ตอนที่ 630 เสี่ยวเป่าไส้งาดำ ปฐมราชินีรักษาสวรรค์
จิ่วอิงที่ปกป้องเจ้าตัวน้อยด้วยศีรษะทั้งเก้า มันมองตำหนักไท่ชางอย่างระวังตัวทันที
ซีหวังหมู่กระโดดไปข้างหน้าเยี่ยนอวี๋ กลิ่นอายอำมหิตพลุ่งพล่าน
อินหลิวเฟิงหดกายไปอยู่ข้างหลังเยี่ยนอวี๋อย่างไม่น่าแปลกใจ ทำเอากู้จื่อเฟิงที่เห็นดังนั้นได้แต่ส่ายศีรษะ
“นี่มันเรื่องอะไรกันอีก” ในขณะที่หมาป่ายักษ์เฟนเลย์ขนตั้งชัน มันก็รู้สึกว่าเรื่องที่มันต้องเจอตั้งแต่ติดตามเจ้านายคนใหม่เกิดขึ้นถี่เกินไปหรือไม่นะ ไม่ให้หยุดพักเลยหรือ
สุดท้าย… มันเข้าใจผิดไปแล้ว
เยี่ยนอวี๋ดึงซีหวังหมู่ออก “ไม่ใช่ปัญหา เป็นเรื่องดี”
ขณะที่พูดนางก็จูงมือสามีของนางเข้าไปข้างในแล้ว
“อ้ะเนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่า ‘ทิ้ง’ จิ่วอิงทันที เขาบินไปข้างหลังท่านพ่อและยังยกเท้าน้อยๆ ปีนขึ้นไปนั่งบนบ่าของท่านพ่ออย่างคล่องแคล่ว
ซีหวังหมู่เห็นดังนั้นตาก็เป็นประกายอีกครั้ง “นายน้อยน่ารักจังเลย ทำเอาข้าหลงหัวปักหัวปำทุกครั้ง”
“แน่นอน นายน้อยของข้าน่ารักที่สุด” หมาป่ายักษ์เฟนเลย์กระดิกหูอย่างภาคภูมิ ในขณะเดียวกันก็ถามว่า “เหตุใดข้างในจึงระเบิดหรือ”
“ข้าเดาว่าน่าจะมาจากพี่ชายทั้งสองของภรรยาอี้เอ๋อร์ ไปดูกันเถอะ” จิ่วอิงพูดพลางกระโจนเข้าไปในตำหนัก
ในขณะเดียวกัน…
เยี่ยนชิงและเยี่ยนหงชวนที่ถูกส่งกลับมายังตำหนักโดยหยวนสื่อเทียนจุน พวกเขาก็วิ่งไปยังที่ที่เกิดเสียงระเบิดแล้ว ทั้งสองยังไม่รู้สึกว่าเยี่ยนอวี๋พวกเขากลับมาแล้ว ดังนั้นจึงบังเอิญเจอกันพอดี ทำเอาเยี่ยนชิงดีใจ “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์? เสี่ยวเป่า? ลูกเขย?”
“พวกเจ้า…” เยี่ยนหงชวนงงงัน เพราะว่าเมื่อไม่นานนี้เขายังเห็นหลานเขยที่กำลังจะตายและเหลนผู้น่าสังเวชอยู่เลย
นี่เพิ่งผ่านไปไม่นานเอง ลองคำนวณดูแล้ว มากสุดก็แค่ครึ่งชั่วยามกว่า?
เขาเพิ่งมาถึงจักรวาลดั้งเดิมเอง พวกเขา… พวกเขาก็หายแล้ว?
“อ้ะเนะ…”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่จู่ๆ แสร้งเป็นเด็กดี เขาก็โถมตัวเข้าไปในอ้อมอกของเยี่ยนชิง มองท่านตาของเขาอย่างน่าเอ็นดู เพราะว่าเขายังไม่ลืมว่าครั้งที่แล้วตนซ่อนตัวหนีออกไป
เยี่ยนชิงก็ดีอกดีใจทันที “นี่มันภาพลวงตาแน่ๆ ท่านปู่ ภาพลวงตานี่เหมือนจริงมากเลย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้รูปร่างหน้าตาของเสี่ยวเป่าในวัยสามเดือนเหมือนจริงเช่นนี้ แถมยังนุ่มและอบอุ่นเมื่อกอดอีกด้วย”
“อ๋อ ที่แท้ก็คือภาพลวงตาหรือนี่ มิน่าเล่า” เยี่ยนหงชวนจึงบอกว่าเป็นที่เข้าใจได้ ที่แท้ล้วนไม่ใช่เรื่องจริง เขาก็ว่าทานยาเซียนก็คงไม่หายเร็วเท่านี้
“อ้ะเนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าทุบหน้าอกท่านตาของเขาทีหนึ่ง “อ้ะเนะๆ…”
เยี่ยนอวี๋ในครานี้ นางก็เดินเข้ามา “ท่านพ่อ ท่านปู่ทวด”
ต้าซือมิ่งเองก็ทักทาย และบอกว่า “มิใช่ภาพลวงตา อาการของลูกเขยดีขึ้นแล้วจริงๆ ขอรับ”
“นี่มัน…” เยี่ยนชิงยังไม่ทันเรียกสติคืนได้ เยี่ยนจื่อเสาที่อยู่ในห้องก็คร่ำครวญ “ซี๊ดดด…”
“อ้ะเนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบินเข้าไปเป็นคนแรก
“เข้าไปดูพี่รองกันก่อนเถอะ” เยี่ยนอวี๋พูดพลางเข้าไปเห็นเยี่ยนจื่อเสาที่ลุกนั่งแล้ว เห็นเขากำลังถูศีรษะของตนเองอย่างเงอะงะ สีหน้าปกติดี จึงรู้ว่าเขาไม่เป็นอะไรมาก
“อ้ะเนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าโถมเข้าไปในอ้อมอกของท่านลุงรองของเขาทันที
ทำเอาเยี่ยนจื่อเสาที่เพิ่งตื่นล้มลงไปอย่างดีใจ “เสี่ยวเป่า? ทำไม คิดถึงลุงรองแล้วหรือ”
“เนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่ามุดเข้าไปในอ้อมอกของลุงรองของเขา
เยี่ยนจื่อเสาที่เริ่มฟื้นกลับมาแล้วก็รู้ว่าตนเองอยู่ในความฝันที่ยาวนานมาก และได้รับพลังมากมายจากในความฝันนั้น เขาเผลอระเบิดตัวเองไปเมื่อครู่นี้
ทว่าเยี่ยนอวี๋ยังคงช่วยตรวจชีพจรให้พี่รองของนาง เมื่อมั่นใจแล้วว่าเขาไม่เป็นอะไรก็ถามว่า “พี่รองรู้สึกอย่างไรบ้าง วิงเวียนหรือไม่ หรือว่ารู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่”
“ไม่ พี่สบายดี แต่ว่าทำไมเสี่ยวเป่าตัวเล็กอีกแล้วเล่า ข้านอนหลับไปนานมิใช่หรือ เหตุใดนอกจากเสี่ยวเป่าจะไม่โตแล้ว ยังหดกลับไปอีกด้วยเล่า” เยี่ยนจื่อเสาสงสารหลานชายจับใจ
เยี่ยนเสี่ยวเป่าหน้าละห้อยอีกครั้งเพราะถูกพูดถึงเรื่องเศร้า ทว่า… ดวงตางดงามของเยี่ยนอวี๋เบิกขึ้นเล็กน้อยเอ่ยขึ้นว่า “พี่ใหญ่ก็ตื่นแล้วหรือ”
“เนะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าหายไปทันที เขาทิ้งลุงรองไปหาลุงใหญ่ของเขาแล้ว
เยี่ยนจื่อเสา “…” เขายังเล่นไม่พอเลย
เยี่ยนจื่อเยี่ยที่อยู่ห้องข้างๆ ทันทีที่เขาลืมตาขึ้นก็ถูกเจ้าตัวน้อยน่ารักน่าชังโถมเข้าอย่างจัง “อ้ะเนะๆ”
“เสี่ยวเป่า?” เยี่ยนจื่อเยี่ยที่ลุกนั่งขึ้นมาหัวเราะ เขาจูบหลานชายน้อยน่าเอ็นดูคนนี้ ความรู้สึกราวกับผ่านไปหลายชั่วอายุคนในความฝันค่อยๆ กลายเป็นความจริง
ในขณะเดียวกัน เยี่ยนอวี๋พวกเขาก็หันมาแล้ว “พี่ใหญ่”
“จื่อเยี่ยก็ตื่นแล้วหรือ”
“พี่ใหญ่ก็ตื่นแล้วหรือ”
เยี่ยนชิงรู้สึกว่าเรื่องดีๆ เกิดขึ้นพร้อมกันกะทันหัน ลูกเขยหายดีแล้ว ลูกชายจอมเซ่อทั้งสองก็ตื่นขึ้นมาในที่สุด เห็นทีจะมีแต่เรื่องดีๆ ทำให้อินหลิวเฟิงเกิดแรงบันดาลใจทันที “กูไหน่ไน ครานี้ต้องจัดงานเลี้ยงครอบครัวให้ได้นะ ครั้งที่แล้วมีเรื่องด่วน คราวนี้ไม่รีบแล้วใช่หรือไม่ ต้องจัดให้ชื่นมื่นหน่อยแล้ว”
“ใช่แล้ว” ซีหวังหมู่สำทับ “เรียกพี่น้องมาให้หมด คราวนี้ตำหนักไท่ชางฟื้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์จริงๆแล้ว จวินโฮ่วก็ไม่ป่วยแล้ว สมควรจัดงาน”
“แดนมืดยังไม่ปกติไม่ใช่หรือ” จิ่วอิงเกริ่นขึ้น
“…” ทุกคนเงียบทันที
ซีหวังหมู่ต่อยศีรษะจิ่วอิงทีหนึ่ง “อะไรไม่พูดดันมาพูดเรื่องนี้”
“นี่มันเรื่องจริงนี่ กลับไปกินเลี้ยงแล้วต้องหยุดกลางคันอีก เช่นนั้นไม่น่าผิดหวังยิ่งกว่าหรือ” จิ่วอิงคิดว่าตนเตือนในเวลาที่เหมาะสมดี
อินหลิวเฟิงพูดต่อไปอย่างรู้ตัวเองดีว่า “โชคดีที่คนพูดไม่ใช่ข้า ไม่เช่นนั้นคงจะเป็นจริง”
“เจ้าต้องหุบปากไว้ซะ” ซีหวังหมู่และจิ่วอิงไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
ทว่าเยี่ยนอวี๋กลับพูดขึ้นว่า “งานเลี้ยงครอบครัวต้องจัดแน่นอน เทียนตี้และพวกพ้องพวกเขาก็ต้องกลับมา”
“นายท่าน?” ซีหวังหมู่มองต้าซือมิ่งอย่างเป็นกังวล
เยี่ยนอวี๋ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก นางเหินออกจากตำหนัก ปรากฏเหนือตำหนักไท่ชางแล้ว เพราะนางยังไม่ลืมว่าเวลาของแดนมืดเหลืออีกไม่มากแล้ว และแดนมืดในยามนี้เกี่ยวพันกับสามีของนางอย่างใกล้ชิด ดังนั้น…
“!”
รอบกายเยี่ยนอวี๋จำลองการเปลี่ยนแปลงของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าตั้งแต่กำเนิดจนถึงปัจจุบันอย่างเงียบๆ
ฟู่
ในขณะเดียวกันเหนือศีรษะของเยี่ยนอวี๋ก็ปรากฏมงกุฎหมู่ดาว
วิ้ง
ดอกไม้บนหน้าผากของเยี่ยนอวี๋เปล่งแสงสีเหลืองนวลออกมาอีกครั้ง
จากนั้น…