ตอนที่ 417 ปฐมราชินีสมรส สวรรค์ร่วมยินดี!
ทว่าเยี่ยนจื่อเสาก็เตือนอย่างเด็ดขาดว่า “ถึงเวลาแล้ว! น้องเขยเจ้าออกมาได้แล้ว!”
ต้าซือมิ่งหยุดชะงักเล็กน้อย ตอนนี้เขามีความคิดอยากจะต่อยพี่รองจริงๆ! และก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดพ่อตาจึงชอบต่อยพี่รองคนนี้นัก
พรวด! เยี่ยนอวี๋หัวเราะ ดวงตาเต็มไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง สดใสงดงามทำให้ผู้คนทึ่งในความงาม แต่นางสวมกอดชายตรงหน้าที่ยังคงไม่รู้ตัวก่อนจะจูบเขาเบาๆ “ไปเถอะ”
หรงอี้ที่หยุดหายใจไปชั่วขณะหนึ่งก็สวมกอดภรรยางดงามไร้ที่ติไว้แน่น ไม่อยากปล่อยมือออก ซบศีรษะเข้าไปในซอกคอของนางอีกครั้ง “ไม่อยากไป”
เยี่ยนอวี๋ที่รู้สึกราวกับว่าชายคนนี้กำลังอ้อนอยู่นั้นก็ลูบหลังเขาเบาๆ ทำเอาต้าซือมิ่งตัวแข็งเกร็งและกอดนางแนบแน่นขึ้นกว่าเดิม กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “เจ้าจับตรงไหนน่ะ”
เยี่ยนอวี๋ชะงักเล็กน้อย นางหยิกหลังของเขาทีหนึ่ง “ทำไมหรือ จับไม่ได้หรือ”
“จับได้” ต้าซือมิ่งที่กอดเจ้าปลาน้อยตัวนี้ไว้มิสามารถอดกลั้นความรู้สึกอยากจะ…
“เอ๋” เยี่ยนอวี๋กะพริบตาสองสามทีกำลังจะพูดอะไร
เยี่ยนจื่อเสาที่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ก็ตบประตูเสียงดังแล้ว “ล่วงเวลามาครู่หนึ่งแล้ว! ท่านพ่อมาแล้ว น้องเขยเจ้ารีบออกมาเถอะ มิเช่นนั้นโดนอะไรไปอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
ต้าซือมิ่งสูดหายใจเข้าลึก เขาจูบริมฝีปากของเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์อย่างดูดดื่มทีหนึ่งก่อนจะปล่อยตัวนางออก “พรุ่งนี้จะให้เจ้าจับจนพอเลย”
ทว่าเยี่ยนอวี๋อยากจะจับตอนนี้เลย “เจ้าให้ข้าดูก่อนสิ” ทำไมนางจึงรู้สึกแปลกๆ นะ
แต่จะทำอย่างไรได้ เยี่ยนชิงที่อุ้มเยี่ยนเสี่ยวเป่ากลับมาก็ผลักประตูเข้ามาแล้ว เยี่ยนอวี๋จึงหดมือกลับมาก่อนจะหันไปมองท่านพ่อเจ้าน้ำตาและเด็กน้อย ฝ่ายหลังยื่นมืออวบอ้วนไปหานางอย่างมีความสุข “แม่อุ้ม!”
ต้าซือมิ่งยืนข้างกายเยี่ยนอวี๋ แขนข้างหนึ่งไพล่หลัง ส่วนอีกข้างวางไว้ข้างหน้าด้วยท่าทีจริงจัง ปล่อยให้เยี่ยนชิงพ่อตาท่านนี้สำรวจ
เมื่อเยี่ยนชิงเห็นว่าหนุ่มสาวที่ยังไม่แต่งงานสองคนนี้อยู่ในกฎระเบียบดีก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เตือนว่า “พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า เจ้าเด็กหรงพาเสี่ยวเป่ากลับไปพักผ่อนได้แล้ว มิเช่นนั้นพรุ่งนี้เสี่ยวเป่าจะงัวเงียอีก”
“ไม่!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่าตนเองเป็นเด็กน้อยมีชีวิตชีวา ไม่มีทางงัวเงียหรอก เขายังกอดท่านแม่ไว้แน่นพูดว่า “แม่! นอนกับแม่!”
เยี่ยนอวี๋กำลังจะพูดว่าได้ เด็กน้อยในอ้อมอกก็ถูกต้าซือมิ่งอุ้มไปแล้ว “พรุ่งนี้ค่อยนอนกับท่านแม่พร้อมท่านพ่อ วันนี้นอนกับพ่อก่อน”
“ทำ…ทำไม เป่าต้องรอนอนกับแม่พร้อมพ่อพรุ่งนี้” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพูดพลางอยากจะยื่นมือให้ท่านแม่ของเขา แต่กลับถูกท่านพ่อปัดลง “คืนนี้ท่านแม่ของเจ้าไม่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนเจ้า นางต้องแต่งหน้าแต่งตัว”
“ข้า ข้า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพยายามอีกครั้ง
ต้าซือมิ่งอุ้มเขาขึ้นไหล่ “ไม่อยากฝึกค้อนจิ๋วแล้วหรือ”
“ฝึก!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าลืมเรื่องนอนกับท่านแม่ทันที เขากอดท่านพ่อของเขาไว้แน่นพลางโบกมือให้ท่านแม่ของเขา “แม่ เป่าไป! พรุ่งนี้ค่อย ค่อยมา!”
แต่เดิมเยี่ยนอวี๋อยากจะให้เด็กน้อยอยู่กับนาง แต่ต้าซือมิ่งพูดถูก นางอาจจะต้องตื่นเช้าเพื่อแต่งตัว และยังต้องอยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อเจ้าน้ำตาและพี่ชายทั้งสองท่านด้วย อาจจะไม่มีเวลาอยู่กับลูก นางจึงได้แต่เดินขึ้นไปจูบเด็กน้อยตัวนุ่มนิ่ม พูดว่า “ไปเถอะ”
“ข้าล่ะ” ต้าซือมิ่งบอกว่าเขาเองก็อยากได้จูบลา
เยี่ยนชิงหมดคำพูด รู้สึกว่าเจ้าบัดซบคนนี้ช่างไม่เห็นพ่อตาเช่นเขาในสายตาจริงๆ! ลวนลามบุตรสาวสุดที่รักของเขาต่อหน้าเขาเช่นนี้
แต่แล้วเยี่ยนอวี๋ก็เขย่งปลายเท้าขึ้นจูบปากของชายบางคน นางจูบริมฝีปากตรงๆ! ทำเอาเยี่ยนชิงตา ‘ร้อนผ่าว’ น่าโมโหจริงๆ! แต่ก็ว่าอะไรบุตรสาวของตนไม่ได้จึงได้แต่ไล่ลูกเขยไป “พอแล้ว! รีบออกไปซะ!”
ต้าซือมิ่งที่ได้ลูกอมแล้วก็กล่าวลาอย่างมิใช่คนได้คืบจะเอาศอกต่อหน้าพ่อตา “งั้นข้าไปนะ พรุ่งนี้เจอกัน”
“อืม” เยี่ยนอวี๋ตอบ
จากนั้นต้าซือมิ่งจึงกล่าวลาเยี่ยนชิงและเยี่ยนจื่อเสาก่อนจะพาเด็กน้อยจากไปอย่างมีความสุข
เยี่ยนอวี๋ได้ยินเด็กน้อยเรียก ‘พ่อ’ อย่างตื่นเต้นดีใจไม่หยุด ยังถามตะกุกตะกักว่า “เรียนยัง ยังไง เป่า เป่าไม่เป็น”
“ไม่รีบ” ต้าซือมิ่งรวบตัวเด็กน้อยเล็กน้อย ในหัวของเขาคิดแต่เรื่องภรรยาตัวนุ่มนิ่ม เขาตอบเด็กน้อยอย่างเหม่อลอย
แต่นี่ก็ไม่ทำให้เยี่ยนเสี่ยวเป่าหยุดตื่นเต้นได้ “พ่อ! พ่อ…”
“เจ้าหมอนี่” เยี่ยนชิงมองลูกเขยที่เดินออกจากเรือนไป อันที่จริงเต็มไปด้วยความรู้สึกพึงพอใจ แต่ปากยังคงพูดว่า “กล้าได้กล้าเสียเข้าไปทุกที!”
“ก็ไม่เช่นนั้น” เยี่ยนอวี๋ปกป้อง “ปกติดี” หากเมื่อครู่นี้นางไม่ได้รู้สึกไปเอง เขาก็ปกติดีนะ ทำไมต้องบอกว่าตนเองมีปัญหา เยี่ยนอวี๋ที่ไม่เข้าใจคิดไว้ว่าค่อยถามและค่อยดูพรุ่งนี้ เยี่ยนชิงพูดขึ้นว่า “เจ้าตามพ่อมา ท่านแม่ของเจ้าเก็บสินเดิมไว้ให้เจ้า อันที่จริงนั่นควรเป็นสิ่งที่ท่านแม่เจ้าต้องให้เจ้าด้วยตัวนางเอง ตอนนี้พ่อต้องขอให้เจ้าแทนท่านแม่ของเจ้าแล้ว”
“เจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋ตอบอย่างเชื่อฟัง นางยื่นมือไปประคองแขนของท่านพ่อด้วยสัญชาติญาณ
เยี่ยนชิงยิ้มและยกมือขึ้นตบหลังมือของบุตรสาวเบาๆ “ไม่ต้องเป็นห่วง พ่อสบายดี”
เยี่ยนจื่อเสาที่ถูกเมินเฉยอีกครั้งก็… ก็ไปเล่นคนเดียวแล้ว
…
รุ่งสางในวันถัดมา ช่างแต่งหน้ากำลังจะแต่งหน้าให้เยี่ยนอวี๋ในห้องนางแล้ว
“คุณหนูใหญ่…” ชุ่ยชุ่ยที่อยู่คอยรับใช้ตาแดงก่ำ เพราะว่านางรู้ว่าตามธรรมเนียมของชางอู๋แล้ว หากฮูหยินยังอยู่ นางต้องเป็นคนแต่งหน้าให้บุตรสาว
ทว่าชุ่ยชุ่ยเพิ่งจะคิดได้เช่นนี้ เยี่ยนชิงที่เร่งมาถึงก็หยิบหวีขึ้นมาหวีผมให้บุตรสาวก่อนที่ช่างแต่งหน้าจะแต่งหน้าให้นางแทนภรรยาสุดที่รักของเขาแล้ว “หนึ่งหวีหวีถึงหัว ร่ำรวยมีกินมีใช้ สองหวีหวีถึงหัว ไร้โรคไร้กังวล สามหวีหวีถึงหัว ลูกหลานเต็มบ้านอายุยืน หวีอีกคราหวีจรดปลาย ครองคู่เคารพรัก สองหวีหวีจรดปลาย ไม่มีวันแยกจากกัน สามหวีหวีจรดปลาย รวมเป็นหนึ่งตลอดไป มีทั้งต้นมีทั้งปลาย ชีวิตนี้จะมั่งมีศรีสุข”
เยี่ยนชิงที่อ่านกลอนจบชัดถ้อยชัดคำก็หวีผมให้บุตรสาวอย่างตั้งอกตั้งใจ ดังเช่นในความทรงจำของเยี่ยนอวี๋เมื่อชาติที่แล้ว เขาก็รีบเร่งมาหานางเพื่อหวีผมให้นางแทนมารดาแท้ๆ เช่นนี้ สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือ ครั้งนี้เยี่ยนชิงไม่มีน้ำตา เขาลูบผมนุ่มลื่นของบุตรสาวเบาๆ แม้จะรู้สึกเศร้าแต่ก็รู้สึกปลื้มใจ “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ ต่อไปพ่อช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว เจ้ามีอะไรต้องคุยกับหรงอี้ให้มาก เขา…ไม่แย่เลย”
หลังจากเยี่ยนชิงได้เห็นด้วยตาตนเองแล้วก็วางใจลงไม่น้อย เขาคิดว่าลูกเขยคนนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สายตาที่เจ้าหมอนั่นมองบุตรสาว คนเคยผ่านน้ำร้อนเช่นเขาย่อมดูออกว่านั่นคือสายตาที่มองผู้เป็นที่รัก แม้เยี่ยนชิงจะอาวรณ์ที่ต้องให้เจ้าหมอนั่นดูแลบุตรสาว แต่เขาก็รู้สึกวางใจ อีกทั้งเขายังรู้ดีว่าเส้นทางในอนาคตของบุตรสาวสุดที่รักมีเพียงลูกเขยคนนี้ช่วยได้ บางที… เจ้าหมอนั่นอาจจะให้ความสงบสุขแก่เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์สุดที่รักของเขาได้ก็ได้
“เจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋ก็ขานตอบอย่างจริงใจ นางมองท่านพ่อของนาง “ท่านพ่อช่วยข้าไว้มากมาย ท่านพ่อต้องช่วยข้าต่อไปนะเจ้าคะ ข้าจะกลับมาอีก”
“พ่อและพี่ชายทั้งสองของเจ้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่เสมอ สำนักชางอู๋คือบ้านของเจ้า” เยี่ยนชิงสัญญาว่าเหตุการณ์ที่ถึงหน้าบ้านแล้วถูกไล่เช่นคราวก่อนจะไม่เกิดขึ้นอีก!
เยี่ยนอวี๋ถอนหายใจเบาๆ ให้ช่างแต่งหน้าแต่งหน้าและให้ชุ่ยชุ่ยเปลี่ยนชุดแต่งงานสีแดงสดให้นาง และชุดแต่งงานนั่นคือชุดที่จางอวิ๋นเมิ่งเย็บให้เองเช่นเดียวกับเมื่อชาติที่แล้ว ถึงแม้ต่อมาจางอวิ๋นเมิ่งจะจากไป นางยังคงยืนหยัดที่จะตัดเย็บชุดแต่งงานให้ลูกสาวคนสุดท้องของนาง ซึ่งเป็นชุดที่พอดีกับตัวนางมากด้วย!
ราวกับว่านางไม่เคยจากไปจากบุตรสาวที่นางรักที่สุด นางได้เห็นบุตรสาวเติบใหญ่และได้ตัดเย็นชุดแต่งงานให้นางด้วยตนเอง ความรู้สึกมากมายถาโถมเยี่ยนอวี๋จนนางมิอาจสงบจิตสงบใจลงได้เป็นเวลานาน
เมื่อเยี่ยนชิงเห็นบุตรสาวสวมชุดแต่งงานที่พอดีตัวแล้วก็อดน้ำตาไหลไม่ได้ “ดี ดี!” เมิ่งเอ๋อร์ของเขาไม่ว่าทำอะไรก็จะทำออกมาได้ดีที่สุด แม้จะเป็นเมื่อสิบกว่าปีก่อน นางก็รู้ว่าบุตรสาวจะเติบใหญ่มีรูปร่างเช่นใด นางตัดเย็บชุดแต่งงานให้บุตรสาวได้
เยี่ยนอวี๋กอดท่านพ่อที่ถึงอย่างไรก็ร้องไห้อยู่ดี ปลอบว่า “ไม่ร้อง วันนี้เป็นวันมงคลนะเจ้าคะ”
ช่างแต่งหน้ารู้สึกแปลกพิกล อันที่จริงนี่คือคำพูดที่ครอบครัวพูดกับเจ้าสาวจึงจะถูก เหตุใดจึงกลับกันนะ…
“ได้ฤกษ์แล้ว…”
ผู้ดูแลแขกที่อยู่ข้างนอกประกาศ เยี่ยนชิงจะอาลัยอาวรณ์อย่างไรก็ทำได้เพียงส่งตัวบุตรสาวออกไป และในครั้งนี้คนที่แบกเยี่ยนอวี๋เปลี่ยนเป็นเยี่ยนจื่อเยี่ยพี่ใหญ่คนนี้ ต่างจากชาติที่แล้วที่เขามาไม่ทันงานแต่งด้วยซ้ำ
เพียงแต่ว่าเยี่ยนจื่อเยี่ยเพิ่งจะแบกน้องสาวขึ้นมา เขาก็มองไปบนท้องฟ้าราวกับสัมผัสบางสิ่งได้
ในขณะเดียวกัน…
วิ้ง!
แสงหลากสีรวมตัวกันบนท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งไร้เมฆ ทำให้แขกที่มามุงดูอดคิดไม่ได้ว่าหรือว่าเป็นปรากฏการณ์สวรรค์ร่วมยินดีด้วย
ในความเป็นจริงแล้ว สวรรค์ก็กำลังแสดงความยินดีกับปฐมราชินีหยวนชูจริงๆ! ราชินีผู้สร้างและเปลี่ยนแปลงมัน!
เพียงแต่ว่า…
“หืม?”
ต้าซือมิ่งที่ใส่ชุดเจ้าบ่าวอุ้มเด็กน้อยที่สวมชุดสีแดงสดกำลังมองท้องฟ้าเช่นกัน เขาสัมผัสได้ว่าในขณะที่สวรรค์ร่วมยินดีมีพลังงานแปลกประหลาดกำลังก่อตัวขึ้นในส่วนลึกของท้องฟ้า และพลังงานนี้เองเยี่ยนอวี๋ก็รับรู้แล้วเช่นกัน นางเปิดผ้าคลุมศีรษะออกเพราะสิ่งนี้ และมองไปบนท้องฟ้าด้วยสีหน้าเคร่งมขรึม “สวรรค์เก้าชั้นฟ้ากำลังจะปิดถาวรแล้ว!” มีเทพเข้ามาขัดขวางไม่ให้นางกลับไป!