ตอนที่ 728 จอมโจรอวี๋
แต่เห็นได้ชัดว่าเยี่ยนอวี๋จริงจัง นางวางเด็กน้อยลงบนพื้นแล้ว “ลูก ไปเถอะ”
เยี่ยนเสี่ยวเป่า “???” เพื่อแมวเหมียวตัวหนึ่งแล้วท่านแม่ข้าไม่เอาข้าผู้น่ารักน่าชังคนนี้แล้วหรือ
คุณชายอวิ๋นที่สิบสองมองเยี่ยนอวี๋ลูกตาแทบถลนออกมา “ฮูหยินน้อยนี่คือ…”
“ทำไมหรือ หรือว่าสิ่งที่แม่นางท่านนี้พูดไม่นับ ต้องให้คุณชายกำหนด”
“ไม่ใช่เช่นนั้น…” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองอยากบอกว่าข้าน้อยไม่คิดว่าฮูหยินสามารถทิ้งได้แม้แต่บุตรชายของท่าน เกรงว่านี่คงไม่ใช่บุตรในสายเลือดสินะ นอกจากนี้… คุณชายอวิ๋นที่สิบสองจำเป็นต้องพูดว่า “ฮูหยินบอกว่าบุตรชายชอบเจ้าแมวตัวนี้มิใช่หรือ เช่นนั้นท่านแลกด้วยบุตรชายท่าน คงไม่เหมาะสมหรือไม่”
“ไม่เหมาะสมอย่างไร เขาชอบก็ให้เขาใช้ตัวเขาเข้าแลก ออกจะดี” เยี่ยนอวี๋กล่าว
เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เดิมทีเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามก็พยักหน้า “ใช่”
คุณชายอวิ๋นที่สิบสอง “…”
ก็ได้ ฮูหยินท่านนี้และบุตรชายของนางมีตรรกะแปลกจริงๆ
เขาเดิมพันว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ฮูหยินงดงามท่านนี้ให้กำเนิดแน่นอน
ส่วนซั่งกวนฉิง… เห็นได้ชัดว่านางต่างหากที่ถูกกระทบกระเทือนมากที่สุด
ความตั้งใจเดิมของนาง นางย่อมไม่เต็มใจให้ ตอนนี้นางงงเป็นไก่ตาแตกไปแล้ว
แต่เจ้าตัวน้อยกลับเดินเตาะแตะไปข้างหน้าซั่งกวนฉิงแล้ว “แลกกัน”
ซั่งกวนฉิง “…” ???
นี่มันแม่ลูกพิกลอะไรกัน?
เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้ดูฉลาด อันที่จริงเป็นคนโง่?
แต่ไม่ว่าซั่งกวนฉิงจะคิดอย่างไร เยี่ยนอวี๋ก็สั่งว่า “เม่ยเอ๋อร์ รับเสี่ยวไป๋มา”
“…เจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่” เม่ยเอ๋อร์ที่ลังเลครู่หนึ่ง นางก็ไม่อยากจะเชื่อเหตุการณ์ตรงหน้านี้เหมือนกับจิ่วอิง
ทว่านางยังคงคิดว่า คุณหนูใหญ่ของนางทำอะไรก็ถูก นอกจากนี้คุณชายน้อยน่ารักเช่นนี้ คุณหนูใหญ่ต้องทิ้งไม่ลงแน่นอน ต้องมีแผนการอะไรแน่ๆ
เม่ยเอ๋อร์ที่คิดได้เช่นนี้ก็เดินไปข้างหน้า
เยี่ยนอวี๋พูดขึ้นว่า “แม่นางโปรดคลายผนึกบนขาของเจ้าแมว”
“ข้า…” ซั่งกวนฉิงยังคงงุนงง
คุณชายอวิ๋นที่สิบสองทำสัญลักษณ์มือคลายผนึกบนขาของเจ้าแมวเหมียว แสดงว่าผนึกนั่นเขาเป็นคนสร้าง
แมวเหมียวสีขาวที่ได้รับอิสระอีกครั้งก็กระโดดไปที่มือของเม่ยเอ๋อร์ทันที และยังก้มศีรษะมองเด็กน้อย เห็นได้ชัดว่ามันฟังภาษามนุษย์รู้เรื่อง รู้ว่าเจ้าตัวน้อยจะถูกแลกไปแล้ว
“ฮี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกมองกลับยิ้ม และเดินเตาะแตะไปข้างหลังซั่งกวนฉิงอย่างโง่เขลา ทึกทักไปเองว่าทำธุรกรรมสำเร็จแล้ว
เยี่ยนอวี๋จึงเอ่ย “เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองยังมีคำถามหรือไม่”
คุณชายอวิ๋นที่สิบสอง “…ไม่มี” แม้จะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าเด็กน้อยคนนี้ไม่ใช่ลูกโดยแท้ของสตรีโฉมงามคนนี้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็… คุณชายอวิ๋นที่สิบสองที่กำลังจะพูดบางอย่าง เขายังไม่ทันปริปาก เยี่ยนอวี๋ก็พูดขึ้นว่า “เช่นนั้นก็ดี เสี่ยวเป่า แลกเปลี่ยนเสร็จแล้ว กลับมาหาแม่ได้แล้ว”
“ขอรับ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าผู้เชื่อฟังก็วิ่งเตาะแตะกลับไปทันที
คุณชายอวิ๋นที่สิบสอง “…” ???
นี่มันวิธีการอะไรกัน?
นี่มัน…
“ช้าก่อน”
ซั่งกวนฉิงที่ตั้งสติได้คว้าเด็กน้อยไว้ทันที
น่าเสียดาย…
“เนะ”
เด็กน้อยบินเข้าไปในอ้อมอกของท่านแม่แล้ว ไม่ใช่ผู้ที่ซั่งกวนฉิงจะจับไว้ได้เลย
ความเร็วนั่น… ทำเอาซั่งกวนฉิงชะงักงัน เยี่ยนอวี๋ที่รับเด็กน้อยไว้ก็ให้เม่ยเอ๋อร์นำแมวเหมียวมาให้เขา
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ใช้มืออวบอ้วนทั้งคู่รับไว้ เขาก็ดีใจมาก “เมี๊ยว เมี๊ยวๆ…”
แมวเหมียวสีขาวที่งงงัน มันก็ร้อง “เมี๊ยวๆๆ” ตาม…
“ฮ่า” เด็กน้อยที่หัวเราะเสียงประหลาดออกมาก็นำแมวเหมียวเข้ามาใกล้ปาก
เยี่ยนอวี๋มีความหลัง นางห้ามทันที “กินไม่ได้”
“เมี๊ยว” แมวเหมียวสีขาวร้องก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของเยี่ยนอวี๋ทันที มันมองเด็กน้อยอย่างหวาดระแวง
แต่เจ้าตัวน้อยพูดขึ้นว่า “จูบๆ ไม่กิน รัก…”
เยี่ยนอวี๋โล่งอก ไม่ลืมที่จะสั่งสอนเด็กน้อย “เช่นนั้นเสี่ยวเป่าต้องจำไว้ว่าไม่ว่าเมื่อใดก็ห้ามกินเสี่ยวไป๋ เข้าใจหรือไม่”
“ขอรับ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ตอบตกลงอย่างรวดเร็วก็ยื่นมือไปจับแมวเหมียวน้อยแล้ว
“เมี๊ยว” แมวเหมียวที่คิดจะวิ่งหนีย่อมหนีไม่พ้น มันถูกเด็กน้อยจับไว้แล้ว
คุณชายอวิ๋นที่สิบสองงงงันอีกครั้ง…
ซั่งกวนฉิงกรีดร้อง “นังโจร เจ้าหลอกข้า”
เมื่อนางด่าเสร็จ… ดาบเล่มใหญ่ของเม่ยเอ๋อร์ร้องดังหึ่งทันที
จิ่วอิงขึ้นไปตบหน้าซั่งกวนฉิงแล้ว “มารดาเจ้าเถอะ นี่เจ้าด่าใครกันอยู่ เจ้าน่ะสินังโจร ครอบครัวเจ้าน่ะจอมโจร”
ซั่งกวนฉิงที่ถูกฝ่ามือของจิ่วอิงตบจนล้มลงบนพื้น นางรู้สึกหูอื้อไปหมด เกือบจะสลบไปแล้ว เลือดยังซึมออกมาจากปาก รู้สึกแสบร้อนบนใบหน้า
“คุณหนูรอง!” ผู้ติดตามที่เพิ่งตั้งสติได้รีบขึ้นมาประคองซั่งกวนฉิง กลับพบว่าใบหน้าของคุณหนูพวกเขาบวมเป็นศีรษะสุกรไปแล้ว
คุณชายอวิ๋นที่สิบสองหนังตากระตุก ลุกขึ้นทันที “ท่านทำเกินไปแล้ว”
“ขออภัย ถึงอย่างไรผู้ที่ด่าว่าข้าเป็นโจรก็ตายหมดแล้ว” เยี่ยนอวี๋พูดตรงไปตรงมาอย่างมีมารยาท ความหมายคือนี่ออมมือแล้ว ไม่ได้ตีตาย
เม่ยเอ๋อร์เห็นด้วย พูดต่อไปว่า “ใช่แล้ว ตบนางแค่ทีเดียวถือว่าน้อยไปสำหรับนางแล้ว”
“เช่นนั้นข้าตบอีกสักที” จิ่วอิงพูดพลางทำท่าจะตบอีกครั้ง
คุณชายอวิ๋นที่สิบสองย่อมไม่ยอม เขาห้ามจิ่วอิงทันที
ทว่าน่าเสียดาย… คุณชายอวิ๋นที่สิบสองจะเร็วกว่าจิ่วอิงได้อย่างไร
เพียะ
ซั่งกวนฉิงที่ยังตั้งสติไม่ได้ก็ถูกจิ่วอิงตบด้วยหลังมืออีกทีหนึ่ง
ผู้ติดตามที่ประคองนางยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ คุณหนูจวนเขาก็ถูกตบอีกครั้ง?
ในขณะเดียวกัน…
“บังอาจ!”
เสียงตะคอกอย่างโหดเหี้ยมมาพร้อมคนกลุ่มหนึ่ง พวกเขาพุ่งเข้ามาทางหน้าต่างของห้องรับรองที่เยี่ยนอวี๋อยู่แล้ว
ทว่าพวกเขามาช้าไปอยู่ดี หน้าของซั่งกวนฉิงถูกตบจนบวมทั้งสองข้างเท่าๆ กัน คนเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำเห็นแล้วคงสบายใจ
ส่วนเยี่ยนอวี๋ นางก็พูดกับแมวเหมียวอย่างสงบนิ่งว่า “เห็นหรือยัง”
แมวเหมียวน้อยที่รีบหดตัวเข้าไปในอ้อมอกของเด็กน้อย มันก็ร้อง ‘เมี๊ยว’ ทันที บอกว่าตนเองเห็นแล้ว ตนจะเชื่อฟัง ไม่ก่อเรื่องวุ่นวายแน่นอน
เยี่ยนอวี๋รู้สึกว่าเจ้าแมวเหมียวตัวนี้เข้าใจอะไรผิด นางต้องการบอกมันว่าอย่ากลัวต่างหาก
ทว่าเยี่ยนอวี๋มองแมวเหมียวที่ดูหวาดกลัวและอยู่ในโอวาทตัวนี้แล้วก็ไม่ได้อธิบายสิ่งใด
ส่วนคุณชายอวิ๋นที่สิบสอง เขาก็ช่วยทายาบนใบหน้าของซั่งกวนฉิง ในขณะเดียวกันก็มองเยี่ยนอวี๋ด้วยแววตาเข้มขรึม
ผู้ช่วยที่รีบปรี่เข้ามาออกคำสั่งอย่างโกรธกริ้วว่า “ทหาร จับจอมโจรเหล่านี้ซะ”
คุณชายอวิ๋นที่สิบสองทำท่าจะห้ามปราม… แต่ชายวัยกลางคนที่เหินเข้ามาทางหน้าต่างเป็นคนแรกชักดาบพุ่งใส่จิ่วอิงฆาตกรวายร้ายคนนี้แล้ว “ตายซะ!”
หน่วยลาดตระเวนคุนหลุนซวีกลุ่มหนึ่งที่สวมชุดแบบเดียวกันและพุ่งเข้ามาก็ชักดาบออกมา เห็นได้ชัดว่าต้องการจะจับเยี่ยนอวี๋เป็นคนแรก
น่าเสียดาย…
เคร้ง
ดาบของชายหนุ่มวัยกลางคนที่ผ่าลงไปที่จิ่วอิงเกิดเสียงโลหะปะทะหิน ราวกับว่ามันกำลังตัดหินเหล็กที่แข็งเป็นพิเศษ
ส่วนหน่วยลาดตระเวนที่ทะลักเข้ามายิ่งแย่กว่าเดิม…
“ออกไปซะ”
เม่ยเอ๋อร์กวาดดาบเล่มใหญ่ออกไป หน่วยลาดตระเวนกว่าครึ่งห้องกระเด็นออกไปถนน และกระแทกกับอาคารที่อยู่ตรงข้าม จนเกิดเสียงดังกระแทกไม่หยุด
“เฮ้ย สู้กันแล้ว”
“เร่เข้ามา เร่เข้ามา อย่าได้พลาด ศึกประลองพันปีหนของคุนหลุนซวีเชียวนะ รีบมาดู รีบมาดูเร็วเข้า”
“โอ้ รอข้าด้วย ข้ามาแล้ว…”
เหล่านักฝึกฌานที่ว่างมากไม่มีอะไรทำพากันพุ่งตัวไป กลัวว่าหากช้าไปการต่อสู้จะจบลงก่อน เช่นนั้นคงเสียดายแย่ ทว่าทันทีที่พวกเขามาก็พบว่า ผู้ที่ถูกโจมตีในครานี้กลับเป็นหน่วยลาดตระเวนผู้รักษากฎระเบียบคุนหลุนซวี น่าสนใจยิ่งกว่าเดิม
“นี่ใครกัน กล้าหาญเช่นนี้ แม้แต่หน่วยลาดตระเวนของคุนหลุนซวีก็กล้าหาเรื่อง”
“อ๋อ ก็เจ้านายและลูกน้องสี่คนเมื่อครู่นี้ไง สตรีอุ้มลูกคนนั้นไม่ใช่คนที่รับมือด้วยง่ายจริงๆ สู้กันจริงๆแล้ว ฮ่าๆๆๆ…”
“แหม จริงๆ ด้วย พลังการต่อสู้ไม่ธรรมดาเลย เราดูกลุ่มคนพวกนี้ไม่ผิดไปจริงๆ ด้วย” เหล่านักฝึกฌานที่เริ่มหยิบเม็ดแตงโมออกมาแทะตื่นเต้นจนเหมือนกับตนเองจะต่อสู้เอง โดยเฉพาะจิ่วอิงในครานี้ เขาโหดเหี้ยมจริงๆ เขาทำให้ดาบของชายหนุ่มวัยกลางคนแตกละเอียดในทันที ทำเอาชายวัยกลางคนที่เมื่อครู่นี้ยังดูมีศักดิ์ศรีคุกเข่าลงทันที
ช่วยไม่ได้ ขามันอ่อนไปหมด
ถึงอย่างไรดาบของเขาก็เป็นดาบเซียนเชียวนะ
ผู้ที่สามารถทำให้ดาบของเขาแตกละเอียดเช่นนี้ได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นมหาเทพ
บัดซบ…
เจอของยากเข้าให้แล้ว
คุณชายอวิ๋นที่สิบสองเองคิดว่าตนเองรู้ความตื้นลึกของเยี่ยนอวี๋และพรรคพวกแล้ว เขาลุกขึ้นพูดว่า “พอแล้ว หยุดสู้กันได้แล้ว ฮูหยินน้อยคนนี้ไว้หน้าข้าบ้าง ขอโทษฉิงเอ๋อร์ ถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ดีหรือไม่”
“เจ้าคือใครกัน ทำไมต้องไว้หน้าเจ้าด้วย” จิ่วอิงตอบโต้กลับไปอย่างไม่สบอารมณ์ เห็นทีแรกก็รู้ว่าหนุ่มหน้าขาวนี่ไร้ยางอายที่สุด หลอกใช้หญิงโง่เขลา คิดว่าดูไม่ออกหรือ
“เจ้า…” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองพูดไม่ออก เขามองไปที่เยี่ยนอวี๋ “ฮูหยินน้อยคงไม่ได้ต้องการทำให้เรื่องบานปลายหรอกนะ”