เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 502 ข้าวกล่องของซีเหอ!

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 502 ข้าวกล่องของซีเหอ!

ซีเหอเดือดดาลจนลืมอาการปวดศีรษะ หูอื้อและเจ็บปาก รู้สึกเพียงหัวใจที่แตกสลาย ความหวังสูญสิ้น ฝ่าบาทเขา…เขาสวมมงกุฎจักรพรรดิไว้บนศีรษะของเจ้าเด็กเชื้อมารนั่น

แล้วเซินเซินของพวกเขาล่ะ

เซินเซินของพวกเขาที่สืบทอดพรสวรรค์ฝ่าบาทเล่า ซีเหอไม่เข้าใจ… ไม่อาจเข้าใจได้ แต่ไม่ว่านางจะเข้าใจหรือไม่ เทียนตี้ก็ย่อขนาดของมงกุฎจักรพรรดิให้เล็กลงจนพอดีกับศีรษะที่มีขนอ่อนน้อยๆ ของเด็กน้อย ก่อนจะสวมมงกุฎให้เขาแล้ว

“ว้าววว” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เห็นพู่ระยิบระยับตรงหน้าก็ยิ้มให้เทียนตี้ “ขอบพระทัย!”

ไม่รู้สึกเกรงใจเลย…

“ไม่เอาไหน!” จิ่วอิงดูถูก

เยี่ยนเสี่ยวเป่าทำหน้ามุ่ยทันที “อิงอิง ไม่ดี!” ว่าเป่าตลอดเลย!

ส่วนเทียนตี้ เขาก็ได้รับการเยียวยาจากรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนนั่นแล้ว เขาจึง…

“เทียนตี้ ทรงทำเช่นนี้มิได้!” บรรพบุรุษหงเหมิงที่ยังไม่ถูกเนรเทศออกไปก็อดพูดขึ้นไม่ได้ “กระหม่อมรู้ว่าทรงมีความรักลึกซึ้งต่อปฐมราชินี แต่เด็กคนนี้เขา…”

“เขาสมควรสืบทอดเป็นเทียนตี้องค์ต่อไป เพราะว่าเขาคือบุตรชายของปฐมราชินีผู้ซึ่งเป็นจักรพรรดินีแห่งจักรวาล แม้แต่ข้าเองก็ไม่มีคุณสมบัติเช่นเขา” เทียนตี้อธิบายชัดถ้อยชัดคำ

เทียนตี้ที่เพิ่งยอมเอ่ยปากตั้งแต่ตื่นขึ้นจนถึงเลื่อนขั้น เขาไม่ยอมให้เทพองค์ใดตั้งข้อสงสัยต่อการตัดสินใจของตน สายตาที่เขามองเด็กน้อยเต็มไปด้วยความโอบอ้อมอารี ความรักใคร่เมตตา และความเจ็บปวด…

นี่คือบุตรของชูชู คือพี่น้องของเขา คือพี่น้องที่เล็กที่สุดของเขา น่ารักเช่นนี้ เหมือนชูชูเช่นนี้ อ่อนโยนเช่นนี้ ตัวเล็กเช่นนี้…

“เซินเซินเล่า” ซีเหอที่ตั้งสติกลับมาได้เอ่ยขึ้น นางอยากจะถามว่า “ฝ่าบาท เซินเซินเล่าเพคะ ทรงเคยคิดหรือไม่ว่าเซินเซินจะทำเช่นไร เขาคือโอรสเพียงหนึ่งเดียวของพระองค์นะเพคะ ครานั้น เพราะพี่น้องขุนเขาและท้องทะเลเหล่านั้นของพระองค์ทำเขาหวาดกลัวจนจำต้องยอมถูกเลี้ยงในฐานะธิดามาจนถึงวันนี้ บัดนี้ยังถูกลงโทษให้กลายเป็นนกชิงเหนี่ยวไปเป็นกรรมกรถมทะเลสาบสือซ่าไห่อะไรนั่นอีก!”

แม้เดิมทีไม่รู้ว่าแท้จริงธิดาคือโอรส แต่ซีเหอก็มั่นใจว่าการปิดบังนี้ต้องเกี่ยวข้องกับการอาละวาดของเหล่าขุนเขาและท้องทะเลในครานั้นแน่นอน

ทว่า…ตี้เซินเอ่ยปากแล้ว “เสด็จแม่ ลูกยินยอมไปเอง”

แม้ขณะที่เสด็จพ่อสวมมงกุฎจักรพรรดิให้ทารกน้อย เขาจะรู้สึกเศร้าเสียใจ แต่ความเศร้าเสียใจของเขาไม่ใช่เพราะมงกุฎจักรพรรดิ แต่เป็นเพราะตั้งแต่ที่เสด็จพ่อของเขาลืมตาขึ้นยังไม่ได้มองเขาเลยต่างหาก ทว่าตี้เซินก็รู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเสด็จแม่ของเขาเสแสร้งเกินไป และเขาก็รู้อีกว่าในใจของเสด็จพ่อของเขา ใช่ว่าเขาจะไม่สำคัญ เพียงแต่ว่า…ยังคงรู้สึกเสียใจอยู่ดี

ทว่าขณะที่ตี้เซินกำลังเสียใจ เทียนตี้ก็มองมาที่เขาแล้ว เขามองมาที่หนุ่มน้อยบุตรที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าไม่ใช่ธิดา แต่คือโอรส

เทียนตี้รู้ดีแก่ใจว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาเป็นเสด็จพ่อที่ไม่ดีพอ หากเพียงเขาใส่ใจบุตรมากกว่านี้ก็คงไม่ต้องรอจนถึงบัดนี้จึงจะรู้ว่าบุตรตนเป็นบุรุษหรือสตรี อีกทั้งสิ่งที่ทำให้เทียนตี้รู้สึกยินดีคือ บุตรไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง “เด็กดี รู้จักรับผิดชอบ คือโอรสของข้าตี้จวิ้น”

“เสด็จพ่อ…” ตี้เซินแหงนหน้ามองบิดา เขาเห็นคำชื่นชมจากใจจริงในสายตาของบิดาและเห็นความรู้สึกผิดหลังจากแววตาชื่นชมนั้น พอแล้ว… ตี้เซินน้ำตาเอ่อ แม้นับตามเวลาแล้ว เขาเป็นเทพที่มีชีวิตมาสามหมื่นปี แต่ต่อหน้าเสด็จพ่อ เขายังคงเป็นเด็กน้อยที่โหยหาความรัก ความสนับสนุนและความสนใจจากบิดามาโดยตลอด

ตี้เซินที่เป็นเช่นนี้…ทำให้ตี้จวิ้นยิ่งรู้สึกผิด “พ่อต้องขอโทษลูก”

“ลูกไม่สมควร! ลูกไม่คู่ควร!” ตี้เซินน้ำตาไหลพลางโขกศีรษะ “ลูกยังคิดทำร้ายปฐมราชินีและคนของปฐมราชินี ลูกไม่เพียงไม่เคารพบรรพบุรุษเหล่าขุนเขาและท้องทะเล ยังไม่เคารพปฐมราชินี ลูกไม่คู่ควรเป็นโอรสของท่าน ขอประทานอภัย”

เทียนตี้เดินไปข้างหน้าโอรสและยื่นมือไปลูบศีรษะของเขา “เจ้าทำไม่ถูก แต่เป็นความผิดของข้าที่ไม่ได้สั่งสอนเจ้าแต่กำเนิด ข้าผิดเอง”

“เสด็จพ่อ…” ตี้เซินเกือบจะปล่อยโฮออกมา นี่คือเสด็จพ่อในความทรงจำของเขา ผู้ท่าภายนอกดูน่าเกรงขามไร้ที่เปรียบ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็เป็นเพียงบิดาท่านหนึ่งที่อ่านนิทานและเล่นเป็นเพื่อนเขา

สามหมื่นปีแล้ว แม้จะเสียใจและเคียดแค้น แต่บัดนี้ก็ยังรู้สึกยินดี เสด็จพ่อ…

“ทะเลสาบสือซ่าไห่ใช่ว่าจะไม่มีวันถมจนเต็มได้ หากตั้งใจมุ่งมั่น ศิลาที่แข็งกร้าวยังสั่นสะเทือนและแตกได้ พ่อจะรอเจ้ากลับมา” เทียนตี้หวังว่าโอรสน้อยจะจำคำพูดของตนไว้ให้ดี

“พ่ะย่ะค่ะ! เสด็จพ่อ” ตี้เซินโขกศีรษะอีกครั้ง

ซีเหอเสียสติทันที “ฝ่าบาท! กล่าวไปกล่าวมา พระองค์ก็จะให้เซินเซินไปถมทะเลสาบสือซ่าไห่อะไรนั่นอยู่ดี จะถมเต็มได้อย่างไร! หากทำได้ เหตุใดต้องให้เทียนจุนไปผนึกสือซ่าไห่! ฝ่าบาท ทรงเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว!”

“เสด็จแม่…” ตี้เซินอยากจะห้ามปรามเสด็จแม่เขาให้หยุดพูด

เทียนตี้กลับห้ามตี้เซินไว้ “ให้นางพูด”

สำหรับซีเหอแล้ว เทียนตี้เองก็เคยรู้สึกผิด แต่ความรู้สึกผิดเหล่านั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาเมินเฉยและอภัยโทษให้ซีเหอได้ นอกจากความรู้สึกเสียใจแล้ว เขายังรู้สึกผิดหวัง กระทั่งสิ้นหวังต่อซีเหอมากกว่า

ส่วนซีเหอ…นางย่อมรับรู้ถึงความเยือกเย็นของสายตาเทียนตี้ได้ แต่นางกลับยิ้ม “พูดก็พูด! เรื่องถึงบัดนี้ ข้าซีเหอไม่จำเป็นต้องปิดบังไว้อีกแล้ว”

“เสด็จแม่!” ตี้เซินไม่อยากให้มารดาหาที่ตาย

แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อนางอยากจะหาที่ตายจริงๆ นางพูดขึ้นว่า “เซินเซิน เจ้ามิต้องเป็นห่วงเสด็จแม่แล้ว เสด็จพ่อของเจ้าน่ะ ชูชูของเขากลับมาแล้ว เขาต้องเอาใจชูชูของเขา แม้จะต้องทิ้งโอรสเช่นเจ้าก็ทำได้ลง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชายาเช่นข้าก็ย่อมทิ้งได้เช่นกัน”

คำพูดนี้…ต้าซือมิ่งจับประเด็นได้ทันที! ชูชู?

ต้าซือมิ่งเลิกคิ้วเรียวของตนมองไปที่เทียนตี้

ในขณะเดียวกัน…

“ไม่ใช่…” ตี้เซินอยากจะบอกเรื่องกำไลหยกกับเสด็จแม่

ทว่าซีเหอกลับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา “ฮ่าๆๆ! น่าขันจริงๆ เดิมทีข้าไม่ต้องอภิเษกเข้าตำหนักสวรรค์ก็ได้ เดิมทีข้าเลือกไป๋ตี้ได้! ไม่จำเป็นต้องช่วงชิงกับสตรีเหล่านั้นหลายปีเช่นนี้! สุดท้ายยังไม่เหลือทั้งตำแหน่งและไม่ใช่อะไรสักอย่าง!”

“…” ไป๋ตี้เซ่าเฮ่าที่อยู่เฉยๆ ก็ถูกพาดพิงอีกครั้งจำต้องพูดขึ้นว่า “ซีเหอ ข้ามิเคยกล่าวว่าชอบพอเจ้า และมิเคยต้องการสมรสกับเจ้า รบกวนเจ้าครั้งหน้าอย่าเอ่ยถึงข้าอีก น่าขยะแขยงเสียจริง”

“เช่นนั้นเจ้าต้องทำอะไรที่ทำให้คนเขาคิดว่าอยากจะแต่งงานด้วยแน่ๆ” ซีหวังหมู่กล่าว

เซ่าเฮ่า “…ข้าเปล่านะ!”

เซ่าเฮ่าที่รู้สึกไม่ได้รับความธรรมมองไปยังปฐมราชินีของพวกเขา “นายท่าน ข้าแปล่าจริงๆ นะ! ไม่เชื่อท่าน…”

“ข้าเชื่อ” เยี่ยนอวี๋พูด

เซ่าเฮ่า “…” เขายังคงคิดว่านายท่านไม่เชื่อเขาอยู่ดี

ทว่าเทียนตี้พูดขึ้นว่า “ข้าเชื่อ เพียงแต่เสียดายที่ครานั้นข้าไม่ฟังพวกเจ้า ยังแต่งสตรีนางนี้เข้าเรือน ข้าก็แค่คิดว่าที่แม่นางน้อยคนนี้ตามประจบข้านานเช่นนี้ก็แค่เพราะอยากเป็นเทียนโฮ่วมิใช่หรือ ให้นางเป็นก็จบแล้ว หน้าตาก็ไม่เลว ความสามารถยังพอใช้ได้ ข้ามักจะคิดว่าในเมื่อนางหมกมุ่นอยู่กับอำนาจเช่นนี้ ข้ามอบงานจุกจิกในตำหนักสวรรค์ให้นาง เพื่อที่จะยึดอำนาจนี้ไว้ นางคงจะทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด”

นี่คือความคิดแรกเริ่มสุดของเทียนตี้ เขาย่อมรู้ว่าซีเหอต้องการอะไร เขาก็ให้นางแล้ว จนเมื่อซีเหอให้กำเนิดตี้เซินแก่เขา ตนก็เริ่มค่อยๆ มองพวกเขาเป็นครอบครัว

ในครานั้น เขาสูญเสียญาติสนิทไป เขาคิดว่าตนเองไร้ซึ่งทุกสิ่งแล้ว นางกลับพาธิดาตัวน้อยแสนน่ารักมาให้เขา ทำให้เขาผ่านช่วงเวลายากลำบากที่สุดมาได้ จากนั้นยังดูแลเรื่องจุกจิกในตำหนักสวรรค์ได้อย่างสุขุมรอบคอบและระมัดระวัง

เวลาที่จำศีลบางครั้งเมื่อได้สติเขาก็เคยรู้สึกผิดและเคยคิดจะแก้ไข…เทียนตี้ที่รู้ตัวว่าตลอดสามหมื่นปีที่ผ่านมานี้ ในฐานะบิดา สวามี หรือจักรพรรดิ เขาไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้เลย เขาหลับตาลง จมอยู่กับความคิดนับพัน เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกคราก็มีเพียงความเย็นชา “ซีเหอ เจ้าใช้อำนาจที่ข้ามอบให้เจ้าทำร้ายทายาท ทำร้ายพี่น้องเหล่าขุนเขาและท้องทะเล กระทั่งวางแผนทำร้ายปฐมราชินี โทษมิอาจอภัย ข้าตัดสินประหารชีวิตเจ้า เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่”

ซีเหอทรุดลงนั่งกับพื้น นางคาดเดาจุดจบนี้ไว้แต่แรกอยู่แล้ว แต่นางไม่ยอม นางย่อมมีอะไรจะพูด “เรื่องพวกนี้ข้ายอมรับผิด! แต่ถือว่าข้าซีเหอขอร้องท่าน! ยกโทษให้เซินเซินได้หรือไม่”

“ไม่ได้” เทียนตี้ปฏิเสธอย่างเย็นชา

ซีเหอน้ำตาไหล “ไม่ได้! ไม่ได้! ข้าทำเพื่อตำหนักสวรรค์มากมายเช่นนี้! ก็แค่พลั้งเผลอทำผิดเล็กน้อย ไม่ถึงขั้นแก้ไขไม่ได้! พี่น้องของท่านก็กลับมาหมดแล้ว! ชูชูของท่านก็กลับมาแล้ว! พวกเขาไม่เป็นอะไรเลย! แต่ข้า ข้าซีเหอถูกท่านลงโทษประหารชีวิตไม่พอ! ตระกูลของข้ายังถูกหยวนชูกวาดล้าง! แม้แต่เซินเซินของข้าพวกเจ้าก็ไม่ปล่อย! เสือถึงจะร้ายกาจแต่ก็ไม่กินลูกตนเอง ตี้จวิน! ท่านยังมีหัวใจหรือไม่!”

“เสด็จแม่…” ตี้เซินอยากจะไปประคองเสด็จแม่ที่ร้องไห้คร่ำครวญ แม้รู้ว่าเสด็จแม่คนนี้ของเขาทำผิดใหญ่หลวง มิอาจอภัยให้ได้ แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นเด็จแม่ผู้ให้กำเนิดเขา

เพียงแต่ว่า… ตี้เซินยังไม่ทันขยับตัว ซีเหอก็กรีดร้องพลางหัวเราะ “ไม่! เจ้ามีหัวใจ! เจ้ามี! เจ้าย่อมมี! เพียงแต่เจ้ามอบให้ชูชูของเจ้าไปหมดแล้ว! ชูชู! ชูชู! ฮ่าๆๆ… ข้าโง่เขลาเอง! นางคือความรักของเจ้า! คือความรักที่เจ้ามิบังอาจร้องขอ! เจ้า…”

“บังอาจ!” เทียนตี้โกรธกริ้ว! เขาซัดฝ่ามือออกไปทันที ที่เขากล่าวคำพูดในตอนสุดท้ายก็เพราะเห็นแก่ความเป็นสามีภรรยา แต่สิ่งที่ซีเหอพูด…ล้ำเส้นความอดทนของเทียนตี้ไปมาก

วิ้ง!

ต้าซือมิ่งชิงลงมือก่อนแล้ว

“ช้าก่อน”

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท