เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 475 มือมืดเบื้องหลัง!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 475 มือมืดเบื้องหลัง!

ฟู่!

รัศมีหลากสีจมหายเข้าไปในร่างของต้าซือมิ่ง ทำให้ซีหวังหมู่และเทพอัสนีสะดุ้งตกใจ “จวินโฮ่ว!?”

จิ่วอิงก็สะบัดหางที่ผูกเชลยศึกไว้พุ่งทะยานเข้ามา “อี้เอ๋อร์?!”

เจ้าตัวน้อยทิ้งตัวลงบนแผ่นหลังที่แข็งแรงของท่านพ่อเขา “พ่อ!”

เห็นได้ชัดว่าเด็กหนึ่งคนและอสูรสามตัวเป็นห่วงว่าต้าซือมิ่งจะถูกแสงศักดิ์สิทธิ์หลากสีทำร้าย แต่ความเป็นจริงคือพวกเขาคิดมากเกินไป เพราะว่าพวกเขาเห็นในทันทีว่า…

แสงศักดิ์สิทธิ์หลากสีไหลออกมาจากร่างกายของต้าซือมิ่งแล้ว มันยังวนเวียนรอบกายเจ้าตัวน้อย ฝ่ายหลังส่งเสียง ‘อ้ะเนะ’ อย่างประหลาดใจขึ้นมา เขายังลองยื่นมือไปจับแสงนั้นด้วย

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” จิ่วอิงถามด้วยความสงสัย

ซีหวังหมู่เดาว่า “แสงศักดิ์สิทธิ์ยืนยันตัวตนของจวินโฮ่วและนายน้อยแล้ว?”

จิ่วอิงแย้งทันที “บอกแล้วว่าอย่าเรียกจวินโฮ่ว!”

“แล้วให้เรียกอะไรเล่า” ซีหวังหมู่ไม่ทราบ

“นั่นน่ะสิ” เทพอัสนีสำทับ

“…สามี? ไม่ได้สิ! ทุเรศยิ่งกว่า…” จิ่วอิงที่คิดไม่ออกก็โยนภาระกลับไป “พวกเจ้าคิดเองสิ!”

ซีหวังหมู่ “…”

มันตัดสินใจเรียกจวินโฮ่วเหมือนเดิม สามีของปฐมราชินีก็ควรจะเรียกว่าจวินโฮ่วมิใช่หรือ มีปัญหาตรงไหนกัน!

ในขณะที่ซีหวังหมู่ตัดสินใจเองนั้น มันก็เห็นว่านายท่านของพวกมันตื่นแล้ว “นายท่าน! ท่านเป็นอะไรไป เหตุใดเมื่อครู่ท่านฟื้นฟูกลับไปสู่จุดสูงสุดแล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกเล่า”

เยี่ยนอวี๋ไม่ได้ตอบคำถามนี้ในทันที นางตรวจชีพจรให้ต้าซือมิ่งก่อนสิ่งใด จากนั้นนางก็ต้องขมวดคิ้วเพราะพบว่า “ยังคงไม่สามารถฟื้นฟูพลังที่เจ้าสูญเสียไปได้อยู่ดีสินะ”

ส่วนเยี่ยนเสี่ยวเป่า แสงหลากสีที่เข้าไปในร่างกายของเขาไม่ได้หายไปไหน แต่กลับวนเวียนอยู่ในร่างกายน้อยๆ ของเขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขากลายเป็นเด็กน้อยที่เปล่งแสงประกายได้อีกครั้ง

“เอ๋?” เด็กน้อยมองมือและเท้าอวบอ้วนของตนอย่างตะลึงงัน เขามองสลับไปมาเช่นนี้อยู่หลายครา เรียกสติกลับมาไม่ได้เลย คงเป็นเพราะ ‘หลงในความสวย’ ของตนเอง ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็เป็นเด็กน้อยงดงามที่เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์หลากสีได้

“ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้” หรงอี้กลับไม่สนใจพลังของตนที่สูญเสียไป ถึงอย่างไรเขาก็มีอายุขัยยืนยาว หายไปส่วนหนึ่งก็ไม่เป็นอะไร ค่อยๆ ชดเชยกลับมาในวันข้างหน้าก็ย่อมได้ แต่เด็กน้อยคนนี้… เหมือนกับว่าจะมีขนอ่อนงอกขึ้นมาแล้ว

เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่กำลังเกาศีรษะตนเองก็พบว่าศีรษะที่ตนรู้สึกคันนั้นเหมือนจะมีอะไรงอกขึ้นมา จากนั้นดวงตาเขาก็เป็นลุกวาวส่งเสียงหน่อมแน้มว่า “พ่อดูเป่าสิ! ผมงอกแล้วใช่หรือไม่!”

“อืม” หรงอี้พยักหน้า เขาเห็นว่าศีรษะที่แต่เดิมแวววาวของเด็กน้อยปรากฏขนอ่อนขึ้นอีกครั้ง ตัวของเด็กน้อยก็ดูโตขึ้นเล็กน้อย

“ว้าว…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ได้รับการยืนยันรู้สึกมีความสุขมาก เขายิ้มร่าพลางลูบศีรษะของตนเอง “ผมๆ! เป่ารักผมๆ! แม่… แม่… แม่…”

“ว่าไงจ๊ะ” เยี่ยนอวี๋ถามพร้อมรอยยิ้ม มือข้างหนึ่งก็ลูบเด็กน้อยน่าเอ็นดูตรงหน้าแล้ว

“ให้เป่าสวยๆ อีก!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่าตนเองอยากให้ผมงอกมากกว่านี้

น่าเสียดายที่เยี่ยนอวี๋ตอบอย่างเสียใจ “ไม่มีแล้ว”

“เอ๋?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเบิกตาโต “ทำไมล่ะ”

“นั่นเป็นแสงหยวนชูที่แม่รวบรวมมาเมื่อครั้นมองย้อนกลับไปในอดีต ตอนนี้มีเพียงเท่านี้ ไม่มีมากกว่านี้แล้ว” เยี่ยนอวี๋อธิบายให้เด็กน้อยฟัง จากนั้นก็พูดต่อไปว่า “ส่วนเรื่องที่ว่าเหตุใดสุดท้ายข้าจึงไม่ได้กลับไปอยู่จุดสูงสุด อาจจะเป็นเพราะยังไม่ถึงเวลา”

“เวลาอะไร” ซีหวังหมู่รีบถาม

ต้าซือมิ่งเองก็อยากรู้ เขาจับมือของภรรยาไว้แน่นแล้ว

เยี่ยนอวี๋ดึงมือที่จับเด็กน้อยกลับมากุมหลังมือของต้าซือมิ่งไว้ อธิบายว่า “ข้ายังไม่รู้ว่าเหตุใดข้าจึงตาย และเหตุใดจึงเกิดใหม่ในร่างของเยี่ยนจื่ออวี๋ เหลือเพียงเรื่องนี้ที่ยังไม่ทราบ” หากตระหนักรู้ได้ นางย่อมรู้ปัญหาเรื่อง ‘เสียงเรียก’ นั่น

“เยี่ยนจื่ออวี๋?” ดวงตาสีฟ้าของหรงอี้หรี่ลงเล็กน้อย

“อืม แต่เดิมข้าคิดว่านางอาจจะคือชาติที่แล้วของข้า แต่ไม่ใช่ ชาติที่แล้วนี้นับอย่างไร คือชาติที่แล้วของชาตินี้หลังจากที่ข้าตายหรือ” แม้เยี่ยนอวี๋รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ แต่สัญชาติญาณบอกนางว่าไม่น่าจะถูก

ต้าซือมิ่งกลับพยักหน้าพูดว่า “ใช่แล้ว นางไม่เหมือนเจ้าเลย นิสัยไม่เหมือน การจัดการก็ไม่เหมือน”

“เป็นดังเช่นนั้น” เยี่ยนอวี๋เห็นด้วย “หากนั่นคือชาติที่แล้วของชาตินี้หลังจากที่ข้าตายไปจริงๆ และชาตินั้นข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับปฐมราชินี ข้าก็ไม่มีทางชอบกู้หยวนเหิง ยิ่งไม่มีทางถูกกักขังอย่างง่ายดาย จนตายอย่างน่าเวทนา”

คำพูดนี้… ทำให้ต้าซือมิ่งโอบนางเข้ามาในอ้อมอก “น่าเวทนาเพียงใด” แม้เขาจะเดาได้แต่แรกแล้วว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของเขามีความทรงจำของ ‘เยี่ยนจื่ออวี๋’ และจากการตรวจสอบของหลานชังวิเคราะห์ได้ว่า นางและ ‘เยี่ยนจื่ออวี๋’ ไม่เหมือนกัน แต่เขาไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับชาติที่แล้วของ ‘เยี่ยนจื่ออวี๋’ เลย

เมื่อก่อนเขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องรู้ แต่บัดนี้เขาพบว่ามันเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องรู้แล้ว แม้ ‘เยี่ยนจื่ออวี๋’ ไม่ใช่ชาติที่แล้วของภรรยา เกรงว่าก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับภรรยามาก

อันที่จริงเยี่ยนอวี๋ไม่อยากกล่าวถึง แต่ต้าซือมิ่งคะยั้นคะยอ เขามองภรรยาด้วยสายตาต้องรู้ให้ได้ “บอกข้าสิ”

“???…”

เด็กน้อยหนึ่งคนและอสูรสามตัวที่รู้สึกงุนงงก็ไม่เข้าใจว่าทั้งสองกำลังคุยอะไรกัน

ทว่าเยี่ยนอวี๋ก็ส่งภาพการตายอย่างอนาถของ ‘เยี่ยนจื่ออวี๋’ ผ่านทางพลังจิตให้ต้าซือมิ่งที่ยืนกรานต้องรู้ให้ได้ ฝ่ายหลังหยุดหายใจไปชั่วขณะ “นางหน้าตาเหมือนเจ้าเลย?!”

“ใช่แล้ว เจ้าเคยเห็นแล้วมิใช่หรือ มิเช่นนั้นเจ้าจะจำข้าได้อย่างไร” เยี่ยนอวี๋ถามกลับอย่างประหลาดใจ ถึงอย่างไรต้าซือมิ่งก็เป็นคนแรกที่จำได้ว่านางคือปฐมราชินีหยวนชู

“… ข้าคิดว่า เจ้าเป็นคนเปลี่ยนโฉมกลับมาเอง” ต้าซือมิ่งที่ชะงักไป เขาก็ไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่า แท้ที่จริงแล้วหน้าตาของ ‘เยี่ยนจื่ออวี๋’ ก็คือใบหน้าของเยี่ยนอวี๋ที่เขาเห็น

เยี่ยนอวี๋ “…”

นางจำเป็นต้องพูดว่า “ข้าที่เพิ่งตายและเกิดใหม่ไม่มีความสามารถมากมายขนาดเปลี่ยนความทรงจำของทุกคนที่รู้จักเยี่ยนจื่ออวี๋หรอกนะ เจ้าคิดมากเกินไปหรือไม่ มิน่าเจ้าจึงมักคิดว่าข้าทำอะไรเจ้า ทำให้เจ้าลืมบางอย่างไป ทั้งที่จริงๆ แล้วความจำเจ้าไม่ดีเอง”

“…” ต้าซือมิ่งที่ถูกตอกกลับอ้ำอึ้ง ก็เขารู้สึกว่าภรรยาเก่งมากจริงๆ นี่ ทว่าเขาก็รู้ว่าตนเองคงคิดไปเองทั้งนั้น ในครานั้นภรรยาเพิ่งกลับมาเกิดใหม่ คงไม่มีความสามารถเช่นนั้นจริงๆ

ในขณะที่ต้าซือมิ่งพูดไม่ออก เหล่าขุนนางเมืองต้าจ้างฟูที่รอไม่ไหวในก็ตะโกนลงไปในแดนมืดนิรันดร์สุดเสียงว่า “จอมโจรที่อยู่ข้างล่าง! ตั้งใจฟังให้ดี คนของพวกเจ้าถูกองค์หญิงเจ็ดจับเป็นแล้ว หากอยากช่วยพวกเขา จงรีบออกมามอบตัวซะ!”

คำพูดนี้… เยี่ยนอวี๋ได้ยินแล้วและก็ทำให้นางคิดถึงพวกเขาทันที “พวกลูกไก่!”

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท