เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 738 นำทางภรรยา

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 738 นำทางภรรยา

เยี่ยนจื่อเยี่ยตื่นเต้นเล็กน้อย “น้องเขย?”

“ตื่นแล้วหรือ” เยี่ยนชิงตามมาเพราะได้ยินเสียง เห็นได้ชัดว่าเป็นห่วงลูกเขยมาก

เทียนตี้คอยสัมผัสทั้งสองฝั่งต่อไป เขาพบว่าความเร็วในการเริ่มเปิดใช้งานค่ายกลเหมือนกับว่าจะช้าลงกว่าเดิมเพราะการตื่นของอาจารย์พ่อดอกบัวขาวคนนี้

นี่มันผิดปกติมาก

อาจารย์พ่อจะตื่นแล้ว ค่ายกลนั่นก็ควรจะเปิดใช้งานเร็วขึ้นไม่ใช่หรือ เหตุใดกลับช้าลงเล่า?

เทียนตี้ไม่เข้าใจ…

เยี่ยนชิงที่เห็นสภาพของต้าซือมิ่งที่ยังคงนอนอยู่ก็อดพูดเหน็บไม่ได้ว่า “ข้าคิดว่าตื่นแล้วเสียอีก แต่ยังไม่ตื่นหรอกหรือ เสียงดังเช่นนี้ ทำอะไรกันน่ะ”

เยี่ยนจื่อเยี่ยกลับตอบว่า “น่าจะใกล้แล้วขอรับ”

เทียนตี้ขมวดคิ้ว สัมผัสสถานะของการเปิดใช้งานค่ายกลต่อไป คิดว่าอาจจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ อันที่จริงสภาพของอาจารย์พ่อดอกบัวขาวน่าจะไม่มีผลกระทบต่อค่ายกล

ทว่าไม่ว่าจะเป็นต้าซือมิ่งหรือค่ายกล เหมือนกับว่าจะเงียบลงแล้ว

เทียนตี้ได้แต่อดทนเฝ้าดูต่อไป…

ในขณะเดียวกัน… เยี่ยนอวี๋ที่ยังอยู่ในยุคคุนหลุนก็สัมผัสได้ว่าค่ายกลของทางฝั่งจักรวาลดั้งเดิมเริ่มเปิดใช้งานแล้ว แต่ค่อนข้างช้า คาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกประมาณครึ่งชั่วยาม

เยี่ยนอวี๋ที่ลืมตาขึ้นอดพึมพำไม่ได้ “เหตุใดครั้งนี้จึงช้าเช่นนี้นะ” หรือว่าเป็นเพราะนี่เป็นการเปิดใช้งานครั้งที่สอง

“เกิดอะไรขึ้นหรือ” จิ่วอิงที่ถามเยี่ยนอวี๋เบาๆ ยังลูบเจ้าตัวน้อยที่นอนหลับปุ๋ย

สายตาของเยี่ยนอวี๋อ่อนโยนลงเพราะลูกที่น่ารักน่าชัง น้ำเสียงก็อ่อนโยนไร้ที่เปรียบ “น่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณครึ่งชั่วยาม ประตูมิติจึงจะเปิด เราต้องรอก่อน”

“ไม่เป็นไร ติดต่อได้ก็พอ” จิ่วอิงสบายใจ เขากลัวว่าจะหาทางกลับไปไม่ได้ นั่นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะ คิดถึงประสบการณ์คลับคล้ายเช่นนี้ เขาเคยผ่านมาก่อน และยังทำให้เกิดจุบจบอันน่าเจ็บปวดด้วย

จิ่วอิงจึงมีบาดแผลในใจ กลัวเพียงจะกลับไปไม่ได้ ครานั้น…

จิ่วอิงที่ลูบเด็กน้อยอีกครั้ง ก็ตบหน้าอกเบาๆ ด้วยสัญชาติญาณ “เสี่ยวเป่าน่ารักเช่นนี้ จะให้เขาเดินตามรอยปู่เขาไม่ได้”

“อะไรหรือ” เยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจ

จิ่วอิงถ่มน้ำลายบอกว่า “ไม่มีอะไร ปู่จิ่วโรคประสาทกำเริบน่ะ”

“อ๋อ” เม่ยเอ๋อร์เข้าใจแล้วว่าที่แท้เจ้าหมอนี่เป็นโรคประสาทนี่เอง มิน่าเล่า

จิ่วอิง “…”

เหตุใดสายตาของเม่ยเอ๋อร์ทำให้เขาจิ่วอิงรู้สึกอึดอัดจังเลยนะ

เยี่ยนอวี๋กลับไม่ได้ถามต่อไป เพียงแค่อุ้มเด็กน้อยที่นอนอยู่บนตักเข้ามาในอ้อมแขน ในขณะเดียวกันก็สัมผัสประตูเขตแดนก่อนหน้านี้ นางพบว่าสิ่งมีชีวิตทยอยกันเข้ามาแล้ว

ทว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ยังคงอยู่รอบนอก ยังไม่ได้เข้ามาใกล้บริเวณศูนย์กลาง ถึงอย่างไรกฎของที่แห่งนี้ก็ค่อนข้างเก่าแก่และวุ่นวาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อพวกเขามาก

ดังนั้นจิ่วอิงจึงเอ่ยขึ้นอย่างเข้าใจเบาๆ ว่า “เท่าที่เห็นสถานการณ์ตอนนี้ ผู้ที่เข้ามาไม่มีผลกระทบต่อเรามาก ตราบใดที่อวิ๋นเหลียนคนนี้ไม่สร้างปัญหา เราก็จะกลับไปได้สำเร็จ”

“อืม” เยี่ยนอวี๋ก็คิดเช่นนี้ แต่เพื่อป้องกันปัญหา นางยังคงส่งเม่ยเอ๋อร์ไปสำรวจคนเหล่านี้ ดูว่ามีข่าวสำคัญอะไรที่ตกหล่นไปหรือไม่

ถึงอย่างไรอวิ๋นเหลียนก็อยู่ในละแวกนี้ พลังจิตใจที่เยี่ยนอวี๋แผ่ซ่านออกไปนั้นมีจำกัดมาก เพื่อป้องกันไม่ให้อวิ๋นเหลียนแตกตื่น เรื่องปลีกย่อยเหล่านั้นเยี่ยนอวี๋ไม่สามารถฟังและเห็นได้ชัดเจน

จิ่วอิงกลับไม่ได้บ่นว่าจะตามเม่ยเอ๋อร์ไป แม้เขาจะอยากออกไปเพื่อฉวยโอกาสกินคนก็ตาม แต่เขาวางใจให้เยี่ยนอวี๋สองแม่ลูกอยู่ที่นี่เพียงลำพังไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงอดทนเฝ้ามองอวิ๋นเหลียนต่อไป

ส่วนอวิ๋นเหลียน… นางมีความเคลื่อนไหวจริงๆ ด้วย

จิ่วอิงเตือนด้วยความระมัดระวังทันที “ยายแก่นี่เหมือนกับว่ากำลังจะเลื่อนขั้นสมบูรณ์แล้ว ความผันผวนของพื้นที่โดยรอบและห่วงโซ่กฎเกณฑ์ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว”

“เห็นทีจะใช่” เยี่ยนอวี๋กอดเด็กน้อยไว้แน่น คิดถึงความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุด นั่นก็คือ… ประตูมิติอาจจะถูกรบกวนเพราะการเลื่อนขั้นของอวิ๋นเหลียน

ถึงอย่างไรอวิ๋นเหลียนก็เป็นปฐมราชินีผู้สร้างของที่นี่ การเลื่อนขั้นของนางส่งผลกระทบต่อมิติปริภูมิทั้งหมด เช่นนั้นประตูมิติที่ต้องใช้กฎมิติปริภูมิเป็นพื้นฐานในการเปิดใช้งานก็ต้องได้รับผลกระทบแน่นอน

เมื่อคิดได้เช่นนี้…

เยี่ยนอวี๋ตัดสินใจได้ว่า “ห้ามให้นางเลื่อนขั้น”

“ว่าไงนะ” จิ่วอิงยังไม่ได้คิดลึกซึ้งเช่นนั้น จึงไม่ทันเข้าใจ

เยี่ยนอวี๋อธิบายว่า “หากนางเลื่อนขั้นจะทำให้พวกเราไม่สามารถกลับไปได้”

จิ่วอิงกระจ่าง “เช่นนั้นให้ข้ากินนางหรือไม่?” ความคิดนี้ดี สายตาของจิ่วอิงเป็นประกายทันที

“ไม่ง่ายดายเช่นนั้น” แม้เยี่ยนอวี๋รู้ว่าพลังการต่อสู้ของปู่จิ่วไม่ธรรมดา แต่อวิ๋นเหลียนก็ไม่ใช่คนไร้ฝีมือ หากจะกำจัดนางไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น อีกทั้งอาจจะกินไม่สำเร็จและพ่ายแพ้ได้

จิ่วอิงกลับบอกว่า “ลองดูเถอะ ไม่แน่ว่าปู่กินนางได้ในคำเดียวเล่า นี่คงเป็นเรื่องน่ายินดี”

“…เอาอย่างนี้ ข้าจะเข้าไปรบกวนการเลื่อนขั้นของนาง หากนางยังคงมีผลกระทบต่อพวกเรา ปู่จิ่วค่อยกิน” เยี่ยนอวี๋คิดว่าเมื่ออวิ๋นเหลียนถูกนางยับยั้งไว้น่าจะถูกกินได้ง่ายกว่า

จิ่วอิงเองก็คิดเช่นนี้ ดังนั้นเขากระตือรือร้นขึ้นมา “ดี ตามนี้”

เยี่ยนอวี๋นั่งขัดสมาธิอีกครั้ง นางลูบเด็กน้อยพลางสัมผัสสถานการณ์เลื่อนขั้นของอวิ๋นเหลียน ในขณะเดียวกันค่อยๆ ผสานพลังจิตใจของตนเองเข้าไปในความว่างเปล่า เพื่อสะดวกต่อการทำการใหญ่ภายหลัง

จิ่วอิงรู้สึกว่าภรรยาอี้เอ๋อร์คนนี้งดงามมากจริงๆ งดงามกว่าเจ้านายเจ้าเล่ห์คนนั้นของเขามาก ยังช่วยให้เขาได้กินคน คนที่ถูกกินยังเป็นปฐมราชินีผู้สร้างด้วย อุแว้…

จิ่วอิงต้องการบอกว่าเนื้อของคนระดับนี้เขายังไม่เคยกินเลย ไม่รู้ว่าจะสดและอร่อยกว่าพวกคนไก่อ่อนหรือไม่ ถึงอย่างไรทวยเทพอะไรพรรคนี้น่ะกระดูกแข็งเกินไป ไม่ค่อยชอบ

กระดูกของอวิ๋นเหลียนผู้สร้างคนนี้ ไม่รู้ว่าจะมีเนื้อสัมผัสกลางๆ หรือไม่ แบบเนื้อเด้งสู้ฟัน

ซี๊ด…

จิ่วอิงที่น้ำลายไหลมองเยี่ยนอวี๋ตาปริบๆ

คนที่ไม่รู้คงคิดว่าเขาคนที่เขาอยากกินคือเยี่ยนอวี๋

ในขณะเดียวกัน… ผู้แข็งแกร่งที่เข้ามาในแดนคุนหลุนก็หลั่งไหลกันมามากขึ้นเรื่อยๆ

เม่ยเอ๋อร์ ‘เดินเอ้อระเหย’ รอบหนึ่ง พบว่าผู้ที่เข้ามาในยามนี้ส่วนใหญ่เป็นมหาเทพ อีกทั้งหลังจากที่พวกเขาเคยชินกับแวดล้อมด้านนอกแล้วก็เริ่มเคลื่อนตัวเข้าใกล้ศูนย์กลาง

จากนั้นยังมีผู้แข็งแกร่งระดับเทียนอ๋องสองคนทยอยตามมา

แม้แต่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย นางเองก็เข้ามาแล้ว มาพร้อมคุณชายอวิ๋นที่สิบสองอะไรนั่น พวกเขาเข้ามาพร้อมกัน

นอกจากนี้เม่ยเอ๋อร์ยังบังเอิญได้ยินว่า “ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเป็นอะไรไปหรือ”

เม่ยเอ๋อร์กังวลขึ้นมาทันที เพราะว่านางไม่รู้สึกถึงทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเลย แต่เหมือนกับว่าบุคคลท่านนี้จะเข้ามาด้วย

เม่ยเอ๋อร์จึงตั้งใจสัมผัสกว่าเดิม แต่กลับได้ยินทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตอบว่า “อาจจะเป็นเพราะอารมณ์ไม่ดี ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด คุณชายอวิ๋นที่สิบสองอย่าใส่ใจเลย”

ทันทีที่เม่ยเอ๋อร์ได้ยินจึงรู้ว่าทูตสวรรค์ฝ่ายขวาไม่ได้เข้ามาด้วย จึงวางใจลงเล็กน้อย ทว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายกลับหันมาที่ตำแหน่งของเม่ยเอ๋อร์ด้วยไหวพริบที่เฉียบแหลม “ใคร”

เม่ยเอ๋อร์ไม่ได้ตอบ และหายจากที่เดิมไปเงียบๆ แล้ว

จากนั้น… ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายปรากฏขึ้นบริเวณเดิมที่เม่ยเอ๋อร์อยู่

คุณชายอวิ๋นที่สิบสองและเทียนอ๋องสองท่านที่ตามมาทีหลังถามขึ้นว่า “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย เกิดอะไรขึ้นหรือ”

“เมื่อครู่นี้มีจิตเหนือสำนึกแอบฟังพวกเราสนทนา” หยางเตี๋ยอีตอบอย่างมั่นใจ

คุณชายอวิ๋นที่สิบสองชะงักงัน “อาจจะเป็นเทียนอ๋องตระกูลฉิวหรือไม่”

“เป็นไปได้” หยางเตี๋ยอีไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าคือผู้ใด

เม่ยเอ๋อร์ ‘ได้ยิน’ ถึงตรงนี้รู้ว่ายังไม่ถูกเปิดเผยจึงไม่ได้ตั้งใจแอบฟังต่อไป นางเดินไปอีกทางหนึ่ง เดินห่างจากหยางเตี๋ยอีพวกเขาเงียบๆ

คุณชายอวิ๋นที่สิบสองในครานี้ยังคงถามว่า “ฉิวเทียนอ๋องเข้ามาเองหรือ หรือว่าพาซานเอ๋อร์มาด้วย”

“พามาด้วย” ก่อนหน้านี้หยางเตี๋ยอีเฝ้าประตูเขตแดนตลอด ย่อมรู้ว่าเทียนอ๋องตระกูลฉิวพาเหลนสาวอันเป็นที่รักเข้ามาในแดนคุนหลุนด้วย

คุณชายอวิ๋นที่สิบสองจึงกล่าวว่า “เห็นทีซานเอ๋อร์จะขึ้นเป็นมหาเทพแล้ว”

“งานสมรสของคุณชายอวิ๋นที่สิบสองและคุณหนูซานก็จะได้จัดในวาระได้ ปฐมราชินีก็กำลังออกจากการจำศีลพอดี ตำหนักสวรรค์ของเราจะมีงานมงคลคู่พร้อมกันแล้ว” เทพราชาอาวุโสหลันที่ติดตามอยู่ข้างกายยิ้มพูด

คุณชายอวิ๋นที่สิบสองก็ยิ้ม “ขอให้เสด็จแม่สำเร็จ”

“สำเร็จแน่นอน ปฐมราชินีกำลังเลื่อนขั้นแล้ว” ครานี้หยางเตี๋ยอีเองก็กำลังสัมผัสสถานการณ์เลื่อนขั้นของอวิ่นเหลียน ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ข้าต้องไปปกป้องท่าน”

เทพราชาหลันพูดทันทีว่า “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไปเถอะ ข้าน้อยและเทพราชาชิงจะปกป้องคุณชายอวิ๋นที่สิบสองเอง”

“ใช่แล้ว เรื่องของเสด็จแม่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายรีบไปเถอะ มิต้องกังวลข้าน้อย” คุณชายอวิ๋นที่สิบสองเร่งเร้า

หยางเตี๋ยอีพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก นางหายตัวไปจากที่เดิมแล้ว

ผ่านไปไม่นาน… หยางเตี๋ยอีก็ปรากฏขึ้นบริเวณใกล้จุดศูนย์กลางแดนคุนหลุนแล้ว ซึ่งก็คือตำแหน่งที่เยี่ยนอวี๋และพรรคพวกอยู่

เพียงแต่ว่าทันทีที่นางปรากฏตัว นางก็สัมผัสถึงวิกฤตอันน่าสะพรึงและอันตรายถึงแก่ชีวิต ทำให้นางรวบรวมตบะทั้งหมดถึงขีดสุด ทว่า…

จิ่วอิงที่กลายร่างเป็นร่างเดิมรออยู่ที่นี่นานแล้วก็กลืนหยางเตี๋ยอีทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายท่านนี้ลงไปเงียบๆ และยัง ‘ปิด’ ปากเคี้ยวกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว

การกลืนกินเทพทั้งคนลงไปเช่นนี้ทำให้จิ่วอิงที่กลืนลงท้องไม่ค่อยพอใจนัก “แอบกินไม่อร่อยจริงๆ” จะดีกว่าถ้าได้กินอย่างเปิดเผยเสียงดังกร๊อบแกร๊บ

เพียงแต่ว่าทันทีที่จิ่วอิงกินทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายลงไป ป้ายชะตาชีวิตของฝ่ายหลังก็แตกทันที ย่อมทำให้ท่านเซียนที่อยู่กรมชะตาสวรรค์คุนหลุนซวีแตกตื่น ฝ่ายหลังรีบไปรายงานทูตสวรรค์ฝ่ายขวา

ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาที่ได้ยินดังนั้น…

—————————

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท