ตอนที่465 จงเห่าหอนก่อนตายเสีย (1)
ตอนที่465 จงเห่าหอนก่อนตายเสีย (1)
เซี่ยหลู่เฟิงเร่งฝีเท้าสับก้าวติดตามอิ๋งเอ๋อร์ ไม่ว่ายังไงวันนี้เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
อิ๋งเอ๋อร์ที่ไม่มีเจตนาจะปกปิดสิ่งใดอยู่แล้ว ย่อมแถลงไขคลายข้อสงสัยให้ทราบ เช่นนั้น นางจึงบอกทุกอย่างเท่าที่รู้ทั้งหมด
“ทุกอย่างเริ่มขึ้นประมาณเดือนก่อนเจ้าค่ะ ตอนนั้นพวกเราเพิ่งเดินทางออกจากอี้เฉิง…”
หลังจากที่เซียถงและพรรคพวกเดินทางออกจากดินแดนอี้เฉิงได้สามวัน ขณะมุ่งหน้าสู่จักรพรรดิซีฉินเพื่อเข้าร่วมงานชุมนุมโอสถ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงแม่น้ำเหินซุย และต่อจากนี้จะต้องขึ้นเรือเพื่อเดินทางไปต่อ
ขณะที่เรือนโดยสารกำลังแล่นออกไป เข้าสู่ช่วงครึ่งทางกลางแม่น้ำสายใหญ่ เซียถงก็เริ่มเอนแผ่นการพิงพักกับขอบเรือ แหงนหน้าชื่นชมทิวทัศน์ท้องฟ้าอย่างเบิกบานสดใส แต่ทันใดนั้นเอง ก็พลันได้ยินเสียงร้องของใครบางคนกำลังโต้เถียงดังเซ็งแซ่จากเรืออีกลำที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อชำเลืองมองไปหา ก็พบหญิงสาวนางหนึ่งกำลังตกอยู่ในวงล้อมของบรรดาชายโฉด คนพวกนั้นก็ตบเท้าเดินบีบวงเข้าใกล้นางมากขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าการแสดงออกของนางคนนี้ยิ่งดูหวั่นวิตกหนัก แต่ทันใดนั้นเอง เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จู่ๆหญิงสาวนางนั้นก็กระโดดขึ้นไปยืนบนขอบเรือ และกระโดดลงแม่น้ำเหินซุยลงไปทั้งแบบนั้น!
แน่นอน คนอย่างเซียถงหาได้สนใจอันใดไม่อยู่แล้ว หากมิใช่ธุระที่ข้องเกี่ยวกับนางก็เพียงปล่อยไปตามเวรตามกรรมเท่านั้น แต่เสี้ยวพริบตาที่ได้เห็นโฉมหน้าของหญิงสาวที่กระโดดลงแม่น้ำนางนั้น เซียถงถึงกับสะดุ้งเฮือก และเสี้ยวพริบตาต่อมา ก็รีบทิ้งเรือกระโจนลงแม่น้ำเข้าช่วยเหลือโดยไม่คิดทันที
นางสับมือไม่หยุดรีบว่ายไปหาหญิงสาวคนดังกล่าว
อีกไม่นานก็จวบจะถึงแล้ว หญิงสาวคนนั้นสู้ความเชี่ยวกราดของแม่น้ำสายนี้ไม่ไหว ทำให้นางหมดสติกะทันหันและร่างก็ค่อยๆจมลงไป
โชคยังดีที่เซียถงเอื้อมมือไปกอดเอวของหญิงสาวได้ทันท่วงที และพยายามว่ายน้ำลากร่างของนางขึ้นมาบนเรือสุดกำลัง ทันทีที่พ้นจากน้ำขึ้นมาได้ เซียถงก็รีบเข้าผายปอดและประกบริมฝีปากหวังกู้สัญญาณชีพของอีกฝ่ายขึ้นมา ไม่นาน นางก็ได้สติและสำลักน้ำออกมาคำโต
เซียถงรีบตะโกนเรียกทันที
“หมิงเยว่!”
สิ้นเสียงคำกล่าวเท่านั้น หญิงสาวในชุดขาวเปียกปอนก็หันกลับมามอง จับจ้องเซียถงไม่คลายอ่อน นัยน์ตาสั่นไสวเปี่ยมล้นไปด้วยความสิ้นหวังและอับจนหนทาง
“เซีย…เซียถง! เซียถง!!”
“ไฉนเจ้าถึงมาที่นี่ได้?”
เซียถงคว้าข้อมือของฉีหมิงเยว่จับชีพจรโดยไว ตรวจหาว่ายังมีอะไรผิดปกติหลงเหลืออยู่หรือไม่
ในเวลาเดียวกัน ทั้งโม่ซวนและอิ๋งเอ๋อร์ก็รีบเร่งวิ่งมาทางนี้
เมื่อทุกอย่างเหมือนจะปกติดีแล้ว เซียถงก็พยุงร่างฉีหมิงเยว่ลุกขึ้นมา ตั้งใจจะพานางไปเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าใหม่ให้จงดี แต่ทันใดนั้น จู่ๆโม่ซวนที่รีบปรี่วิ่งเข้ามา กล่าวด้วยทีท่ารีบร้อนใจขึ้นว่า
“เรือที่อยู่ข้างเรากำลังพุ่งมาทางนี้แล้ว!”
ได้ยินเช่นนั้น เซียถงเบิกตาโตหันขวับไปหาเรืออีกลำหนึ่งที่อยู่ด้านข้าง อีกฝ่ายกำลังอัดแรงม้าเต็มกำลังสูบ และกำลังพุ่งมาทางนี้ด้วยความเร็วสูงสุด ดูท่าตั้งใจจะชนจริงๆ! จุดประสงค์ก็คาดเดาได้ไม่ยากเท่าไหร่ ก็เพื่อบีบบังคับให้เรือของเซียถงหยุดการเคลื่อนไหว!
ทันใดนั้นก็มีสุ้มเสียงของใครบางคนจากบนเรืออีกลำดังขึ้น มันตะโกนว่า
“เห้ย! ผู้หญิงนางนั้น ท่านลุงของข้าซื้อให้ข้าเป็นของขวัญ! จ่ายเงินไปตั้งหลายสิบเหรียญทองเชียว! อย่ามายุ่มย่ามเรื่องของคนอื่น! รีบคืนนางมาซะ! มิฉะนั้นก็อย่าหาว่าข้าผู้นี้ไม่เตือน!!”
ฝ่ายที่พูดเป็นชายร่างสูงกำยำ หนวดเครารุกรัง เป็นเสื้อกระสอบเนื้อหยาบเปิดแขน แต่งตัวดูมักง่ายลวกๆลวมๆ เผยให้เห็นแผ่นอกหนาอันแข็งแกร่งของมันออกมา และขนาบข้างซ้ายขวาของมันก็ยังมีเหล่าชายโฉดอีกหลายคน สภาพดูเหมือนพวกอันธพาลไม่มีผิด
แค่เห็นก็พึงทราบ ผู้ชายพวกนี้กำลังจะปลุกปล้ำทำมิดีมิร้ายกับฉีหมิงเยว่อยู่
ขณะเรือทั้งสองลำแล่นเข้าหาใกล้กัน ชายหนวดเครารุงรังก็เริ่มเห็นใบหน้าของเซียถงชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ พริบตาแรกที่ได้ยลโฉม มันรู้สึกทึ่งในความงามและหลงเสน่ห์ของนางเข้าอย่างจัง ชั่วพริบตาขณะ สีหน้าของมันก็แปรเปลี่ยนเป็นความดิบกระหายมากล้นกิเลสตัณหา เชิดคางยกสูงเหลือบสายตามองไปทางเรือฝั่งตรงข้ามอย่างหยิ่งผยอง พลางยกมือขึ้นลูบเครารุงรังราวกับผู้อยู่เหนือกว่า
จากนั้นก็เปล่งเสียงดังกระหึ่มอย่างห้าวหาญว่า
“เห้ย! หญิงคนนี้ก็ดูไม่เลวเลยหนิ!”
จากนั้น มันก็เหลือบหางตากวาดมองไปทางโม่ซวนตัดสลับกับเซียถงที่อยู่ข้างเคียง พลันลงเข้าใจผิดคิดเองไปว่า ความสัมผัสระหว่างเซียถงและโม่ซวนควรจะลึกซึ้งดั่งสามีภรรยา ชั่วขณะอึดใจ ความปรารถนาต้องการเซียถงก็ปะทุล้นออกมาจากก้นบึ้งจิตใจ มันเปล่งเสียงคำรามอย่างดิบกระหายขึ้นอีกว่า
“อยู่กับไอ้หน้าจืดเช่นนั้นมีดีเยี่ยงไร? หลังจากนี้เจ้าคอยติดตามรับใช้ข้าผู้นี้เสียดีกว่า! มั่นใจได้เลย ข้าจะให้เจ้าลิ้มลองของเผ็ดร้อน ส่งเจ้าถึงสวรรค์ทุกคืน!”
ได้ยินวาจาหยาบคายปานนั้น สีหน้าการแสดงออกของโม่ซวนแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก รัศมีจิตสังหารหอบใหญ่โหมปะทุขึ้นผ่านดวงตาในทันใด ไอ้ชาติชั่วตัวนี้หาเรื่องตายแล้ว!
เขายกเอื้อมมือกระชับจับด้ามกระบี่ที่คาดเอวไว้แน่น พริบตาที่กำลังจะชักขึ้นมา จู่ๆก็โดนฝ่ามือของเซียถงตบกระแทกดีดกลับเข้าฝักโดยตรง
เซียถงแสยะยิ้มเยาะใส่ชายคนนั้นที่อยู่ต่อหน้าเล็กน้อย แต่สิ่งที่เผยปรากฏตามมาด้วยคือ ไอเย็นยะเยือกสุดอันตรายที่เผยสะท้อนผ่านดวงตาของนาง
แลเห็นแววตาเหี้ยมเกรียมดังนั้นของเซียถง โม่ซวนถึงกับลอบกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง ทันใดนั้น ราวกับเขาได้ยินเสียงกรีดร้องสุดเวทนาของจางเสวี่ยหรงในวันนั้น ที่โดนฝูงเสือดาวเมฆาดำของเซียถงรุมกินโต๊ะฉีกเป็นชิ้นๆดังกึกก้องอยู่ในหู
ชายเครารุงรังตรงหน้าที่ทั้งรังแกนางและสหายของนางเช่นนั้น เกรงว่าได้ตายอนาถเยี่ยงสุนัขแน่นอน!
อย่างไรก็ตามแต่ สถานะศักดิ์ในปัจจุบันของเซียถงเป็นถึงองค์ราชินีแห่งดินแดนอี้เฉิง และยังเป็นพระชายาเอกของท่านราชาหมาป่าสวรรค์ หากผู้ใต้บัญชาอย่างเขาปล่อยให้ นางดำเนินการลงมือเองเช่นนี้ ก็หาใช่ว่า คู่มือของนางต้องเปื้อนเลือดโดยไม่จำเป็นหรอกรึ? โม่ซวนคิดได้ดังนั้นจึงลอบกระซิบข้างหูเซียถงว่า
“นายหญิง คนเฉกเช่นมันไม่คู่ควรให้ท่านลงมือ ให้ข้าจัดการแทนจะดีกว่า”
เซียถงคลี่ยิ้มกว้างหันไปหาอิ๋งเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ข้างและกล่าวว่า
“อิ๋งเอ๋อร์ พาคุณหนูฉีกลับไปเปลี่ยนชุดในห้องดีๆก่อนเถอะ ห้ามลืมชงชาให้นางดื่มด้วย”
“เซียถง”
ฉีหมิงเยว่รู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งยวด แต่เมื่อชำเลืองเห็นกลุ่มชายอันธพาลเหล่านั้น นางก็อดผวามิได้และเร่งกระซิบน้ำเสียงครือเกินจะควบคุมว่า
“แต่เซียถง ชายพวกนี้หาใช่กลุ่มคนธรรมดาทั่วไป มันมีผู้ทรงอำนาจจากจักรวรรดิตะวันตกคอยหนุนหลังอยู่!”
จักรวรรดิตะวันตก? เพียงได้ยินคำนี้ก็พลันให้เซียถงนึกย้อนกลับไปถึงใครบางคนขึ้นได้ เขาเป็นชายหนุ่มนิสัยเรียบง่ายไม่ถือตนผู้หนึ่ง มักจะสวมเสื้อคลุมผ้าไหมสีม่วง ใบหน้าสะอาดสะอ้านหล่อเหลา และเขาก็มิใช่ใครอื่นนอกเสียจาก องค์รัชทายาทแห่งจักรวรรดิตะวันตก เฉียนอวิ๋น!
ทัศนคติของเซียถงที่มีต่อเขา แท้จริงแล้วมิได้เลวร้ายอันใดเลย และนางยังไว้ซึ่งความประทับใจอยู่หนึ่งส่วนเสียด้วยซ้ำ อย่างตอนนั้น เพื่อต้องการโอสถเม็ดหนึ่ง สำหรับช่วยชีวิตน้องชายของตนเอง เฉียนอวิ๋นถึงขนาดยอมคุกเข่าขอขมาต่อแทบเท้าไป๋หลี่อวี๋อิง!
แต่ในสายตาของฉีหมิงเยว่ นางคงมองอีกฝ่ายเป็นศัตรูคู่อาฆาต!
สาเหตุสำคัญที่จักรวรรดิหรูหรานของฉีหมิงเยว่ต้องพินาศลง รวมไปถึงโศกนาฏกรรมฆ่าล้างบางราชวงศ์ตระกูลฉี ทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิตะวันตกทั้งสิ้น! เรื่องราวแสนเจ็บปวดในตอนนั้น ฉีหมิงเยว่ไม่มีวันลืมเลือน!
ฉีหมิงเยว่รีบคว้าแขนเสื้อแขนเซียถงอย่างแรง ราวกับกำลังขอร้องให้นางถอยออกไป เพราะปัญหาตรงหน้ากลับไม่ง่ายเลยที่จะแก้ไข หากปัญหาในคราวนี้ลุกลามจนเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา นางไม่อยากให้เซียถงต้องมาติดรากแหไปด้วย!
ทว่าเซียถงกลับยกมือขึ้นตบไหล่ฉีหมิงเยว่เบาๆทีหนึ่ง และกล่าวปลอบประโลมไปว่า
“อย่าได้กังวล ข้าทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร สีหน้าของเจ้าตอนนี้ดูซีดเซียวไม่น้อยเลย รีบกลับเข้าเรือไปเปลี่ยนชุดเสื้อผ้า แล้วนอนพักผ่อนสักงีบเถอะ ส่วนเรื่องสุนัขจรแถวนี้ ปล่อยให้ข้าจัดการเอง!”
กล่าวจบ นางก็หันไปขยิบตาส่งให้อิ๋งเอ๋อร์ทีหนึ่ง ได้เห็นสัญญาณดังนั้น อิ๋งเอ๋อร์รีบพยักหน้าและลากฉีหมิงเยว่ลงไปในห้องโดยสารของเรือที่อยู่ด้านล่างทันทีโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเต็มใจหรือไม่
เมื่อเซียถงเห็นว่าฉีหมิงเยว่จากออกไปแล้ว นางก็สะบัดแขนเสื้อที่เปียกชุ่มเล็กน้อยอยู่ทีหนึ่ง สองฝ่ามือเร้าระดม ฉาบเคลือบกระแสลมปราณจัดจ้าน ชั่วพริบตาขณะ นางระเบิดพลังออกมาขุมใหญ่ เสื้อผ้าทั่วเรือนร่างที่แฉะชุ่มน้ำล้วนถูกแผดผลาญอบร้อน และระเหยกลายเป็นไอหมอกในพริบตา นางตบเท้าก้าวแช่มเดินฝ่าดงไอหมอกออกมา ยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นเหยียบย่างบนขอบเรือน เชิดหน้ามองกลุ่มชายอันธพาลเหล่านั้นด้วยสายตาสุดหยิ่งผยอง