บทที่ 273 อยากลองรับชม
บทที่ 273 อยากลองรับชม
“โอ้”
รอยยิ้มประหลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอิงเจา
“เซียนอาวุโสหยางหมายความเช่นไร? หรือเจ้าคิดอยากครอบครองมัน?”
“หากข้ามอบสิ่งนี้ให้กับท่าน มหาเทพอิงเจาจะสามารถฟื้นคืนความแข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน”
เซียนอาวุโสหยางกระชับไม้บรรพตปีศาจในมือแน่น
“ข้าได้ยินว่าพลังของมหาเทพลู่อู๋ ซึ่งเป็นหนึ่งในมือขวาของจักรพรรดิเซียนสวรรค์ไม่ได้อยู่ภายใต้จักรพรรดิเซียน ข้าจึงสงสัยว่าพลังของมหาเทพอิงเจาซึ่งเป็นมือซ้ายของจักรพรรดิเซียนสวรรค์เป็นอย่างไร?”
“เช่นนั้น อยากรับชมหรือไม่?”
อิงเจาเผยสีหน้ายิ้มแย้ม
“กล่าวตามตรง…”
เซียนอาวุโสหยางเงยหน้าขึ้นมอง
“ข้าก็สนใจไม่น้อย”
“เซียนอาวุโสหยาง ท่าน…”
เมื่อได้ยินคำตอบของเซียนอาวุโสหยาง ฟู่กวน*[1]ก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ แต่กลับถูกอีกฝ่ายปิดกั้นคำพูดถัดไปทันที
“ฟู่กวน! เหล่ากองกำลังทั้งหมด!”
เขาตะโกนเสียงดัง
“ต่อให้ท่านไม่ต่อสู้กับข้าในวันนี้ ข้าก็ไม่มีทางรอดพ้น ทั้งมหาเทพอิงเจา หรือองค์จักรพรรดิจะไม่มีทางปล่อยผู้ที่ทราบเรื่องนี้ไป เช่นนั้นเหตุใดถึงไม่ต่อสู้กับข้าให้จบสิ้น… คิดเห็นเช่นไร?!”
“ฮ่า ๆ”
อิงเจาลูบมือพร้อมเผยรอยยิ้มกว้าง
“ไม่คิดมาก่อนว่าเซียนอาวุโสหยางที่เลื่องลือเรื่องความสัตย์ซื่อในแดนเซียนจะเล่นกลเช่นนี้ อีกทั้งเป้าหมายของเจ้ากลับเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเอง”
“แม้ข้าจะปล่อยพวกเขาออกไป แต่ท่านย่อมไม่ปล่อยไปแน่”
เซียนอาวุโสหยางกัดฟันกล่าว
“ปล่อยให้พวกเขากลายเป็นภูตผีเสียดีกว่า บางทีอาจจะหาทางออกได้… นอกจากนี้การเผชิญหน้ากับท่านที่จิตวิญญาณแตกสลายหมดสิ้น ซึ่งหากพวกเราร่วมมือกันยังมีโอกาสสำเร็จ”
“โอ้… เซียนอาวุโสหยาง ท่านทราบหรือไม่ว่าเหตุใดจักรพรรดิชิงถึงส่งท่านที่เลื่องชื่อเรื่องของความเที่ยงธรรม แทนที่จะส่งเหล่าเซียนคนอื่นที่เขาชื่นชอบ และสุดแสนจะแข็งแกร่งรอบตัว?”
มหาเทพอิงเจากล่าวขึ้น
“เพราะหากเป็นเจ้า เจ้าย่อมกระทำเช่นนี้ ทั้งหมดนี้เขาล้วนทราบดีแก่ใจแล้ว”
เซียนอาวุโสหยางก้มศีรษะลง สายฟ้าสีทองจำนวนมหาศาลปะทุขึ้นบนไม้บรรพตปีศาจ สังสารวัฏหกวิถีหมุนเวียนควบแน่น และผนึกแห่งสังสารวัฏทั้งห้าปรากฏขึ้นด้านหลัง
เมื่อเห็นเช่นนี้ เหล่าเซียนที่อยู่ในกองทัพจักรพรรดิเซียนมองไปที่ผู้ช่วยของเซียนอาวุโสหยางพร้อมกัน
“ทำตามที่เซียนอาวุโสกล่าว!”
ผู้ช่วยครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะออกคำสั่งผ่านไรฟัน
“ทุกคนรับคำสั่ง สร้างค่ายกลป้องกัน!”
กองกำลังจักรพรรดิเซียนทั้งหมดจัดตั้งค่ายกลป้องกันอย่างรวดเร็ว พวกเขายืนอยู่ด้านหลังของจักรพรรดิเซียนหยาง พลังเซียนของแต่ละคนส่งถึงกัน และควบรวมกับสังสารวัฏหกวิถีของเซียนอาวุโสหยางเพื่อเป็นกำลังเสริมให้กับเขา
เซียนอาวุโสหยางยืนพร้อมกระชับไม้บรรพตปีศาจที่กำลังปลดปล่อยสายฟ้าสีทองไว้อย่างแน่นหนา ก่อนจะกล่าวกับอิงเจาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“มหาเทพอิงเจา โปรดรับมือ!”
…
“นี่มันคือนรกหรือไรกัน?”
ไป๋ชิวหรานเดินอยู่ในหมอกทมิฬและกล่าวพึมพำขึ้นมา
“หุบเขาฮวายเจียงในความทรงจำของข้าไม่เป็นเช่นนี้”
ในหมอกทมิฬ หมอกมากมายนับไม่ถ้วนพุ่งทะยานเข้าใกล้ไป๋ชิวหราน พวกมันพ่นคำสาปแช่งพร้อมกับอ้าปากด้วยความต้องการกัดกินไป๋ชิวหราน แต่เมื่อสัมผัสกับร่างกายของชายหนุ่ม ทั้งหมดพลันกรีดร้องพร้อมกับสูญสลายไปอย่างรวดเร็ว
“ข้ารู้สึกอึดอัดไม่น้อย”
กะโหลกของจื้อเซียนเต็มไปด้วยหมอกทมิฬเหล่านี้ ทั้งเบ้าตา แก้ม ปาก รูจมูกล้วนมีเพียงหมอกทมิฬเคลื่อนผ่าน พวกมันกำลังกรีดร้องออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“เอาล่ะ เร่งฝีเท้าได้แล้ว!!”
จื้อเซียนตะโกน
“สิ่งเหล่านี้ทำให้ข้ารู้สึกคันคะเยอไม่น้อย”
ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าเพื่อเคลื่อนผ่านหมอกทมิฬในทันใด แต่กระนั้นสัตว์ประหลาดหลายตนยังคงยิ่งกรีดร้องเสียงดัง และพุ่งทะยานเข้าหา
ไป๋ชิวหรานเผลอตบเงาเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว และหมอกทมิฬที่อยู่ใกล้ ๆ ก็กระเด็นไปไกล
“อะไรกันเนี่ย?”
ไป๋ชิวหรานโบกมือ พร้อมพึมพำในลำคอ
เงาทมิฬนั้นถูกตบร่วงอยู่บนพื้น มันเหวี่ยงตนเองลงไปในแอ่งน้ำ ในเวลานี้หมอกทมิฬทั้งหมดเริ่มสลายตัวออกไป ทำให้ทั้งไป๋ชิวหรานกับจื้อเซียนมองการกระทำของพวกมันทั้งหมดอย่างไม่เข้าใจ
“เผ่ามาร?”
หลังจากเห็นศพของสิ่งมีชีวิตอยู่บนพื้นดิน ไป๋ชิวหรานก็เริ่มไตร่ตรอง
“ดูเหมือนว่าพวกเราใกล้จะพบความจริงแล้ว”
“พวกมันคือต้นกำเนิด”
หลังจากตรวจสอบศพบนพื้นแล้ว จื้อเซียนก็กล่าวคำ
“ต้นกำเนิดของเผ่ามารคงจะอยู่ด้านในนี้”
ทั้งสองเดินตรงเข้ามาด้านใน และมีเผ่ามารจำนวนมากคอยโจมตีอยู่บนเส้นทาง แต่ทั้งหมดถูกชายหนุ่มจัดการอย่างรวดเร็ว หลังจากเดินทางมานานกว่าครึ่งชั่วยาม ไป๋ชิวหรานกับจื้อเซียนได้ผ่านพ้นเส้นทางแห่งความอึดอัด และมาถึงหุบเขาภายในสำเร็จ
เมื่อมาถึงสถานที่แห่งนี้ มันคือสถานที่ที่งดงามในความทรงจำ พื้นดินเป็นทองคำ เงิน และทรัพย์สมบัติมากมาย ทั่วภูผามีเกาลัดสีแดง ส่งกลิ่นหอมทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
“โอ้ นี่แหละ”
ไป๋ชิวหรานมองไปรอบ ๆ
“นี่คือหุบเขาฮวายเจียงที่ข้าคุ้นเคย”
“หมอกทมิฬเหล่านั้นคงจะเป็นความแค้นของเหล่าทวยเทพที่ทิ้งเอาไว้หลังจากตายตก แต่เหตุใดถึงถูกทำให้กลายเป็นกำแพงป้องกันของหุบเขาแห่งนี้ได้…”
จื้อเซียนบ่น
“นั่นเป็นเรื่องที่ข้าสนใจเช่นกัน”
“มีร่องรอยของกองทัพจักรพรรดิเซียนอยู่ที่นี่หรือไม่?”
ไป๋ชิวหรานถอดจื้อเซียนออกมา คล้ายกับกำลังถือเครื่องตรวจจับร่องรอย เขากล่าวถามขณะยื่นจื้อเซียนออกไปตรวจสอบพื้นดิน
“มี”
จื้อเซียนกล่าวตอบ
“เดินตรงไป แล้วเลิกเขย่าข้าเสียที… ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่”
“โอ้”
ไป๋ชิวหรานตอบกลับ แต่ยังคงถือจื้อเซียนไว้ในมือและโบกมือไปมาในขณะก้าวเดิน
ภายใต้การแนะนำของจื้อเซียน เขาจึงเดินตามรอยกองทัพจักรพรรดิเซียนตรงเข้ามาในหุบเขาลึก จากนั้นเห็นแอ่งของเหลวสีเขียวขนาดใหญ่
“มันคืออะไร?”
หลังจากมองของเหลวสีเขียวตรงหน้าแล้ว ไป๋ชิวหรานก็อุทานออกมาอย่างประหลาดใจ
“รูปแบบพลังของมันค่อนข้างจะแปลกประหลาด”
จื้อเซียนมองอย่างระมัดระวัง ก่อนจะอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ
“มันคือถังรองบ่มเพาะเผ่ามาร!”
“ถังรองบ่มเพาะคืออะไร?”
“ข้าก็ไม่เข้าใจเช่นกัน แต่มันคือสิ่งที่ภูมิปัญญาอันยิ่งใหญ่บอกกล่าวกับข้า…”
จื้อเซียนบ่น
“ข้าเกรงว่านี่จะเป็นสถานที่ให้กำเนิดเผ่ามารและฝึกฝนพวกมัน… พาข้าเข้าไปใกล้อีกหน่อย”
ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับถือจื้อเซียนตรงไปที่อีกด้านของแอ่งน้ำ สถานที่ตรงนี้มีหินสี่เหลี่ยมสีดำพร้อมกับมีอักขระประหลาดสลักไว้ มีแสงสีแดงเปล่งประกายออกมาอย่างชั่วร้าย
“นี่คือ… คัมภีร์เทพ?!”
คราวนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องถามจื้อเซียนอีกต่อไป ไป๋ชิวหรานก็จดจำมันได้ทันทีหลังจากได้มองชัด ๆ
“ความเกลียดชัง โลหิต กระดูก ต้นกำเนิด… จื้อเซียนเจ้าเห็นสารทั้งหมดในคัมภีร์เทพเหล่านี้หรือไม่?”
“แน่นอน”
จื้อเซียนอธิบาย
“หน้าที่ของคัมภีร์เทพศักดิ์สิทธิ์นี้คือการดูดซับความแค้นจากภายนอก และสร้างจิตสำนึกที่ชั่วร้าย คลั่งไคล้โลหิต ก้าวร้าว และเกลียดชัง จากนั้นค่อยสร้างเลือดเนื้อ ก่อนจะพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ดวงตาของเขาจับจ้องของเหลวสีเขียวในแอ่งขนาดใหญ่
“ของเหลวเหล่านี้รวบรวมพลังแห่งเซียนสวรรค์และทวยเทพไม่รู้ตั้งเท่าใด มันควบแน่นตั้งแต่โลหิตหยดแรก ทำหน้าที่ราวกับมดลูกของสตรี ถูกต้องแล้ว เหล่าทวยเทพที่ถูกเผ่าพันธุ์มนุษย์สังหารมีความคับแค้นฝังรากลึก มันยังคงอยู่ไม่เคยจางหายไป แต่ไม่ว่าความแค้นเหล่านี้จะรุนแรงเพียงใด ก็ยังยากที่จะนำมาสร้างกลุ่มเผ่าพันธุ์จำนวนมากขึ้น… สิ่งที่เจ้าคาดเดาก่อนหน้านี้ถูกต้องแล้ว มีเทพเจ้าอยู่เบื้องหลังการเติบโตของเผ่ามาร”
ไป๋ชิวหรานมองของเหลวในแอ่งใหญ่ด้วยความเงียบงัน ขณะนั้นภายในของเหลวค่อย ๆ ก่อตัวเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดเล็กก่อนจะขยายขนาดออกอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้น เกิดระเบิดจากส่วนลึกของภายในหุบเขา ทำให้ภูเขาทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ทั้งดินและหินร่วงหล่น ความสนใจของไป๋ชิวหรานกับจื้อเซียนจึงถูกดึงเข้าไปภายในส่วนลึกนั้นทันที
“มีการต่อสู้อยู่ด้านใน”
จื้อเซียนกล่าวถาม
“เป็นการต่อสู้แบบเผชิญหน้างั้นหรือ?”
…
*[1] ฟู่กวน ตำแหน่งผู้ช่วยของเซียนอาวุโสหยาง