ตอนที่ 583 ส่งกำลังคนและมอบศีรษะให้!
และนี่เห็นได้ชัดว่าก็คือคำตอบของเยี่ยนอวี๋ นางไม่จำเป็นต้องยอมจำนนต่อผู้ใด เพราะว่านางหลอมหัวใจแห่งจักรวาลที่ว่าไปแล้ว ตั้งแต่ที่ถูกกลืนกิน เยี่ยนอวี๋ไม่ได้อยู่เฉย นางได้ถอดรหัสอักษรศักดิ์สิทธิ์ที่มีผลคุกคามนางเหล่านั้นเป็นอย่างแรก แต่อักษรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้…บัดนี้หายสาบสูญไปแล้ว พวกมันไม่ได้กักขังเยี่ยนอวี๋อีกต่อไป เพราะว่าเยี่ยนอวี๋ในครานี้ รอบกายนางแผ่ซ่านกลิ่นอายที่คล้ายคลึงต้าซือมิ่ง เป็นที่ชัดเจนว่ากลิ่นอายเหล่านี้มาจากไข่มุกสีเหลืองอำพันที่แขวนอยู่บนคอของนาง และเป็นเพราะไข่มุกเม็ดนี้ เยี่ยนอวี๋จึงสามารถปลดปล่อยเพลิงไท่ชูดั้งเดิมอันเป็นเพลิงวิญญาณประจำตัวของนางได้อย่างสงบนิ่ง มันเป็นเพลิงดั้งเดิมจักรวาลที่มีสีม่วงหม่น
วิ้ง!
วิ้ง!…
เพลิงดั้งเดิมแห่งไท่ชูที่ปกคลุมหัวใจแห่งจักรวาลไปทั่ว มันไม่มีอุณหภูมิ ดูแล้วไม่เหมือนไฟ แต่เหมือนกับเรือนแสงสีม่วงอ่อนๆ มากกว่า
ทว่าก็เป็นเพราะแสงไฟเช่นนี้ มันกำลังหลอมหัวใจแห่งจักรวาล ทำให้กฎและพลังที่ไม่เหมือนใครของหัวใจแห่งจักรวาลดวงนี้ค่อยๆ ซึมเข้าไปในกระบี่ไท่ชาง
ถึงอย่างไรกระบี่ไท่ชางก็ถูกหลอมขึ้นจากส่วนหนึ่งของจักรวาล มันเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในยุคแรกเริ่มที่เยี่ยนอวี๋คว้ามาโดยบังเอิญเมื่อนางเริ่มมีสติปัญญา จากนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนสภาพกลายเป็นสภาพเช่นทุกวันนี้ ดังนั้น…ในตัวกระบี่ของกระบี่ไท่ชางมีจักรวาลอีกหนึ่งจักรวาลจริงๆ มันเป็นส่วนหนึ่งที่หลุดออกมาจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและได้วิวัฒนาการกลายเป็นโลกอิสระอีกใบหนึ่ง
บัดนี้…
“หมื่นต้นกำเนิด หวนคืนกระบี่”
เยี่ยนอวี๋ที่ออกคำสั่งเสียงเยือกเย็น นางใช้พลังจิตอันยิ่งใหญ่ควบคุมกฎของหัวใจแห่งจักรวาลไว้ และใช้เพลิงวิญญาณประจำตัว ‘ขับไล่’ พลังของจักรวาลที่อยู่ในลำดับ ‘รองลงมา’ นี้กลับเข้าไปในกระบี่ไท่ชาง
วิธีการอันเก่งกาจเช่นนี้ย่อมเป็นสิ่งที่แม้หูจวิ้นจะคิดให้ตายอย่างไรก็คิดไม่ถึง แม้หัวใจจักรวาลในมือของหูจวิ้นจะได้มาโดยอาศัยการกลืนกินโลกอีกใบหนึ่ง แต่กลับไม่ใช่ผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้มาโดยอาศัยเพียงพลังของเขาหรือเทพพิทักษ์เจ็ดแปดองค์นั่นเท่านั้น นี่เป็นถึงพลังของจักรวาลทั้งแอตแลนที่ขัดเกลามาหลายหมื่นปี กว่าจะกลายเป็นสมบัติล้ำค่า จากนั้นยังได้รับการปรับเสริมด้วยลวดลายศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น แทบจะราบรื่นไปทุกอย่าง
ทว่า… สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ เมื่อมาถึงที่เยี่ยนอวี๋กลับถูกนางหลอมรวม
แคร่ก!
แคร่ก!…
เสียงที่แตกอย่างต่อเนื่องและรอยร้าวบนลูกแก้วที่เพิ่มขึ้นล้วนกำลังบ่งบอกว่าเยี่ยนอวี๋มีความคืบหน้าที่ไม่ธรรมดา ประการแรก นางสามารถต้านทานลวดลายศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น ประการที่สองนางได้หยั่งรู้ ควบคุม ขับไล่และขัดเกลาพลังที่อยู่ในหัวใจจักรวาล เพราะตอนนี้นางเป็นจักรพรรดินีแห่งแอตแลนเชียวนะ
เช่นนั้น หัวใจจักรวาลที่หล่อหลอมมาจากพลังจักรวาลแอตแลนย่อมไม่สามารถต่อต้าน ‘อำนาจบารมีที่ใช้ในทางมิชอบ’ ของนางได้ มันต้องเชื่อฟังเมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดินี
ดังนั้นหัวใจจักรวาลที่ว่าดวงนี้ นอกจากจะไม่สามารถกลืนกินเยี่ยนอวี๋ได้แล้ว มันยังถูกเยี่ยนอวี๋กลืนกินกลับอย่างต่อเนื่อง และค่อยๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของกระบี่ไท่ชาง
หูจวิ้น “…”
เขาที่ยังไม่เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นตกตะลึง หากไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ตนเองถือในมือคือหัวใจจักรวาล เขาคงสงสัยว่าหัวใจจักรวาลดวงนี้เป็นของปลอมที่ซื้อมาจากแผงลอยริมถนน
…
“ฝ่าบาท?”
ไทร์ที่เดินทางมารวมตัวกับหูจวิ้นและผู้เฒ่าริกเกิร์ตฟันสีทองก่อนเวลา เมื่อเขารับรู้ถึงการมาของหูจวิ้นก็รีบตามมาทันที ทว่าสิ่งที่เขาเห็นกลับเป็นภาพที่ฝ่าบาทของพวกเขากำลังเหม่อลอย
นี่มัน… เทพแห่งสงครามไทร์กำลังจะสำรวจ
เตร้ง!
เสียงพิณดังทุ้มและมีพลังดังขึ้นในครานี้
วิ้ง!
ในรอยแตกแยกของสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามีเสียงตอบรับทันที ทำให้ริกเกิร์ตที่กำลังจัดแจงตำแหน่งของกองทหารรักษาการณ์มองไปตามเสียงทันที จากนั้น… เขาและกองทหารรักษาการณ์รอยแตกแยกสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็เห็นประตูบานหนึ่งในหมู่เมฆ
นี่มัน…
“อะไรน่ะ?”
ริกเกิร์ตไม่เข้าใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทหารชั้นพูดน้อยเหล่านั้น
ในขณะเดียวกัน… เทพแห่งสงครามไทร์จับตามองไปรอบด้านคอยปกป้องหูจวิ้นด้วยสัญชาติญาณ “เสียงบ้าอะไรกัน ใครกัน! ออกมา”
เตร้ง!
สิ่งที่ขานตอบไทร์มีเพียงเสียงพิณที่ดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง และขณะที่เสียงพิณครั้งนี้ดังขึ้น ประตูก็เปิดออก จากนั้น…
“กรร!”
“ฆ่ามันนน…”
“ลุย! ลุย!…”
เสียงคำรามอันน่าเกรงขามพลันดังขึ้นจากในประตู ทำให้ริกเกิร์ตมีลางสังหรณ์ไม่ดีทันที แต่ลางสังหรณ์ของเขามาช้าเกินไป
ไป๋ตี้เซ่าเฮ่ามีพิณโบราณอยู่ในมือ สามารถเปิดประตูมิติ อัญเชิญเหล่าผู้แข็งแกร่งยุคไท่กู่มา พวกเขาปรากฏตัวเมื่อได้ยินเสียงพิณ ร่วมเปิดศึกท่ามกลางเสียงพิณ ดังนั้น…
เตร้ง!
เตร้ง! เตร้ง!…
เมื่อเสียงดนตรีโบราณที่เซ่าเฮ่าบรรเลงดังขึ้นราวกับม้าเหล็กที่ถูกควบทะยานออกมา กองทัพโบราณกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามาจากรอยแตกแยกสวรรค์เก้าชั้นฟ้า โดยจู่โจมไปที่ไทร์และหูจวิ้นเป็นลำดับแรก
“บัดซบ!”
สีหน้าเทพแห่งสงครามไทร์เปลี่ยน มือข้างหนึ่งสังเวยหอกในทันที ก่อนจะขึ้นไปปะทะกับเทพยักษ์ผานกู่ที่พุ่งมาข้างหน้า ท้องฟ้าเต็มไปด้วยคลื่นแสงแห่งการต่อสู้
ริกเกิร์ตกลับตะโกนด่าว่า “ไทร์! อย่าสู้! หาคนดีดพิณให้เจอ!”
น่าเสียดายที่คำเตือนของริกเกิร์ตแม้จะมีสติและรอบคอบมาก แต่ไทร์ก็ไม่สามารถถอนตัวออกมาได้แล้ว อีกทั้งยังมีผู้แข็งแกร่งที่ล่วงลับไปแล้วนับไม่ถ้วนพากันเข้าไปแย่งลูกแก้วที่อยู่ในมือของหูจวิ้นแล้ว
“ให้ตายเถอะ!” หูจวิ้นที่ยังงงงัน เขาได้แต่หลบหลีก เกือบจะถูกแย่งลูกแก้วไปหลายครา อันตรายมากทีเดียว
เตร้ง!
เตร้งๆ!…
เพลงขิมโบราณที่ถูกบรรเลงขึ้นอย่างต่อเนื่องเสียงดังหนวกหู จังหวะเกรี้ยวกราดราวกับฝนที่เทกระหน่ำเป็นบางครั้ง บางครั้งก็ราวกับพายุหมุน บางครั้งก็ทุ้มหนัก บางครั้งก็รู้สึกเหมือนแผ่นดินถล่มทลาย
“กรร!”
“ฆ่ามัน!”
“ลุย!…”
ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนทะลักออกมาจากท่ามกลางหมู่เมฆไม่ขาดสาย ทำให้เทพสงครามไทร์และหูจวิ้น ‘จมหาย’ ไปทันที หูจวิ้นหนีไม่ทันด้วยซ้ำ ได้แต่ปล่อยลำแสงป้องกันไปรอบด้านอย่างสุดชีวิต
ผู้แข็งแกร่งที่ปรากฏขึ้นพร้อมประตูมิติเหล่านี้ จุดอ่อนเพียงสิ่งเดียวของพวกเขาก็คือเมื่อใดที่ถูกโจมตีก็จะสลายหายไป แต่ตราบใดที่เสียงพิณยังอยู่ พวกเขาก็จะปรากฏตัวอีกครั้งได้อย่างรวดเร็วและไม่มีที่สิ้นสุด
นี่ก็คือความสามารถขั้นสูงสุดของไป๋ตี้เซ่าเฮ่า เพียงแค่เขาคนเดียวก็สามารถต่อสู้กับสงครามยกหนึ่งได้
“ให้ตายเถอะ!”
“บัดซบ!…”
หูจวิ้นที่ถูกรุมล้อมจนได้แต่หาทางหนี เขาถึงกับไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะสังเกตลูกแก้วในมือ หากไม่ใช่เพราะไทร์เข้ามาปกป้องได้ทันกาล เขาคงจะถูกแทงตายหลายคราแล้ว ดังนั้น…
แกรก!
หัวใจจักรวาลที่ไร้ซึ่งพลังค้ำจุนจากภายนอกย่อมแตกละเอียด!
จากนั้น…
วิ้ง!
เยี่ยนอวี๋กระโจนออกมาจากลูกแก้วพร้อมกับซัดฝ่ามือใส่หูจวิ้น “ตายซะ!”