จากนั้นเจ้าตัวน้อยพลันเบิกตา เขาโบกมืออวบอ้วนของตนไปทางหนึ่งและหันไปทางท่านพ่อของเขา “อ้ะเนะ! อ้ะเนะเนะ!” ตรงนั้น! ท่านแม่รูปงามอยู่ทางนั้น!
ต้าซือมิ่งอุ้มเด็กน้อยหายวับไปทางที่เขาชี้ทันที เห็นได้ชัดว่าเขาเชื่อมันในสัมผัสของเด็กน้อยมาก ถึงอย่างไรเขาเป็นผู้ได้สัมผัส ‘ทักษะ’ ของเขาด้วยตนเอง เขารู้ดีที่สุดว่าการรับรู้ทางสายเลือดของเด็กน้อยเฉียบคมเพียงใด! มิเช่นนั้นเขาคงไม่ถูก ‘จับได้’ หลายต่อหลายครั้ง
ทว่าเขาไม่รู้ว่าหลังจากที่เขาพาเด็กน้อยหายไปแล้ว ตำแหน่งที่สองพ่อลูกเคยยืนอยู่ก็ปรากฏลูกตาสีแดงฉานข้างหนึ่งในทันที ยังมีหมอกดำไหลออกมาจากลูกตานั่นไม่หยุด ทำให้ตำแหน่งของสองพ่อลูกผุกร่อนจนกลายเป็นฝี ของเหลวเหนียวยังแตกออกเป็นฟอง เป๊าะ
ในขณะเดียวกัน…
“เชี่ย!”
ฝีหนองที่จู่ๆ ก็โผล่มาใต้เท้าทำให้เอ้อร์เหมาร้องไม่หยุด “มารดามันเถอะ! นี่มันที่ไหนกัน ไม่รู้ว่านายท่านน้อยและคนอื่นอยู่ไหน หากนายท่านน้อยอยู่กับคุณหนูใหญ่สองคนก็ยังดี อย่างน้อยหากตายไป นายท่านน้อยก็ยังเป็นผีชู้ กลัวแค่ว่านายท่านน้อยจะโชคร้ายเหมือนข้า ต้องโดดเดี่ยวอยู่เพียงผู้เดียว”
เอ้อร์เหมาที่พึมพำไม่หยุดก็ยิงแสงสีขาวออกมาใส่ฝีหนองเหล่านั้นพลางหลบหนีอย่างรวดเร็ว แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าเขาจะหนีไปทางไหน ฝีหนองเหล่านั้นก็ตามเขาราวกับเงาตามตัว
เยี่ยนจื่อเสา เม่ยเอ๋อร์และจวินฮวนที่กำลังเผชิญสถานการณ์เช่นเดียวกับเขาต่างถูกล้อมเพียงลำพัง! เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ ‘เคลื่อนย้าย’ แบบสุ่ม แต่เป็นการเคลื่อนย้ายแบบเจาะจง
“แยกพวกเราออกจากกันเพื่อกำจัดทิ้ง” เมื่อเยี่ยนจื่อเสาคิดได้เช่นนี้ก็ร้อนรนใจ “ไม่รู้ว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง ถูกจู่โจมอย่างเจาะจงเช่นนี้หรือไม่”
เยี่ยนจื่อเสาที่รู้ดีว่าน้องสาวของตนมีความสามารถไม่ธรรมดาก็รู้สึกยิ่งกังวล เขาครุ่นคิดว่าสถานที่แห่งนี้มีพลังชั่วร้ายนัก มันอาจจะหวาดกลัวความสามารถของน้องเล็ก และเจาะจงฆ่านางก็ได้
ความเป็นจริงก็เป็นดั่งที่เยี่ยนจื่อเสาคิด…
กรรร!
แกร่กๆ…
ปีศาจตัวใหม่ที่ไหลออกมาจากปีศาจฝีหนองรวมร่างไม่ขาดสาย พวกมันยังคงอัปลักษณ์และยังมีหนองไหลออกมาตลอดเวลา ทั้งลำตัวของมันยังมีปากด้วย! ในปากของมันมีฟันแหลมคมเรียงอยู่เต็มปาก
นอกจากนี้ พวกมันยังไม่กลัวเพลิงของอินหลิวเฟิง มันโถมใส่เยี่ยนอวี๋และอินหลิวเฟิงเหมือนกับก้อนเนื้อเน่าที่ส่งกลิ่นเหม็นคาวและมีหนองไหลออกมาอย่างรวดเร็ว!
“เชี่ย!” อินหลิวเฟิงอดอุทานคำหยาบไม่ได้ เพื่อสู้กับกลิ่นเหม็นน่าอาเจียนของปีศาจที่กำลังเข้าใกล้เหล่านี้ ในขณะเดียวกันเขาก็กระตุ้นพลังสายเลือดที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกมา
ใบน้ำค้างแข็งอันเยือกเย็นทิ่มแทงก้อนเนื้อของปีศาจฝีหนองตัวใหม่จนกลายเป็นเลือดหนองไปทั้งบริเวณ ทำเอาเยี่ยนอวี๋ขยะแขยงจนดีดตัวขึ้นกลางอากาศ
ยันต์ปราบมารของนางจู่โจมปีศาจฝีหนองที่เพิ่มขึ้นจนมันตายไปไม่น้อย ทว่าเป้าหมายของนางคือก้อนเนื้อชิ้นใหญ่ที่อยู่ข้างหลัง แต่ทุกการจู่โจมของนางกลับถูกขวางไว้อย่างแม่นยำ!
“ความคิดของปีศาจตัวนี้”
เยี่ยนอวี๋ครุ่นคิด นางจำเป็นต้องยื้อการต่อสู้ไว้เพื่อหาจุดอ่อนของปีศาจฝีหนอง ทว่านางก็พบทันทีว่าปีศาจที่รู้จักป้องกันตนเองตัวนี้ปิดจุดอ่อนของตนเองไว้หมดแล้ว
เรื่องนี้ทำให้เยี่ยนอวี๋คิดถึงกระบี่ไท่ชางขึ้นมา ด้วยอิทธิฤทธิ์ของกระบี่ไท่ชาง มันไม่กลัวการปิดกั้นเหล่านี้แม้แต่น้อย แต่เมื่อตอนที่นางเข้ามา นางออกคำสั่งเด็ดขาดมิให้กระบี่ไท่ชางตามมาแล้ว
บัดนี้… เยี่ยนอวี๋ที่จำเป็นต้องคิดแผนอื่น อินหลิวเฟิงที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดก็ร้องขอความช่วยเหลือ “กูไหน่ไนเจ้ารีบคิดวิธีสิ! สู้เช่นนี้ต่อไปไม่ไหวหรอก”
ปีศาจฝีหนองมากมายเข้าล้อมอินหลิวเฟิงราวกับฝูงตั๊กแตน พวกมันกำจัดใบน้ำค้างแข็งหมดแล้ว บัดนี้กำลังจะกลืนกินเขาแล้ว ทำเอาเยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้ว “เจ้าอย่าใช้ศิลปะการต่อสู้อันหยาบกร้านของเจ้าปิดกั้นพลังสายเลือดของเจ้าสิ จู่โจมไปตามใจ มิจำเป็นต้องใช้ทักษะก็ได้แล้ว”
“ว่าไงนะ” อินหลิวเฟิงสู้กับปีศาจฝีหนองอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาไม่ทันตั้งสติได้ว่าเยี่ยนอวี๋หมายความถึงอะไร ขณะนั้นเองปีศาจฝีหนองตัวหนึ่งโถมเข้าใส่ก้นของเขา…
“อ้าก!”
อินหลิวเฟิงร้องตะโกน รอบกายเขาระเบิดเพลิงสีแดงที่เจิดจ้ากว่าเดิมออกมา เผาปีศาจฝีหนองที่อยู่ใกล้ๆ เป็นก้อนไหม้เกรียมทันที
“นี่ไง” เยี่ยนอวี๋ส่ายศีรษะ “ปล่อยไปตามสัญชาติญาณของเจ้า ก็สามารถใช้พลังที่ถูกผนึกไว้ได้แล้ว”
“อ้อ! อืมๆ…” อินหลิวเฟิงเพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า ตามใจ แต่เดิมเขาคิดว่าหมายถึงให้เขา “ขี้ขลาด” อย่าโจมตีบุ่มบ่ามเสียอีก
ทว่าเขาเพิ่งขานตอบ ปีศาจฝีหนองขนาดยักษ์ตัวนั้นจู่ๆ ก็พ่นใยเหนียวสีเหลืองกำมะถันมาทางเขา เขาตกใจตาโพลง แต่กลับมิอาจหนีหลบ รู้สึกเพียงตนเองถูกสะกดไว้แล้ว
“ระวัง!”
“ให้ตายเถอะ!”
อินหลิวเฟิงทำได้เพียงระเบิดพลังสายเลือดออกมาโจมตีกลับ เพลิงไฟสีแดงแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาทันที มันกลายเป็นวิหคทมิฬน้อย พุ่งตัวไปสังหารใยสีเหลืองกำมะถัน
ตูม!
แซ่ดๆ!
แรงสะเทือนอันน่าสะพรึงและการแผดเผาอันรุนแรง ทำให้เลือดหนองสาดกระเซ็นทั่วข้างหน้าอินหลิวเฟิง เยี่ยนอวี๋ที่คอยสังเกตการณ์ค่อยโล่งใจ
แต่แล้ว จู่ๆ ปีศาจฝีหนองนั่นก็คำราม!
แซด!
ใยเหนียวเหลืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว! ตรงปลายของมันยังปรากฏท่อดูด มันพ่นใยออกมาจนวิหคทมิฬน้อยของอินหลิวเฟิงกลายเป็นสีเหลืองไปทั้งตัว และใยเหนียวเหล่านั้นก็ดูดศีรษะของอินหลิวเฟิงทันที
“จบกัน!”
อินหลิวเฟิงเบิกตาโพลง เขาไม่มีทางรับมือกับมันได้อีก…
แผละ!
‘หนวด’ ฝีหนองที่อีกเพียงคืบเดียวก็จะดูดเขาเข้าไปแล้ว กลับร่วงลงบนพื้นในวินาทีสุดท้าย
อินหลิวเฟิง “…”
เขาที่มีเหงื่อไหลจนเปียกชุ่มก้าวถอยหลังทันที!
ตูม!
พลังจากร่างวิหคทมิฬก็แผดเผาปีศาจฝีหนองข้างกายจนมอดไหม้ในทันที
ในขณะเดียวกัน…
“ขุนเขาและท้องทะเล!”
เยี่ยนอวี๋ที่ช่วยเขากำจัดใยเหนียวเหล่านั้นต่อหน้าอิงหลิวเฟิง นางก็ยิงช่องว่างของ ‘หนวด’ จนขาดสะบั้น ก่อนจะซัดภาพภูเขาและท้องทะเลไปทางปีศาจฝีหนองตัวนั้น
พลังผนึกภูเขาและท้องทะเลที่หลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว! กลายเป็นผนึกสีม่วงเข้ม มันไล่ตามตำแหน่งที่ใยเหนียวดีดตัวกลับไป ก่อนจะจู่โจมเข้าไปในร่างของปีศาจฝีหนอง
ตูม…
หนองหนืดเหลวสาดกระเซ็นไปทั่ว!
อากาศถูกกัดกร่อนเสียงดัง ชี่ๆ ก่อนจะค่อยๆ กลายเป็นปีศาจฝีหนองอีกนับไม่ถ้วน ของเหลวหนืดไหลตลอดเวลา มันกัดกร่อนจนรอบทิศแผ่กระจายหมอกสีดำชั่วร้าย
“ถอย!”
เยี่ยนอวี๋รีบจับอินหลิวเฟิงหายวับไปด้านหลัง
กรรร…
เสียงคำรามของปีศาจฝีหนองขนาดยักษ์ดังขึ้นอย่าง ‘เพิ่งรู้ตัว’ อากาศทั้งมวลกลายเป็นหนองอย่างรวดเร็ว! มันไล่กลืนกินเยี่ยนอวี๋และอินหลิวเฟิงไม่หยุด
“ให้ตายเถอะ!”
เยี่ยนอวี๋ถอยหลังไม่หยุด นางรับรู้ได้ว่าปีศาจตัวนั้นรวมร่างกับอากาศแล้ว แม้การโจมตีของนางจะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อปีศาจฝีหนอง แต่มันก็ทำให้นางไม่มีที่ยืนเช่นกัน
ฟึ่บ อินหลิวเฟิงขยายปีกออก เขาปัดเป่าหนองเหลวนั่นพลางพูดว่า “กูไหน่ไนปล่อยมือ ข้าบินเองได้แล้ว หรือให้ข้าแบกเจ้าดี”
เยี่ยนอวี๋ปล่อยมือออก แต่ก็มิได้ให้อินหลิวเฟิงแบกนาง ในขณะที่นางถอยหนี มือข้างที่ว่างของนางก็ประสานเป็นท่าดรรชนี “ไป!”
ดรรชนีลักษณะคล้ายห่านขยายใหญ่กลางอากาศอย่างรวดเร็ว มันก่อตัวเป็นพญานกต้าเผิงที่แผ่ซ่านรังสีรอบกาย หวีดร้องด้วยพลังโบราณพุ่งเข้าไปท่ามกลางปีศาจฝีหนอง
ต้าเผิงที่ทะยานตัวออกไปทำลายล้างปีศาจฝีหนอง และ ‘หยุด’ บริเวณที่พังทลายลงไว้ ทำให้เยี่ยนอวี๋และอินหลิวเฟิงได้พักหายใจ แต่ก็ได้หายใจเพียงครู่เดียวเท่านั้น
กรรร…
เสียงร้องคำรามอย่างบ้าคลั่งดังขึ้นข้างหน้าทั้งสอง ทำให้พญานกต้าเผิงแตกสลายไป มันกลายร่างเป็นปากสีดำคล้ำที่มีฟันแหลมคมโถมใส่พวกเขาสองคน
“บิดามันเถอะ!” อินหลิวเฟิงรีบปลุกเร้าพลังสายเลือดออกมา ระเบิดใส่ปากสีดำคล้ำขนาดใหญ่ที่กำลังจะกลืนกินพวกเขา จนระเบิดออกเป็นแสงเงาวิหคทมิฬมากมาย
น่าเสียดาย…
ฉับ!
ปากดำคล้ำขนาดใหญ่ประกบลง ของเหลวหนืดกลิ่นเหม็นคาวกระเซ็นออกมา ทำลายแสงเงาวิหคทมิฬที่อินหลิวเฟิงยิงออกมา จากนั้นก็ดูดกลืนเขาและเยี่ยนอวี๋ที่อยู่ข้างหลังเขาอย่างรวดเร็ว
ในวินาทีอันตรายนี้เอง ผมดำขลับของเยี่ยนอวี๋แปรเปลี่ยนเป็นสีม่วงในทันใด นางแสดงท่าไม้ตายออกมาแล้ว ภาพไท่จี๋ที่มีนางเป็นศูนย์กลางวงหนึ่งคลี่ออกทันที ที่ๆ มันคลี่ผ่านสงบนิ่งลง พลังงานชั่วร้ายก็สลายไป
“ทำลาย”
เยี่ยนอวี๋กำหมัดมือขวาไว้บริเวณหน้าอก นางรวบรวมพลังดรรชนีที่กระจัดกระจายในอากาศอย่างรวดเร็ว พญานกต้าเผิงสีดำตัวนั้นปรากฏตัวอีกครั้ง มันร่วมมือกับภาพไท่จี๋ล้อมปีศาจฝีหนองไว้ ชำระล้างปีศาจเนื้องอกและฝีหนองทั่วทั้งบริเวณ
“ฟ้าดิน” ทุกอย่างสะอาดบริสุทธิ์ชั่วขณะ เว้นแต่แสงที่ยังคงไม่ดีนัก ปีศาจฝีหนองเหล่านั้นและปีศาจเนื้องอกที่มีหนองไหลตลอดเวลาตัวนั้นหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงเสียงร้องคร่ำครวญ
“เนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเห็นท่านแม่จากที่ที่ไกลออกไป!
ต้าซือมิ่งที่ก่อนหน้านี้ถูกปิดกั้นการมองเห็นกลับมิได้หายวับไปหา ‘ภรรยา’ ทันที เพราะข้างหน้าของเขายังมีหมอกสีม่วงจางๆ ชั้นหนึ่งยังไม่สลายไป มันคือม่านพลังที่เยี่ยนอวี๋สร้างไว้เพื่อทำให้พื้นที่เสถียร เขามิอาจทำลายได้
ทว่าเยี่ยนอวี๋ที่ไม่เห็นเด็กน้อยและท่านพ่อของเด็กน้อย นางก็ผนึกฝ่ามือเข้าไปที่แผ่นอกของอินหลิวเฟิง เพื่อผนึกพลังสายเลือดที่ถูกปล่อยออกมากลับคืนไป
เยี่ยนอวี๋รู้ดีว่า ร่างกายของวิหคทมิฬน้อยยังอ่อนแอนัก ไม่สมควรปลุกพลังสายเลือดแข็งแกร่งเช่นนี้ออกมานานเกินไป มิเช่นนั้นจะมีผลข้างเคียงได้ ดังนั้น… ต้าซือมิ่งจึงเห็นฉากนี้พอดี จากนั้นเขาก็… เขาก็รู้สึกหึงขึ้นมาทันที!