ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 179 ความทรมาน (1)

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่179 ความทรมาน (1)

และเป็นเพราะไป๋หลี่เย่ต้องการฆ่าเขาและเซียถงยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เขาไม่น่าปล่อยโอกาสนี้ให้สูญเปล่าแน่นอน

เงยหน้าขึ้นมองดวงตะวันเหนือศีรษะ เซี่ยหลู่เฟิงกัดฟันแน่นและก้าวออกไปข้างหน้าอย่างมั่นคง นี่เกือบจะเที่ยงวันแล้ว และมันหาใช่เวลาที่เขามัวมาลังเลให้เสียเวลาโดยเปล่า ต่อให้เบื้องหน้ารู้ทั้งรู้ว่าเป็นกับดัก เขาก็ต้องบุกทะลวงเข้าไป

เซี่ยหลู่เฟิงตระหนักดี สภาพภูมิประเทศเฉกเช่นนี้เหมาะที่สุดแล้วที่จะตั้งค่ายกลซุ่มโจมตีด้วยธนู เพราะเส้นทางที่เป้าหมายกำลังเดินอยู่เป็นทางสายเดี่ยวที่ทั้งแคบและเล็ก แทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะหลบเลี่ยงศรธนูได้ทุกดอก และต่อให้หลบได้ก็มิอาจรับประกันได้ว่าจะไม่พลัดตกจากเหวสองข้างทาง

เขาวิ่งไปตามเส้นทางเดี่ยวสายหนึ่ง สับฝีเท้าเร่งความเร็วสุดขั้ว หวังจะไปให้ถึงจุดหมายปลายทางโดยเร็วที่สุด แต่ทันทีที่เหยียบย่างไปได้หนึ่งส่วนสี่ของเส้นทาง ทันใดนั้นก็มีสุ้มเสียงดังอึกทึกลือลั่นจากเหนือศีรษะ และเมื่อเซี่ยหลู่เฟิงเงยหน้ามองขึ้นฟ้า ลูกตาพลันตีบแคบในทันใด เห็นแต่ศรธนูจำนวนนับไม่ถ้วนบินอยู่เหนือเวหา ยิงเข้ากระหน่ำสาดเข้าใส่ประดุห่าพิรุณ

ชั่วขณะอึดใจต่อมา เซี่ยหลู่เฟิงระดมพลังลมปราณสุดขั้วกรอกเทเข้าไปยังคู่ขาทั้งสองข้าง และพุ่งทะยานออกไปดั่งหัวศร

สุ้มเสียงดังกึกก้องไม่รู้จักจบ ศรธนูนับไม่ถ้วนกระหน่ำสาดใส่ไล่หลังของเซี่ยหลู่เฟิงมาติด และมีบางดอกยิงโดนเข้าเป้า ทั้งปักกลางหลังก็ดี บริเวณหัวไหล่ลามไปถึงแขนก็ดี ผ่านไปได้ครึ่งทางสภาพเนื้อตัวราวกับอาบเลือดมาก็ไม่มีผิด แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังกัดฟันสู้ งัดแรงอึดทั้งหมดที่มีตีฝีเท้าวิ่งต่อไปอย่างไม่ลดละ แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่ตัวเขามิทันได้สังเกต นั่นคือ…รัศมีลมปราณสีเขียวที่ห่อหุ้มทั่วกายาของเขา ยามนี้จู่ๆก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีครามอ่อนเปล่งประกายออกมา

ขณะที่กำลังจะวิ่งไปถึงสุดท้ายฝั่งตรงข้าม จู่ๆก็มีก้อนหินขนาดยักษ์กลิ้งเข้ามาใส่หน้าของเซี่ยหลู่เฟิงกระแทกอย่างจัง เสียงกระดูกทั่วทั้งร่างแตกดังกรอบแกรบ คล้ายละเอียดราวกับผุยผง

โชคยังดีที่เซี่ยหลู่เฟิงยังทรงตัวไว้ได้ ไม่พลัดตกร่วงลงตรงหุบเหวสองข้างทางขนาบ ร่างหนึ่งนอนแผ่ราบอยู่บนพื้น อวัยวะภายในเสมือนแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆก็มิปาน ไม่เหลือแม้แต่เรี่ยวแรงขยับเขยื้อนใดๆ หากกล่าวให้ถูกคล้ายว่าตอนนี้กระดูกสันหลังจะหักแล้ว

เซี่ยหลู่เฟิงพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นมองเบิกกว้างสุดแรงเกิด ต้องการจะดูว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน แต่ไม่ว่าจะพยายามลืมตาตื่นเพียงใด วิสัยทัศน์รอบข้างกลับพร่ามัวไปหมด “หัวหน้า เจ้านี่ยังไม่ตาย!”

เหมือนจะได้ยินสุ้มเสียงของใครบางคนเอ่ยขึ้นข้างๆ

“แล้วนังอัปลักษณ์ที่ว่าอยู่ไหน? หรือจะถูกสองพี่น้องนั่นฆ่าทิ้งไปแล้ว?”

“หัวหน้า แล้วจะเอาอย่างไรกับเขาดี?”

“ฆ่าทิ้ง! ฆ่ามันเสร็จค่อยลากศพของมันไปให้องค์รัชทายาทดู”

เซี่ยหลู่เฟิงสัมผัสได้ทันทีถึง รัศมีจิตสังหารอันเลือดเย็นที่แผ่ซ่านออกมา เสมือนกับว่า พบเห็นเงาร่างหนึ่งที่กำลังยกดาบจะสะบั้นลงมายังศีรษะของตนบนพื้น ไม่ว่าเขาต้องการจะหลบเลี่ยงเพียงใด แต่เสมือนร่างกายกลับตายลงไปแล้ว ไม่เพียงจะไม่ฟังคำสั่ง กระทั่งกระดิกนิ้วยังไม่สามารถทำได้ โคตรกระดูกทั่วกายาที่ใช้ค้ำจุนแตกละเอียด ตอนนี้เหลือเพียงก้อนเนื้ออันอ่อนปวกเปียกสุดแสนเท่านั้น

ยิ่งสัมผัสได้ชัดแจ้ง รัศมีจิตสังหารอันเย็นยะเยือกเคลื่อนเข้ามาใกล้ศีรษะของเขาเรื่อยๆแล้ว ทันใดนั้น พลันบังเกิดคลื่นความหวาดกลัวผุดขึ้นในใจดวงนี้ นี่ข้าต้องตายเช่นนี้จริงๆรึ? หนึ่งคำถามผุดขึ้นมา

ชั่วขณะหนึ่งกลายมาเป็นความสงบนิ่งเข้ามาแทนที่ภายในใจ นัยน์ตาคู่นั้นเริ่มหม่นประกายไร้แววชีวิตชีวาเสมือนกับว่าปลงในชีวิตนี้แล้ว แต่ลึกลงไปในส่วนลึกความทรงจำของเขา กลับมีเพียงความโศกเศร้าและสิ้นหวัง จะมีก็เพียง…ใบหน้าของหญิงสาวนางนั้นที่กำลังยิ้มแย้มอยู่…

ใช่แล้ว! ฉีหมิงเยว่ยังคงเฝ้ารอตนอยู่บนยอดเขา! นี่ข้าจะมาตายเช่นนี้ไม่ได้!

ทันทีทันใด พลังวังชาขุมใหญ่จากสิ่งที่เรียกว่า‘ความหวัง’ก็เข้าสูบฉีดอัดใส่ร่างกายของเซี่ย่หลู่เฟิงอย่างไม่หยุดหย่อน ช่างน่าประหลาดใจยิ่งยวด กระดูกทั่ว่ทั้งร่างที่ราวกับว่าแตกละเอียดไปโดยสิ้นกลับฟื้นคืนสู่สภาพดังเดิม มือข้างหนึ่งกระชับจับด้ามกระบี่ยาวหักไว้แน่นหนา ดวงตาเบิกกว้างตื่นขึ้นในพริบตา ก่อนที่คมดาบตรงหน้าจะห้ำหั่นสะบัดศีรษะ เซี่ยหลู่เฟิงระเบิดพลังลมปราณคลุ้งคลั่ง ซัดร่างอีกฝ่ายกระแทกจนล้มคะหม่ำไปไกล

ร่างหนึ่งประดุจศพผุดขึ้นจากพื้นดิน ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าอย่างมั่นคง พร้อมกับกระบี่หักครึ่งท่อนในมือที่กำแน่น

หยาดเลือดรินหยดไหลตกลงมาจากคมกระบี่ เซี่ยหลู่เฟิงค่อยๆเคลื่อนสายตามองไปทางร่างหนึ่งที่ถูกแรงระเบิดพลังเมื่อครู่ซัดกระเด็นออกไป ยามนี้อีกฝ่ายนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ตายคาที่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยามนั้นค่อนเบี่ยงสายตากลับเข้ามาจับจ้องพวกทหารที่เหลือ ทันใดนั้น คำพูดประโยคหนึ่งที่เซียถงเคยกล่าวกับตนก็พลันดังขึ้นในใจ

‘การมีใจเมตตาต่อศัตรูนับเป็นการฆ่าตัวตายทางอ้อม’

เซี่ยหลู่เฟิงมองขึ้นฟ้าไปทางดวงตะวันเหนือศีรษะ ตามนี้ตำแหน่งของมันใกล่จะตั้งตรงโดยสมบูรณ์แล้ว

ฉีหมิงเยว่!

และเมื่อเขาค่อยๆกดศีรษะก้มลงมา ทันใดนั้น ก็พลันปรากฏประกายแห่งความกระหายเลือดสีแดงฉานเบ่งบานขึ้นจากนัยน์ดวงตาดวงนี้!

“หัวหน้า…แย่แล้ว! ไฉนมันยังลุกขึ้นยืนได้!?”

นายทหารอีกคนซึ้งอยู่รอบข้างเซี่ยหลู่เฟิงเอ่ยถามน้ำเสียงสั่นเครือ ฉาบแววสะเทือนขวัญเล็กน้อย

ในขณะนี้ ทั่วทั้งเนื้อตัวและใบหน้าของเซี่ยหลู่เฟิงชุ่มชโลมไปด้วยเลือดสีแดงสด ผนวกเข้ากับสีหน้าเหี่ยมดุและดูสยองสยองของเขาแล้ว นี่ราวกับเป็นเทพปีศาจที่กำลังย่างเท้าเดินออกมาจากขุมนรกอเวจีก็มิปาน ยืนตระหง่านสีหน้าไร้ระลอกคลื่นอารมณ์ใด มีแต่ความเลือดเย็นและกระหายเลือดเท่านั้นที่คับคลั่ง มองดูกลุ่มทหารจำนวนหนึ่งเบื้องหน้า และค่อยๆยกกระบี่หักครึ่งท่อนในมือขึ้นมา ซึ่งภาพฉากต่อจากนี้ล้วนแต่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงกันหมด เพราะจู่ๆก็มีประกายแสงลมปราณสีครามบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์แห่งขอบเขตเสาหลักฟ้า เดือดปะทุขึ้นจากร่างกายของเขา!

“หัวหน้า! หัวหน้า! มิใช่ว่าเจ้าเซี่ยหลู่เฟิงมีระดับลมปราณแค่ขอบเขตเสาหลักเขียวหรอกรึ?! ไฉนมันถึงกลายมาเป็นขอบเขตเสาหลักฟ้าได้แล้ว!?!”

มีนายทหารบางคนในกลุ่มเอ่ยปากตะโกนลือลั่นขึ้นมาด้วยความตกตะลึง แต่ยังไม่ทันที่จะได้กล่าวจบดี ศีรษะของคนที่ว่าก็ถูกสะบั้นหลุดจากบ่าไปเสียแล้วภายใต้คมกระบี่หักของเซี่ยหลู่เฟิง

“ขอบเขตเสาหลักฟ้าแล้วอย่างไร? ยามนี้มันบาดเจ็บสาหัสยังมีอะไรให้ต้องกลัว? รีบรุมฆ่ามันจากนั้นค่อยเอาศพไปแลกรางวัลกับองค์รัชทายาท!”

หัวหน้านายนั้นโบกมือส่งสัญญาให้ทุกคนเข้าโจมตี และรีบกระชับจับดาบในมือเข้าฟาดฟันใส่ทางเซี่ยหลู่เฟิงโดยตรง

ที่เหลือเองต่างแห่แหนเข้ารุมเร้าในทันที

ทว่าในไม่ช้า ทุกคนต่งาต้องประหลาดใจอย่างยิ่งที่ได้ค้นพบว่า เซี่ยหลู่เฟิงในตอนนี้ หาใช่เซี่ยหลู่เฟิงที่พวกเขารู้จักอีกต่อไปแล้ว ทุกกระบวนเคลื่อนไหวของเขาทั้งเลือดเย็นและไร้ความปราณี แต่ละคมกระบี่ที่ฟันฟาดล้วนเล็งเป้าไปที่ศีรษะ หวังสะบั้นหัวให้ขาดภายในฉับเดียว โดยไม่คำนึงถึงความเมตตากันเลยแม้สักนิด และทุกครั้งที่คมกระบี่หักในมือของเขาได้โบกสะบัด นั่นเท่ากับว่าต้องมีศีรษะของคนใดคนหนึ่งหลุดกระเด็นออกจากบ่า

เซี่ยหลู่เฟิงในเวลานี้เปรียบเสมือนเทพแห่งความตายก็มิได้เกินจริงเลย!

“หะ-หัวหน้า…มันยังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า?”

ในท้ายที่สุดนี้ เหลือเพียงหัวหน้ากับนายทหารเตี้ยอยู่นายหนึ่งเท่านั้น และนายทหารเตี้ยคนดังกล่าวก็กำลังจับจ้องเซี่ยหลู่เฟิงผู้เปรียบเสมือนปีศาจ เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและเศษชิ้นเนื้อติดไปทั่ว ดวงตาคู่นั้นคมกริบปรารถนาการเข่นฆ่ามากกว่าสิ่งใด เขาที่เห็นดังนั้นพลันเสียขวัญถึงขั้นวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังของหัวหน้าตนเอง

“ไสหัวไป!”

หัวหน้านายนั้นคว้าคอเสื้อของนายทหารเตี้ยที่อยู่หลบอยู่ด้านหลัง และโยนออกไปทางเซี่ยหลู่เฟิง จากนั้นก็รีบหมุนตัวกลับและวิ่งหนีตายลงไปยังตีนเขาอย่างไม่คิดชีวิต แต่หารู้ไม่ว่า…ทางที่เขากำลังวิ่งหนีลงไป ดันเป็นทางเดียวกับที่เซียถงกำลังวิ่งขึ้นมา….

หลังจากนี้ หากเขาได้ตระหนักทราบถึงความน่ากลัวของเซียถง รับประกันได้เลยว่า เขาคงขอตายในเงื้อมมือของเซี่ยหลู่เฟิงเสียดีกว่า

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท