ตอนที่ 420 พลังสร้างโลกหวนคืน! สวรรค์เก้าชั้นฟ้าสะเทือน!
รอบกายเยี่ยนอวี๋เต็มไปด้วยดวงดาวโบราณ นางถูกปกคลุมไปด้วยหมู่ดาว หมอกเพลิงนับไม่ถ้วนกะพริบข้างกายนาง ในนั้นมีกระจุกแสงสีขาวพร่างพราย มีดวงดาวสีแดงสดขนาดยักษ์สว่างไสวและหลุมดำอันลึกลับ…
ภาพจักรวาลเสมือนจริงที่เคยโอบล้อมรอบเยี่ยนอวี๋ไม่พร่ามัวอีกต่อไป ในยามนี้พวกมันเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นหนาอยู่ข้างกายเยี่ยนอวี๋ พวกมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บ้างรวมตัวบ้างกระจายตัวไปพร้อมกับลมหายใจของนาง
และนี่หมายความถึง…
“กลับคืนแล้ว”
ต้าซือมิ่งผู้ที่รู้จักปฐมราชินีเยี่ยนดีก็รู้ดีว่านี่หมายถึงพลังสร้างโลกที่เป็นของภรรยาของเขากำลังกลับคืนสู่นาง นางซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของจักรวาลตั้งแต่ต้นกำลังรับคืนพลังของนางเอง
“ว้าว!”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่แม้จะฟังไม่รู้เรื่องแต่ก็ชมดูอย่างตื่นตาตื่นใจอุทานออกมา เขารู้สึกว่าท่านแม่ของเขางดงามมากจริงๆ
“ว้าววว”
ลูกไก่ที่คิดว่าเจ้านายสวยมากเช่นกันก็เต้นระบำอย่างดีอกดีใจ บางครั้งยังอยากจะยืนบนศีรษะโล้นๆของเด็กน้อย ทำเอาเด็กน้อยต้องไล่ตีมันอย่างไร้ความเมตตา
“แม่เจ้า!” เอ้อร์เหมาอุทานคำพูดติดปากของนายน้อยของเขา เขารู้สึกเพียงว่าคุณหนูใหญ่ในบัดนี้เป็นเทพของเทพชัดๆ ช่างน่าตะลึงจริงๆ!
แต่อินหลิวเฟิงกลับนั่งขัดสมาธิลงจนทำให้ทุกคนแปลกใจ อีกทั้งราวกับว่าเขายังได้รับผลประโยชน์ในขณะที่เยี่ยนอวี๋เรียกพลังศักดิ์สิทธิ์คืนและกำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
วี้ด!
วี้ด!…
วิหคทมิฬสีแดงเลือนรางวูบไหวอยู่ข้างกายอินหลิวเฟิงตลอดเวลา นำพากลิ่นอายลึกลับและเก่าแก่มา ทำให้เขาที่แต่เดิมมีตบะขั้นวิญญาณปฐมภูมิกำลังเลื่อนขั้นขึ้นอย่างชัดเจนและมั่นคง!?
เอ้อร์เหมาตะลึงงัน อดโพล่งออกมาไม่ได้ว่า “คงไม่ใช่หรอกมั้ง นายน้อยเกาะผู้หญิงกินจริงๆ หรือ แม้แต่เลื่อนขั้นยังเกาะได้”
“ไร้ยางอาย” เม่ยเอ๋อร์ได้แต่ให้ความเห็นเช่นนี้
“…” เอ้อร์เหมามิอาจโต้แย้งได้ ถึงอย่างไรเขาก็คิดว่านายน้อยของเขาไร้ยางอายจริงๆ
ส่วนเทพไร้ประโยชน์สององค์ที่กล้าๆ กลัวๆ ต่างก็ตกตะลึงไป! เพราะว่าแต่เดิมพวกเขาคิดว่าเยี่ยนอวี๋คือหงส์เทพเป่ยหมิง แต่บัดนี้…
“นะ นี่มัน…” เทพไร้ประโยชน์ทั้งสองที่พูดอะไรไม่ออกได้แต่คิดว่าเยี่ยนอวี๋แข็งแกร่งกว่าหงส์เทพเป่ยเมิงที่พวกเขาคิดไว้มาก! ถึงแม้เทพองค์น้อยเช่นพวกเขาจะไม่ได้มีความรู้มากนัก แต่พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เยี่ยนอวี๋แผ่ซ่านออกมาเก่งกาจกว่าท่านเทพที่พวกเขาเคยพบเจอมากนัก!
หรือว่านางจะไม่ใช่เทพธรรมดาทั่วไป แต่เป็นเทพโบราณดั้งเดิมในตำนานเหล่านั้น!?
นี่มัน…
เทพไร้ประโยชน์ทั้งสองตัวสั่นสะท้าน จู่ๆ ก็รู้สึกว่าที่ตนเองไม่ถูกบีบคอตายถือว่าโชคดีมากแล้ว และก็ถือว่าท่านเทพมีใจเมตตาแล้ว
ในขณะที่เทพไร้ประโยชน์สององค์ตัวสั่นสะท้านอยู่นั้น เทพเฝ้าประตูของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าสององค์กลับมองเห็นเยี่ยนอวี๋รวมถึงหรงอี้และคนอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณเขตบำเพ็ญตบะของนางได้ไม่ชัด
“เกิดอะไรขึ้น?!” เทพสององค์เห็นเพียงการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มดาวรู้สึกกระทั่งว่าหากพวกเขามองต่อไป ทั้งตัวและหัวใจก็จะสั่นสะท้านจนอยากจะคุกเข่าลง ทำเอาพวกเขาไม่กล้ามองอีก ได้แต่มองตากันและพูดว่า “เกรงว่าเรื่องนี้ต้องรายงานให้เจ้าเมืองมาจัดการแล้ว ข้าและเจ้าคงเอาไม่อยู่”
“ใช่แล้ว รับมือไม่ไหวหรอก! ไปกันเถอะ พวกเรารีบกลับเมืองไปรายงานเจ้าเมืองกันเถอะ ช้ากว่านี้เกรงจะมีอันตราย”
“ไป!”
เมื่อเทพเฝ้าประตูร่างกำยำสององค์ตัดสินใจได้แล้ว พวกเขาก็หายตัวไปยังเมืองที่อยู่ไม่ไกลออกไปอย่างไม่รีรอ พวกเขารู้สึกได้ว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!
ถึงแม้เทพเฝ้าประตูสององค์จะมีระดับขั้นสูงกว่าเทพไร้ประโยชน์สององค์นั้น แต่ระดับชั้นและความรู้ยังคงมีจำกัด พวกเขาเดาไม่ออกเลยว่าปรากฏการณ์ศักดิ์สิทธิ์หน้าประตูสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและโลกมนุษย์ในบัดนี้ก็คือปรากฏการณ์การสร้างโลกฉบับย่อส่วนซึ่งแสดงความสามารถของปฐมราชินีหยวนชูออกมา
นั่นคือปรากฏการณ์การกำเนิดจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและการกำเนิดกลุ่มดาวโบราณจนมีวิวัฒนาการ รวมถึงการกำเนิดของสิ่งมีชีวิต มีเพียงเทพรุ่นเก่าเท่านั้นที่เข้าใจความลึกลับของปรากฏการณ์นี้ เพราะว่าพวกเขาเองก็กำเนิดขึ้นในขณะนั้นเช่นกัน! ดังนั้นอินหลิวเฟิงผู้มีสายเลือดวิหคทมิฬโบราณจึงได้รับประโยชน์อย่างมากเพราะว่าอยู่ใกล้ชิดกับเยี่ยนอวี๋ที่สุด
นอกจากนี้…
“นายหญิง!”
อิงหลงโบราณนอกประตูสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็มองประตูสวรรค์ที่หายลับไปแล้วอย่างสัมผัสบางสิ่งได้ มันรู้สึกได้ถึงเสียงสะท้อนจากสายเลือด!
มันรู้ว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร ดังนั้นดวงตาขนาดใหญ่คู่นั้นของมันจึงเปล่งประกายแวววาวผิดปกติ มันรู้ว่าเมื่อนายหญิงกลับคืนสู่สวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้วย่อมเกิดปรากฎการณ์ที่ยิ่งใหญ่แน่นอน!
เสียดายที่มันไม่สามารถประจักษ์ด้วยตาตนเอง แต่ก็ไม่เป็นไร มันเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ พวกมันเหล่าขุนเขาและท้องทะเลจะได้กลับมารวมตัวกันที่ตำหนักไท่ชางอีกครั้ง! ทำให้ตำหนักไท่ชางกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“คิดถึงจริง…”
อิงหลงโบราณกะพริบดวงตาโตสองสามที ในดวงตาปรากฏภาพความรุ่งเรืองของตำหนักไท่ชางในอดีต มันเชื่อว่าภาพนี้จะปรากฏขึ้นอีกครั้งในเร็ววันนี้! เพราะว่านายหญิงของพวกมันกลับมาแล้ว!
ในขณะเดียวกัน เยี่ยนอวี๋ที่ยังคงรับพลังศักดิ์สิทธิ์ของตนเองเข้ามา ฌานตบะของนางก็กำลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ร่างกายที่แต่เดิมอ่อนแอของนางก็กำลังถูกพลังสร้างโลกก่อร่างขึ้นใหม่
“…”
แสงสีเลือดสดไหลออกมาจากร่างกายของเยี่ยนอวี๋อย่างต่อเนื่องในกระบวนการนี้ นางกำลังประสบกับการปรับโครงสร้างร่างกายอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเจ็บปวดกว่าทัณฑ์เลาะกระดูกหลายพันเท่า
นี่คือขั้นตอนที่นางต้องผ่านพ้นไปให้ได้เพื่อกู้คืนพลังสร้างโลก เพราะว่าร่างกายแต่เดิมของนางเป็นเพียงเนื้อหนังธรรมดา ย่อมไม่สามารถแบกรับการกลับมาของพลังสร้างโลกอันศักดิ์สิทธิ์นี้ได้
ดังนั้นนางในยามนี้กำลังทำลายร่างกายร่างเดิมของตนเองด้วยพลังสร้างโลก! สรรสร้างร่างกายศักดิ์สิทธิ์ร่างใหม่ให้ตนเอง ขั้นตอนนี้ถูกลิขิตไว้แล้วว่าต้องอดทนต่อความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แม้แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าเองก็จับร่างกายน้อยๆ ของตนเองไว้อย่างรับรู้ได้ “เจ็บๆ!”
ถึงแม้เยี่ยนอวี๋เพียงแค่สร้างร่างกายของนางใหม่ แต่เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่มีสายเลือดเชื่อมโยงกับนางและมีพรสวรรค์พิเศษก็รับรู้ถึงความเจ็บปวดของนางได้ จนเขาจะร้องไห้แล้ว “พ่อ เจ็บๆ… แม่เจ็บๆ!”
“โอ๋” ต้าซือมิ่งที่รวบตัวเด็กน้อยไว้รู้ดีว่าภรรยาของเขากำลังทนกับความเจ็บปวดที่มิอาจบรรยายได้ แต่เขาไม่สามารถแบกรับแทนนาง เพราะว่านี่คือกระบวนการที่นางต้องผ่านไปด้วยตนเองให้ได้เพื่อกู้คืนพลังของนางเอง นอกเสียจากว่านางไม่ใช่ปฐมราชินีหยวนชู! ไม่ใช่เทพผู้สร้างโลกสวรรค์เก้าชั้นฟ้า มิเช่นนั้นนางต้องแบกรับทุกสิ่งเหล่านี้อย่างไม่มีทางเลือก
ถึงอย่างไรสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ‘จำ’ นางได้ ตราบใดที่นางหวนคืน สิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นของนาง! ผู้ใดก็พรากมันไปไม่ได้และนางก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้เช่นกัน
“เจ็บๆ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าสงสารท่านแม่ของเขามาก รู้สึกว่าตนเองก็เจ็บด้วยเช่นกัน “พ่อ! พ่อ…”
หรงอี้ที่กอดเด็กน้อยไว้แน่นยิ่งสงสารจับใจ “โอ๋ เสี่ยวเป่า เจ้าต้องรู้นะว่าตอนที่ท่านแม่เจ้าคลอดเจ้าก็เจ็บเช่นนี้ หรืออาจจะเจ็บยิ่งกว่านี้ ดังนั้นเสี่ยวเป่าเจ้าต้องรักท่านแม่เจ้าให้มาก ต้องปกป้องท่านแม่เจ้าด้วย เข้าใจหรือไม่”
เด็กน้อยตะลึง “จะ เจ็บแบบนี้เลยหรือ” ตอนที่ท่านแม่คลอดเป่า เจ็บๆ แบบนี้เลยหรือขอรับ
“อืม” ต้าซือมิ่งถือโอกาสสอนเด็กน้อยที่เข้าอกเข้าใจ เขาบอกเด็กน้อยอย่างจริงจังว่า “ดังนั้นหากไม่ใช่เพราะรักเสี่ยวเป่ามาก ท่านแม่เจ้าคงไม่คลอดเจ้าออกมา”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าน้ำตารื้นในทันใด เขากอดท่านพ่อไว้แน่น “เป่า ปวดใจ”
จิ่วอิงที่อยู่ข้างๆ ได้ยินถึงตรงนี้ก็อดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “เจ้าตัวเล็กรู้ด้วยหรือว่าปวดใจคืออะไร”
“รู้สิ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจ้องจิ่วอิงเขม็ง แย้งกลับไปว่า “เป่ารู้!”
จิ่วอิงบิดศีรษะทั้งเก้าของมันก่อนจะพูดอย่างส่งๆ ว่า “ก็ได้ เจ้าบอกว่ารู้ก็รู้”
“เชอะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ดูออกว่าจิ่วอิงกำลังตอบอย่างส่งๆ ก็ชี้นิ้วชี้ออกไป “อิงอิงไม่ดี! ไม่เชื่อเป่า! ไม่ ไม่รักเจ้า!”
“จิ๊บ!” ลูกไก่จิกจิ่วอิงทีหนึ่งอย่างแค้นเคืองด้วยทันที
ซี๊ด! จิ่วอิงอยากจะซัดลูกไก่ที่ไม่รู้ฟ้าสูงดินต่ำตัวนี้จริงๆ! กล้าดีอย่างไรมาจิกมัน เบื่อโลกแล้วหรือไร!
แต่แล้วจิ่วอิงที่ขยับหางหนามเล็กน้อยก็อดกลั้นอารมณ์ของตนไว้และยังพูดอย่างดุดันว่า “ไปให้พ้น ไม่เช่นนั้นจะถูกข้า ปู่ของเจ้ากินเอาแล้วอย่ามานั่งร้องไห้นะ!”
“อิงอิงไม่ดี!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตำหนิ! และยังทำท่าจะไปหยิกจิ่วอิงด้วย
แต่เยี่ยนอวี๋ในบัดนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งแล้ว รอบกายของนางมีหมอกควันสีม่วงหม่นอันลึกลับไหลออกมา ภาพม้วนที่มีภูเขาและทะเลราวกับภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลอันเลือนรางปรากฏขึ้นกลางอากาศด้านหลังนางราวกับเป็นของจริง นี่มัน…
“นี่ไม่ใช่ภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลหรือ!” เทพไร้ประโยชน์สององค์มองหน้ากัน ไม่รู้ว่าจะบรรยายเทพธิดาตรงหน้าท่านนี้อย่างไรดีแล้ว พวกเขางงงันไปหมด!
ถึงอย่างไรสิ่งที่เยี่ยนอวี๋สร้างขึ้นก็ไม่ใช่เพียงผนึกขุนเขาและท้องทะเลเท่านั้น การที่ฝ่ายหลังปรากฏในโยวตูได้ล้วนเป็นเพราะข้างใต้โยวตูเป็นผนึกระหว่างโลกมนุษย์และแดนมืดวิญญาณอสูร
เมื่อครั้นเยี่ยนอวี๋รุ่งโรจน์ นางผนึกแดนมืดวิญญาณอสูรไว้ที่นั่น ประทับผนึกขุนเขาและท้องทะเลไว้! ดังนั้นนางเพียงแค่กระตุ้นผนึก ผนึกภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลก็จะสร้างขึ้นด้วยตนเอง
ทว่าสถานการณ์ในยามนี้กลับไม่เหมือนกัน! นางในยามนี้กำลังสร้างภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลด้วยตนเอง หรือพูดได้ว่า…
“อิทธิฤทธิ์ของปฐมราชินีกำลังฟื้นตัวแล้ว”
ไม่เพียงเท่านี้…