ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 356 ฮูหยินหลี่หายตัวไป

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่356 ฮูหยินหลี่หายตัวไป

ตอนที่356 ฮูหยินหลี่หายตัวไป

ได้ยินดังนั้น อิ๋งเอ๋อร์ถึงกับยืนตัวแข็งค้างไปชั่วขณะชัดเจน รวมไปถึงรอยยิ้มบนใบหน้าของนางเช่นกัน

“เกิดอะไรขึ้น?”

เซียถงชักมีลางสังหรณ์ใจไม่ดีนัก เขย่าร่างอิ๋งเอ๋อร์อย่างแรงหวังเค้นคำตอบ

อิ๋งเอ๋อร์หน้าถอดสีซีดเซียว ทิ้งตัวคุกเข่ากระแทกพื้นต่อหน้าต่อตา กล่าวน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า

“คุณหนูใหญ่โปรดลงโทษอิ๋งเอ๋อร์! เป็นความผิดของบ่าวเองที่ไม่ทันดูแลนาง!”

ได้ยินดังนั้น เซียถงตระหนกตกใจหนักข้อ รีบคว้าแขนเสื้ออิ๋งเอ๋อร์ขึ้นมา เอ่ยถามน้ำเสียงเป็นกังวลยิ่งยวด

“ท่านแม่ข้าเป็นอะไร!?”

อิ๋งเอ๋อร์มองหน้าเซียถงดวงตาแดงก่ำ แต่ขณะที่นางกำลังจะเอ่ยกล่าวใดๆ ออกมา ทันใดนั้นก็มีสุ้มเสียงชายวัยสูงอายุคนดังขึ้นจากด้านหลังว่า

“ถงเอ๋อร์! เจ้ากลับมาแล้วรึ? ไยถึงไม่รีบให้คนไปรายงานพ่อคนนี้ จะได้ยกเกี้ยวไปรับเจ้าเข้าบ้าน!”

เซียถงหันศีรษะขวับ ปรากฏเป็นเซี่ยอี้เฉิงที่เพิ่งเดินออกมาจากเรือนใหญ่ นางไม่ได้เห็นอีกฝ่ายมาสักระยะใหญ่แล้ว แต่ไฉนถึงดูแก่ไวปานนี้กัน ตัวก็ดูซูบผอมลงไปมาก จากเรือนผมสีดำปนขาว ในยามนี้กลับเป็นสีขาวปนดำไปแทนแล้ว ทั้งยังสวมเสื้อคลุมสีเทาเนื้อหยาบดูปราศจากลวดลายใดๆ ตรงเข้ามาหาเซียถง ยิ้มกล่าวบางๆ ขึ้นว่า

“ถงเอ๋อร์ เจ้าคว้าอันดับหนึ่งในงานประลองสี่จักรวรรดิได้คราวนี้ นับเป็นเกียรติยศสูงสุดแห่งตงหลี่ พ่อคนนี้ภาคภูมิใจในตัวเจ้าเหลือเกิน…”

เซียถจ้องดวงตาสีแดงก่ำท่าจะร้องไห้ของอีกฝ่ายเขม็ง ก่นเสียงเย็นชาไม่แยแสกล่าวว่า

“ท่านแม่ข้าอยู่ที่ไหน? เกิดอะไรขึ้นกับนาง?”

เซี่ยอี้เฉิงถึงกับหน้าเสียดูละอายใจขึ้นทันใด พยายามหลบเลี่ยงสายตาเซียถงราวกับว่ากำลังหวาดกลัว ลังเลอยู่สักครู่จึงค่อยปริปาก

“แม่ของเจ้า… แม่ของเจ้า…”

“แม่ข้าเป็นอะไร?!”

สีหน้าเซียถงชะงักนิ่งดูน่าสยดสยอง จังหวะหายใจถี่รัวขึ้นกะทันหัน นางยกมือขึ้นตะปบคอเซี่ยอี้เฉิงยกร่างจนลอยขึ้นกลางอากาศ เคี้ยวขบฟันกัดดังกรอด พ้นวาจาเย็นชาขึ้นคำหนึ่งว่า

“เกิดอะไรขึ้นกับแม่ข้า? พวกเจ้าทำอะไรกับแม่ข้า!?”

ด้วยความกลัวก็ดี ด้วยระดับพลังที่ห่างชั้นจนเกินไปก็ดี ส่งผลให้เซี่ยอี้เฉิงที่โดนบีบคอหายใจไม่ออก ใบหน้าขาดอากาศจนแดงก่ำ ดวงตากลิ้งกลอกไปมา สภาพดูกระวนกระวายเจียนตาย สองมือพยายามคว้าจับแขนเซียถงหวังง้างเปิดออก แต่กลับเปล่าประโยชน์

“คุณหนูใหญ่! รีบปล่อยก่อนเจ้าค่ะ! มิเช่นนั้นนายท่านต้องตายแน่นอน!”

อิ๋งเอ๋อร์พุ่งเข้ามาห้ามปรามเอาไว้อย่างรวดเร็ว ออกแรงกระตุกชายเสื้อเซียถงเร่งกล่าวเตือนสติ

ถัดจากนั้น เซียถงพึงตระหนักได้ว่า ตนลงมือหนักข้อเกินไป เช่นนั้นจึงผ่อนแรงข้อมือลงหนึ่งส่วน จ้องตาเซี่ยอี้เฉิงเขม็งติดชิดประดุจคมกระบี่ กล่าวว่า

“เซี่ยอี้เฉิง หากแม่ข้าเป็นอะไรไป เตรียมโดนล้างบางยกจวน!”

คล้อยหลังพูดจบ นางก็สะบัดมือทิ้งร่างอีกฝ่ายนอนกองอยู่กับพื้น และรีบปรี่เดินไปยังเรือนของฮูหยินหลี่ทันที

“เซียถง แม่ของเจ้าหนีหายไปแล้ว”

พอมาถึง กลับกลายเป็นฮูหยินรองเฉิงที่ยืนรอต้อนรับการมาถึงของเซียถงไว้อยู่แล้ว พร้อมกับเซี่ยเสวี่ยนเหลียน พอเห็นเซียถงปราฏโผล่หัวออกมา นางก็ยืนโบกผ้าเช็ดหน้าให้ด้วยกิริยาแสนชดช้อยมีเสน่ห์ ทว่าดวงตากลับเร้นแฝงไปด้วยแววชั่วร้าย

“หนีหายไป?”

เซียถงชะงักไปครึ่งจังหวะ จับจ้องพวกนางสองคนนั้นด้วยความสงสัย

“อะไรหนีหาย?”

“ก็แม่ของเจ้าน่ะสิ หนีหายไปจากจวนเสนาบดีเซี่ยแห่งนี้ไปแล้ว มิทราบเลยว่านางไปไหน”

ฮูหยินรองเฉิงโบกผ้าเช็ดหน้าในมือกรายเล่นอีกคราพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สีหน้าการแสดงออกของนางกลับไม่สามารถซุกซ่อนความปีติยินดีได้เลยแม้แต่น้อย เพราะการที่ฮูหยินหลี่หายหัวไปสักคน ก็ปฏิเสธมิได้เลยว่า เสียนหนามตำใจของนางในที่สุดก็มลายหายไป ส่งผลให้ชีวิตการเป็นอยู่สบายขึ้นโข

“แล้วไฉนแม่ข้าถึงหนีหายไป?”

เซียถงเดินตรงเข้าใกล้ฮูหยินรองเฉิงมากขึ้นเรื่อยๆ

“ก็ลองไปถามแม่เจ้าสิ บางทีนางอาจจะหนีตามชายคนนั้น…”

ทว่าก่อนที่จะกล่าวจบด้วยซ้ำ กลับมีบาทาไม่ทราบที่มาพุ่งถีบยอดแผ่นอกสุดแรง ร่างของฮูหยินรองเฉินถูกซัดกระเด็นปลิวว่อนประดุจว่าวไร้เชือก ชนเข้ากับศิลาหินก้อนยักษ์หน้าลานบ้านอย่างจังพร้อมเสียงกระแทกดังปัง นอนหมอบหมดสภาพอยู่บนพื้นอย่างน่าสังเวช

เซียถงย่างสามขุมตรงเข้าหา พลางวาดเท้าข้างหนึ่งเตะอัดใส่ชายโครงของฮูหยินรองเฉิงซ้ำอีกทีอย่างแรง ร่างของนางปลิวกระเด็นอีกครา อัดเข้ากับศิลาหินยักษ์ก้อนดังกล่าวที่อยู่ด้านหลังอีกรอบเต็มๆ เลือดสีแดงสดคำโตกระอักพ่นออกจากปากฮูหยินรองเฉิงเต็มปากเต็มคำ เซียถงกดสายตามองอีกฝ่าย สะกดคำต่อคำอย่างเย็นชาว่า

“หากครั้งหน้า ข้ายังได้ยินเจ้าพูดจาให้ร้ายแม่ข้าอีก เจ้าเตรียมใจทรมานเสียยิ่งกว่าความตาย!”

ฮูหยินรองเฉิงนอนกองอยู่กับพื้นสภาพเยี่ยงสุนัขใกล้ตาย เนื้อตัวสั่นเทาไม่หยุด เงยหน้ามองเซียถงเจือแววตาหวาดผวาหลายส่วน ขณะที่พยายามจะกล่าวอะไรขึ้นสักคำ กลับเป็นก้อนเลือดสดที่ล้นทะลักกระอักออกมาแทน เซี่ยอี้เฉิงที่วิ่งติดตามมาดูถึงกับผงะ แต่ถึงจะเห็นฮูหยินรองเฉิงถูกทำร้ายสาหัสหน้าซีดเผือด เขากลับยืนนิ่งไม่กล้าทำอะไรเลย

เป็นเซี่ยเสวี่ยเหลียนที่กรีดร้องลั่น วิ่งตรงเข้าหาฮูหยินรองเฉิน พยุงร่างสนับสนุนอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แลเห็นกระดูกชายโครงช่วงลำตัวของแม่ตนเองเสียหายจนผิดรูป นางก็กัดฟันกรอด หันไปกล่าวกับเซียถงด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า

“เซียถง! แม่เจ้าหนีหายไปเอง แล้วไยถึงต้องระบายอารมณ์กับแม่ข้าแทน!? หากแน่จริงก็ออกไปตามหาเอง มิใช่มาเที่ยวทำตัวพาล ทำร้ายคนอื่นเช่นนี้!”

“ข้าออกตามหาแน่ แต่ต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดย่อมไม่พ้นพวกเจ้า เช่นนั้นจงระวังตัวเอาไว้ วันดีคืนดีหัวของพวกเข้าสองแม่ลูกอาจหลุดจากบ่าได้!”

กล่าวจบ เซียถงระเบิดรัศมีแรงกดดันระดับชั้นราชันย์ม่วงเข้าข่มเห่งสองแม่ลูกคู่ตรงหน้าไประลอกหนึ่ง กวาดมองฮูหยินรองเฉินที่เบี่ยงหน้าหนีหดคอเข้าซบร่างเซี่ยเสวี่ยเหลียนด้วยความหวาดหวั่น ทางด้านตัวเซี่ยเสวี่ยเหลียนเองก็ไม่กล้ามองหน้าสบสายตากับเซียถง ราวกับว่ากำลังรู้สึกผิดในอะไรบางอย่าง

เซียถงย่อมเห็นทั้งหมด แต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาใดๆ ต่อ หันไปเหลือบมองเซี่ยอี้เฉิงที่ยืนเฉยอยู่ด้านหลังสักปราดหนึ่ง พ่นหายใจเย็นใส่เฮือกใหญ่ ก่อนหันไปกล่าวกับอิ๋งเอ๋อร์ว่า

“อิ๋งเอ๋อร์ ไปกันเถอะ”

อิ๋งเอ๋อร์วิ่งเหยาะๆ เดินตามหลังเซียถงอยู่ต๋อยๆ สองมือบีบกำชายเสื้อตนเองแน่น พยายามควบคุมสติเอาไว้มิให้ดับวูบไปกลางทาง เนื่องด้วยรัศมีแรงกดดันที่เซียถงปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่มันรุนแรงเกินไป ทั้งๆ ที่เป้าหมายที่มุ่งใส่หาใช่นางด้วยซ้ำ แต่ยังเกือบทำให้นางหมดสติลงได้ ดูท่าแล้ว กลับจักรวรรดิตงหลี่มาคราวนี้ ระดับความแข็งแกร่งของคุณหนูใหญ่จะแตกต่างจากในอดีตโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแค่พลังความแกร่งกร้าวที่เพิ่มพูนทวีขึ้นมา แต่รังสีพิฆาตที่ฉาบคลุมทั่วร่างกายยังเหนือชั้นเกินหยั่งถึงไปแล้ว

บรรดาบ่าวรับใช้ประจำเรือนพักของฮูหยินหลี่ รีบปรี่เข้ามาคุกเข่ากับพื้นทันทีที่เห็นเซียถงเดินตรงเข้าใกล้ โดยเฉพาะกับอาจูที่แทบโขกศีรษะกราบกรามแทบเท้า กล่าวทั้งน้ำตาซ้ำแล้วซ้ำเล่าขึ้นว่า

“คุณหนูใหญ่! บ่าวผิดไปแล้ว! บ่าวผิดไปแล้ว! คุณหนูใหญ่โปรดลงโทษบ่าวด้วยเถิด!!”

“ไฉนแม่ข้าถึงหนีหายไป?”

เซียถงกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่บนพื้น เอ่ยถามคำหนึ่งอย่างเย็นชา

“เรียนคุณหนูใหญ่ บ่าวคนนี้ยังปรนนิบัติรับใช้ฮูหยินหลี่ในช่วงกลางดึกอยู่เลย แต่ใครจะไปคิด เช้าวันรุ่งขึ้น พอบ่าวเดินทางไปปลุกนางกลับหายตัวไปเสียแล้ว ตอนนั้นบ่าวตระเวนค้นหาไปทั่วจวนเสนาบดีเซี่ย แต่กลับไม่พบเจอแม้กระทั่งร่องรอย”

อาจูร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด ภายใต้สายตาที่มุ่งจับจ้องเข้าใส่ของเซียถง ยามนี้นางหน้าถอดสีซีดเซียวหนักเสมือนไร้เลือดหล่อเลี้ยงไปชั่วขณะ

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท