ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 447 ยอดบัวสมุทร (1)

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่447 ยอดบัวสมุทร (1)

ตอนที่447 ยอดบัวสมุทร (1)

คล้อยหลังลาจากวังหลวง โม่ซวนก็ริเริ่มระบายทุกอย่างที่คลั่งค้างเป็นกังวลอยู่ในออกมา บ่นไฟแลบชนิดไม่มีหยุดพักหายใจ

“นายหญิง ท่านไม่ควรตอบตกลงกับมันไปเลย! จักรพรรดิซีฉินจงใจเอาเปรียบท่านอยู่ชัดเจน! คนเฉกเช่นมันมีเรื่องจะคิดเรื่องดีๆอยู่ในสมอง? อันที่จริง ท่านควรรอจนกว่านายท่านจะเดินทางมาสมทบ แล้วค่อยคิดหาวิธีตัดสินใจกันใหม่ หาใช่คิดเองเออเองเช่นนี้ หากท่านเป็นอะไรไปทั้งคนนายท่านของข้าจะอยู่อย่างไร? ทั้งยังเหล่าประชาชนอี้เฉิง…”

ใครจะไปคาดคิดกัน คนที่ชอบเก็บตัวเงียบๆอย่างโม่ซวนจะมีฝีปากดุเด็ดเผ็ดร้อนปานนี้ เสมือนเครื่องพ่นคำพูดไม่มีวันเหนื่อย เล่นร่ายยาวตั้งแต่หน้าประตูวังหลวงจวบจนถึงโรงเตี๊ยม

พอกลับมาถึงโรงเตี๊ยม เซียถงหูชาปวดระบมไปหมด ในที่สุดนางก็ไม่สามารถทานทนได้ไหวอีกแล้ว จึงหันขวับมองค้อนใส่โม่ซวนตาเขม็ง ระเบิดอารมณ์คำรามใส่เสียงดังลั่นว่า

“พอแล้ว! ข้าได้ยินหมดแล้ว! ได้ยินมาพอแล้ว! แต่ไม่ว่ายังไงข้าก็จะไปหุบเขาคุนหลุน! หรือเจ้าคิดว่า คนอย่างข้าหรือจะทิ้งชีวิตไว้บนนั้นง่ายๆ?”

เซียถงชะงักหยุดฝีเท้ากะทันหัน ทำเอาโม่ซวนที่เดินบ่นตลอดทางไม่ทันมองและเกือบจะเดินชนนางแล้ว ทันทีที่เบิกตาตื่น ก็สบปะทะเข้ากับประกายตาอันแน่วแน่ของนางเข้าอย่างจัง ภายในนั้นเปี่ยมล้นไปด้วยแววความมุ่งมั่นและมั่นใจยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งปวง! ทำราวกับว่าหุบเขาคุนหลุนก็แค่สวนหลังบ้านหาได้ยากเย็นอย่างที่คิด และเนื่องด้วยประกายตาคู่สว่างไสวนี้เอง ก็ทำให้โม่ซวนจุดประกายนึกบางอย่างขึ้นได้ทันที

จะว่าไปแล้ว…เขาก็ควรเชื่อใจนาง! เพราะอย่างไร หญิงสาวตรงหน้าก็คือ องค์ราชินีของพวกเขา และเป็นอิสตรีเพียงคนเดียวในทวีปเทียนหลาง ที่แม้กระทั่งนายท่านยังต้องยอม…

ไม่! แต่ยังไงก็เถอะ จะปล่อยให้นางไปคนเดียวเช่นนี้มิได้! มันอันตรายเกินไปจริงๆ! ข้าต้องรีบส่งสาสน์ไปหานายท่านเพื่อแจ้งเรื่องนี้เป็นการด่วนแล้ว!

“จบแล้ว มันจบสิ้นแล้ว!!”

ทันทีที่กลับเข้าห้องพักตนเอง เซียถงปิดประตูห้องลงกลอนเสร็จสรรพ และเมื่อหันหลังกลับมา นางก็พบว่าหลิวซูกำลังนั่งกุมหัวอยู่ปลายเตียงทั้งยังส่ายหน้าสั่นศีรษะไปมา พร้อมเสียงร้องอุทานด้วยความสิ้นหวังไม่จบไม่สิ้น

เซียถงเจอเช่นนั้นก็ตกใจ แต่เป็นเสี่ยวฮั่วที่ชิงเอ่ยขึ้นก่อนว่า

“นายท่าน อย่าไปสนใจมันเลย”

“ใช่ ใช่ อย่ามาสนใจข้าเลย ยังไงเสีย อีกไม่นานเจ้าก็ต้องตายแล้ว ข้ากำลังทำใจเตรียมหาเจ้านายใหม่อยู่”

หลิวซูบ่นพึมพำไม่เลิก สีหน้าดูวิตกจริตเสียเหลือเกิน

“อสูรบรรพกาลที่รับหน้าที่พิทักษ์ปกป้องบัญชาสี่พิภพคือ กิเลนศักดิ์สิทธิ์กระมัง? เช่นนั้นจะรับมือกับมันอย่างไรดี?”

เซียถงเอ่ยถามลอยๆขึ้นคำหนึ่ง ภายในหัวกำลังปั่นป่วนเร่งระดมคิดหาวิธีรับมือ ทีแรกนางตั้งใจว่าจะข้อมูลจำเพาะจากหลิวซูก่อน แต่ดูท่าคงเปล่าประโยชน์ จึงตั้งใจจะมุ่งหน้าเดิมออกไปสอบถามกับโม่ซวนแทน

“นี่เจ้าไม่รู้อะไรเลยกระมัง? กิเลนศักดิ์สิทธิ์เคยเป็นสัตว์ผู้รับใช้ของสัตว์เทพจตุรเทวะมาก่อนบนแดนสวรรค์สูงสุด! แล้วน้ำหน้าอย่างเจ้า คิดว่าจะทำอะไรได้? ช่วยมันเกาหลังรึไง?!”

พึงเห็นเซียถงเอ่ยถามออกมาได้อย่างไม่มีทีท่าทุกข์ร้อนใจใดๆ หลิวซูก็ชักหงุดหงิดขึ้นมา ตวาดใส่นางเสียงดังลั่น

ได้ยินเช่นนั้น เซียถงรีบหันกลับมานั่งข้างหลิวซูที่ปลายเตียง และเอ่ยถามขึ้นอีกว่า

“เจ้าจะรู้เรื่องกิเลนศักดิ์สิทธิ์ด้วยงั้นรึ?”

ก่อนหน้านี้ นางเคยได้ยินจากปากโม่ซวนแค่ว่า กิเลนศักดิ์สิทธิ์เป็นอสูรบรรพกาลที่มีชีวิตอยู่มีมาก่อนมวลมนุษย์ชาติจะถือกำเนิดมา จะมาได้ยินรายละเอียดลงลึกไปอีกขั้นก็มาจากปากหลินซูเมื่อครู่นี้เอง

หลิวซูเป็นจิตวิญญาณยุทธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล จึงพอจะทราบข้อมูลเกี่ยวกับพวกอสูรบรรพกาลแต่ละชนิดอยู่บ้าง

“ก็ในยุคที่เคยอยู่ ข้าพอจะได้ยินเรื่องราวของกิเลนศักดิ์สิทธิ์มาบ้าง”

เกริ่นออกมาแบบนี้ ดวงไฟสีม่วงในห้วงความคิดของเซียถงก็ลุกโชนขยายตัวขึ้นเล็กน้อย ทั้งมันและเซียถงต่างจดจ่อรอฟังหลิวซูอย่างพร้อมเพรียง

“ถึงแม้ข้าจะเป็นจิตวิญญาณยุทธ์ภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล แต่สำหรับเรื่องของกิเลนศักดิ์สิทธิ์ตนนี้ ทั้งข้าเองรวมไปถึงจิตวิญญาณยุทธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลชิ้นอื่นๆยังมิอาจพูดจาดูหมิ่นหรือลบหลู่ใดๆได้ ตอนที่กระบี่ทัณฑ์ฟ้าถูกหลอมสร้างขึ้นมาและก่อเกิดเป็นตัวข้า นามขาน กิเลนศักดิ์สิทธิ์ก็กลายมาเป็นตำนานตั้งแต่ช้านานแล้ว ฟังว่าเป็นจ้าวอสูรทั้งมวลบนผืนพิภพแห่งนี้ สัตว์อสูรในยุคปัจจุบันต่างมีเลือดเนื้อเชื้อไขของมันเจือผสมอยู่ทั้งสิ้น”

กระทั่งหลิวซูที่มีนิสัยขวานผ่าซากเอง ยามที่กล่าวถึงกิเลนศักดิ์สิทธิ์ สีหน้าแววตาของมันก็ยังไว้ซึ่งความเคารพอยู่หลายส่วน

สักครู่หนึ่ง มันก็ยังกล่าวต่ออีกว่า

“อืมม… แต่จะว่าไป เท่าที่เคยได้ยินมา หลังจากเหตุการณ์ตราบัญชาเทพที่มวลมนุษย์ใช้ชำระล้างผืนพิภพในครั้งนั้น กิเลนศักดิ์สิทธิ์ที่ว่าก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทำไมข้าถึงรู้สึกว่า กิเลนศักดิ์สิทธิ์ตนนั้นไม่น่าจะเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องบัญชาสี่พิภพบนหุบเขาคุนหลุนในเวลานี้? มันน่าจะเป็นค่ายกลเกราะผนึกอะไรสักอย่างที่ยังหลงเหลืออยู่บนนั้นหรือไม่…ที่ซัดราชาหมาป่าสวรรค์อะไรนั่นกระเด็นลงมา? เพราะหากเป็นกิเลนศักดิ์สิทธิ์จริงๆ อีกฝ่ายคงไม่น่าเหลือซากกลับมาได้เช่นนี้? บนนั้นน่าจะเป็นแค่ค่ายกลเกราะผนึกที่ยังพอมีฤทธิ์หลงเหลืออยู่จริงๆ อย่างไรเสีย ก็อย่าคิดว่าไม่มีกิเลนศักดิ์สิทธิ์คอยเฝ้าอยู่แล้ว เจ้าจะมีความหวังขึ้นมา ขึ้นชื่อว่า ค่ายกลเกราะผนึกโบราณ หากคิดจะลอบเล้นเข้าไปขโมยของออกมา พูดได้เลยว่า เจ้ายังไร้เดียงสาเกินไป!”

เซียถงเหลือบมองหลิวซูอยู่ทีหนึ่ง ในเวลานี้นางเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ตั้งแต่ตอนก่อนหน้าที่วางแผนจะไปแย่งชิงเพลิงพิภพเก้าดุษณี มันก็บอกว่า มังกรเพลิงโลหิตทรงพลังแข็งแกร่งเกินจินตนาการ หากนางไปต้องตายแน่นอน ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณยุทธภัณฑ์ตนนี้จะขี้ขลาดเสียเหลือเกินจริงๆ กล่าวคือ อย่าไปคาดหวังว่าเจ้านี่จะพูดอะไรสร้างสรรค์เป็นอย่างกับคนอื่นเขา

ในขณะนี้เอง เซียถงกำลังจัดเตรียมเสื้อผ้าเก็บของเตรียมตัวเดินทางกลับ แต่ทันใดนั้นพลันได้ยินเสียงเคาะประตูดังต่อเนื่อง เพียงนางโบกมือขึ้นทีหนึ่ง หลิวซูที่นั่งกุมขมับอยู่ปลายเตียงก็หายแวบไปในอากาศ

จากนั้นก็เดินออกไปเปิดประตู ซึ่งนางเองก็หาได้แปลกใจไม่เลยสักนิดที่ได้เห็นว่า อีกฝ่ายก็คือชิงเยวี่ย

โดยไม่รีรอใดๆ ชิงเยวี่ยชิงกล่าวขึ้นก่อนทันทีด้วยสีหน้ากระวนกระวายใจ พร้อมวิ่งเข้ามาคว้าไหล่ทั้งสองข้างของเซียถง

“เซียถง ฟังข้าก่อน! เจ้าห้ามไปหุบเขาคุนหลุนเด็ดขาด! ที่นั่นมันอันตรายเกินไป! รู้หรือว่าไม่ว่าเหตุใดหุบเขาซีเยว่ถึงได้มีสมุนไพรอุดมสมบูรณ์นัก? เพราะในอดีตเคยมีภารกิจลับของอดีตจักรพรรดิซีฉินพระองค์ก่อน สั่งนำทัพกองทหารขึ้นไปสำรวจบนนั้นแล้วครั้งหนึ่ง!”

ชิงเยวี่ยในเวลานี้เป็นวิตกมากจริงๆ ถึงขนาดเผลอไผลพุ่งเข้ามาถึงเนื้อถึงตัวเซียถงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แถมยังเผลอหลุดความลับของจักรวรรดิซีฉินในอดีตออกไปอีก

ย้อนไปก่อนหน้า เมื่อชิงเยวี่ยได้ยินเซียถงตกปากรับคำสัญญากับองค์จักรพรรดิซีฉินว่าจะไปหุบเขาคุนหลุน เขาก็รีบเดินทางไปหาท่านอาจารย์ของตนอย่างไป๋ปิงโดยทันที หวังเพียงว่า ท่านอาจารย์จะยอมออกโรงช่วยทูลขออ้อนวอนต่อองค์จักรพรรดิซีฉินให้ถอดถอนคำสัญญานี้ แต่ใครจะไปคิดว่า ไป๋ปิงกลับหาได้สนใจใดๆเลยไม่

ไป๋ปิงจะมีปฏิกิริยาก็เพียงครั้งเดียวในตอนที่ได้ยินเขากล่าวว่า เซียถงตกปากรับคำสัญญาที่จะเดินทางขึ้นหุบเขาคุนหลุน แน่นอน ในหัวของนางย่อมคิดว่า การเดินทางครั้งนี้มันเกินความสามารถเซียถงไปมาก ทั้งยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า

“นางไปแค่ลำพังจะมีปัญญาทำอะไรได้? ก็เห็นอยู่โดยทั่วกัน ฝ่าบาทหวังจะใช้โอกาสนี้กำจัดนางทิ้งไปเสีย และหากจะโทษใครสักคน ก็จงโทษนางเสียเถิดที่หลวมตัวไปตอบตกลงตั้งแต่แรก!”

“ท่านอาจารย์! ได้โปรดช่วยนางด้วย! เซียถงจำใจต้องไปที่นั่น เพียงเพราะต้องการผลบัวศักดิ์สิทธิ์ไปช่วยชีวิตแม่ของนาง ศิษย์คนนี้ก็หาใช่ว่าจะไม่ทราบ ท่านเองก็มีผลบัวศักดิ์สิทธิ์อยู่ในครอบครองเช่นกัน! ท่านน่ะควร…”

ทว่าก่อนที่ชิงเยวี่ยจะพูดจบ ไป๋ปิงก็คว่ำโต๊ะไม้ที่อยู่ต่อหน้าเทกระจาดเป็นเสี่ยงๆ

“ไฉนเจ้าถึงเอาแต่เอ่ยชื่อลูกศิษย์ของนังหยุนซีซ้ำแล้วซ้ำอีกห๊ะ?!”

ถึงแม้ไป๋ปิงจะได้ลงกระบี่แทงหยุนซีเพื่อระบายความแค้นอาฆาตมาแสนนานไปแล้ว แต่เนื่องด้วยความแค้นอาฆาตนี้เองที่ถูกสั่งสมมากว่าสิบปี ทำให้ไม่สามารถชำระล้างทิ้งได้ภายในเวลาอันสั้นเช่นกัน กล่าวคือ ไป๋ปิงในเวลานี้ก็ยังคงมีอคติต่อเซียถง!

“เจ้าชอบนางใช่ไหม?”

ทันใดนั้นเอง ไป๋ปิงเหลือบสายตามุ่งหาชิงเยวี่ยและเอ่ยออกไป เพียงคำถามประโยคเดียวก็สามารถเปิดเผยความในใจที่อีกฝ่ายเก็บซ่อนอยู่ออกมาได้ในพริบตา

ชิงเยวี่ยถึงกับยืนนิ่ง พูดไม่ออกอยู่ครู่ใหญ่

“เจ้าโง่! เจ้า…เจ้านี่มันโง่จริงๆ!!”

ไป๋ปิงทำได้เพียงคลี่ยิ้มอย่างสุดแสนจะขมขื่นออกมา พลางสบถด่าเจ้าศิษย์ไม่รักดีตรงหน้าไม่หยุดหย่อน ใครหรือจะรู้ซึ้งต่อเรื่องการแอบรักคนอื่นข้างเดียวไปดีกว่านาง! แต่ใครจะไปคาดคิดว่า ลูกศิษย์ของนางในเวลานี้เองก็กำลังเจริญรอยตามบนเส้นทางเดียวกันกับตนอยู่!

“นางแต่งงานแล้ว! เจ้าตัดใจเสีย! แล้วคราวนี้เอง เสด็จพ่อของเจ้าก็ตัดสินใจจะฆ่านางเด็ดขาดแล้ว! ถึงแม้นางจะยังพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ในเมื่อบางสิ่งมันถูกกำหนดเอาไว้แล้ว เจ้าเองก็อาจฝ่าฝืนได้! เจ้าเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นบทเรียนจากคนอื่น ดูอย่างข้าเป็นตัวอย่างสิ! เจ้าในเวลานี้ก็ไม่ต่างจากตัวข้าในตอนนั้น ส่วนสาวน้อยคนนั้นก็เหมือนกับจือหยวนที่ต้องพบเจอกับชะตากรรม…”

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท