เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน – ตอนที่ 770 คืนแต่งงาน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

ตอนที่ 770 คืนแต่งงาน

“เหมียว”

เจ้าเหมียวสีขาวที่ตกใจส่งเสียงร้องตกลงไปในไข่

มันตกลงไปใน ‘ไข่ลูกเจี๊ยบ’ ที่ตัวมันเองทำแตก

เยี่ยนอวี๋ไม่ทันคว้ามันไว้… มันก็ตกลงไปแล้ว

“เมี๊ยว…”

เสียงร้องโหยหวนนั้นน่าสังเวชทีเดียว

เยี่ยนอวี๋ก็… ก็ตะลึงงัน…

“ทำอย่างไรดี” เทียนตี้ถาม

สีหน้าของพิกซีน้อยที่ไม่ค่อยสู้ดีอยู่แล้วยิ่งย่ำแย่กว่าเดิม ทว่ามันก็มองไปที่ต้าซือมิ่งด้วยสัญชาติญาณ

ทว่า… ต้าซือมิ่งยังไม่จำเป็นต้องทำอะไร ‘ไข่ลูกเจี๊ยบ’ กำลังรักษาตนเองแล้ว

จากนั้น… ภายใต้สายตาของทุกคน ไข่ลูกยักษ์ก็รักษาตนเองจนหายได้อย่างมหัศจรรย์

และปิดผนึกเจ้าเหมียวสีขาวไว้ข้างในแล้ว…

เยี่ยนอวี๋ตบสามีนางเบาๆ “เสี่ยวไป๋ทำอย่างไร ต้องจับออกมาหรือไม่”

“จับอย่างไรเล่า” ต้าซือมิ่งที่ไม่รู้จะทำอย่างไร เขาเองก็อยากจับออกมา และยังอยากถามเจ้าเหมียวตัวนี้ว่าเรื่องส่งจดหมายเป็นอย่างไรแล้ว แม้ว่าจะเพิ่งผ่านไปเพียงไม่นาน รู้ว่าคงจะไม่สำเร็จ

ทว่า… ต้าซือมิ่งที่บีบระหว่างคิ้วเบาๆ กล่าวว่า “การเลื่อนขั้นของลูกเจี๊ยบไม่ได้ถูกขัดขวาง เสี่ยวไป๋ตัวเล็ก บริเวณที่แตกก็ไม่ได้ใหญ่ มันสามารถรักษาตนเองได้”

“เช่นนั้นก็ดี” พิกซีน้อยกระพือปีกลวดลายหลากสีของมันอย่างรู้สึกโล่งอก ส่วนเสี่ยวไป๋จะเป็นอย่างไร ตอนนี้มันไม่สนใจ เพราะว่ามันไม่รู้จักเสี่ยวไป๋นั่น

แต่ว่า… ต้าซือมิ่งยังพูดว่า “กลัวก็แต่เสี่ยวไป๋จะเห็นลูกเจี๊ยบเป็นของกิน”

พิกซีน้อย “…”

ดังนั้นสถานการณ์ของจักรพรรดิมารน้อยยังคงอันตรายมากอยู่ดีนี่นา

แต่ว่าเทียนตี้คิดว่า “บางทีเสี่ยวไป๋อาจจะได้ยิน หรือไม่เราลองพูดกับมันดู บอกให้มันอย่ากินเจ้าลูกเจี๊ยบ”

“ลองดูเถอะ” เยี่ยนอวี๋ส่งสัญญาณให้เทียนตี้ลองทำเช่นนี้

เทียนตี้ “ข้าหรือ”

“ข้าเอง” ต้าซือมิ่งที่ไม่มีทางเลือกเดินขึ้นหน้า มือข้างหนึ่งแตะไว้บนไข่ยักษ์ใบนั้น ส่งเสียงเข้าไปในไข่อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก “เสี่ยวไป๋ ได้ยินตอบหน่อย”

“เหมียว” เสี่ยวไป๋ร้องตอบ และยังร้อง ‘เหมียวๆๆ’ ขึ้นมา บอกว่ามันเห็นลูกไก่ตัวหนึ่ง ลูกไก่ดูเป็นอาหารบำรุงที่ดีมากเลย อยากกินจังเลยเหมียว…

แต่ต้าซือมิ่งส่งโทรจิตให้มันทันทีว่า “ลูกเจี๊ยบที่อยู่ข้างในกินไม่ได้ อีกอย่างทางที่ดีเจ้าหาวิธีมุดออกมาโดยที่ไม่ทำร้ายเจ้าลูกเจี๊ยบเสีย”

“เหมียว?” เจ้าเหมียวสีขาวนอนมองลูกไก่ที่ถูกห่อหุ้มด้วยแสงแห่งความโกลาหลอย่างเสียดาย มันรู้สึกว่าท้องพระคลังที่มันกินไปเมื่อครู่บำรุงได้ไม่สู้เจ้าลูกเจี๊ยบตัวนี้ตัวเดียวเลยเหมียววว…

“ออกมา” ต้าซือมิ่งที่หมดความอดทน น้ำเสียงแฝงความเบื่อหน่าย

เจ้าเหมียวสีขาวจึงตอบว่า “เหมียว” บอกว่าจะออกไปเร็วๆ นี้

แต่ว่าเจ้าเหมียวสีขาวยังคงไม่อยากทิ้งลูกไก่ตรงหน้าตัวนี้ มันจึงเข้าไปลูบลูกไก่สีเหลืองทีหนึ่ง กินไม่ได้ อย่างน้อยก็คงลูบได้…

ทว่า… ทันทีที่มันลูบ

แคร่ก

ไข่ยักษ์กำลังแตกร้าว

หรงอี้หนังตากระตุก “เสี่ยวไป๋ เจ้าทำอะไรน่ะ”

“เหมียวๆๆ…” เจ้าเหมียวสีขาวบอกว่าข้าก็แค่ลูบเจ้าลูกเจี๊ยบ แล้วก็อย่าเร่งข้า ข้ากำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้

หรงอี้ที่ฟังภาษาแมวไม่ออก เขาทำได้เพียงส่งโทรจิตอีกครั้ง “เจ้าอย่าขยับ”

“เหมียว” เจ้าเหมียวสีขาวที่ลูบเจ้าลูกเจี๊ยบหยุดทันที

หรงอี้ที่บีบระหว่างคิ้วอีกครั้งก็ส่งโทรจิตว่า “ช่างเถอะ เจ้าอย่าเพิ่งออกมาก่อนดีกว่า รอจนกว่าเปลือกไข่แตกเอง เจ้าค่อยออกมาพร้อมกัน จำไว้ว่าอย่ารบกวนเจ้าลูกเจี๊ยบ”

“เหมียว” เจ้าเหมียวสีขาวบอกว่า ข้าก็แค่ลูบมัน ไม่ได้รบกวนมันนะเหมียว…

ต้าซือมิ่งมองไม่เห็น จึงได้แต่เก็บมือกลับมา ขอเพียงเจ้าเหมียวสีขาวไว้ใจได้ อย่าทำอะไรลูกเจี๊ยบ มิเช่นนั้นลูกเจี๊ยบร้อยตัวก็ไม่พอให้เสี่ยวไป๋กิน

โชคดีที่เจ้าลูกเจี๊ยบคงเคยชินกับการถูกลูบสัมผัสจึงไม่ได้ปรากฏปฏิกิริยารุนแรงเกินไป เปลือกของมันก็ไม่ได้แตกร้าวต่อไป และยังรักษาตัวเองอีกครั้ง

พิกซีน้อยสูดหายใจเข้าลึก รู้สึกได้ว่าในที่สุดหัวใจก็กลับมาเต้นปกติ

เยี่ยนอวี๋ถามขึ้นว่า “สามี เป็นอย่างไรบ้าง เสี่ยวไป๋ได้ยินหรือไม่”

“ได้ บอกมันแล้วว่าอย่ากินลูกเจี๊ยบและอย่าขยับไปไหน ให้อยู่ข้างในต่อไป”

“ค่อยยังชั่ว ได้ยินก็ดีแล้ว เสี่ยวไป๋เชื่อฟังดีจริงๆ” เยี่ยนอวี๋คิดว่าคงไม่มีปัญหา

ทว่าจิ่วอิงตัวจิ๋วที่ ‘คลานออกมา’ จากตัวเด็กน้อยบอกว่า “หึ นั่นเป็นเพราะภรรยาอี้เอ๋อร์เจ้าไม่รู้จักเสี่ยวไป๋ดีพอ มันขี้โกงจะตาย ขี้โกงที่สุด แต่ว่าตอนนี้ก็ได้แต่เชื่อว่ามันจะไม่ทำอะไรซี้ซั้วแล้ว ไม่เช่นนั้นเล่า”โนเวลพีดีเอฟ

“…ก็ใช่” เทียนตี้จำเป็นต้องพยักหน้าพูดว่า “จะทำลายเปลือกจับมันออกมาก็คงไม่ได้ แต่ว่าจะว่าไปแล้ว เจ้าเหมียวตัวนี้เหตุใดจึงโผล่มากะทันหันเช่นนี้นะ มันควรจะอยู่บนตัวเด็กน้อยเหมือนกับปู่จิ่วมิใช่หรือ”

เยี่ยนอวี๋ตอบทันทีว่า “เพิ่งกระโดดไปเมื่อครู่นี้ ซุกซนน่ะ จับไม่ทัน”

“อ๋อ เช่นนั้นความเร็วนี้ก็ใช้ได้เลยจริงๆ ข้าไม่ทันสังเกตเห็นเลย” เทียนตี้ไม่มีข้อกังขาแม้แต่น้อย ไม่ได้คิดไปถึงเลยว่าเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้จะเกี่ยวข้องกับเรื่องท้องพระคลังถูกปล้น

สิ่งที่เยี่ยนอวี๋ต้องการก็คือผลลัพธ์เช่นนี้ นางพยักหน้าสีหน้าคงเดิม “เสี่ยวไป๋ค่อนข้างพิเศษน่ะ”

จิ่วอิงเองก็ไม่รู้ว่าเสี่ยวไป๋แบกรับหน้าที่อันหนักหน่วงไว้ และยังถูกต้าซือมิ่งสั่งให้ไปหลอกเทียนตี้ ยังกล่าวอย่างเห็นด้วยว่า “ใช่แล้ว เสี่ยวไป๋คือแมวเหมียวอัศจรรย์เช่นนี้มาโดยตลอด ถือว่าเจ้าลูกเจี๊ยบโชคร้ายที่เจอมัน”

“โชคร้ายจริงๆ…” เทียนตี้ทอดถอนใจ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าท้องพระคลังของตนถูกปล้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร นั่นเป็นเพียงสิ่งของนอกกาย

ทว่าพิกซีน้อยยังคงพูดขึ้นว่า “เช่นนั้นฝ่าบาทท่านจะอยู่ที่นี่คอยดูแลมันหรือไม่” มิเช่นนั้นหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร

แม้คำพูดข้างหลังพิกซีน้อยจะไม่ได้พูด แต่ความกังวลของมันก็เผยออกมาอย่างชัดเจน

โชคดีที่ต้าซือมิ่งไม่ได้ทิ้งเจ้าลูกเจี๊ยบอย่างไม่ไยดี เขาพยักหน้ากล่าวว่า “อืม รอลูกเจี๊ยบออกมา เราค่อยไป”

“มิเช่นนั้นก็วางใจไม่ลง” เยี่ยนอวี๋เองก็คิดว่าไม่ควรทิ้งมันไว้

แต่เทียนตี้อดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “แต่งานสมรสของอาจารย์และอาจารย์พ่อจะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า จดหมายเชิญส่งออกไปหมดแล้ว”

“ตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดข้าจึงไม่รู้เลย” เยี่ยนอวี๋บอกว่านางไม่รู้เลยจริงๆ

เทียนตี้พูดขึ้นว่า “เดิมเรื่องนี้ก็เตรียมไว้อย่างเหมาะสมแล้ว อีกอย่างหนึ่งวันของโลกสวรรค์เท่ากับหนึ่งปีของโลกมนุษย์ มีเวลาเพียงพอให้ท่านลุงเยี่ยนพาญาติพี่น้องในโลกมนุษย์มาร่วมงาน”

เยี่ยนอวี๋ “…”

แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเร็วเช่นนี้หรือไม่

มิหนำซ้ำเรื่องใหญ่เช่นนี้ ไม่ควรจะปรึกษากับนางก่อนค่อยตกลงหรือ

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นงานสมรสที่นางชดเชยให้สามีนะ ตอนนี้นางกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย นี่มันไม่จริงใจเกินไปหน่อยหรือไม่

เมื่อคิดได้เช่นนี้…

เยี่ยนอวี๋มองสามีอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย อยากจะบอกว่าข้าไม่ได้ดีแต่พูด สั่งคนอื่นทำ แต่เรื่องเหล่านี้ลูกน้องจัดการได้ดีเกินไปแล้ว พวกเขาตระเตรียมไว้ให้นางเรียบร้อย

หารู้ไม่ว่า…

ต้าซือมิ่งรู้เรื่องนี้นานแล้ว แม้แต่คำเชิญก็ได้รับแล้ว

มิหนำซ้ำครานี้ต้าซือมิ่งยังพูดว่า “หากไม่มีอุบัติเหตุอะไร ลูกเจี๊ยบน่าจะฟักออกมาภายในวันสองวันนี้ได้”

“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นอาจารย์ท่านและอาจารย์พ่ออยู่ทะเลสาบสือซ่าไห่ ข้าขอกลับตำหนักสวรรค์ก่อน” เทียนตี้ที่วางใจลงบอกว่าตนเองยุ่งมาก ต้องกลับไปแล้ว

แต่เยี่ยนอวี๋เรียกเขาไว้ “ช้าก่อน ข้าตกลงท่านพ่อและท่านแม่ว่าจะกลับไปกินข้าวพร้อมพวกท่าน เจ้าอยู่ที่นี่คอยสังเกตการณ์ไปก่อน หากมีเรื่องอะไรส่งโทรจิตมาให้ข้าทันที พวกเราจะรีบกลับมา”

เทียนตี้จึงตอบตกลง

พิกซีน้อยเชื่อใจเทียนตี้จึงไม่ได้คัดค้าน

โชคดีที่ระหว่างที่เยี่ยนอวี๋กลับชางอู๋ ไข่ยักษ์ไม่ได้เกิดปัญหาอะไรเลย ถึงอย่างไรเจ้าเหมียวสีขาวก็อยู่นิ่งๆ มันกอดเจ้าลูกเจี๊ยบไว้เงียบๆ

แต่ว่า… จนเมื่อวันแต่งงานของเยี่ยนอวี๋และต้าซือมิ่งมาถึง เจ้าลูกเจี๊ยบมันก็ยังไม่ได้ฟักออกมา

ทว่าเนื่องจากสถานการณ์ของสองวันนี้ปกติดี เยี่ยนอวี๋จึงให้เซ่าเฮ่าดูแลต่อ นางและต้าซือมิ่งจึงกลับจักรวาลดั้งเดิม

ตำหนักสวรรค์

เนื่องจากงานสมรสของปฐมราชินีหยวนชูเป็นเรื่องใหญ่

สวรรค์เก้าชั้นฟ้าประดับประดาด้วยผ้าและโคมไฟสวยงาม เทพและผู้คนล้วนมีความสุข เมื่อพบหน้าคำทักทายแรกคือ “งานมงคล”

“มงคล มงคล งานมงคลสมรสปฐมราชินี”

“นั่นน่ะสิ งานมงคลจริงๆ…”

ทุกคนในสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย ย่อมยินดีปรีดากับเรื่องมงคลเช่นนี้ ทุกคนเองก็อวยพรปฐมราชินีหยวนชูจากใจที่นำพาพวกเขาเดินทางมาถึงทุกวันนี้

หยวนสื่อเทียนจุนได้ยินคำมงคลจากทั่วทุกมุมของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็รู้สึกปรีดา

ใครจะไปคิดว่า… ในสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเมื่อไม่นานนี้เคยเป็นที่ที่เต็มไปด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์คัดค้านการอยู่ด้วยกันของปฐมราชินีและจวินโฮ่ว

“สรรพสิ่งในโลกล้วนไม่เที่ยงแท้” หยวนสื่อเทียนจุนถอนหายใจเบาๆ หวังเพียงว่าความสงบสุขเช่นนี้จะคงอยู่นานกว่านี้

นี่ก็เป็นสิ่งที่เยี่ยนอวี๋ต้องการในบัดนี้ นางเองก็กำลังฟังความเคลื่อนไหวทั่วทั้งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า รวมถึงแอตแลนและจักรวาลทางเหนือ และยังคอยสังเกตทะเลสาบสือซ่าไห่เป็นพิเศษ

เยี่ยนชิงมองนางอยู่ข้างหนึ่ง จู่ๆ ตาก็แดงก่ำ “ครั้งที่แล้วยังเป็นข้าผู้เป็นพ่อที่เงอะงะหวีผมให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์อยู่เลย ครานี้ในที่สุดก็เป็นเมิ่งเอ๋อร์เจ้าหวีเองแล้ว”

จางอวิ๋นเมิ่งที่หวีผมดำขลับของบุตรสาวก็ซาบซึ้งใจ “ตอนที่ตัดเย็บชุดแต่งงานให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ในครานั้น ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ส่งเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ออกเรือนด้วยตนเอง” ตอนนั้นนางตั้งใจจะตายอยู่แล้ว ที่ไหนเลยจะกล้ามีความคิดเช่นนั้น

บัดนี้…

“มันผ่านไปแล้ว”

เยี่ยนอวี๋มองท่านพ่อเจ้าน้ำตาตรงหน้าและมองท่านแม่ในกระจก ความรู้สึกมากมายเอ่อล้นในใจ

“ใช่ ผ่านไปแล้ว” จางอวิ๋นเมิ่งจูบผมของบุตรสาวอันเป็นที่รักก่อนจะไล่เยี่ยนชิงออกไป นางจะเริ่มแต่งตัวให้บุตรสาวจริงจังแล้ว

แม้เยี่ยนชิงจะไม่อยากจากไป แต่ก็รู้ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เขาไม่ต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ในคราวเดียวกันจึงยอมออกไปรอแต่โดยดี

เนื่องจากเคยผ่านการแต่งงานมาครั้งหนึ่ง เยี่ยนอวี๋จึงรู้ขั้นตอนหลังจากนี้เป็นอย่างดี

ทุกอย่าง… ดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้แต่ไหว้เทวดาฟ้าดินก็สำเร็จราบรื่น

“เข้าเรือนหอ…”

ซีหวังหมู่ที่แย่งชิง ‘ตำแหน่ง’ นายพิธีได้สำเร็จ ประกาศขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน เยี่ยนอวี๋ลอบถอนหายใจและเงยหน้ามองสามีของนาง ในที่สุดครานี้นางก็ได้ชดเชยงานสมรสที่สมบูรณ์แบบให้สามีแล้ว

“อ้ะเนะ” เจ้าตัวน้อยที่ดีใจเป็นพิเศษเมื่อเห็นท่านแม่นางมองมา เขาก็ยื่นมืออวบอ้วนของตนไปหาท่านแม่อย่างดีอกดีใจในอ้อมแขนของท่านพ่อเขา

“ฮ่าๆๆ…” เสียงหัวเราะมีความสุขดังก้องไปทั่วห้องโถง

อินหลิวเฟิงเอ่ยขึ้นว่า “ท่านเสี่ยวเป่ารีบพาท่านพ่อท่านแม่เข้าเรือนหอสิ”

“ไป เรือนหอ ไป” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพูดตามด้วยเสียงหน่อมแน้มอย่างมีความสุข

เสียงหัวเราะในห้องโถงดังกว่าเดิม “ฮ่าๆๆๆ…”

ต้าซือมิ่งที่หยิกเด็กน้อยเบาๆ กำลังครุ่นคิดว่าเจ้าเด็กคนนี้ถึงเวลาง่วงนอนแล้วมิใช่หรือ กินไปมากมายเช่นนี้และยังเล่นมานาน ควรจะง่วงนอนแล้ว

น่าเสียดายที่เยี่ยนเสี่ยวเป่ามีชีวิตชีวามาก เข้าเรือนหอกับท่านพ่อและท่านแม่ของเขาและหัวเราะไปตลอดทาง ใครขออุ้มก็ไม่ยอมให้อุ้ม

เยี่ยนชิงและจางอวิ๋นเมิ่งก็ไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่เฝ้าดูครอบครัวทั้งสามคนเข้าเรือนหอด้วยกัน

เมื่อถึงเวลาแลกแก้วสุรา ท่านเสี่ยวเป่าก็อยากจะร่วมวงด้วย ทว่าหรงต้าซือมิ่งที่คิดไม่ดีก็ให้เด็กน้อยดื่มคำหนึ่งจริงๆ

“สามี…” เยี่ยนอวี๋พูดไม่ออก

“ฮ่า” เยี่ยนเสี่ยวเป่าดีใจมาก “หวาน…”

เมื่อนางฟ้ารับใช้ออกไปแล้ว เขายังขออีกว่า “เป่าเอาอีก…”

“พอแล้ว” เยี่ยนอวี๋จูบใบหน้าน้อยๆ ที่เห็นได้ชัดว่ามีสีแดงระเรื่อเบาๆ ก่อนจะมองสามีด้วยสายตาโกรธเคือง เด็กน้อยยังเล็กเช่นนี้ก็ป้อนสุราให้เขาเสียแล้ว…

“เสี่ยวเป่าแข็งแรง ไม่เป็นอะไรหรอก” ต้าซือมิ่งที่ลูบเด็กน้อย หวังเพียงว่าเด็กน้อยจะสืบทอดสายเลือดของเขา รีบเมาสลบไป น่าเสียดายที่ท่านเสี่ยวเป่าไม่ได้เป็นไปตามที่เขาหวัง เด็กน้อยยังเล่นต่อไป “ฮี่ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร… เป่าเก่ง”

ต้าซือมิ่งจึงทำได้เพียงลงมือด้วยตัวเอง “ถอดเสื้อคลุมออกและไปนอน”

“ไม่ง่วง…” ท่านเสี่ยวเป่าบอกว่า “เป่าไม่ง่วง…”

ทว่าต้าซือมิ่งพูดว่า “เช่นนั้นท่านพ่อและท่านแม่เจ้าจะนอนสักงีบ เจ้าจะนอนหรือจะออกไปเล่นเอง”

“นอน” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่เห็นด้วยทันที จากนั้นนอกจากจะนอนลงไปเองแล้ว ยังใช้มืออวบอ้วนทั้งสองข้างตบสองข้างเบาๆ พูดว่า “พ่อนอน แม่นอน…”

จากนั้น… พวกเขาทำได้เพียงนอนลงไปพร้อมกันทั้งสามคน

แต่ฟ้ายังไม่มืด… ต้าซือมิ่งเองก็ไม่รีบจึงยังมีอารมณ์โอบสองแม่ลูกไว้ในอ้อมอก “นอนเถอะ”

“นอน” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตอบทันที

เยี่ยนอวี๋ที่เข้าใจอดยิ้มไม่ได้และยังจูบคอของสามีทีหนึ่ง

ต้าซือมิ่งจึงต้องกอดนางไว้ “อย่าซุกซน”

เยี่ยนอวี๋ที่ยังดึงดันกัดอีกทีหนึ่งหัวเราะเสียงใสราวกับระฆังเงิน

ต้าซือมิ่งพลิกตัวขึ้นมาคร่อมสองแม่ลูกไว้ทันที ดวงตาสีดำขลับลุ่มลึกไร้ขอบเขตคู่นั้นมองภรรยา เจ้า ‘ปลา’ ตัวน้อยที่เย้ายวน

“ฮ่า” เสี่ยวเป่ายิ่งสนุกสนาน

เยี่ยนอวี๋หยุดหัวเราะและยังตบหลังของเด็กน้อยเบาๆ แต่เมื่อนางมองดวงตาของต้าซือมิ่ง ยังคงมีรอยยิ้มที่มิอาจปกปิดไว้ได้ มันปรากฏให้เห็นจากข้างใน

เหมือนกับ… ความสุขที่เอ่อล้นเต็มหัวใจของนางในบัดนี้ มันเอ่อล้นออกมาจากข้างใน

ต้าซือมิ่งที่เห็นดังนั้นอดอประชิดหน้าหานางไม่ได้ เขาจูบหน้าผากของนาง ถามด้วยเสียงเจือรอยยิ้มไพเราะว่า “มีความสุขเช่นนี้เลยหรือ”

“อืม” ในเสียงของเยี่ยนอวี๋ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางรู้สึกว่างานวันนี้สำเร็จลุล่วงได้ดีมากจริงๆ นางและสามีได้สมรสกันอย่างสมบูรณ์แล้ว

ภายใต้คำอวยพรของท่านพ่อท่านแม่และพี่น้อง

ภายใต้คำอวยพรของเหล่าทวยเทพ

ภายใต้คำอวยพรของเหล่าลูกน้อง

ทุกอย่างเป็นไปตามดั่งที่นางหวังและคาดคิด สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

“ข้าเองก็มีความสุขเช่นกัน” หรงอี้กอดภรรยาและเด็กน้อยไว้ในอ้อมอก รู้สึกพึงพอใจและมีความสุขมาก

“มีความสุข” ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเยี่ยนเสี่ยวเป่า วันนี้เขาหัวเราะจน ‘บ้า’ ไปแล้ว…

หรงอี้จูบเจ้าตัวน้อยที่ ‘น่าชัง’ ตัวนี้ “มีความสุขก็ต้องรีบเข้านอน จะได้โตไวๆ”

“ขอรับ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตอบ แววตาเป็นประกาย

ทว่าหรงอี้รู้ว่าเจ้าเด็กน้อยคนนี้ทนได้อีกไม่นานจึง ‘อดทน’ ต่อความซุกซนของภรรยาไว้ รวบตัวเด็กน้อยและกล่อมเขาให้หลับ “นอนเถอะ”

เยี่ยนอวี๋พลิกตัวโอบสองพ่อลูกไว้ มองสามีของนางกล่อมเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน

“หาววว…” เด็กน้อยที่เริ่มง่วงแล้วก็เริ่มหาวและยังดูสะลึมสะลือ ทว่ายังไม่ยอมหลับตาลง ทุกครั้งที่หนังตากำลังจะปิดลงมาก็ลืมตาขึ้นมามองท่านพ่อและท่านแม่เขาทันที

ทว่าผ่านไปไม่นาน เจ้าตัวน้อยคนนี้ก็ต้านทานความง่วงไม่ไหว เขาหลับไปแล้ว

เมื่อสามีกล่อมเด็กน้อยหลับไปแล้ว เยี่ยนอวี๋ก็ขึ้นคร่อมสามีบนเตียงและยังจูบปากอันเย้ายวนของสามี ทั้งรุกและรุนแรงมาก…

ทำเอาต้าซือมิ่งอดหัวเราะไม่ได้ เขาย่อมให้ความร่วมมือกับภรรยา ทว่าปฐมราชินีเยี่ยนกลับไม่ได้จูบต่อไป นางลืมตามองเขา จ้องเขาพักหนึ่ง “สามี”

“อื้ม” หรงอี้ที่ขานตอบเบาๆ เดิมคิดจะยื่นมือไปลูบใบหน้าของภรรยา

แต่มือของเขาถูกภรรยาประสานนิ้วทั้งสิบและกดทับไว้ด้านข้าง…

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จอมเผด็จการคนนี้…

หรงอี้ที่ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เขายื่นหน้าไปจูบริมฝีปากที่อยู่ใกล้ๆ

แต่ปฐมราชินีเยี่ยนกลับเปลี่ยนจากฝ่ายรับเป็นฝ่ายรุกโดยการจูบดวงตาของเขากลับอย่างรวดเร็ว “สามี”

“อื้ม”

“ข้ารักเจ้า”

“อื้ม”

หรงอี้รู้และสัมผัสได้

เพียงแต่ว่า… เขาที่กำลังมองภรรยาจู่ๆ ก็รู้สึกไม่สบาย

ในขณะเดียวกัน…

เยี่ยนอวี๋ที่จูบดวงตาของเขาก็ได้กลิ่นคาวเลือด

จากนั้น… มีเลือด… ไหลออกมาจากดวงตาของต้าซือมิ่ง

**************************************

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน

Status: Ongoing
แม้จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่นางก็ยังคงเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นเจ็ด ผู้มีความสามารถแกร่งเกินผู้ใดไม่เปลี่ยนแปลง “ผู้ชายอะไรนั่นน่ะ กินได้หรืออย่างไร ข้าไม่เห็นจะอยากได้”เยี่ยนจื่ออวี๋ แม้มีตำแหน่งสูงส่งเป็นถึงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสำนักชางอู๋แห่งแคว้นแต่กลับไร้พลังแต่กำเนิด แถมยังทำเรื่องงามหน้าอย่างการปีนขึ้นเตียงผู้ชาย!เพราะเรื่องฉาวโฉ่เกินทนทำให้หญิงสาวหายหน้าไปกว่าครึ่งปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งสำนักชางอู๋ก็ถึงคราวสั่นสะเทือนจากหญิงสาวที่ไม่อาจฝึกพลังกลายเป็นปรมาจารย์มากสามารถ พลังสูงส่งเกินใครโอสถใดที่ว่ายาก นางกระดิกนิ้วเดียวก็สำเร็จสมบูรณ์ วิชาใดที่ฝึกไม่ได้นางล้วนทำได้จากหญิงสาวที่ทุกคนต่างเมินหน้าหนีกลายเป็นผู้สูงส่งที่ทุกคนต้องการประจบประแจงชายหนุ่มทั่วหล้าล้วนอยากเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กกันทั้งนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท