ตอนที่ 655 แทงหัวใจผีทะลุในกระบี่เดียว สูญเสียดวงจิต
สายตาของเขาทำให้เจี่ยนชิวที่กำลังร้องห่มร้องไห้ตกตะลึงทันที
เยี่ยนอวี๋เปลี่ยนมาจับมือเขา “หาเจอแล้ว?”
แม้จะไม่เคยถาม เยี่ยนอวี๋ก็มั่นใจว่าสามีของนางตามหาเด็กน้อยอยู่ตลอดเวลาโดยใช้ความสัมพันธ์ของพ่อลูกที่ไม่ธรรมดาและยอดเยี่ยมนั่น
ในเมื่อบัดนี้เขามองเจี่ยนชิวเช่นนี้ก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าคือเจี่ยนชิวจริงๆ
ครานี้เอง… กลิ่นอายของเยี่ยนอวี๋แปรเปลี่ยน ชั่วจังหวะหนึ่งเจี่ยนชิวเกือบจะทนไม่ไหว แต่เมื่อนางคิดได้ว่าในเมื่อได้มาแล้วก็ห้ามถูกเปิดโปง นางข่มอารมณ์ของตนไว้นอนซบร้องไห้เช่นนั้นต่อไป ดูแล้วอ่อนแอน่าเวทนาอย่างยิ่ง
แต่สิ่งที่นางไม่รู้คือ หรงต้าซือมิ่งในครานี้ เขาส่งกระแสจิตให้เด็กน้อยว่า “เสี่ยวเป่า พ่อรู้ว่าเจ้าอยู่ที่ไหนแล้ว แต่พ่อเข้าไปได้ยาก เจ้าทำตามที่พ่อพูด มุดออกมาเองได้หรือไม่”
“มุดหรือ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าถามอย่างน่ารักน่าชัง
หรงอี้พยักหน้า “ใช่ ทางเข้านั่นเล็กมาก เสี่ยวเป่าต้องมุดออกมาเอง พ่อเข้าไปไม่ได้”
“ขอรับ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตอบอย่างมาดมั่น “ออกไปจะ ตีอิงอิง”
“อืม” หรงอี้ที่ที่ตอบเสร็จก็เริ่มสอนลูก “เมื่อเจ้าตื่นแล้ว ให้พูดว่าพระจันทร์เย็นย่ำรุ่งอรุณปีจี่ไห่ จากนั้นพ่อจะฉายแสงให้เจ้า เจ้าจับปู่จิ่วออกมาด้วย พ่อจะช่วยเจ้าตีมัน”
“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าหัวเราะอย่างมีความสุข จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมา
จิ่วอิงงงงัน ครั้นกำลังจะถามว่าเด็กน้อย ‘ฝัน’ เห็นอะไร เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่จู่ๆ ลุกนั่งขึ้นกลับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติว่า “พระจันทร์ เย็น ย่ำรุ่ง อรุณ ปีจี่ ไห? ไห่”
จิ่วงุนงงยิ่งกว่าเดิม เฟนเลย์ก็ตะลึง ทว่า…
ต้าซือมิ่งในครานี้เรียกเขาตัวน้อยๆ ออกมาจากบริเวณระหว่างคิ้ว จากนั้นเขายังใช้นิ้วชี้หยดหัวใจโลหิตหยดหนึ่งลงไปในระหว่างคิ้วของเขาตัวน้อย
ซู่
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่มองไปรอบทิศ เขาก็เห็นลำแสงสีม่วงเจิดจ้าท่ามกลางความมืด ลำแสงของท่านพ่อเขา
เยี่ยนเสี่ยวเป่าคว้าจิ่วอิงไว้อย่างดีอกดีใจและมุดออกไปตามลำแสงนั่น ‘คลาน’ ออกไปข้างนอกแล้ว
ความเร็วและทักษะอันแข็งแกร่งนั่น ทำเอาจิ่วอิงตะลึงงัน “ทำอะไรน่ะ”
จิ่วอิงที่ไม่เข้าใจ มันก็ไม่สามารถทำความเข้าใจอะไรได้เลย เพราะว่าเด็กน้อยพามันออกไปแล้ว
“อ้ะเนะ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่มุดออกไปจากแขนเสื้อของเจี่ยนชิว เขาก็คลานออกมาต่อหน้าทุกคน
ครานี้เอง…
เจี่ยนชิวตะลึงตาค้าง
นางทำท่าจะจับเด็กน้อยไว้ แต่เด็กน้อยจะยอมให้นางจับหรือ แน่นอนว่าไม่ยอม
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่กระโจนใส่ท่านพ่อของเขาก็หัวเราะร่า “ฮ่า!…” เป่าฉลาด เป่าออกมาแล้ว เป่าเร็วมาก
หรงต้าซือมิ่งที่กอดเด็กน้อยไว้ทันที เขาก็มองเจี่ยนชิวเงียบๆ
ในขณะที่เยี่ยนอวี๋จับมือของเด็กน้อยไว้แน่น นางก็มองเจี่ยนชิวอย่างสงบ “ตอนนี้ เจ้ายังมีอะไรจะพูดหรือไม่”
“ข้า…” เจี่ยนชิวอ้ำอึ้ง นางยังคงไม่เข้าใจว่าเด็กน้อยออกมาได้อย่างไร นอกจากนี้ยังคลานออกมาไปจากแขนเสื้อของนาง เหตุการณ์เช่นนี้ นางพูดไม่ออกจริงๆ นี่มัน…
“อยู่กับเจ้าจริงๆ ด้วย” อินหลิวเฟิงพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เจ้ากล้าทำได้อย่างไร แล้วก็ท่านเสี่ยวเป่าน่ารักเช่นนี้ เขาทำอะไรขัดเคืองเจ้าหรือ เจ้าจึงต้องลักพาตัวเขาไป”
“เจ้าจริงๆ ด้วย” สายตาของซีหวังหมู่และเทพอัสนีเปลี่ยนไปสิ้นเชิง และล้อมเจี่ยนชิวไว้ด้วยสัญชาติญาณ
ยมราชรู้สึกทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป “กุ่ยหมู่ท่าน ท่าน เหตุใดจะ จึง… นะ นี่คือผีหลงผิดหรือ”
“เกรงว่าจะไม่ใช่ผีหลงผิด แต่คงวางแผนมานานแล้ว” กู้จื่อเฟิงเล่า “นางมีท่าทีผิดปกติตั้งแต่แรก ข้าน้อยถึงกับสงสัยว่านางสมรู้ร่วมคิดกับโลกีของแอตแลนนั่น”
โลกีที่ถูกมัดไว้กับหางของซีหวังหมู่และแกล้งตายมาตลอด เขาก็อยากจะตบศีรษะตนเอง จบกัน สหายถูกจับได้แล้ว เขายังจะหนีอย่างไรได้
แต่แล้ว…
“ไม่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ข้า” หลังจากเจี่ยนชิวอ้ำอึ้งในตอนแรกและตั้งสติได้แล้วกลับยังดึงดันไม่ยอมรับ “ไม่ใช่ข้า ข้าก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่ใช่ข้า”
“ยังคิดจะเล่นลิ้น” อินหลิวเฟิงหมดคำจะพูด
แต่เจี่ยนชิวกลับกล้าเถียงข้างๆ คูๆ ว่า “เล่นลิ้นอะไร ไม่ใช่ข้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว นายท่าน โปรดเชื่อในตัวหม่อมฉัน หากท่านไม่เชื่อ หม่อมฉันยอมให้ท่านค้นวิญญาณ”
“บัดซบ” อินหลิวเฟิงอดพ่นคำหยาบไม่ได้ “โหดเช่นนี้เลยหรือ”
กู้จื่อเฟิงเองก็ขมวดคิ้ว ถึงอย่างไรการค้นวิญญาณก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย อีกทั้งเรื่องเกิดขึ้นต่อหน้าเช่นนี้ แม้กุ่ยหมู่อยากจะลบความทรงจำทิ้งก็คงเป็นไปไม่ได้
ทว่ากุ่ยหมู่กลับกล้าให้ค้นวิญญาณ ไม่รู้ว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ หรือว่า…
กู้จื่อเฟิงยังไม่ทันคิดเสร็จ ต้าซือมิ่งก็พูดขึ้นว่า “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ ค้นวิญญาณเจ้าตัวสีดำนั่นของนาง”
หัวใจของเจี่ยนชิวระเบิดในทันที จบเห่
เจี่ยนชิวที่ทำท่าจะปกป้องคู่หูงูของตนไว้ นางไม่ทันมีเวลาป้องกัน เพราะว่าเยี่ยนอวี๋จับยมทูตดำที่ถูกนางเก็บไว้ออกมาแล้ว
“นาย…”
เจี่ยนชิวแทบทรุด
แต่ว่า… ยมทูตดำตายแล้ว
ยมทูตดำที่ถูกเยี่ยนอวี๋จับออกมากลับไม่มีชีวิตแล้วกลายเป็นงูตัวหนึ่งที่สิ้นใจไปแล้ว
ยมทูตดำที่เพิ่งจะทำให้อินหลิวเฟิงและทุกคนตกใจเมื่อไม่นานมานี้กลับตายไปแล้ว
“นี่มัน…”
อินหลิวเฟิงนิ่งงัน
เจี่ยนชิวที่ชะงักปล่อยร้องโฮออกมาทันที “ยมทูตดำ!”
แต่แล้วเยี่ยนอวี๋กลับพูดว่า “ไม่เป็นไร แม้จะตายแล้วข้าก็ค้นวิญญาณได้”
ขณะที่พูด เยี่ยนอวี๋ก็จับศีรษะของยมทูตดำไว้ นางปล่อยลำแสงสีม่วงหม่นเข้าไปในอนุสติของยมทูตดำด้วยความรวดเร็ว ครานี้เอง… เจี่ยนชิวที่มิอาจทนได้อีก นางรู้ว่านางแกล้งทำต่อไปไม่ได้แล้ว นอกจากนี้นางยังดูออกว่าเยี่ยนอวี๋พวกเขาชี้ตัวนางแล้ว แม้จะไม่มีหลักฐาน เกรงว่านางก็ไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ เมื่อคิดได้เช่นนี้…
“ออกไปซะ!”
เจี่ยนชิวที่พุ่งใส่เทพอัสนี นางระเบิดพลังการต่อสู้ที่เหนือกว่าเทพอัสนีมาก ทำเอาซีหวังหมู่ตกใจ “เสี่ยวเหลยหลบเร็วเข้า! ข้าจัดการเอง!”
เทพอัสนีกลับไม่ยอมหลบ แม้มันจะรู้ว่าเอาชนะไม่ได้ กระทั่งอาจจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ มันก็ยืนหยัดไม่ถอย มันจะไม่ยอมปล่อยคนเลวปากไม่ตรงกับใจที่ขโมยนายน้อยไปคนนี้ไปเด็ดขาด
ทว่า…ตูม
จู่ๆ ลำตัวของเจี่ยนชิวก็แตกออกเป็นละอองเลือด ทำให้การเคลื่อนไหวของนางต้องหยุดชะงักลง
เห็นได้ชัดว่า ‘การระเบิด’ ตนเองเช่นนี้ เป็นเพราะต้าซือมิ่งกระตุ้นแดนมรณะวิชาวิญญาณโลหิตที่อยู่ในร่างกายของเจี่ยนชิว พลังวิชาวิญญาณโลหิตที่แว้งกัดฉีกเส้นเลือดของเจี่ยนชิวทันที ทำให้นางหนีไม่ได้อีก ยิ่งไม่สามารถทำอะไรเทพอัสนีได้
ในขณะเดียวกัน…
ฉึก
กระบี่ไท่ชางจมเข้าไปในหัวใจเจี่ยนชิวจากด้านหลังแล้ว