บทที่ 993 ครั้งนี้เซอร์ไพรส์จริงๆ
“พี่เยี่ย ตอนนี้ตกลงพวกเราจะทำยังไงกันดี จะตอบสนองโลกข้างนอกยังไง…” ตงไจ๋มีท่าทีจนปัญญา
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ไม่ต้องตอบสนองอะไรทั้งนั้น ยิ่งกว่านั้นต่อให้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์ ทักษะการแสดงของกงซี่ถูกดิสก็ไม่ใช่เรื่องวันสองวันสักหน่อย วิธีแก้ไขเรื่องนี้มีแค่วิธีเดียว…”
ตงไจ๋ถาม “เอ่อ คืออะไรครับ…”
ดวงตาเยี่ยหวันหวั่นวาบประกายแสง เธอเอ่ยปาก “ใช้ความสามารถกระแทกหน้า”
เยี่ยหวันหวั่นหยุดชั่วครู่ก่อนเอ่ยต่อ “ให้กงซวี่ตั้งใจถ่ายละคร ไม่ต้องสนใจโลกภายนอก”
ตราบใดที่ทักษะการแสดงของกงซวี่ได้รับการยอมรับ วันนี้คนพวกนี้ยิ่งต่อว่า วันหน้ากงซวี่ยิ่งโด่งดัง
แม้ว่าตงไจ๋ไม่ได้คาดหวัง แต่คิดดูแล้ว เขาก็เหมือนทำได้แต่อย่างนี้ “ตกลงครับ ผมทราบแล้วพี่เยี่ย”
ทางด้านหลัง ซือเยี่ยหานมองแสงแห่งความมั่นใจบนใบหน้าหญิงสาว ในใจเขารู้สึกกลัวเล็กน้อย
ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองโดยไม่รู้ตัว “คุณเก้า จริงสิ คุณเห็นถังถังไหมคะ”
ซือเยี่ยหานเก็บอารมณ์ก่อนเอ่ย “ไม่เห็น”
เยี่ยหวันหวั่นเกาหัวอย่างสงสัย “แปลกจัง เด็กคนนี้วันนี้ตื่นเช้าขนาดนี้ไปไหนกันนะ”
เยี่ยหวันหวั่นกับซยกเดินไปทิศทางห้องอาหารด้วยกัน
เพิ่งเดินไปถึงห้องอาหาร ฉับพลันเสียง ‘ปัง’ ก็ดังขึ้น เหนือหัวพลันมีฝนกุหลาบหนาโร่งโรยลงมา ลูกโป่งหลากสีอัดแน่นเต็มเพดานห้องครัว
สวยจัง…
กลีบดอกไม้กับลูกโป่งลอยเต็มห้องอาหาร ราวกับภาพในความฝัน
“นี่มันอะไรเนี่ย” เยี่ยหวันหวั่นตกใจสะดุ้งโหยสง ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ซือเยี่ยหานก็มองไปยังทิศทางครัวอย่างสงสัย
จากนั้น ทั้งสองคนก็เห็น ในอ้อมกอดถังถังกำลังกอดช่อดอกกุหลาบที่ใหญ่กว่าตัวเขาและกำลังเดินมาทางเยี่ยหวันหวั่น
“คุณแม่…” วันนี้เด็กน้อยสวมชุดสูทเป็นทางการ ช่อกุหลาบแทบจะบดบังใบหน้าเล็กของเขามิด
เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าตกใจ “ถังถัง! นี่คือ?”
เด็กน้อยกอดดอกไม้ เม้มปากอย่างเขินอายเล็กน้อย เขาเงยหน้าอย่างคาดหวังแล้วเอ่ยปาก “ให้คุณแม่ครับ!”
เยี่ยหวันหวั่นชะงัก จากนั้นเธอก็รีบรับดอกกุหลายช่อใหญ่มา ทั้งเซอร์ไพรส์ทั้งดีใจ “ขอบคุณนะลูกรัก นี่…พวกนี้ลูกเป็นคนเตรียมเหรอ”
เด็กน้อยพยักหน้า เอ่ยด้วยสีหน้าตื่นเต้น “อื้ม! ลูกโป่งกับกลีบดอกไม้พวกพี่ชายกับพี่สาวช่วยเตรียมให้ผม กุหลาบผมให้คุณลุงส่งทางอากาศมาจากบ้าน คุณลุงบอกว่าคุณแม่ชอบกุหลาบที่สุด คุณแม่ชอบไหม”
“ต้องชอบแน่นอนสิ!” เยี่ยหวันหวั่นตอบอย่างไม่ลังเล
แง! จะใส่ใจกันเกินไปแล้วไหม! ถึงกับเตรียมเซอร์ไพรส์ให้แม่เป็นด้วย! แถมครั้งนี้ยังเป็นเซอร์ไพรส์จริงๆ…
เด็กอ่อนโยนขนาดนี้ ตามหาก็ใช่ว่าจะเจอ เสียเปรียบเธอซะไม่มี!
จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเธอไม่เสียอะไรจริงๆ…
จากนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็คิดเล็กน้อย “แต่…วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรเหรอ”
เด็กน้อยได้ยินแบบนั้นก็เอ่ยสีหน้าจริงจัง “ใช่ วันนี้เป็นวันพิเศษ!”
เป็นวันพิเศษ?
แต่ เยี่ยหวันหวั่นคิดอยู่นานก็นึกไม่ออกว่าเป็นวันอะไรกันแน่
ถังถังเอ่ยตอบ “วันนี้เป็นวันที่เจ็ดที่ถังถังรู้จักคุณแม่ ทุกวันที่ถังถังได้อยู่กับคุณแม่ ล้วนเป็นวันพิเศษ”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้นก็ตื้นตันใจเหลือคณนา เธอนั่งยอง โอบเด็กน้อยเข้าในอ้อมกอด “ขอบคุณนะลูกรัก แม่รักลูกที่สุดเลย!”
เด็กน้อยตาเป็นประกาย “ถังถังก็รักคุณแม่ที่สุด!”
ซือเยี่ยหานที่ด้านหลังสองแม่ลูกพูดอะไรไม่ออก
—————————————————————————————
บทที่ 994 ทำไมต้าไป๋น่ารักขนาดนี้
เห็นผู้ชายคนอื่นแสดงความรัก ให้ดอกไม้แถมยังสารภาพรักภรรยาตัวเองต่อหน้าต่อตาเป็นความรู้สึกอย่างไร
เห็นผู้ชายคนอื่นแสดงความรัก ให้ดอกไม้แถมยังสารภาพรักภรรยาตัวเองต่อหน้าต่อตาแล้วโกรธไม่ได้เป็นความรู้สึกอย่างไร
อารมณ์ซือเยี่ยหานเวลานี้ เรียกได้ว่ายากจะอธิบายเป็นคำพูดสั้นๆ
เด็กน้อยซุกไหล่ของมารดาอย่างพึ่งพิง “คุณแม่…หลังจากนี้คุณแม่จะทิ้งถังถังอีกไหม”
เยี่ยหวันหวั่นลูบหัวเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน “ไม่ทิ้งอีกแน่นอน…”
ในเวลาเดียวกับที่ตื้นตันใจ อารมณ์เธอก็หดหู่อยู่บ้าง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ของของเธอ
รอสักวันหนึ่งที่ถังถังเจอแม่แท้ๆ ของตัวเอง เขาก็จะไม่เป็นแบบนี้กับเธอแล้ว…
แง! อยากเก็บมาเลี้ยงเองชะมัดยาดเลย!
เยี่ยหวันหวั่นกระทั่งครุ่นคิดความเป็นไปได้ของวิธีนี้แล้ว…
ยามเช้า ครอบครัวสามคนนั่งหน้าโต๊ะอาหาร
เยี่ยหวันหวั่นเท้าค้างมองสองพ่อลูก มองจนอิ่มเอมใจ
เฮ้อ มีชีวิตแบบนี้ ไม่ต้องการอย่างอื่นแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นคิดไปพลาง คีบไข่ดาวหนึ่งฟองขึ้นมา
ตอนที่กำลังยื่นออกไปข้างหน้า ผลลัพธ์คือเธอสบสายตาสองสายพร้อมกัน
“เอ่อ…” ตะเกียบของเยี่ยหวันหวั่นแข็งค้างกลางอากาศ
ภายใต้แรงกระตุ้นอยากเอาชีวิตรอดอย่างแรงกล้า เยี่ยหวันหวั่นใช้มือซ้ายคีบไข่ดองอีกฟองโดยสัญชาตญาณ มือซ้ายขวาต่างคีบไข่ดองข้างละฟอง แล้วเธอก็วางไข่ดองสองฟองนั้นในจานของพ่อลูกพร้อมกัน
หลังวางไข่ดาวสองฟองเสร็จ สายตาสองสายที่ตรงข้ามจึงค่อยถูกเก็บกลับไป
เยี่ยหวันหวั่นลอบปาดเหงื่อ
เฮ้อ…อย่างอื่นสมบูรณ์แบบทุกอย่าง…
เวรกรรมอย่างเดียวคือ ปฏิสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้เหมือนชักดาบโก่งคันธนูกันอยู่ยังไงไม่รู้…
“จริงสิถังถัง เพราะปกติพ่อแม่ต้องทำงาน อยู่บ้านเป็นเพื่อนลูกไม่ได้ แม่เลยหาสัตว์เลี้ยงน่ารักมากหนึ่งตัวมาเป็นเพื่อนเล่นกับลูกละ!” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
ถังถังย่อมคาดหวังให้แม่อยู่ข้างกายตัวเอง แต่ก็ไม่อยากสร้างภาระให้เธอ
แม้ว่าไม่สนใจหมาแมวหรือว่ากระต่าย แต่เด็กน้อยยังคงพยักหน้า “ขอบคุณครับคุณแม่”
“เด็กดี…” เยี่ยหวันหวั่นลูบหัวเด็กน้อย “เดี๋ยวลูกก็ได้เจอแล้ว รับรองว่าลูกต้องชอบแน่!”
ขระที่กำลังพูด ที่ประตูทางเข้าก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา
“คุณหนูหวันหวั่น!” หลังสวี่อี้รับคำสั่งเมื่อวาน เขาก็รีบเร่งรุดมาแต่เช้า
“พ่อบ้านสวี่ มาแล้วเหรอ ต้าไป๋ล่ะๆ” เยี่ยหวันหวั่นมองที่ด้านหลังสวี่อี้ทันที
สวี่อี้กระแอมไอเบาๆ หนึ่งที เขาอ้าปากอย่างกังวลเล็กน้อยพลางหันไปมองผู้นำตระกูล
เดิมทีเขาคิดจะพูดบางอย่างกับผู้นำตระกูล แต่นึกอีกที ช่างเถอะ หาผู้นำตระกูลไปก็เปล่าประโยชน์
ดังนั้นสวี่อี้จึงหันไปเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่นโดยตรงอย่างฉลาดเฉลียว “คุณหนูหวันหวั่น คุณแน่ใจนะครับว่าจะให้พาต้าไป๋มา นั่นน่ะ มันจะไม่ทำคุณชายน้อยตกใจเหรอครับ”
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วทันที “จะเป็นไปได้ยังไง! ต้าไป๋น่ารักขนาดนี้! ต้าไป๋ล่ะ รีบพามันมาเลยนะ! คิดถึงต้าไป๋จะแย่แล้ว!”
สวี่อี้เอ่ย “ตกลงครับ งั้นผมก็จะไป…”
จะว่าไป ทำไมเขารู้สึกว่าคุณหนูหวันหวั่นเองมากกว่าที่อยากเล่นกับต้าไป๋…
ถังถังที่อยู่ด้านข้างเอียงคอถาม “ต้าไป๋?”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ใช่ เป็นชื่อของมันน่ะ!”
“เป็นกระต่ายเหรอครับ” ถังถังถาม
สองแม่ลูกกำลังพูดคุยกัน เวลานี้สวี่อี้กลับมาแล้ว ครั้งนี้ด้านหลังสวี่อี้ตามมาด้วยสัตว์ขนาดยักษ์สีขาวหิมะทั้งตัว…
“กรร—” พร้อมกับที่เสียงคำรามของสัตว์ป่าดังขึ้น เสือขาวเงินหนึ่งตัวก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆ
…………………………………….