ตอนที่ 377 ลูกไก่น้อยสีเหลืองนวล เทียนตี้ออกจากการจำศีล!
เสียงเล็กเสียงน้อยดังจิ๊บๆ ดังออกมาจากไข่ราวกับมีลูกไก่ตัวหนึ่งอยู่ข้างใน แต่ ‘ขนาด’ ของมันผิดแปลกไปอย่างชัดเจน ทว่าไข่ใบยักษ์ใบนี้พลันเกิดรอยแตกร้าวมากมาย!
เยี่ยนอวี๋เองก็รับรู้ถึงพลังชีวิตอันแรงกล้าจากในไข่ยักษ์ใบนี้ แต่เจ้าหมอนี่กลับไม่ได้กะเทาะเปลือกไข่ออกมา เอาแต่ร้อง ‘จิ๊บๆ’ ไม่หยุดราวกับเริ่มร้อนใจแล้ว
เยี่ยนเสี่ยวเป่าชะงักเล็กน้อย เขายังอยากจะยื่นมือไปจับ “จิ๊บ?”
“อย่าจับสุ่มสี่สุ่มห้า” หรงอี้จับมืออวบอ้วนของเด็กน้อยไว้อย่างรู้ทันพลางเร่งเร้าอสูรตี้อั้นให้รีบออกเดินทาง อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปยิ่งนาน อุปสรรคจะยิ่งมาก
อสูรตี้อั้นที่แต่เดิมจะหลอกลวงพวกเขา บัดนี้สัตย์ซื่อมาก ถึงแม้มันไม่รู้ว่าไข่ใบยักษ์ใบนี้คืออะไร แต่กลิ่นอายจักรพรรดิอสูรที่แผ่ซ่านออกมาก็เพียงพอที่จะทำให้มันยอมซื่อสัตย์แต่โดยดี!
ตี้อั้นจึงใช้ความเร็วเหนือธรรมดาพาทั้งครอบครัวหายตัวไปเขตในกลางแดนมืดวิญญาณอสูรอย่างรวดเร็ว ในระหว่างนั้นยังตอบคำถามที่เยี่ยนอวี๋ถามเกี่ยวกับจักรพรรดิอสูรด้วย
“เช่นนั้น ที่เจ้าบอกว่าจักรพรรดิอสูรคือยอดอสูรแข็งแกร่งที่เพิ่งจะครอบครองแดนมืดวิญญาณอสูรและทำให้จอมมารทุกตัวยอมจำนนต่อเขาในช่วงพันปีที่ผ่านมานี้หรือ” เยี่ยนอวี๋คิดว่าจักรพรรดิอสูรตนนี้คงมีความสามารถในระดับหนึ่ง มิเช่นนั้นเหล่าจอมมารคงไม่ยอมก้มหัวให้
ตี้อั้นก็ตอบว่า “ใช่แล้ว จักรพรรดิอสูรเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์สิบสองเทพอสูร เป็นสุดยอดจอมมารที่รวบรวมความสามารถของสิบสองเทพอสูรไว้ จอมมารทุกตัวรวมกันก็มิอาจสู้เขาไม่ได้!”
“สิบสองเทพอสูรหรือ” เยี่ยนอวี๋รู้ว่าที่ตี้อั้นพูดถึงคือสิบสองเทพมาร หากเป็นความจริง แสดงว่าแดนมืดวิญญาณอสูรเกิดเรื่องผิดปกติแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าเทพบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้ารู้หรือยัง
นอกจากนี้ เหตุใดไข่ที่นาง ‘เก็บ’ ได้ จึงมีกลิ่นอายของจักรพรรดิอสูรอยู่ ดูท่ากลิ่นอายแปลกประหลาดก่อนหน้านี้ที่นางสัมผัสได้คงมาจากจักรพรรดิอสูรตนนั้นแล้ว แต่นางก็จับกลิ่นอายของสิบสองเทพมารที่กล่าวถึงไม่ได้เลย ดังนั้น…
“เมื่อแก้ไขปัญหาเรื่องร่างแยกแล้ว เราไปหาจักรพรรดิอสูรตนนี้เสียหน่อยก็ดี” หรงอี้พูดสิ่งที่เยี่ยนอวี๋คิดในใจออกมา
“อืม” เยี่ยนอวี๋คิดว่าไม่ว่าฝ่ายนั้นจะมีความสามารเช่นใด ถึงอย่างไรก็ต้องตรวจสอบให้มั่นใจเสียก่อนว่ามันเป็น ‘สายพันธุ์’ ใด มิเช่นนั้นรู้สึกแปลกอย่างไรชอบกล
ทว่าเยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่ได้คิดมากมายเช่นนั้น เขาชี้ไปที่ไข่ใบยักษ์ที่กำลังจะแตกออกใบนั้นและถามท่านแม่ของเขา “ออก?” จะออกมาเมื่อไหร่หรือขอรับ เสี่ยวเป่าอยากเล่นด้วย
เยี่ยนอวี๋เข้าใจ “ใกล้แล้ว” เมื่อเข้าไปยิ่งลึก ไข่ใบนี้ก็ยิ่งถูกฟูมฟักได้เร็วขึ้น
ความจริงก็เป็นดังเช่นนั้น เมื่อตี้อั้นพาทั้งครอบครัวมาถึงบริเวณเขตใจกลางแดนมืด ไข่ใบยักษ์ก็เกิดเสียงแตกดังขึ้น หากไม่ใช่เพราะหรงอี้กางม่านกันเสียงของมันไว้ คงสร้างปัญหาไม่น้อย และในครานี้เอง…
บรู๊ววว!
บรู๊ว! บรู๊ว…
วี้ด!…
เยี่ยนอวี๋ทั้งครอบครัวได้ยินเสียงอสูรหอนเห่าและคำรามที่พากันร้องดังขึ้นอย่างชัดเจน
แต่เดิมภาพทะเลทรายมืดมิดต่อหน้าพวกเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลง ต้นไม้สีดำที่ดูเหมือนแห้งเหี่ยวทยอยกันงอกเงยขึ้นทีละต้นบนผืนทราย มีเพียงกิ่งก้าน ไม่มีใบไม้
“เนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าชี้ไปอย่างประลาดใจ
เยี่ยนอวี๋พูดกับเขาเบาๆ “นั่นคือวิญญาณอสูรชนิดหนึ่ง มันวิ่งเป็นและกินคนด้วย ชอบกินทารกน้อยจิ้มลิ้มเช่นเสี่ยวเป่าที่สุดเลยนะ”
“เลว!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตำหนิมันอย่างโกรธเคือง ทำท่าจะไปหยิบสักก้านมากิน ราวกับกำลังจะบอกว่าดูว่าใครจะกินใคร! แต่เยี่ยนอวี๋ก็พูดขึ้นว่า “ขมนะ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าหมดอารมณ์ จากนั้นเขาก็ยื่นมืออวบอ้วนของตนไปหาท่านพ่อ จ๊อกๆ
หรงอี้รับเด็กน้อยเข้ามาก็พูดขึ้นว่า “หรือว่าท่านพ่อหักมาให้เจ้าลองชิมดูดีหรือไม่”
“ไม่! ขนม!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่อยากกินของขมๆ เขาอยากกินขนมไหน่เกาหวานๆ หอมๆ
หรงอี้จึงหยิบ ‘อาหารแห้ง’ ออกมาป้อนเด็กน้อยแล้ว เขายังเตรียมน้ำผลไม้จอกหนึ่งไว้ด้วย ทำเอาเยี่ยนเสี่ยวเป่าดีอกดีใจ “รัก! รัก พ่อ!”
เยี่ยนอวี๋มองเด็กน้อยที่ทานอย่างเอร็ดอร่อยก่อนจะมองชายที่กำลังป้อนอาหารให้เด็กน้อยอย่างเอาใจใส่ นางก็ผ่อนคลายลงอย่างไม่รู้ตัว หัวใจที่ว้าวุ่นเพราะเรื่องจักรพรรดิอสูรก็ค่อยๆ สงบนิ่งลง
แต่นางเพิ่งจะมองสองพ่อลูกได้เพียงครู่หนึ่ง ไข่ใบยักษ์ใบนั้นก็ระเบิดแตกออกมาดัง ‘ตู้ม’ ! ตัวมันถูกฟักออกมาแล้ว ทำเอาทั้งสามคนรวมถึงอสูรตี้อั้นที่กล้าๆ กลัวๆ มองไปที่ ‘มัน’ แล้ว
จากนั้น…
“?”
ตี้อั้นคิดว่ามันไม่เห็นอะไรเลย!
เยี่ยนอวี๋กะพริบตาอย่างเหลือเชื่อ
เยี่ยนเสี่ยวเป่ารู้สึกประหลาดปนดีใจ “ลูก ไก่!”
ใช่แล้ว ไข่ใบมหึมาและเปลือกแข็งมากใบนี้ สุดท้ายลูกไก่สีเหลืองนวลตัวหนึ่งก็ถูกฟักออกมา
“เอ่อ”
หรงอี้เองก็ไม่คิดว่าลูกไก่จะถูกฟักออกมา
ถึงอย่างไรเพียงแค่มองไข่ใบยักษ์ใบนั้นก็รู้ได้ว่ามันสามารถฟักปีศาจที่มีขนาดใหญ่เท่ามนุษย์สองถึงสามคนออกมาได้ อีกทั้งกลิ่นอายยังซับซ้อน มีพลังชีวิตแรงกล้า แต่แล้ว… กลับกลายเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น
จิ๊บ!
ลูกไก่สีเหลืองนวลกระโดดไปอยู่ต่อหน้าเยี่ยนอวี๋ เยี่ยนอวี๋ที่ไม่ทันตั้งตัวก็ถูกลูกไก่กระโดดเข้าใส่ และลูกไก่ตัวนั้นยังเรียก “แม่!”
หรงอี้ “…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่า [○・`Д´・○]
เขาเบิกตาโตอย่างโมโหและคว้าหมับไปที่ลูกไก่สีเหลืองนวลตัวนั้นทันที “ไม่! ไม่ใช่! แม่ ของเป่า!” เสี่ยวเป่าโมโหจนไม่เรียกว่า ‘แม’ ในที่สุดเยี่ยนเสี่ยวเป่าก็เรียก ‘แม่’ เขาโกรธจัด!
“แม่! แม่! แม่!” ลูกไก่สีเหลืองนวลกลับบอกว่านี่คือแม่ของมัน!
จากนั้นหรงอี้ก็ควักลูกไก่ตัวนั้นจากมือของเด็กน้อยมา “ผิดแล้ว นางคือเจ้านายของเจ้า! ไม่ใช่แม่ เข้าใจหรือไม่”
ลูกไก่สีเหลืองนวลที่อ้าปากก็จะเรียกแม่อีกครั้งก็สัมผัสถึงแรงกดดันมหาศาลจากหรงอี้ทันที! ทำเอามันตกใจจนขนลุกชัน พูดตะกุกตะกักว่า “เจ้า นาย…”
“ใช่แล้ว ข้าคือเจ้านายของเจ้า ไม่ใช่แม่ของเจ้า” เยี่ยนอวี๋ก็อุ้มเด็กน้อยที่กำลังโมโหสุดขีดเข้ามาปลอบ “เสี่ยวเป่าเป็นลูกของข้า”
“จิ๊บ!” ลูกไก่สีเหลืองนวลตอบตัวสั่นระริก ดวงตาสีเลือดก็กะพริบเล็กน้อย น้ำตาเริ่มคลอ
หรงอี้จึงวางลูกไก่ตัวนี้ลงเพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากเป็นพ่อไก่หรอกนะ เพียงแต่ว่า… ขณะที่ลูกไก่ตัวนี้ ‘เกิด’ นั่นเอง บนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า… บังเอิญเกิดเรื่องหนึ่งขึ้นเช่นกัน
เทียนตี้หรือเทพเจ้าแห่งทวยเทพที่จำศีลมาเกือบหมื่นปีออกจากการจำศีลแล้ว!
“เร็วเข้า!”
“เทียนตี้ออกจากจำศีลแล้ว เรียกรวมตัวเหล่าทวยเทพประชุมราชการ!”
“…”
หลังจากที่เทพนับไม่ถ้วนได้รับราชโองการแล้วต่างพากันออกเดินทางไปยังท้องพระโรง
ส่วนเทียนตี้ เทพอันดับหนึ่งในบัดนี้บนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแห่งนี้ เขากลับกำลังแหงนมองรูปปั้นรูปหนึ่ง ซึ่งก็คือรูปปั้นของเยี่ยนอวี๋ “เจ้าเอง กลับมาเกิดใหม่แล้วหรือ”