ตอนที่ 612 ต้าซือมิ่งที่ต้องพึ่งพิงลูก
เด็กน้อยที่เดิมทีสงบนิ่ง เมื่อได้ยินดังนั้นก็ร้อนรน “แล้ว ทำยังไง” เหตุใดพ่ออาการไม่ดี แล้วแม่ยังหายไปเล่า นี่จะทำอย่างไรดี เป่าร้อนใจจะตายอยู่แล้ว
ต้าซือมิ่งก่ายหน้าผาก เขากำลังครุ่นคิด ทว่าเป็นเรื่องยากมากที่เขาจะต้องพยายามประคองสติและครุ่นคิด ในขณะที่เขาในตอนนี้กำลังจะหลับ
“เฮ้อ” น่ากังวลใจจริงๆ เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถอนหายใจเขาก็ลุกขึ้น “ต้องให้ เป่าออกโรงอยู่ดี”
หยวนสื่อเทียนจุน “…” ?
เขายังไม่เข้าใจเลย เด็กน้อยก็ไพล่มือทั้งสองข้างไว้ด้านหลังทำท่าจะเดินออกไปแล้ว “เป่า ง้อแม่เอง…”
หยวนสื่อเทียนจุน “?”
เขายิ่งไม่เข้าใจ
แต่ต้าซือมิ่งเข้าใจแล้ว เขาเรียกเด็กน้อย “เสี่ยวเป่า พาพ่อไปด้วย”
“ได้ หรือ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่หันหลังกลับมาก็ถามว่า “เดินได้?” เขากลัวว่าท่านพ่อเขาออกไปแล้วจะอาเจียนเลือดออกมาอีก
ต้าซือมิ่งพูดขึ้นว่า “เร็วๆ เข้า รีบหาแม่เจ้าให้เจอ พ่อก็จะไม่เป็นอะไร”
เมื่อสิ้นเสียง… เด็กน้อยก็วิ่งเตาะแตะกลับมานั่งข้างกายท่านพ่อ
หยวนสื่อเทียนจุนคิดว่าเด็กน้อยจะไปประคองท่านพ่อเขา ทว่ากลับนอนข้างกายท่านพ่อเขาทันที?
“…” ???
หยวนสื่อเทียนจุนไม่เข้าใจจริงๆ แต่เขารับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่ามีจิตเหนือสำนึกแผ่ซ่านออกไปจากร่างกายน้อยๆของเด็กน้อยที่หลับลึกไปแล้ว ทำให้เขาร้องเสียงหลงทันที “นี่มัน…” นายน้อยกำลังใช้จิตเหนือสำนึกหานายท่าน?
และความจริงก็คือ เขาทายถูก
เยี่ยนเสี่ยวเป่ากำลังใช้ ‘มนต์นิทรา’ ที่ไม่เหมือนใครหาท่านแม่ของเขา
หรงต้าซือมิ่งที่รับรู้ได้เช่นกันก็ลูบศีรษะของเด็กน้อยอย่างปลื้มใจ รู้สึกว่าลูกคนนี้ดูแลตนเองได้แล้ว มีความสามารถจริงๆ
หยวนสื่อเทียนจุนเองก็คิดเหมือนกัน “จวินโฮ่ว นายน้อยวิเศษยิ่งนัก”
ต้าซือมิ่งที่ยกมุมปากเล็กน้อย เดิมทีเขาอยากจะตอบ แต่เขาประคองสติได้ยาก คำพูดไม่กี่คำเหล่านี้ใช้พลังงานมากเกินไปสำหรับเขาในตอนนี้ อีกทั้งเด็กน้อยก็ ‘รับหน้าที่’ อันหนักหนาไว้แล้ว…
ต้าซือมิ่งจึงหลับไปอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า
หยวนสื่อเทียนจุน “…”
เขาที่พูดไม่ออก ในที่สุดก็ตรวจชีพจรให้ต้าซือมิ่งเพราะเป็นห่วงมาก จากนั้นเขาก็เคร่งเครียดทันที เกือบจะพูดไม่ออก เพราะว่าสถานการณ์ของต้าซือมิ่งย่ำแย่มาก นอกจากอวัยวะและเส้นชีพจรร้าวแล้ว กระดูกและวิญญาณก็กำลังแตกร้าวเช่นกัน เขาอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว
หรงต้าซือมิ่งที่เป็นเช่นนี้ทำให้แม้แต่หยวนสื่อเทียนจุนก็ไม่สามารถอยู่ในความสงบได้ “จวินโฮ่ว…”
มันยากสำหรับเขาที่จะจินตนาการว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จวินโฮ่วท่านนี้ยังสงบนิ่งได้เช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะเขาตรวจชีพจร เขาคงไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ของอีกฝ่ายจะย่ำแย่ถึงเพียงนี้ มิน่านายท่านจึงรีบร้อนเช่นนี้ กระทั่งคิดจะหยุดการกลืนกินแอตแลน เพราะว่า… หากเป็นเช่นนี้ต่อไป จวินโฮ่วต้องตายแน่ๆ ไม่ใช่อย่างที่กู้จื่อเฟิงอะไรนั่นบอกว่าจะไม่ตายเสียหน่อย เกือบจะถูกหลอกซะแล้ว เกือบจะถูกท่าทีของจวินโฮ่วท่านนี้หลอกเสียแล้ว ให้ตายเถอะ
“มา” หยวนสื่อเทียนจุนที่หน้าผากซึมไปด้วยเหงื่อก็ป้อนยาให้ต้าซือมิ่ง เขาไม่สนว่าจะได้ผลหรือไม่ ถึงอย่างไรก็ไม่ควรยืนดูเฉยๆ เช่นนี้
ให้ตายเถอะ เป็นห่วงจะตายอยู่แล้ว
นานๆ ทีนายท่านจะเจอจวินโฮ่วที่เหมาะสมเช่นนี้ ทั้งสองยังรักใคร่กันดีมาก และยังเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ หากว่า…
“หากว่าจวินโฮ่วเป็นอะไรไป นายท่านคงก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้ยาก” หยวนสื่อเทียนจุนกระวนกระวายใจมาก เมื่อเห็นเจ้าตัวน้อยผู้น่ารัก น้ำตาก็ไหลออกมา
ครอบครัวนี้ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก
กลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร หากต้าซือมิ่งเป็นอะไรไป เจ้าตัวน้อยก็คงเติบโตได้ยากเช่นกัน
หยวนสื่อเทียนจุนไม่เคยลืมว่าครานั้นนายท่านและจวินโฮ่วแค่ไปทำภารกิจที่ทะเลสาบสือซ่าไฮ่ เจ้าตัวน้อยก็ร้องไห้หนักมาก ครานี้หากไม่มีคนใดคนหนึ่งแล้ว คงเป็นหายนะแน่ๆ
ไม่ๆๆ…
หยวนสื่อเทียนจุนไม่อนุญาตให้ตนเองคิดถึงผลที่เลวร้ายเช่นนี้อีก เขาตัดสินใจแล้วว่าจะทำนายต่อไป ต้องทำนายให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่เชื่อจริงๆ ว่าจะทำนายออกมาไม่ได้
ทว่าขณะที่หยวนสื่อเทียนจุนกังวลจนเหงื่อไหลท่วมศีรษะ เจ้าตัวน้อยก็สะดุ้งตื่นลุกนั่งขึ้น ทำเอาหยวนสื่อเทียนจุนตกใจ “นายน้อย?”
“เจอแล้ว” เยี่ยนเสี่ยวเป่าขยี้ตาก่อนจะลุกขึ้นยืน
ทว่าไม่รอให้หยวนสื่อเทียนจุนได้ถามอะไร เจ้าตัวน้อยก็พูดเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “เลเล่ เข้ามา…”
“บรู๊ว?” หมาป่ายักษ์เฟนเลย์ที่หายตัวมาทันทีก็ปรากฏต่อหน้าเยี่ยนเสี่ยวเป่าแล้ว
ส่วนเจ้าตัวน้อย เขาก็ไปอุ้มท่านพ่อเขาแล้ว เสียดายที่เขาตัวเล็กเกินไป อุ้มไม่ไหว
“ข้าเอง นายน้อย” ครานี้หยวนสื่อเทียนจุนรู้ว่าเด็กน้อยจะทำอะไร เขาจึงต้องการเข้าไปช่วยอุ้ม
แต่ต้าซือมิ่งลืมตาขึ้นอีกครา “ข้าขึ้นไปเอง”
“พ่อ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าดีใจ “จะหายแล้ว?” เขามักคิดว่าทุกครั้งที่ท่านพ่อตื่นหมายความว่าอาการของพ่อดีขึ้นทุกครั้ง
แต่ความจริงย่อมไม่ใช่เช่นนั้น แต่ต้าซือมิ่งไม่ได้พูดถึง เขารวบตัวเด็กน้อยไว้ในอ้อมอก ในขณะเดียวกันก็เหินขึ้นไปบนหลังของหมาป่ายักษ์เฟนเลย์
ไม่เพียงเท่านี้…
ต้าซือมิ่งที่หลับไปครู่หนึ่งและอาการดีขึ้นเล็กน้อยก็กำชับหยวนสื่อเทียนจุนว่า “จับตาดูแดนมืดและยมโลกให้ดี”
“…ได้” แม้หยวนสื่อเทียนจุนจะสงสัย แต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้ไม่เหมาะจะถาม คิดแค่ว่าจะไปยมโลกเพื่อตรวจสอบ ถึงอย่างไรเขาก็เข้าใจหากจะให้เขาจับตาดูแดนมืด แต่จับตาดูยมโลกหมายความว่าอย่างไรกัน หรือว่ายมโลกมีปัญหาด้วยอย่างนั้นหรือ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หยวนสื่อเทียนจุนก็พลาดโอกาสที่จะได้ส่งสองพ่อลูก เมื่อเขาดึงสติกลับมา สองพ่อลูกและเฟนเลย์ก็หายไปแล้ว ทำเอาจิ่วอิงที่รับรู้ได้รีบมุดเข้ามา “เกิดอะไรขึ้น เหตุใดอี้เอ๋อร์และเสี่ยวเป่าก็จากไปด้วย”
“ไปหานายท่านน่ะ” หยวนสื่อเทียนจุนตอบ
จิ่วอิง “???” ภรรยาอี้เอ๋อร์ไปหายามิใช่หรือ ทำไมสองคนนี้ไม่รอที่นี่ ยังจะออกไปข้างนอกอีก?
“หรือว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เป็นอะไรไป” เยี่ยนชิงที่ตามเข้ามาถามขึ้นทันที
ทว่า… คำถามนี้ก็ทำให้หยวนสื่อเทียนจุนฉุกคิดได้ทันที “แย่แล้ว นายท่านคงไม่ได้เสียสละตนเองเพื่อให้จวินโฮ่วฟื้นตัวหรอกนะ” เรื่องแบบนี้… ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้