ตอนที่ 396 ปีศาจคลั่งรักเมียตื่น! สุดเถื่อนสุดเย้ายวน!
เยี่ยนอวี๋เองก็มองต้าซือมิ่งอย่างตะลึงงัน นางรู้สึกได้ว่าในที่สุดต้าซือมิ่งคนนี้ก็เริ่มได้เปรียบกว่า นี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ ‘ต้าซือมิ่ง’ หัวแดงอัญเชิญมหาอสุรกายขุมนรกแห่งความมืดออกมาไม่หยุด เพราะ ‘เขา’ กำลังจะทนไม่ไหวแล้ว
ทว่าความเคลื่อนไหวในขุมนรกแห่งความมืดกลับยิ่งผิดปกติมากขึ้น มหาอสุรกายระดับต่ำกว่าเทพมารที่แต่เดิมเพียงแค่หลีกไปไม่ไกลกลับพากันถอยกรูด ทำให้เกิดช่องว่างเพิ่มมากขึ้น
“สุดยอดเทพมาร” เยี่ยนอวี๋รู้ว่าต้องเป็นเพราะสุดยอดเทพมารในขุมนรกแห่งความมืดเคลื่อนไหวแล้ว พลังการต่อสู้ของสุดยอดเทพมารประเภทนี้แข็งแกร่งกว่าสิบสองเทพมารในอดีต เพียงแต่ว่าพวกมันไม่สามารถหนีจากขุมนรกแห่งความมืดเพื่อเอาชีวิตรอดได้
มหาอสุรกายระดับนี้พบได้น้อยในขุมนรกแห่งความมืด เยี่ยนอวี๋ในช่วงรุ่งโรจน์ก็มิอาจจัดการสุดยอดเทพมารเช่นนี้หลายตนเกินไปได้ อีกทั้งยังไม่สามารถกวาดล้างพวกมันออกไปจากขุมนรกแห่งความมืดได้! แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอมตะแล้ว
ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ…
โฮกกก
เมื่อเสียงคำรามอันน่าอกสั่นขวัญหายระเบิดออกมาจากส่วนลึกของขุมนรก ขุมนรกทั้งขุมก็สั่นสะเทือน! ความรุนแรงของการสั่นสะเทือนนี้ แม้จะไม่รุนแรงเท่าเมื่อครั้นต้าซือมิ่งผสานขุมนรก แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เยี่ยนอวี๋หน้าเปลี่ยนสี “ดูท่าตัวที่มาคือซิมบา สุดยอดเทพมารที่แข็งแกร่งที่สุดจริงด้วย”
และครั้งนี้ พิกซีที่อยู่หน้าทางเข้าขุมนรกแห่งความมืดก็ได้ยินเสียงคำรามและรู้ว่าเป็นเสียงคำรามของใคร “มหาอสุรเทพซิมบา! ทำไมมันออกมาด้วยแล้วล่ะ”
ในขณะเดียวกัน ปีศาจแฝงฝันที่เพิ่งจัดการเรื่องในเมืองรองเสร็จและเร่งเดินทางมาถึงที่นี่ก็ได้ยินเสียงคำรามนี้พอดี นางตกใจจนโพล่งพูดออกไปว่า “ฝ่าบาทกำลังท้าสู้กับมหาเทพมารซิมบาหรือ”
“เกรงว่ามหาเทพมารซิมบาท้าสู้กับฝ่าบาทมากกว่า” แม้พิกซีไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ข้างล่างได้ แต่สัญชาติญาณของมันบอกมันว่าเป็นเช่นนั้น ถึงอย่างไรตั้งแต่ที่องค์จักรพรรดิเข้าไปในขุมนรกตั้งแต่เมื่อพันปีก่อน มหาเทพมารซิมบาก็เหมือนจะหายสาบสูญไปแล้ว อีกอย่างว่ากันตามตรง พิกซีรู้สึกจากใจว่าฝ่าบาทแข็งแกร่งกว่ามหาเทพมารซิมบาในตำนานมากนัก เพราะมันเคย ‘มีโอกาส’ สัมผัสฤทธิ์เดชของมหาเทพมารซิมบาจากที่ไกล หากไม่ใช่เพราะมันซ่อนตัวได้ทันเวลาและเป็นเพียงอสูรตัวน้อยๆ จึงไม่ถูกจับได้ มันคงไม่มีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้และก็เป็นเพราะโอกาสดังกล่าว พิกซีน้อยจึงรู้ดีกว่าปีศาจแฝงฝันว่าอันที่จริงมหาเทพมารซิมบาในตำนานไม่ได้ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งไปกว่าฝ่าบาทของพวกเขา
ทว่าปีศาจแฝงฝันไม่มั่นใจเลยแม้แต่น้อย “ไม่แน่ ถึงอย่างไรก็เป็นขุมนรกแห่งความมืด ตั้งแต่ที่มีบันทึกประวัติศาสตร์เผ่ามารของเรามา มหาอสุรเทพซิมบาก็อยู่ในขุมนรกแห่งความมืดมาโดยตลอด แต่ฝ่าบาทอายุน้อยกว่ามันมากนัก”
“ความสามารถทดแทนความต่างของวัยได้” พิกซีน้อยยืนหยัดในความเห็นของตนเอง ทว่ามีเรื่องหนึ่งที่มันสงสัย “ช่วงพันปีที่ผ่านมานี้ มหาอสุรเทพซิมบาแทบจะสาบสูญไปแล้ว เหตุใดวันนี้จึงปรากฏตัวขึ้นอีก”
แต่เดิมพิกซีคิดว่า จักรพรรดิอสูรของพวกเขากลืนกินมหาอสุรเทพซิมบาไปแล้ว มิเช่นนั้นเหตุใดพันปีที่ผ่านมานี้จึงไม่เห็นเจ้าแห่งขุมนรกแห่งความมืดตนนี้เลยเล่า
หารู้ไม่ว่า ตลอดพันปีที่ผ่านมานี้ มหาเทพมารซิมบาทำตัวประหนึ่งลูกเต่าขี้ขลาดมาตลอด มันไม่กล้าออกมาจนถึงบัดนี้! ตอนนี้มันรับรู้ได้ว่า ‘ต้าซือมิ่ง’ หัวแดงจะจบเห่แล้ว มันจึงกล้าออกมาและยังไม่วายมาซ้ำเติม!
เยี่ยนอวี๋ย่อมมองจุดประสงค์ของมันได้ทะลุปรุโปร่ง ดังนั้นหลังจากที่นางมั่นใจว่าอสูรที่มาคือสุดยอดเทพมารซิมบาแล้วก็หันไปกำชับลูกไก่สีเหลือง “ระวังตัวด้วย”
“ไม่มีปัญหา!” ลูกไก่สีเหลืองรู้สึกประหม่าจนแผ่ซ่านของเหลวโกลาหลออกมา กลัวว่าถ้าแผ่ออกมาช้ากว่านี้จะไม่ทัน ต้องปกป้องพ่อของมันไว้ก่อน
เยี่ยนเสี่ยวเป่าเองก็เร่งตัวเอง “เร็ว เร็ว!”
เด็กน้อยผู้ไม่รู้ว่าต้องใช้พลังของตนเองอย่างไรกลับ ‘เร่ง’ ตนเองได้เร็วขึ้น หมอกสีขาวที่แผ่กระจายออกมาจากตัวเขาก็ไหลเข้าไปในกลุ่มอักษรศักดิ์สิทธิ์ของท่านพ่อของเขาอย่างรวดเร็ว แต่จู่ๆ เด็กน้อยก็รู้สึกหิวมาก เขาจึงช่วยพ่อพลางจับตาดูท่านแม่พร้อมกับหยิบขนมไหน่เกาออกมากิน ทำเอาตี้อั้นที่เหลือบมองเขาถึงกับสะอึก ดูยุ่งเสียจริงๆ!…
แม้แต่เยี่ยนอวี๋ นางเองก็ขบขันกับท่าทางกวนประสาทของเด็กน้อย สถานการณ์คับขันเช่นนี้ยังไม่ลืมกิน สมแล้วที่เป็นลูกของนางและหรงอี้
ในขณะเดียวกัน…
มหาเทพมารซิมบาที่ปีนออกมาจากขุมนรกแห่งความมืดก็จำเยี่ยนอวี๋ได้ “ปฐมราชินี เจ้าจริงๆ ด้วย”
“สบายดีหรือ” เยี่ยนอวี๋สัมผัสได้ว่าอันที่จริงสภาพของสุดยอดเทพมารในตำนานนั้นก็ไม่ได้ดีไปกว่าในอดีตนัก
“เช่นกัน” ในขณะที่มหาเทพมารซิมบาตอบ มันก็กลายร่างจากอสูรที่มีแต่ดวงตาวิเศษเป็นชายร่างใหญ่หน้าตาบิดเบี้ยวผิดรูป ทำเอาเยี่ยนอวี๋รู้สึกขยะแขยงจนจำเป็นต้องพูดว่า “เจ้าใช้ร่างเดิมสู้เถอะ”
“เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ถือเสียว่าเป็นการให้เกียรติเจ้า ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะตกต่ำเหมือนข้า” มหาเทพมารซิมบาดูออกว่าสภาพของเยี่ยนอวี๋ดีไม่ถึงครึ่งหนึ่งของอดีตด้วยซ้ำ ย่ำแย่กว่าเขาเสียอีก
“จัดการเจ้า แค่นี้ก็พอแล้ว” เยี่ยนอวี๋ตอบ
มหาอสุรเทพซิมบา “…”
เขาไม่ชอบสนทนากับปฐมราชินีคนนี้เลย
แต่จะทำอย่างไรได้ วันนี้เขาต้องคุยกับนางสักเล็กน้อย เขาจึงเปลี่ยนเรื่องคุยว่า “ปฐมราชินี แม้ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีความสัมพันธ์เช่นไรกับชายที่ขนานนามตนเป็นจักรพรรดิอสูรคนนี้ แต่เจ้าเป็นเทพผู้สร้างโลก เป็นปรปักษ์กับเผ่ามารของข้าตั้งแต่ไหนแต่ไรมา เจ้าไม่กำจัดเขาเสียแต่ต้นจะเป็นหายนะไม่สิ้นสุด ข้าขอเสนอแผนการให้เจ้า เรามาร่วมมือกันกำจัดเขาตอนนี้เสีย! ข้าจะได้ถือโอกาสฟื้นฟูพลังของตนเอง ส่วนเจ้าก็ยิ่งไม่ต้องเป็นห่วงว่าแดนมืดวิญญาณอสูรจะมีจักรพรรดิอสูรที่เจ้าควบคุมไม่ได้ ว่าอย่างไร”
เมื่อเขาพูดเสร็จ เยี่ยนอวี๋ยังไม่ทันตอบ เด็กน้อยก็โมโหก่อนแล้ว “อ้ะเนะ! เบี้ยว…” เยี่ยนเสี่ยวเป่ายังไม่ทันกลืนขนมลงไปก็ชี้หน้าด่าซิมบาหน้าตาบิดเบี้ยว “เบี้ยว! แค่ก… อึก!” ขนมเกือบจะพุ่งอออกมาจากปากของเด็กน้อย เขาจึงรีบกลืนลงไป
เยี่ยนอวี๋จึงได้ ‘จังหวะ’ ตอบกลับไปว่า “ไม่ว่าอย่างไร ผู้ชายของข้า ข้าไม่คิดว่าข้าจะเอาเขาไม่อยู่”
“…” มหาอสุรเทพซิมบาอ้ำอึ้ง ไม่คิดเลยว่าเจ้าสุนัขจักรพรรดิอสูรตัวนี้จะหลอกล่อปฐมราชินีหยวนชูมาได้ หากจักรพรรดิอสูรสุนัขตัวนี้ไม่เป็นศัตรูกับตน คงเป็นเกียรติของเผ่ามารนัก
ในครานั้น ปฐมราชินีหยวนชูฆ่าล้างเผ่ามารจนแทบสูญสิ้น ตอนนี้สิดี! ไม่นึกเลยว่าชายที่กวาดล้างแดนมืดตั้งตนเป็นจักรพรรดิอสูรจะให้ปฐมราชินีสร้างทายาทให้เขา สุดยอดจริงๆ…
แม้มหาอสุรเทพซิมบามาเพื่อซ้ำเติม แต่การกระทำเหนือชั้นของจักรพรรดิอสูรก็ทำให้เขารู้สึกชื่นชม อีกทั้งยังรู้สึกชื่นชมจากใจจริง! ถึงอย่างไรเขาก็ทำไม่ได้
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีอะไรคุยด้วยแล้ว” มหาอสุรเทพซิมบารู้สึกเสียดาย “ไม่คิดเลยว่าปฐมราชินีหยวนชูผู้เป็นปรปักษ์กับเผ่ามารของข้าในครานั้นจะเป็นคนที่ปกป้องจักรพรรดิอสูรในวันนี้ หวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจ จงรู้ไว้ว่าเขาแข็งแกร่งกว่าข้ามากนัก ข้าจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่สามารถออกจากแดนมืดได้ ไม่เหมือนกับเขา เกรงว่าเขาอาจจะทำลายผนึกของเจ้าได้ เจ้าเชื่อหรือไม่”
“ผู้ชายของข้าย่อมแข็งแกร่งกว่าเจ้า มิเช่นนั้นข้าคงไม่ชอบ” เยี่ยนอวี๋กล่าว
“…” มหาอสุรเทพซิมบาสะอึกอีกครั้ง มันคุยต่อไปด้วยไม่ได้แล้ว มันจึงกลายร่างเป็นดวงตาสีเลือดขนาดยักษ์คู่หนึ่ง ซึ่งก็คือร่างจริงของมัน
เยี่ยนอวี๋เองก็รวบรวมพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม แต่แล้วมหาอสุรเทพซิมบาก็พูดขึ้นว่า “หากเจ้าไม่อัญเชิญกระบี่ไท่ชางมา เจ้าก็มิใช่คู่ต่อสู้ของข้า”
เมื่อพูดจบ มหาเทพมารซิมบาก็ไม่ปล่อยให้เยี่ยนอวี๋มีเวลาอัญเชิญกระบี่ไท่ชาง มันก็แค่บอกให้รู้เท่านั้น อีกทั้งขณะที่มันกำลังพูดก็เริ่มจู่โจมแล้ว ดังนั้นเมื่อสิ้นเสียงพูด…
ฟิ้ว!
สายตาเปื้อนเลือดก็จู่โจมเหนือร่างเยี่ยนอวี๋ทันที
“สายตามรณะ!”
เสียงของมหาอสุรเทพซิมบาดังขึ้นพร้อมกับสายตาที่จู่โจมไป พลังมรณะแดนมืดถูกเปิดใช้งาน มันกัดกร่อนไปทางเยี่ยนอวี๋ รวมถึงกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังนาง
แซ่ด!
สายตาสีเลือดซัดใส่ประหนึ่งกระแสน้ำเชี่ยวกราก ทุกๆ ที่ที่มันเคลื่อนผ่านเกิดควันโขมง เพลิงจิ่วเฟิงของเยี่ยนอวี๋ดับมอดลงเป็นสิ่งแรก จากนั้นก็เข้าไปทำลายพลังซีหวังหมู่อย่างรวดเร็ว
วี้ด!
ซีหวังหมู่ที่ดุร้ายจู่โจมกลับไปยังต้นพลังไม่ล่าถอย! แผดเสียงดังกึกก้อง โจมตีกลับอย่างต่อเนื่อง เชือดเฉือนกระแสเลือดที่ไหลเชี่ยวมา แต่แล้วยังคงมีกระแสเลือดที่เล็ดลอดผ่านไปได้ มันกำลังแผ่ไปทางต้าซือมิ่งผ่านวงแหวนป้องกันของเยี่ยนอวี๋
กระแสเลือดเหล่านี้ยังสามารถทะลุผ่านของเหลวโกลาหลที่ลูกไก่สีเหลืองสร้างขึ้น! เด็กน้อยร้อนรนในทันที เขาแนบลงไปที่กลุ่มอักษรศักดิ์สิทธิ์อย่างแนบแน่นโดยที่ไม่สนใจคำกำชับของท่านแม่แล้ว แสดงท่าที ‘พ่อของข้า ข้าต้องปกป้อง’
ส่วนเยี่ยนอวี๋ นัยน์ตาของนางก็ปรากฏแสงสีม่วงหม่น ทำเอามหาอสุรเทพซิมบาที่คอยสังเกตนางระวังตัวขึ้นมาทันที “กระแสน้ำมรณะ…”
ตู้ม! มหาอสุรเทพซิมบาที่หลอมรวมดวงตาสีเลือดเข้าไปในกระแสน้ำสีเลือดก็สู้สุดชีวิต เขากระชากซีหวังหมู่ทิ้ง โถมใส่เด็กน้อยและกลุ่มอักษรศักดิ์สิทธิ์ที่เด็กน้อยปกป้องไว้ แม้เป้าหมายของมันคือต้าซือมิ่ง แต่ทุกๆ ที่ที่มันผ่าน ผู้ขวางย่อมต้องตาย!
เยี่ยนอวี๋รู้จักความสามารถของมหาอสุรเทพซิมบาดี นางจึงเริ่มอัญเชิญกระบี่ไท่ชาง “ไท่…” นางเพิ่งจะเอ่ยขึ้นคำหนึ่งก็ต้องหยุดชะงักลง เพราะว่าต้าซือมิ่งลืมตาขึ้นอีกครั้งและมองมาที่นางแล้ว! ในครานี้… ดวงตาคู่นี้เป็นดวงตาสีม่วงใสกระจ่าง