ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 593 ที่แท้ก็เป็นท่าน! ()

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่593 ที่แท้ก็เป็นท่าน! ()

ตอนที่593 ที่แท้ก็เป็นท่าน! ()

ณ เรือนอาคารหลังโรงเตี้ยม!

ภูมิศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา และโรงเตี้ยมแห่งนี้เองก็ติดหนึ่งในโรงเตี้ยมที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นเรือนอาคารด้านหลังโรงเตี้ยมที่มีไว้ใช้สำหรับรับรองแขกบ้านแขกเมืองจึงค่อนข้างกว้างขวาง แต่ละบ้านพักภายในส่วนนี้จึงมีสวนหย่อมส่วนตัวเป็นของตนเองสำหรับผู้เข้าพัก

ในตอนกลางดึก สายลมเย็นแรกแย้มพัดผ่าน ปรากฏเงาร่างดุจสายฟ้าสองสายพุ่งโฉบขึ้นอยู่บนหลังคาด้วยความเร็วสูงสุด

เซียถงชำเลืองมองอีกฝ่ายที่อยู่ข้างเคียงอยู่หนึ่งปาด อดกระซิบเย้าหยอกใส่มิได้ว่า

“สัญชาตญาณของเจ้าช่างแม่นยำโดยแท้! เรือนอาคารละแวกนี้มีตั้งมากมาย แต่กลับหาที่ตั้งแห่งนี้เจอได้เพียงปราดสายตาเดียว! ดูท่าเจ้าจะเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์นักถ้ำมองหญิงอาบน้ำจริงๆ!”

โดนพูดจาเสียดสีใส่ขนาดนี้ มีหรือหลิวซูจะดีใจได้เยี่ยงไร? จึงรีบตัดบทนางโดยไว เปล่งเสียงต่ำอย่างไม่สบอารมณ์นัก

“พูดอะไรของเจ้า? ตกลงจะให้ข้าลงไปไหม? ก็เห็นแก่หน้าเจ้าหรอกถึงยอมถ่อสังขารมา หัดสำนึกบุญคุณกันซะบ้าง!”

แลเห็นเจ้าหลิวซูปั้นหน้าจริงจังราวกับถูกไหว้วานไม่เต็มใจมา นางเองก็ถึงกับพูดไม่ออก

เซียถงส่ายหัวอานอย่างสิ้นหวังนัก! ไม่เต็มใจเล๊ย! ไม่เต็มใจเลยจริงจริ๊ง!!

กระนั้นในเวลาเช่นนี้ กลับไม่มีเวลารั้งรอมากพอให้พูดคุยกันต่อ เซียถงก้มศีรษะเฝ้ามองสถานการณ์ภายใต้หลังคาเบื้องหน้าต่อไป ขณะเดียวกันก็ขมวดคิ้วพลัน หันมาส่งเสียงเข้มย้ำเตือนกับหลิวซูอีกระลอกว่า

“ข้าเตือนเจ้าแล้ว อย่าวางแผนทำเรื่องอะไรโง่ๆกับอิ๋งเอ๋อร์!”

หลิวซูเลิกคิ้ว ปั้นสีหน้าไม่พอใจ

“เห็นข้าเป็นคนเช่นนั้นรึไง? เซียถง เจ้าใจจืดใจดำเกินไปแล้วที่มองข้าแบบนี้!”

“เข้าใจแล้ว! เข้าใจแล้ว! เช่นนั้นเชิญตามสบาย”

เซียถงสะดุดมองเข้าไปเงาดำของใครบางคนที่เปิดประตูเดินจากบ้านพักออกไป โดยไม่มีรีรอใดๆ คู่เท้านางไสววูบพุ่งติดตามอีกฝ่าย ปล่อยทิ้งหลิวซูอยู่บนหลังคาเพียงลำพัง

เมื่อครู่สีหน้าหลิวซูยังดูจริงจังราวกับต้องการทวงถามความเป็นธรรมแก่ตนอยู่เลย ทว่าตอนนี้กลับกลายว่ามันกำลังยิ้มอ่อนอย่างมีเล่ห์นัย ยกสองมือขั้นประกบพลางลูบไปมาด้วยความหวานหมู มันยิ้มร่ามีความสุขเหลือเกิน

“เยี่ยม! ในที่สุด…ข้าก็จะได้ชมโฉมเรือนร่างของอิ๋งเอ๋อร์เสียที! แหม แหม ผ่านไปตั้งหลายเดือน ไม่รู้จะสวยขึ้นขนาดไหน!”

จากนั้นมันยังบ่นต่ออีกคำว่า

“ติดตามเซียถงมาเสียนาน เพิ่งจะมาได้ผลกำไรก็ตอนนี้นี่แหละ…”

หลิวซูหัวเราะคิกคักอย่างสุขใจนัก และเฝ้าสังเกตการณ์ต่อไปเรื่อยๆจนเห็นอิ๋งเอ๋อร์เดินจากหลังบ้านพักพร้อมกับถังไม้ในมือใบหนึ่ง และสิ่งที่ทำให้มันตื่นตาตื่นใจจนแทบรอไม่ไหวที่สุดก็คือ ภาพฉากที่อิ๋งเอ๋อร์กำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าแพรพรรณออก เผยให้เห็นถึงเรือนร่างทรงเสน่ห์ไร้ที่ติอันเปลือยเปล่า

หลิวซูไม่รอใช้มือเร่งแงะชิ้นกระเบื้องบนหลังคา และส่งตัวเองลอดรูลงไปอย่างช่ำชอง

อิ๋งเอ๋อร์ลงแช่ในถังไม้แล้ว ขณะนี้กระแสน้ำร้อนพร้อมกลิ่นสุคนธรสหอมกำลังช่วยคลายความเหนื่อยล้าให้แก่นาง

สักครู่หนึ่งภายหลังที่อิ๋งเอ๋อร์ทอดกายแช่ตัวได้ระยะหนึ่ง จู่ๆนางก็ดึงแท่งเงินเล่มหนึ่งออกมาจากมวยผมที่พันเกี่ยว ปรากฏว่ามันเป็นเข็มเงินที่นางลอบฉกฉวยออกมาจากใบหน้าของทหารนายนั้นเมื่อตอนตกบ่าย

อิ๋งเอ๋อร์วางเข็มเงินเล่มนั้นไว้บนฝ่ามือ เฝ้าพินิจศึกษาอย่างรอบคอบ ทอดสายตาเสาะหาทั่วทั้งทวีปเทียนหลางแห่งนี้ นางมั่นใจซะเหลือเกิน มีเพียงบุคคลเดียวเท่านั้นที่สามารถยิงคมเข็มปักทะลุเข้าจุดสำคัญบนร่างกายผู้คนจากระยะไกลได้อย่างแม่นยำปานนี้ อีกคนบุคคลเพียงคนเดียวที่ว่า ยังเป็นเจ้าของเข็มเงินเล่มจิ๋วที่ถูกตีขึ้นอย่างประณีตเช่นนี้ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นเอง ก่อนหน้านี้ที่อยู่บริเวณโถงโรงเตี้ยม อิ๋งเอ๋อร์ยังสานให้เสี่ยวเอ๋อร์เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงบ่าย ฟังว่าก่อนที่ทหารผู้เคราะห์ร้ายนายนั้นจะวิ่งมาชนกับรถม้าของนาง อีกฝ่ายได้สนทนากับหญิงม่ายนางหนึ่ง

ซึ่งเสี่ยวเอ๋อร์ก็บอกความจริงทุกอย่างตามมุมมองที่ตัวเองเข้าใจ

หากนึกย้อนกลับไปถึงคำกล่าวของเสี่ยวเอ๋อร์ให้จงดี ผนวกกับเข็มเงินเล่มนี้บนฝ่ามือของนาง อิ๋งเอ๋อร์รู้สึกได้เลยว่า เรื่องนี้มันมีอะไรไม่ชอบมาพากล

แต่ในขณะนั้นเอง อิ๋งเอ๋อร์พลันสัมผัสได้ว่า เสื้อผ้าที่แขวนอยู่บนราวไม้ไผ่ข้างอ่างถูกกระแสลมสายหนึ่งกระโชกผ่าน สีหน้าการแสดงออกของนางผันเปลี่ยนฉับพลัน หันศีรษะขวับเหลียวกลับมาโดยทันที และใช้เข็มเงินเล่มนั้นในมือยิงออกไปยังจุดๆนั้นสุดแรงโดยไม่มีลังเล!

“โอ๊ย!”

สุ้มเสียงประหลาดพลันดังออกมาจากราวแขวนเสื้อผ้าไม้ไผ่

อิ๋งเอ๋อร์มุ่งสายตาจ้องเขม็งอยู่นาน ทันใดนั้นพลันปรากฏร่างไสวสีแดงพวยพุ่งออกมา ผมยาวสลวยสีเงินยกขึ้นปิดบังบริเวณแก้มที่โดนคมเข็มยิง ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด

หลิวซูมีหรือจะคาดฝัน เวลาเพิ่งผ่านไปได้ไม่กี่เดือนแท้ๆ แต่ไฉนอิ๋งเอ๋อร์กลับมีฝีมือเก่งกาจขึ้นเป็นกอง!

จากที่เคยใช้กระบวยตักน้ำเคาะหัว ตอนนี้กลับรู้จักใช้เข็มเงินยิงออกมา! หลิวซูร้องครวญเจ็บปวดทรมานอยู่เสียนาน ก่อนจะกลั้นใจดึงคมเข็มที่จิ้มปักออกมาจากแก้ม เมื่อเพ่งสายตามองเข็มเงินเล่มนั้นในมือให้จงดีปรากฏว่า มันเป็นของเซียถง!

เมื่อเห็นดังนั้น มันถึงกับโมโหขึ้นมาทันใด!

“นี่เจ้าทำบ้าอะไร! เห็นหน้าข้าแล้วจำไม่ได้…”

ขณะเดียวกัน มันโยนเข็มเงินในมือทิ้งพื้นอย่างแรง แต่ตอนที่กำลังจะย่างเท้าตรงเข้าไปจับตัวอิ๋งเอ๋อร์ หลิวซูดันลื่นแอ่งนองน้ำนองอยู่ตามพื้น หน้าไถลพุ่งออกมาทันที!

“อ๊ากก!”

ถือได้ว่าซวยซ้ำซวยซ้อนโดยแท้ เท้าข้างหนึ่งของมันดันไปเหยียบถังไม้ ยิ่งกลิ้งไถลแรงขึ้นไปอีก บริเวณหน้าผากของหลิวซูอัดกระแทกเข้ากับอ่างไม้อย่างจัง แผดเสียงร้องตะโกนลั่นสุดน่าสมเพชนักแล้ว ขณะที่อ้าปากฉีกกว้างร้องเจ็บไปได้ครึ่งทาง น้ำร้อนจากในอ่างที่กระเซ็นสาดออกมาก็กรอกเทเข้าปากจนล้นทะลัก!

อึก! อึก! อึก!! มันกลืนน้ำร้อนแช่ตัวไปตั้งหลายคำ!

หลิวซูรู้สึกหดหู่ใจยิ่งนักที่ตนเองต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ แต่ก็ยังมีเรื่องดีอยู่บ้าง…เพราะในที่สุดมันก็ได้ชลโฉมเนินอกทรงโตสีขาวนวลของอิ๋งเอ๋อร์ ถึงแม้กว่าครึ่งจะถูกผ้าขนหนูปิดไว้ก็ตามที แต่นี่นับว่าคุ้มค่าแล้วที่ได้เห็นของดีระยะใกล้ป่านนี้

เอ๊ะ แต่เดี๋ยวก่อน…นี่มันอะไรกัน!

พอหลิวซูเคลื่อนสายตาค่อยๆเหลือบขึ้นไปมอง ทันใดนั้นมันก็เห็นอิ๋งเอ๋อร์ที่กำลังแสยะยิ้มชั่วร้ายบนมุมปาก พร้อมกับถือบางสิ่งในมือที่สุดแสนจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี และสิ่งนั้นก็คือ…กระบวยตักน้ำ!

โดยไม่พูดพล่ำใดๆ อิ๋งเอ๋อร์ยกกระบวนตักน้ำขึ้นสูงและฟาดใส่หัวหลิวซูไปสุดแรงทีหนึ่ง!

พริบตาขณะ ก็มีเสียงกรีดร้องระงมร่ำไห้แผดดังสนั่นไปทั่วสวนหลังบ้านพักของอิ๋งเอ๋อร์…

เสี่ยวฮั่วที่กำลังสื่อจิตเชื่อมต่ออยู่กับหลิวซู ยามนี้กำลังนั่งปอกผลไม้ให้ฮูหยินหลี่อยู่ในห้องพัก ทันใดนั้นมันถึงกับผงะตกใจ ก่อนจะระเบิดหัวเราะลั่นขำขันจนท้องแข็ง ต้องไปถ้ำมองอีท่าไหนถึงทำให้อีกฝ่ายหลงเข้าใจผิดคิดว่า โดนผีอำเฉยเลย!

พอได้ยินสุ้มเสียงกรีดร้องดังสนั่นออกจากตัวบ้านพักของอิ๋งเอ๋อร์ คนขับรถม้าที่อยู่กับนางเมื่อตอนบ่ายก็รีบวิ่งปรี่เข้ามา หยุดอยู่หน้าบ้านพักพลางตะโกนไถ่ถามขึ้นว่า

“เกิดอันใดขึ้นขอรับ!”

อิ๋งเอ๋อร์ยกสองมือเท้าสะเอว เหลือบมองหลิวซูที่กอดศีรษะกลิ้งไปมาอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด จึงค่อยหันไปตะโกนตอบกลับไป

“ไม่มีอะไรแล้ว แค่มีพวกโรคจิตแอบดูข้าแช่น้ำ ข้าจึงขนมตุบตับไปชุดใหญ่!”

ได้ยินเช่นนั้น คนขับรถม้าระเบิดเป็นตะลึงอยู่สักครู่ ค่อยระเบิดหัวเราะลั่นออกมา

“ใครกันที่หาญกล้านัก แอบดูคุณหนูแช่น้ำเช่นนี้? นี่ไม่ต่างอะไรกับการกระตุกหนวดเสือ!”

“แล้วมันหนีไปรึยังขอรับ หากยัง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง!”

“หนีไปแล้ว! เจ้าไปพักผ่อนต่อเถอะ!”

เมื่อปราศจากเสียงเคลื่อนไหวอะไรใดๆจากภายนอกประตูแล้ว อิ๋งเอ๋อร์เดินไปหยิบเสื้อผ้าขึ้นสวม แล้วก็พาหลิวซูในสภาพคอตกเดินออกมา

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท