บทที่ 909 ฉันแซ่เนี่ย
เห็นเยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าไม่สะทกสะท้าน ซือหมิงหลี่แค่นเสียงเย็น ตอนนี้มาถึงขั้นนี้แล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังยิ้มออกมาได้อีก?
“คุณลุงสี่ยังคิดร้ายกับฉันอยู่จริงๆ คุณลุงส่งทหารรับจ้างมาหาฉันเป็นครั้งที่สามแล้วใช่ไหมคะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถาม
ทหารรับจ้างระดับ C คราวก่อนไม่ต้องคิดมากก็รู้ว่าเป็นฝีมือซือหมิงหลี่แน่นอน ส่วนครั้งแรกเพราะได้ชายผมขาวยื่นมือช่วย เธอจึงหนีรอดมาได้
“ครั้งที่สาม?” ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดแบบนี้ ซือหมิงหลี่กลับชะงัก
บวกทหารรับจ้างพวกนั้นครั้งก่อนก็ยังเพิ่งแค่สองครั้งเท่านั้น ครั้งที่สามมาจากไหน
“ฉันจับเธอมาแค่สองครั้ง สงสัยเธอคงล่วงเกินคนอื่นเข้า เลยมีเพิ่มมาอีกหนึ่ง ฉันไม่ได้เป็นคนทำ” ซือหมิงหลี่ยิ้มเย็น
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วทันที อย่างที่คิดเลย
คำพูดเมื่อครู่นี้เธอแค่หยั่งเชิงซือหมิงหลี่เท่านั้น ตอนนี้เธอตกอยู่ในกำมือซือหมิงหลี่แล้ว เขาไม่จำเป็นหลอกลวงเธอแม้แต่น้อย
ดูเหมือนว่าเธอจะเดาไม่ผิด ครั้งนั้นที่เธอได้ชายผมขาวช่วยไว้ ไม่ใช่ฝีมือของซือหมิงหลี่จริงๆ
ตอนนี้ก็ตัดผู้ต้องสงสัยได้หนึ่งคนแล้ว คนเมื่อครั้งนั้น เป็นใครกันแน่…
“จริงสิ เด็กที่โผล่ใกล้คฤหาสน์กุหลาบคนนี้ จะจัดการยังไงดีครับ” ทหารรับจ้างหนึ่งในนั้นเอ่ยปากถาม
“ฆ่าเด็กคนนั้นซะ” ซือหมิงหลี่เอ่ยทันทีอย่างไม่ลังเล
“ฆ่าเลยเหรอ”
ได้ยินแบบนั้น ทหารรับจ้างหลายคนนิ่งค้าง
พวกเขายังไม่เคยฆ่าเด็ก เด็กคนนั้นรูปร่างหน้าตาเพิ่งจะแค่สี่ห้าขวบ…
เวลานี้ ซืออี้เชียนเดินมาด้านหน้าสุดของวิดีโออย่างไม่รีบร้อน มองไปยังเด็กชายในกรงพร้อมเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ทุกท่านก็รู้ชัดเจนว่าเรื่องอย่างนี้จะปล่อยให้รั่วไหลออกไปไม่ได้ จัดการทิ้งโดยตรงย่อมดีกว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น ภารกิจพวกคุณล้มเหลว เงินสักก้อนเดียวก็จะไม่ได้”
“ตกลง”
ฟังถึงตรงนี้ ทหารรับจ้างคนนั้นก็พยักหน้า มือถือกริชเปิดกรงทันที
“หยุดนะ! เป้าหมายของพวกนายคือฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับเด็กคนนี้ ฉันกับเขาก็ไม่รู้จักกันสักนิดเดียว จุดนี้พวกนายไปตรวจสอบดู!” เยี่ยหวันหวั่นเห็นดังนั้นก็ดวงตาก็วาบแววเย็นเยียบ ขณะเดียวกันเธอก็แอบออกแรงดิ้นข้อมือที่ถูกมัดอยู่ด้านหลัง
จากคำพูดที่คนพวกนี้พูดคุยเธอจึงรู้ว่าแท้จริงพวกเขาไม่ได้จงใจจับเด็กคนนี้มา แต่เพราะเขาปรากฏอยู่ในบริเวณใกล้ๆ จึงถูกพามาด้วย
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายไม่ปล่อยให้อธิบาย ก็จับเด็กคนนี้ออกไปแล้ว
เห็นแค่ว่าใบหน้าของเด็กน้อยไม่มีอารมณ์ใด เขามองซืออี้เชียนในวิดีโออย่างเย็นชา “รนหาที่ตาย”
ซืออี้เชียนได้ยินคำสี่พยางค์นี้ก็พลันชะงัก “เจ้าหนู แกหมายความว่ายังไง”
“ฉันโตขนาดนี้ ยังเพิ่งเคยเจอคนใจกล้าบอกจะฆ่าคนของฉันเป็นครั้งแรก” เด็กน้อยพูดชัดถ้อยชัดคำ
ได้ยินแบบนี้ ถังปินกับซ่งเฉียงที่กำลังกังวลว่าผู้สนับสนุนของตัวเองจะพลาดท่าแล้วหรือเปล่าก็ต่างมีสีหน้าประหลาด เด็กน้อยนี่ดูหนังมากไปหรือเปล่า นึกว่านี่เป็นการละเล่นหรือไง
ซืออี้เชียนหัวเราะพลางส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว เขาเพิ่งเคยเห็นเด็กน่าสนใจขนาดนี้เป็นครั้งแรก
“ลงมือเถอะ” เสียงของซืออี้เชียนส่งมา ขี้เกียจจะเสวนามากความกับเด็กคนนี้
แต่ทว่าเวลานี้เอง เด็กน้อยกลับผุดรอยยิ้มเย็นหนึ่งบนใบหน้า “ก่อนที่พวกแกจะลงมือ…ฉันแซ่เนี่ย”
“แซ่เนี่ย?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเด็กคนนี้ ทุกคนรู้สึกประหลาดซับซ้อน หมายความว่ายังไงกัน
มีเพียงเยี่ยหวันหวั่นที่กำลังแอบดิ้นรนกับเชือกที่หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย แซ่เนี่ย…
……………………
บทที่ 910 แซ่เนี่ยแล้วทำไม
ทหารรับจ้างหลายนายสบตากัน ทุกคนประหลาดใจเล็กน้อย แซ่เนี่ยแล้วทำไม?
“พวกนายมันไม่ใช่คน แม้แต่เด็กยังฆ่าเชียวเหรอ! ไร้หัวใจสิ้นดี!” ชายผมยาวกวาดตามองทหารรับจ้างพวกนั้นตวาดเสียงเย็น
เวลานี้ ถึงแม้ทหารรับจ้างไม่ได้พูดอะไร แต่การให้พวกเขาลงมือกับเด็กสี่ห้าขวบนี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจหรือไม่ ในใจก็ยังรู้สึกขัดขืนนิดหน่อยอยู่ดี
เวลานี้ทหารรับจ้างหนึ่งในนั้นหันไปพูดกับซือหมิงหลี่ที่อยู่ในวิดีโอ “คุณซือ ยังไงเชิญหัวหน้าพวกเรามาแนะนำก่อนดีกว่า”
“แกว่าอะไรนะ!”
ซือหมิงหลี่พลันมีสีหน้าเดือดดาล เขาเป็นผู้ว่าจ่าง มีอำนาจให้ทหารรับจ้างพวกนี้ทำตามความต้องการตัวเองนะ!
“ผมคิดว่าเชิญหัวหน้าถังหลงมาให้คำแนะนำดีกว่าครับ” ทหารรับจ้างคนนั้นพูดซ้ำ
“ถังหลงเพิ่งออกไปรับโทรศัพท์ยังไม่กลับมา!” ซือหมิงหลี่เอ่ยอย่างหมดความอดทนอยู่บ้าง
“งั้น…รอหัวหน้าถังหลงกลับมาค่อยว่ากันเถอะ”
ทหารรับจ้างหลายคนติดต่อถังหลง แต่มือถือกลับสายไม่ว่างตลอด
“ช่างเถอะครับคุณพ่อ ภารกิจของพวกเขาก็นับว่าเสร็จแล้ว เรื่องลงมืออย่างนี้ ให้พวกเราจัดการเองดีกว่า” เวลานี้ซืออี้เชียนที่ยู่ด้านข้างซือหมิงหลี่เอ่ยปาก
ได้ยินแบบนั้นซือหมิงหลี่นิ่งคิดชั่วขณะ และสุดท้ายก็พยักหน้าตอบรับ
อย่างไรเสียเยี่ยหวันหวั่นก็ตกอยู่ในกำมือของเขาแล้ว ตอนนี้เขาอยากทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องให้ทหารรับจ้างกลุ่มนี้แทรกแซง
ซือหมิงหลี่กดโทรศัพท์ทันที แค่ไม่กี่วินาที ผู้จงรักภักดีของซือหมิงหลี่ก็พาชายชุดดำหลายคนเร่งรุดมาที่ห้องขัง
เห็นดังนั้นพวกทหารรับจ้างก็ไม่ได้พูดอะไร ภารกิจของพวกเขามีเป้าหมายแค่จับคนกลับมา ฆ่าคนที่ขัดขืนเท่านั้น ตอนนี้คนก็พอกลับมาแล้ว ตามหลักการภารกิจก็นับว่าเสร็จสิ้นแล้ว
เวลานี้ผู้จงรักภักดีมองซือหมิงหลี่ในวิดีโอ “นายท่าน โปรดออกคำสั่ง”
“ฆ่าทุกคนให้หมดนอกจากเยี่ยหวันหวั่น” ผู้พูดคือซืออี้เชียน
“เด็กคนนั้นด้วยใช่ไหมครับ” ผู้จงรักถักดีหันมองปีศาจน้อยที่อยู่ไม่ไกล
“ทุกคนนอกจากเยี่ยหวันหวั่น” ซือหมิงหลี่เอ่ย
“รับทราบ นายท่านโปรดวางใจ!”
ผู้จงรักภักดียกมุมปาก กวาดตามองพวกเยี่ยหวันหวั่นทุกคน สีหน้าสวมรอยยิ้มโหดหี้ยมเย็นชา
“พวกแกมันก็แค่เศษสวะ กล้าลงมือกับพวกเราก็ลองดู!” ชายไว้เคราตะคอกเสียงเย็นชา
ชายผมยาวก็เอ่ยเสริม “แกกล้าทำพวกเรา เจ้านายพวกเราต้องไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่!”
“ฮ่าๆ ฉันว่าพวกแกรนหาที่ตายแล้วละ!” ผู้จงรักภักดีของซือหมิงหลี่หัวเราะเยาะ “เจ้านาย พวกแกคงไม่ได้หมายถึงผู้หญิงคนนี้หรอกมั้ง”
ชายไว้เครากับชายผมยาวได้ยินก็ร้อนตัวเล็กน้อย เพราะจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าเจ้านายหมายถึงอะไรกันแน่
หรือว่ากุหลาบดำมีพลังจำกัด พวกเขาอุตส่าห์เกาะขาใหญ่ได้แล้วเชียวนะ…
“ฮ่าๆๆ…ฉันจะบอกความจริงพวกแก การคุ้มกันของที่นี่มากกว่าห้องลับของตระกูลซือเป็นสามเท่า ต่อให้เป็นแมลงวันหนึ่งตัวก็อย่าหวังได้เข้าใกล้ เพราะงั้นไม่ต้องรีบร้อน ค่อยเป็นค่อยไป เดี๋ยวก็จะถึงตาพวกนายแล้ว อาศัยโอกาสนี้คิดคำลาตายของตัวเองไว้ดีๆ เถอะ!”
ผู้จงรักภักดีพูดจบก็เหลือบมองลูกน้องด้านข้างอย่างถือดี “ลงมือ จัดการเด็กนั่นก่อน”
“บิดาขอสาปแช่งพ่อแก!” เห็นคนบ้าคลั่งพวกนี้ที่ไม่ละเว้นแม้กระทั่งเด็ก ชายไว้เคราพลันต่อว่าด้วยความโมโห ขณะเดียวกันดวงตาของทั้งสองก็ปรากฏแววหวาดกลัว
หลังจากเด็กคนนี้ก็จะถึงตาพวกเขาทันทีแล้ว หรือว่าพวกเขาพี่น้องจะต้องจบสิ้นที่ตรงนี้วันนี้จริงๆ
ที่นี่ไม่เพียงมีการคุ้มกันแน่นหนา ทหารรับจ้างหลายคนที่นี่ก็เป็นยอดฝีมือ ครั้งนี้พวกเขางอกปีกก็ยากจะบิน…
ในเวลานี้เอง ถังหลงที่สวมแว่นตากรอบทองก็กลับมาแล้ว
………………………