บทที่ 889 อันตรายเกินไปแล้ว!
อี้จือฮวากับนักพรตใจบริสุทธิ์ที่ไม่ทำงานเอาแต่กินที่ตรงนั้นพากันลุกขึ้น ‘พึ่บพั่บ’ แม้แต่หนุ่มภูเขาน้ำแข็งที่แกล้งตายบนพื้นก็ยังถูกเงินฟาดจนตื่นขึ้นมา
“แม่เจ้า! ขอบคุณเถ้าแก่! ขอบคุณเถ้าแก่ท่านนี้! เถ้าแก่ช่างเป็นคนดีจริงๆ! เงินนี่พอให้ผมฝังพ่อได้สิบหนเลยเชียว!”
“เถ้าแก่อยากดูดวงหรือว่าดูฮวงจุ้ยดี! ให้พวกเราช่วยทำงานที่บ้านก็ได้ รับประกันความพอใจ!”
เห็นแค่ว่าคนที่ให้เงินเป็นผู้ชายสวมชุดดำสองคน
หนึ่งในนั้นเอ่ยปาก “ไม่ต้องขอบคุณพวกเรา พวกเราไม่ใช่คนให้เงิน”
“เอ่อ ไม่ใช่พวกคุณ งั้นเงินนี่คือ…?” อี้จือฮวากับกับนักพรตใจบริสุทธิ์งุนงง
ชายชุดดำสองคนขยับไปด้านข้างหนึ่งก้าว เปิดทางให้ตำแหน่งตรงกลาง
ทันทีที่เห็นดวงหน้าเล็กไร้อารมณ์ที่ราวกับหยกสลัก สีหน้าประจบประแจงของอี้จือฮวากับนักพรตใจบริสุทธิ์ก็แข็งค้างในฉับพลัน ทั้งร่างกลายเป็นหินไปแล้ว
“ชะ…เชี่ย!”
แม่งเอ๊ย! เศรษฐีหน้าโง่ที่ไหนกัน! พญายมน้อยมาเยือนนี่หว่า!
อี้จือฮวาไปหลบด้านหลังโลงศพของหนุ่มภูเขาน้ำแข็งด้านข้างอย่างรวดเร็ว นักพรตใจบริสุทธิ์ก็กุมหัวหดตัวไปติดๆ กัน ส่วนหนุ่มภูเขาน้ำแข็งล้มหงายหลัง ปิดตาอย่างไม่ลังเล
พวกเขาเห็นเด็กชายอายุประมาณสี่ห้าขวบยืนอยู่ตรงหน้า เด็กชายมีใบหน้างดงามอย่างยิ่ง แต่อารมณ์บนใบหน้าเย็นชาเหมือนหุ่นยนต์ ในดวงตาสีดำฉายประกายที่ไร้ความเป็นมนุษย์
สายตาของเด็กชายกวาดมองทั้งสามคนแล้วจึงเอ่ย “ไม่เจอกันนาน”
พริบตาที่พูด อี้จือฮวากับนักพรตใจบริสุทธิ์ที่อยู่ตรงข้ามตัวสั่นเทา
ไม่อยากเจอๆ! พวกเขาไม่อยากเจอปีศาจน้อยตัวนี้สักนิด!
อี้จือฮวาเอ่ยขึ้น “ฮ่าๆๆ…ใช่…จริงด้วย…ไม่เจอกันนานเลย! ไม่เจอกันนานจริงๆ! ทำไมนายน้อยจู่ๆ มาอยู่จีนได้ล่ะ”
นักพรตใจบริสุทธิ์พูด “จีนสนุกมากเลยนะ อยากให้พวกเราเป็นไกด์พาเที่ยวหรือเปล่าครับ”
เด็กชายไม่สนใจความตั้งใจเบี่ยงประเด็นของสองคนนี้ พูดตามตรง “คุณลุงอยู่ไหน”
จบกันแล้ว หลอกไม่ได้…
จะไปหลอกสำเร็จได้ยังไงกันเล่า!
นักพรตใจบริสุทธิ์ไอหนึ่งที “ระ…เรื่องนี้พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันครับ…”
อี้จือฮวาสมทบ “หัวหน้าเป็นมังกรเทพเห็นหัวไม่เห็นหางบ่อยๆ พวกเราไม่รู้จริงๆ ว่าเขาอยู่ไหน ไม่งั้นนายน้อยกลับประเทศไปก่อนเถอะ รอพวกเราเจอหัวหน้าแล้วจะให้หัวหน้าติดต่อคุณไปทันที! คุณมาที่นี่คนเดียวอันตรายเกินไปแล้ว!”
เด็กชายชำเลืองมองทั้งสองคน “อันตราย?”
อี้จือฮวากับนักพรตใจบริสุทธิ์กอดกันน้ำตาไหลเต็มหน้า อันตรายกับผีน่ะสิ!
ต่อให้อันตรายก็เป็นพวกเขาที่เป็นอันตรายมากกว่า!
นักพรตใจบริสุทธิ์กล่าว “นายน้อย คุณอย่าถามอีกเลยครับ พวกเราไม่ขายหัวหน้าหรอก!”
อี้จือฮวาก็เอ่ย “ถูกต้อง! พวกเราไม่ขายหัวหน้า!”
เด็กชายพูด “ฉันให้เวลาพวกนายใคร่ครวญสามวินาที”
ว่าไงนะ…สะ…สามวินาที?
“หัวหน้าอยู่ที่ภูเขามังกรเร้นที่แถบชานเมืองปักกิ่ง!” นักพรตใจบริสุทธิ์กับอี้จือฮวาเอ่ยพร้อมกัน
เด็กชายหันตัวจากไป “ไปเถอะ”
ชายชุดดำสองคนตามไปทันที “ครับ”
ทางด้านหลัง อี้จือฮวากับนักพรตใจบริสุทธิ์ถอนหายใจยาว
ไอ้หยาแม่จ๋า ทำเอาพวกเขาตกใจกลัวแทบแย่…
หัวหน้า ขอโทษด้วย…
พวกเขาพยายามสุดความสามารถแล้ว อย่างน้อยก็ยังขัดขืนสามวินาทีก่อนจะขายเขานะ…
……………………………………….
บทที่ 890 พูดถึงพ่อคุณทูนหัว พ่อคุณทูนหัวก็มา
เขามังกรเร้นที่แถบชานเมืองปักกิ่ง
ในป่า บนต้นไม้ใหญ่ที่กิ่งก้านเขียวชอุ่มต้นหนึ่ง
เนี่ยอู๋หมิงนั่งไขว่ห้างอยู่บนกิ่งไม้ที่ยื่นไปกลางอากาศ ในปากคาบหญ้าหนึ่งต้น กำลังจ้องใบไม้เหนือหัวอย่างขี้เกียจ
ใต้ต้นไม้ใหญ่ หนุ่มเลือดผสมรูปร่างสูงใหญ่แหงนหน้ามองคนบนต้นไม้อย่างว้าวุ่นใจ “หัวหน้า พวกเรายังต้องหลบอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไรเหรอ”
เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยปากอย่างขี้เกียจ “หลบได้เท่าไหนก็เท่านั้น”
หนุ่มกรรมกรต่างชาติเอ่ย “แต่ว่า หลบแบบนี้ต่อไปก็เปล่าประโยชน์…”
เนี่ยอู๋หมิงถอนหายใจ “เฮ้อ เสี่ยวเถียนเถียน นายคิดว่าฉันอยากหลบในสุสานเก่านอกเมืองที่ห่างไกลผู้คนเหรอ หลอกว่าไม่มีสัญญาณถูกจอมมารน้อยนั่นจับไต๋ง่ายไป ฉันเลยได้แต่ต้องถ่อมาที่ที่ไม่มีสัญญาณจริงๆ ไง!”
หนุ่มกรรมกรต่างชาติพูดไม่ออก เหมือนนี่จะไม่ใช่จุดสำคัญนะ?
“หัวหน้า ก่อนหน้านี้คุณพูดไม่ใช่เหรอว่าจะให้เถ้าแก่เนี้ยเยี่ยช่วย”
เนี่ยอู๋หมิงมองเขาอย่างจนปัญญาแวบหนึ่ง “นายคิดว่าพ่อคุณทูนหัวบ้านฉันเป็นเด็กน้อยอายุสามสี่ขวบที่หลอกง่ายงั้นเหรอ”
หนุ่มกรรมกรต่างชาติพูดไม่ออก ก็ไม่ใช่หรอกเหรอ
เนี่ยอู๋หมิงพูดต่อ “เอาเป็นว่าวิธีนี้เชื่อถือไม่ได้เท่าไร ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ห้ามใช้ ไม่งั้นถ้าถูกจับได้ แล้วยังหาแม่แท้ๆ ของเขาไม่เจอ พอความแตกแล้วฉันต้องซี้แหงแก๋แน่ ฉันยืดเวลาดูว่าจะหาแม่แท้ๆ ของเขาเจอไหมก่อนดีกว่า ไม่เจอแม่แท้ๆ เจอพ่อแท้ๆ ก็ยังดี…”
หนุ่มกรรมกรต่างชาติส่ายหน้า “แต่พวกเราหามาสี่ปีแล้วนะ…”
เนี่ยอู่หมิงถุยหญ้าในปาก และทอดถอนใจ “ฉันสร้างบาปกรรมอะไรไว้เนี่ย! ถึงได้มาเจอหลานชายอย่างนี้! นายดูเจ้าหลานตระกูลมู่นั่นน่ารักน่าชังจะตาย หน้าโง่ๆ อย่างนั้นมีสิทธิ์อะไรถึงมีหลานน่ารักขนาดนั้น แต่ฉันกลับไม่มี! แล้วหลานของหัวหน้าตระกูลจี้อีก ปากหวานเสียนี่กระไร! แต่เจ้าตัวบ้านฉันล่ะ เป็นปีศาจน้อยป่วนโลกชัดๆ! เสี่ยวเถียนเถียน นายว่าฉันพูดถูกไหม”
หนุ่มกรรมกรต่างชาติพยักหน้าอย่างเข้าใจหัวอกสุดซึ้ง รู้สึกว่าหัวหน้าพูดได้สมเหตุสมผลมาก เขาเตรียมจะคล้อยตามคำพูดของเนี่ยอู๋หมิง แต่พอเงยหน้า เขาพลันเบิกตากว้างอย่างตกใจสุดขีด…
คำพูดโบราณประโยคหนึ่งของประเทศจีนปรากฏอยู่ในหัวเขาตอนนี้ พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา!
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่จอมมารน้อยมาปรากฏตัวไม่ไกลจากด้านหลังต้นไม้อย่างเงียบเชียบ ด้านข้างมีบอดี้การ์ดสองคน แววตาเย็นชาหยุดมองตัวเขาหนึ่งวินาที จากนั้นก็มองไปยังเนี่ยอู๋หมิงที่อยู่บนต้นไม้
หนุ่มกรรมกรต่างชาติตกใจกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ รีบเอ่ยปากว่า “มะ…ไม่ใช่ๆๆๆ! หัวหน้า ผมว่าหลานชายคุณน่ารักว่านอนสอนง่ายมากใครเห็นก็หลงรักดอกไม้เห็นก็แย้มบานรถเห็นก็ยางแบนผมไม่เคยเห็นเด็กคนไหนที่น่ารักเท่าหลานชายหัวหน้ามาก่อนเลย…”
เวลานี้ เขาแทบอยากขุดเอาคำศัพท์ภาษาจีนสำหรับชมเด็กที่ตัวเองรู้จักออกมาใช้ทั้งหมด
เนี่ยอู๋หมิงซึ่งนั่งอยู่บนต้นไม้รู้สึกหนาวที่หลังนิดๆ แต่ไม่ได้คิดมากอะไร เขามองสมาชิกทีมตัวเองด้วยสีหน้าเหมือนมองคนโง่ “อะไรวะ! เสี่ยวเถียนเถียน นายอยู่ในสุสานนานจนถูกผีเข้าสิงแล้วเหรอ คำพูดขัดกับใจคิดขนาดนี้ยังพูดออกมาได้?”
หนุ่มกรรมกรต่างชาติร้อนใจจนไม่ไหว โบกมือแรงๆ ให้เนี่ยอู๋หมิง สื่อเป็นนัยว่าไม่ต้องพูดแล้ว ห้ามพูดอีก
แต่เนี่ยอู๋หมิงไม่สังเกตการเตือนอย่างร้อนใจของลูกทีมตัวเองแม้แต่น้อย ยังคงค่อนแขวะไม่หยุด…
………………………………..