ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 219 อดีตของหยุนซี (1)

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่219 อดีตของหยุนซี (1)

“บางทีอาจเป็นเพราะคำพูดคำจาของข้าที่ทำร้ายจิตใจของเขาเรื่อยมา จนกลายมาเป็นพฤติกรรมของข้าที่มักจะสรรหาปัญหามาให้อีกฝ่ายหงุดหงิดเสมอ ความโกรธเหล่านั้นถูกสั่งสมตลอดที่ผ่านมา และครั้งสุดท้ายก็เหมือนกับฟางเส้นสุดท้ายของเขา จึงคิดสั้นคว้าขวดพันพิษเลิศหล้ากระดกดื่มจนหมดในทีเดียว”

หยุนซีกล่าวอธิบายต่อ

ปลายเสียงของนางช่างสั่นคลอ ฟังดูพึงทราบถึงความตื่นตระหนกในวันนั้นที่ยังไม่จางหายไปจวบจนวันนี้ มือเรียวข้างนั้นที่กุมจับจือหยวนเริ่มเกิดอาการสั่นตามเล็กน้อย

เซียถงมิได้เอ่ยกล่าวใดๆ เพียงยกมือขึ้นตบไหล่ของอีกฝ่ายอย่างแผ่วอ่อน เมื่อหยุนซีเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดที่แท้จริง ทั้งวาจาและสีหน้าท่าทางดูอ่อนแอซีดเซียวหนัก ทั้งหมดที่เซียถงทำได้ในเวลานี้คงมีเพียง ส่งแรงใจผ่านลงไปยังฝ่ามือนี้ไปหาหญิงงามที่กำลังเศร้าโศกสุดหัวใจอยู่เบื้องหน้า

พลังใจกระแสอบอุ่นไหลบ่าผ่านเข้ามาจากไขว่ข้างขวาของนาง หยุนซีสัมผัสได้ทันทีว่า ร่างกายอันเย็นยะเยือกของตนเริ่มอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย เช่นนั้นจึงสูดหายใจแช่มลึกพยายามปรับอารมณ์ให้เข้าที่เข้าทาง แล้วกล่าวต่อว่า

“ข้าไม่นึกเลยว่า จือหยวนจะดื่มเข้าไปจริงๆ ตอนนั้นข้าเพียงอยากข่มขู่ให้อีกฝ่ายกลัวก็เท่านั้น เพราะเขาชอบทำตัวเป็นเงาตามติดข้าไปทุกที่ ตอนนั้นมันเป็นอะไรที่น่ารำคาญมากจริงๆ ก็เลยพยายามทำทุกวิถีทางให้อีกฝ่ายไปพ้นๆ หน้า…”

“จือหยวนกระดกพันพิษเลิศหล้าจนหมดขวด จากนั้นก็ล้มลงกับพื้น นอนมองหน้าอยู่ตรงนั้น…สายตาของเขาที่จับจ้องช่างเศร้าหมองยิ่งกว่าอะไรดี ทั้งยังกล่าวทิ้งท้ายกับข้าอีกว่า หยุนซี ข้าค่อยอยู่เคียงข้างและช่วยเหลือเจ้าตั้งแต่ยังเด็ก พอโตขึ้นมา เจ้าต้องการจัดงานประลองเฟ้นหาคู่ครอง ข้าไม่เคยคิดตำหนิติเตียนเลยสักคำ แต่เลือกที่จะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าข้าเองก็คู่ควร แต่ไม่คิดเลยจริงๆ ว่า เจ้าจะเกลียดข้าถึงปานนี้ เอาเถอะ…ในเมื่อเจ้าต้องการให้ข้าหายไป ข้าก็จะหายไป…ชีวิตของเจ้าหลังจากนี้จะไม่มีข้าอีกแล้ว ดูแลตัวเองด้วย…”

“ข้าเฝ้ามองจือหยวนดื่มพิษขวดนั้น ฟังเขาพูดทิ้งท้ายประโยคนั้น และชั่วอึดใจขณะ…ข้าเพิ่งจะมารู้สึกได้ว่า เหตุใดใจดวงนี้ของตนถึงได้เจ็บปวดรวดร้าวเกินพรรณนา พอได้สติกลับมาอีกที ข้าก็สำลักน้ำตาจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว”

“ชั่วขณะที่เขาล้มลง กลับเป็นหัวใจดวงนี้ของข้าที่ได้ตื่นขึ้น และข้าก็เพิ่งได้รู้ว่า ตนเองรักจือหยวนตลอดมา ความดีที่เขาทำให้ข้ามันไม่เคยมีเงื่อนไข เขาไม่เคยหวังสิ่งใดตอบแทนเลยจริงๆ และข้า…ข้าก็อยู่ไม่ได้หากไม่มีจือหยวนในชีวิต เสมือนกับว่าชีวิตของเราสองถูกผูกติดกันตั้งแต่วัยเด็กแล้ว ดังนั้น…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้…แม้ว่าข้าจะมิอาจช่วยเขาได้ แต่อย่างน้อยข้าจะไม่มีวันปล่อยให้เขาตายไปเด็ดขาด!”

“นับแต่นั้นข้าก็เริ่มออกเดินทางจนไปเสาะพบกับเหมันต์พันธนาเก้าฤดู และอณูวิญญาณแห่งเซิ่นกับยอดหญ้าของดอกลืมทุกข์ตามลำดับ ทั้งนี้ก็เพื่อเก็บรักษาร่างกายเนื้อของเขามิให้เน่าเปื่อย ส่วนสมุนไพรทั้งสองชนิดที่ว่ามาก็ใช้เพื่อกักขังดวงวิญญาณมิให้ไปสู่สุขติได้”

“หลายปีมานี้ ข้าได้ท่องไปทั่วทวีปเทียนหลางเพื่อตามหาจักรพรรดิโอสถให้มาช่วยเหลือ แต่กลับไม่พบเบาะแสแม้กระทั่งเงา ต่อมา ข้าเริ่มไม่มีเงินมาคอยซื้ออณูวิญญาณแห่งเซิ่นกับยอดหญ้าของดอกลืมทุกข์ได้ไหวอีกต่อไป จึงพยายามออกเดินทางตามป่าเขาเสาะหา จนมาพบพวกมันทั้งคู่บนป่าสนแห่งนี้ ดังนั้นข้าก็เลยสมัครมาเป็นอาจารย์สอนในสถานศึกษาเซิงหลิง”

“ทุกวันนี้ ข้าต้องใช้สมุนไพรทั้งสองชนิดนี้ในปริมาณมากและต่องเนื่องตลอดทุกวัน แต่ภายในป่าสนเองก็เริ่มจะหาได้ยากแล้วเช่นกัน…”

“เซียถง โปรดช่วยชีวิตเขาด้วยเถอะ! อาศัยเพลิงพิภพเก้าดุษณีที่ได้รับสมญานามว่า หนึ่งในไฟวิเศษแห่งตำนาน ในมือเจ้า กับสูตรโอสถวัฏจักรคืนชีพระดับเก้าที่อยู่ในมือข้า บางที…เจ้าอาจสามารถหลอมกลั่นมันได้สำเร็จ!”

หยุนซีเงยหน้าจับจ้องหยุนซีตาเป็นประกายเปี่ยมความหวังอีกครั้ง

“อาจารย์ ท่านมีสูตรโอสถวัฎจักรคืนชีพระดับเก้าด้วยงั้นรึ?”

เซียถงเบิกตาโตจ้องะหยุนซีตาเขม็งด้วยความเหลือเชื่อ

จากหน้าประวัติศาสตร์นับหลายพันปี โอสถวัฏจักรคืนชีพระดับเก้าเคยปรากฏขึ้นเพียงสองถึงสามครั้งเองเท่านั้นในทวีปเทียนหลางแห่งนี้ แต่หยุนซีกลับมีสูตรโอสถวัฏจักรคืนชีพระดับเก้าอยู่ในมือ แล้วนี่จะไม่ทำให้เซียถงประหลาดใจได้อย่างไร?

“นี่เป็นสูตรโอสถที่สืบทอดกันมาจากตระกูลของข้า เพราะบรรพชนในอดีตกาลของข้าเคยมีนักหลอมโอสถท่านหนึ่งที่บรรลุเป็นจักรพรรดิโอสถ”

หยุนซีกล่าวไขข้อสงสัยเมื่อเห็นเซียถงปั้นหน้างุนงง

สูตรโอสถที่สืบทอดต่อกันมาของตระกูล? ดวงตาเซียถงยิ่งเบิกกว้างจับจ้องหยุนซีไม่มีคลายอ่อน ภายในทวีปเทียนหลางแห่งนี้ มีเพียงสองตระกูลใหญ่เท่านั้นที่มีรากฐานหยั่งลึกที่สุดในด้านหลอมกลั่นโอสถตั้งแต่สมัยอดีตกาล ได้แก่ ตระกูลหยุน และตระกูลหลู่ แต่สองตระกูลนี้กลับปลีกวิเวกหลบซ่อนตัวอยู่ในซอกมุมหนึ่งบนพิภพ มีคนเพียงจำนวนน้อยนักที่รู้ว่าพวกเขาอยู่แห่งหนใด หรือเป็นไปได้ไหมว่า หยุนซีนางนี้จะเป็นทายาทรุ่นปัจจุบันของตระกูลหยุน?

“ข้านี่แหละคือทายาทรุ่นปัจจุบันของตระกูลหยุน และยังเป็นทายาทรุ่นสุดท้ายของตระกูลหยุนอีกด้วย รุ่นเยาวชนที่เหลืออยู่ก็มีแต่ข้าคนเดียวแล้ว แต่ช่างเป็นอะไรที่น่าเสียดายนัก ในกายของข้ากลับไม่มีคุณสมบัติธาตุไฟอยู่เลย ถึงแม้จะมีสูตรโอสถอยู่ในกำมือ แต่มิว่าจะพยายามอย่างไร ข้าก็ไม่สามารถหลอมกลั่นโอสถได้เลย ท้ายที่สุดนี้ ชั่วชีวิตของข้าก็เป็นได้แค่ ปราชญ์พิษ”

ราวกับว่าหยุนซีมองผ่านอ่านข้อสงสัยภายในหัวของเซียถงได้ ถึงอย่างนั้น ทุกคำพูดที่เปล่งดังล้วนเต็มไปด้วยน้ำเสียงดูถูกดูแคลนตนเองทั้งสิ้น

“อาจารย์ ข้าขอดูสูตรโอสถที่ว่าได้หรือไม่?”

เซียถงเอ่ยถามขึ้นไปคำหนึ่ง น้ำเสียงฟังดูไม่ค่อนมั่นใจนัก เพราะผู้คนโดยมากมักไม่ต้องการที่จะนำสูตรโอสถลับของในตระกูลมาให้คนภายนอกดูเท่าไหร่ ก็เหมือนกับคัมภีร์วรยุทธ์ ซึ่งเป็นมรกดตกทอดของเซียถงที่ไม่อยากให้ใครล่วงรู้ แต่ถึงแบบนั้น นี่มันคนละกรณีกันโดยสิ้นเชิง เพราะในเมื่อหยุนซีต้องการให้นางหลอมกลั่นโอสถให้ ก็ควรจะเปิดเผยสูตรโอสถดังกล่าวให้ดูจริงหรือไม่?

หยุนซีพยักหน้าและหมุนตัวกลับไปหยิบม้วนกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกเขียนด้วยลายมือประณีตใบหนึ่งออกมาจากกล่องไม้ ส่งมอบให้แก่เซียถง ทั้งยังบอกอีกว่านี่แหลัคือสูตรโอสถวัฏจักรคืนชีพระดับเก้าที่ว่า

เมื่อคลี่สูตรในมือขึ้นอ่านโดยละเอียด นานเข้าเซียถงยิ่งขมวดคิ้วถักแน่นขึ้นเรื่อยๆ ปิดปากเงียบงันไม่พูดไม่จาเป็นเวลานาน

“เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ? เจ้าเองก็มีเพลิงพิภพเก้าดุษณีแล้ว หรือว่าก็ยังไม่สามารถหลอมกลั่นได้?”

หยุนซีมองผ่านอ่านแววความกังวลผ่านสีหน้าของเซียถงได้ออกชัดแจ้ง

โดยไม่รีรอคำตอบจากปากของเซียถงใดๆ คล้ายกับว่านางเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นได้ จึงส่ายหัวอานกล่าวขึ้นว่า

“นี่ข้าร้อนใจจนมองข้ามเรื่องสำคัญที่สุดไปได้อย่างไร นี่เป็นถึงโอสถระดับเก้าที่มีเพียงจักรพรรดิโอสถเท่านั้นที่หลอมกลั่นได้ ถึงเจ้าจะมีเพลิงพิภพเก้าดุษณีอยู่ในมือ แต่ก็ยังเป็นเพียงราชาโอสถคนหนึ่งเท่านั้น ไม่เป็นไร! ข้าเองก็รอมาเป็นสิบปีแล้ว จะให้รอเพิ่มอีกสักสิบปีจะเป็นอันใด! จนถึงวันที่เจ้ามีความสามารถเพียงพอ ข้าจะมาขอให้เจ้าหลอมกลั่นโอสถวัฏจักรคืนชีพระดับเก้าในภายหลัง”

ใช่แล้ว เซียถงเพิ่งก้าวขึ้นเป็นราชาโอสถได้ไม่นาน อย่างมากที่สุดก็หลอมกลั่นได้แค่โอสถวิเศษระดับสาม แล้วนับประสาอะไรกับโอสถระดับเก้ากันล่ะ? นี่ข้าใจร้อนเกินไปจริงๆ!

“ข้าไม่สามารถหลอมกลั่นโอสถตามสูตรใบนี้ได้”

เซียถงละสายตาออกจากกระดาษสูตรแผ่นนั้น หันมาจับจ้องหยุนซีพร้อมคำตอบ

แม้ว่าหยุนซีจะเตรียมใจพร้อมไว้แล้ว ทว่าพอได้ฟังคำตอบจริงๆ ก็ยังอดรู้สึกเศร้าใจมิได้ นางค่อยๆ ทรุดร่างนั่งลงบนขอบเตียง เหลียวศีษระหันไปมองจือหยวนที่นอนนิ่งอยู่ตรงนั้น และจู่ๆ น้ำตาก็ไหลรินออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างอีกครั้ง

เซียถงเฝ้ามองท่าทีอันแสนผิดหวังของหยุนซีอยู่แบบนั้น ริมฝีปากสีอมชมพูเม้มชิดติดแน่น และทันใดนั้นนางก็เปลี่ยนหัวเรื่อง กล่าวขึ้นต่อทันทีว่า

“แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีอีกวิธี อาจารย์ลองปรับแต่งสูตรโอสถให้มีความซับซ้อนน้อยลง อาศัยเพลิงพิภพเก้าดุษณีของข้า บางทีอาจจะพอมีหวังหลอมกลั่นโอสถวัฎจักรคืนชีพได้สำเร็จ”

หยุนซีชะงักค้างไปชั่วขณะ เบิกตาโตตื่นตะลึงว่า

“ปรับแต่งสูตร?”

“เพียงเสนอให้ลองดูเท่านั้น ศิษย์เองก็มิอาจรับประกันได้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าไม่มีความหวังอะไรเลย”

เซียถงกล่าวขึ้นพรางเขย่าแผ่นกระดาษสูตรในมือของนางไปมา ในขณะเดียวกัน ภายในหัวก็กำลังระดมความคิดอย่างหนักว่า จะปรับแต่งสูตรอย่างไรให้มีผลใกล้เคียงกัน แต่หลอมกลั่นได้ง่ายกว่าเดิม

“ไม่ว่าจะได้ผลหรือไม่ ก็คุ้มที่จะลองแล้ว”

หยุนซีพยักหน้าตอบทีท่าหนักแน่น และกล่าวอีกว่า

“ตราบเท่าที่เจ้าสามารถช่วยให้จือหยวนฟื้นขึ้นได้ ไม่เจ้าต้องการเงินเท่าใดข้าก็ยอมจ่าย!”

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท