ่งอยากจะเข้าไปจับลูกน้อยคนนี้จริงๆ
แต่ทว่า…
ต้าซือมิ่งที่ทำได้เพียงเก็บความคิดนี้เอาไว้ก็สังเกตเห็นว่า ปีกอิงหลงขนาดยักษ์ตรงหน้าพวกเขานี้มีการรั่วไหลของเส้นสีดำจากภายในสู่ภายนอก
“กลิ่นอายของค่ายกลควบคุมจิต” ต้าซือมิ่งที่สามารถแยกกลิ่นอายออกได้นั้น คาดเดาความจริงได้แล้ว “ดูท่าแล้วอิงหลงนี้จะถูกควบคุมจิตสินะ”
ซึ่งต่างจากที่เขาคาดเดาไว้แต่แรก เดิมทีเขาคิดว่านี่เป็นอิงหลงอาวุโสที่ต้องมนต์ดำ ถึงได้สร้างปัญหาอยู่ใต้แม่น้ำเย่ว์หมิง แต่ดูแล้วคงจะไม่ใช่เช่นนั้น
แต่ทว่าแม่ของเจ้าก้อนมอมแมมนั้น…
“ยิ่งมายิ่งน่าสนใจแล้วสิ”
ตอนที่ 208 ช่วย ‘ภรรยา’ จัดการปีศาจ!
เมื่อต้าซือมิ่งหรงรู้ว่าสตรีนางนี้ไม่เพียงสามารถควบคุมกระบี่ไท่ชางและได้รับมรดกจากตำหนักไท่ชาง นางยังสามารถใช้ค่ายกลไร้ขีดจำกัดแห่งหยวนชูได้ เขาก็พอจะคาดเดาได้แล้ว ทว่าเขารู้ว่าบัดนี้มิใช่เวลามาพิสูจน์ความคิดในใจของเขา เขาต้องช่วยสตรีนางนี้เสียก่อน เขาจึงนั่งขัดสมาธิลงข้างหลังมารดาเด็กน้อย
“…”
แสงสีม่วงอร่ามไร้เสียงผสานตัวเข้าไปในห้วงอวกาศโบราณที่ส่องแสงระยิบระยับดั่ง ‘หิ่งห้อยที่อ้อยอิ่ง’ ในทันที ทันใดนั้นมันก็สาดส่องไปยังทางเข้าของสถานที่แห่งนี้
ในขณะเดียวกัน…
“อั่ก!”
กู้หยวนซูที่อยู่ริมแม่น้ำกระอักเลือดทันที! พลังลมปราณของนางถดถอยอย่างรวดเร็ว
หากไม่ใช่เพราะกู้หยวนซูกางค่ายกลป้องกันไว้ในค่าย บัดนี้คงสะเทือนไปทั่วทั้งบริเวณแล้ว ทว่าความรุนแรงนี้ก็ทำให้กู้หยวนซูล้มลงบนพื้นจนเกือบจะตายไป ซ้ำยังไม่มีผู้ใดเข้ามาดูอาการของนาง หากไม่ใช่เพราะนางยังเหลือลมหายใจเฮือกสุดท้ายและทานยาชุบชีวิตทันเวลา นางคงเสียชีวิตไปแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น” หลังจากกู้หยวนซูตั้งสติจากอาการหวาดผวาอยู่แล้วก็รีบถามร่างวิญญาณปราชญ์ผู้ล่วงลับในอนุสติ ฝ่ายหลังกลับทรุดหนักกว่านาง ‘เขาพบเราแล้ว! เขาเข้าไปแล้วจริงๆ ด้วย ทั้งยังโจมตีข้าด้วย!’
“เช่นนั้นตอนนี้เราควรทำอย่างไร” สีหน้ากู้หยวนซูไม่สู้ดีนัก “เขาคงไม่ไล่ตามข้าออกมาหรอกนะ? เขา…”
‘อย่าได้กังวล ยามนี้เขาไม่มีเวลาสนใจพวกเราหรอก เขากำลังกำจัดรอยสึกกร่อนที่พวกเราสร้างไว้บนตัวของมังกรโบราณ ดูท่าเขาคงพบต้นกำเนิดของปัญหาอุทกภัยแม่น้ำเย่ว์หมิงแล้วว่าอยู่บนปีกแห่งมังกร’
“เช่นนั้นเขาจะสาวมาเจอข้าหรือไม่” กู้หยวนซูกังวลเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว!
‘ไม่หรอก’
“เช่นนั้น…”
‘เงียบเถอะ ข้าขอฟื้นตัวสักครู่’ ‘ท่านปราชญ์’ ที่เริ่มหมดความอดทนกับคำถามเหล่านี้แล้วพลันตัดสัมผัสจากกู้หยวนซูทันทีหลังจากสิ้นเสียง
กู้หยวนซูรู้เข้าก็ลองขานเรียกอีกครั้ง “ท่านปราชญ์?”
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ อีก…
กู้หยวนซูสูดหายใจเข้าลึก นางรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เหนือความคาดหมาย กองหนุนของนางในบัดนี้อาจจะยังไม่เพียงพอ!
“ต้องการกองหนุนมากกว่านี้จึงจะเอาชนะพวกเขาได้” เมื่อคิดได้เช่นนี้ กู้หยวนซูก็หลุบตาลงหยิบป้ายกายสิทธิ์ที่มีลวดลายมังกรออกมา ก่อนจะสื่อพลังจิตสัมผัสไปที่ป้ายกายสิทธิ์นั้น!
ผ่านไปครู่หนึ่ง… เสียงอันน่าเกรงขามของจักรพรรดิหยวนคังก็ดังออกมาจากป้ายกายสิทธิ์ “ซูเอ๋อร์?”
“หม่อมฉันเองเพคะ ฝ่าบาท” กู้หยวนซูที่โล่งอกไปเปราะหนึ่งก็รีบทูลว่า “ฝ่าบาท โยวตูมีความเคลื่อนไหวใหม่เพคะ ต้าซือมิ่งเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องแม่น้ำเย่ว์หมิง เขาไม่ยอมให้หม่อมฉันนำตัวโยวตูอ๋องไป หม่อมฉันเกรงว่าจะมิอาจขัดขืนบัญชาของเขา เพราะที่นี่คือเขตการปกครองของตำหนักซือมิ่งเพคะ”
“…เราเข้าใจแล้ว เหตุใดเมื่อครู่เจ้ามิได้บอกว่าเขาอยู่ที่นั่น” จักรพรรดิหยวนคังก็คิดไม่ถึงว่าต้าซือมิ่งท่านนั้นจะปรากฏตัวที่แม่น้ำเย่ว์หมิง
“แต่เดิมหม่อมฉันคิดไว้ว่าจะทูลรายงานฝ่าบาทหลังจากเจอตัวต้าซือมิ่งเพคะ ทว่าบัดนี้…” กู้หยวนซูกระอักกระอ่วน ราวกับรู้สึกลำบากใจและรู้สึกผิดมาก
จักรพรรดิอดกล่าวปลอบใจด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนไม่ได้ และให้สัญญาว่า “เราจะส่งกองกำลังไปเพิ่ม นอกเหนือจากตำหนักซือมิ่ง ซูเอ๋อร์เจ้าคุมเขาให้อยู่ไว้ชั่วคราวก็พอ”
“หม่อมฉันจะพยายามเพคะ…” กู้หยวนซูมิได้สัญญา นางเพียงแสดงความอ่อนแอและน่าสงสาร
จักรพรรดิหยวนคังปลอบประโลม “เจ้าก็อย่าฝืนตนเองมากเกินไป จำไว้ว่ามีเราอยู่”
“ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ” กู้หยวนซูกล่าวขอบคุณจากใจจริงก่อนจะย้ำเตือนว่า “ฝ่าบาทต้องระวังเมื่อส่งกองกำลังมาเพิ่มนะเพคะ อย่างที่หม่อมฉันเคยทูล โยวตูสามารถดักจับกลิ่นอายค่ายกลเคลื่อนเวหาได้ ดังนั้นต้องระมัดระวังมากกว่าเดิมเพคะ”
“ได้ เรารู้แล้ว เจ้าก็ดูแลตนเองให้ดี” หลังจากจักรพรรดิหยวนคังให้สัญญาแล้ว เขาก็หลุดออกจากพลังจิตสัมผัสทันที เขามิได้กลัวว่าจะถูกดักฟัง เพราะเขามั่นใจในพลังของตนเองมาก ถึงอย่างไรป้ายกายสิทธิ์ที่กู้หยวนซูใช้ก็เป็นป้ายลายมังกรที่มีเลือดของเขา หากมีผู้ใดแอบฟัง เขาย่อมสัมผัสได้ทันที แม้จะเป็นต้าซือมิ่งท่านนั้นก็ไม่ยกเว้น
ทว่าต้าซือมิ่งท่านนั้นที่จักรพรรดิหยวนคังกำลังคิดถึงอยู่นั้น เขาไม่มีอารมณ์มาแอบฟัง ยิ่งไม่มีเวลาไปยุ่งเรื่องอื่น! เพราะว่าเหมือนกับว่าตอนนี้เยี่ยนอวี๋กำลังถูกเล่นงานกลับแล้ว!?
“…”
สีหน้าเยี่ยนอวี๋ค่อยๆ ซีดลง เห็นได้ชัดว่านางเริ่มรู้สึกเกินกำลัง นางจึงไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าเมื่อครู่นี้ต้าซือมิ่งช่วยนาง ‘ทำงาน’
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่สัมผัสบางอย่างได้ก็รีบคว้ากระโปรงของท่านแม่ของเขาไว้ทันที ตัวน้อยๆ ของเขาก็เกร็งไปทั้งตัวจนไม่สนใจท่านพ่อรูปงามของเขาแล้ว
ส่วนต้าซือมิ่งราชสำนักที่ถูกเด็กน้อย ‘เมิน’ ก็ปล่อยกระบี่ไท่ชางออกมา เมื่อกระบี่ไท่ชางที่มีพลังวิญญาณหลุดจาก ‘บ่วง’ มันก็สัมผัสถึงกลิ่นอายของเจ้าของของมัน มันจึงตรงดิ่งไปหาเจ้าของโดยที่ไม่จำเป็นต้องรอให้เยี่ยนอวี๋เรียก
หลังจากนั้น…
วิ้ง!
กลิ่นอายของกระบี่ไท่ชางพลันปรากฏในสัมผัสของเยี่ยนอวี๋อย่างไร้ซึ่งที่มา ฝ่ายหลังชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรวบรวมสติอีกครั้ง
ต้าซือมิ่งหรงที่ในที่สุดก็คืนกระบี่ไท่ชางและไม่สามารถปลอมตัวเป็นเยี่ยนอวี๋ได้อีก เขาก็ถูกเยี่ยนอวี๋สัมผัสได้ในทันที! ในครานี้เอง…