หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 161 คุณชายอวิ๋นอิ่น (1)

หวนคืนชะตาแค้น

​“​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ ​นี่​คือ​…​”​ ​หรง​เหยี​่​ยน​หรี่​ตาลง​แล้ว​จับจ้อง​ของ​ที่​กอง​อยู่​บน​พื้น​ ​ภายในใจ​นึก​สงสัย​ว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ไม่​อยาก​เอา​ของ​ชิ้น​นี้​ออกมา​ให้​ดู​เลย​จงใจ​เอา​ของปลอม​มาตบ​ตา​แทน​หรือไม่

​อารมณ์​ที่​ดี​ตลอด​ใน​ค่ำคืน​นี้​มลาย​หาย​ไป​ใน​พริบตา​ ​ไม่​เพียง​เท่านั้น​เพราะ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​เกรี้ยว​โกรธ​จน​หน้ามืด​เป็นพักๆ​ ​ความ​ลำพองใจ​ที่​ตน​มีต​ลอด​หลาย​วัน​มานี​้​กลับ​ดู​เป็นเรื่อง​ขบขัน​ไป​ชั่วขณะ​ ​อีกทั้ง​แผนที่​ซ่อน​สมบัติ​ใบ​นั้น​…​เขา​ก็​ส่ง​คน​ไปหา​ตาม​แผนที่​นั้นแล​้ว​ ​เพียงแต่​ออกจะ​ไกล​ไป​สักหน่อย​ ​หาก​แผนที่​นั้น​เป็น​ของปลอม​เช่นกัน​ล่ะ​ก็​…​ตอนนี้​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​รู้สึก​เพียง​หน้ามืด​เหมือน​เห็น​ตน​กลายเป็น​ตัวตลก​ของ​เหล่า​ขุนนาง​ทูต​แคว้น​อื่น​ไป​แล้ว

​“​จับตัว​เนี่ย​อวิ​๋น​ไว้​!​”​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ตรัส​เสียงเย็น​ยะเยือก​ ​ไม่ว่า​เช่นไร​อย่างน้อย​เนี่ย​อวิ​๋​นก​็​ต้อง​รับโทษ​ถูก​ปลดออก​จาก​ตำแหน่ง

​ทันใดนั้น​ก็​มี​คน​พุ่ง​เข้ามา​หมาย​จะ​จับตัว​เนี่ย​อวิ​๋น​ไป​ ​เนี่ย​อวิ​๋น​ไม่ได้​ขัดขืน​อะไร​เพียงแต่​ยอมให้​องครักษ์​คนอื่น​จับ​ตน​ไป​เข้า​คุก​ด้วย​ท่าที​นิ่ง​ขรึม

​ใน​งาน​วันคล้ายวันพระราชสมภพ​พระชนมายุ​ครบ​ห้าสิบ​ชันษา​นี้​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​รู้สึก​อับอาย​จน​ต้อง​เดินหนี​ออก​ไป​ด้วย​อารมณ์​ฉุนเฉียว​ ​ทุกคน​ที่นั่ง​อยู่​มองหน้า​กัน​ ​พวกเขา​ล้วนแต่​เป็น​บุคคล​ที่​ผ่าน​เหตุการณ์​อะไร​มามาก​มาย​ ​แต่​คาด​ว่า​สถานการณ์​เช่นนี้​กลับ​เพิ่ง​เคย​พบ​เคย​เห็น​เป็นครั้งแรก​ ​ชั่ว​วินาที​นั้น​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​ควร​ทำตัว​เช่นใด​ ​ครั้น​มอง​เศษ​ซาก​กึ่ง​โปร่งแสง​บน​พื้น​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​เหมือนว่า​มัน​กำลัง​เยาะเย้ย​งานเลี้ยง​ยิ่งใหญ่​งดงาม​แห่ง​นี้​เข้าไป​ใหญ่

​ฮ่องเต้​จากไป​แล้ว​ ​ฮองเฮา​เอง​ก็​ไม่ได้​อยู่นาน​เพียงแค่​รีบ​มอบหมาย​ให้​เหล่า​อ๋อง​จัดการ​ปัญหา​ไป​ ​จากนั้น​ก็​ประคอง​ไท​เฮา​รวมถึง​พา​เหล่า​พระสนม​ทั้งหลาย​เดิน​ออกจาก​พระตำหนัก​ไป​เช่นกัน​ ​องค์​หญิง​หมิง​เวย​มอง​เหตุการณ์​วุ่นวาย​นี้​ด้วย​สายตา​เยือกเย็น​แล้ว​เอียง​ตัว​เอ่ย​กับ​มู่​ชิง​อี​ด้วย​เสียง​ราบเรียบ​ว่า​ ​“​ช่างเถอะ​ ​พวกเรา​ก็​ไป​กัน​เถิด​”

​มู่​ชิง​อี​ย่อม​ไม่​คัดค้าน​อะไร​อยู่​แล้ว​ ​ถึงแม้​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​จะ​ไม่ได้​กระทำการ​บุ่มบ่าม​ใด​ใน​พระตำหนัก​นัก​แต่​หลังจากนี้​คง​ทำ​ทุกอย่าง​แน่นอน​ ​ฉะนั้น​นาง​ต้องเต​รี​ยม​ตัว​ไว้​ก่อน

​เหล่า​อ๋อง​ปลอบประโลม​แขกเหรื่อ​ใน​งาน​แล้ว​ส่ง​ขุนนาง​ทูต​และ​แขก​กิตติมา​ศักดิ์​เหล่านี้​ออกจาก​วัง​ไป​ ​ทุกคน​ย่อม​รู้อยู่​แล้ว​ว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​อารมณ์ไม่ดี​เลย​ไม่มีใคร​กล้า​ไป​วุ่นวาย​กับ​เขา​อีก

​มู่​ชิง​อี​บอกลา​องค์​หญิง​หมิง​เวย​ตรง​ประตู​แล้ว​เดิน​มายัง​เบื้องหน้า​รถม้า​ของ​ตน​ ​ประจวบ​กับ​ทุกคน​ใน​จวน​ซู่​เฉิง​โหว​เอง​ก็​มากั​นครบ​แล้ว​เช่นกัน​ ​ครั้น​เห็น​มู่​ชิง​อีกำ​ลัง​เตรียมตัว​ขึ้นรถ​ม้ามู​่​หร​งอ​วิ​๋​นก​็​อด​เอ่ย​เสียง​สูง​แดกดัน​นาง​ไม่ได้​ว่า​ ​“​นี่​คือ​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​มิใช่​หรือ​ ​เหตุใด​ไม่อยู่​ใน​วัง​แต่กลับ​ไป​จวน​เล็ก​ๆ​ ​อย่าง​จวน​ซู่​เฉิง​โหวกัน​เล่า​”

​“​อวิ​๋น​หรง​!​”​ ​มู่​เชิ​นขมวด​คิ้ว​เอ่ย​ ​ประตู​วัง​เป็น​จุด​ที่​คน​สัญจร​ไปมา​พลุกพล่าน​ ​มู่​หร​งอ​วิ​๋น​ทำตัว​ปาก​ไม่มี​หูรูด​เช่นนี้​จะ​พลอย​หาเรื่อง​เดือดร้อน​มา​ให้​จวน​ซู่​เฉิง​โหว​ไป​ด้วย​ ​มู่​ฉัง​หมิง​สีหน้า​เงียบขรึม​ราวกับ​ไม่ได้​ยิน​สิ่ง​ที่​มู่​อวิ​๋น​หร​งก​ล่าว​เมื่อ​ครู่​ ​ทว่า​มู่​อวิ​๋น​หรง​ไม่ยอม​ง่ายๆ​ ​กล่าว​เยาะเย้ย​ว่า​ ​“​หรือว่า​ข้า​พูด​ผิด​ไป​หรือ​ ​ไม่รู้​ว่านาง​ใช้​วิธีการ​ใด​หรือ​เล่น​อาคม​ใด​จน​ฝ่า​บาท​ทรง​แต่งตั้ง​นาง​เป็น​องค์​หญิง​ ​แต่​…​ใคร​จะ​รู้​ว่านาง​จะ​ถูก​ส่งตัว​ไป​เกี่ยวดอง​ที่ไหน​หรือเปล่า​”

​มู่​ชิง​อีก​ระ​ตุก​เหยียด​ยิ้ม​ที่​มุม​ปาก​เล็กน้อย​กล่าว​ ​“​พี่​หญิง​สาม​ ​ระวังตัว​เอง​ไว้​เถิด​ ​ท่าน​ก็​รู้​ว่า​ข้า​เป็น​องค์​หญิง​มิใช่​หรือ​”

​มู่​อวิ​๋น​หรง​หน้าซีด​แต่กลับ​ขบ​ริมฝีปาก​กล่าว​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​ข้า​กลัว​เจ้า​หรือ​”

​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​เกรง​ว่า​ท่าน​พี่​หญิง​คง​ต้อง​กลัว​ข้า​แล้ว​กระมัง​ ​หาก​ไม่​อยาก​กลัว​ข้า​…​เช่นนั้น​ก็​ไตร่ตรอง​อภิเษก​กับ​หนิง​อ๋อง​เป็น​พระ​ชายา​หนิง​ไป​เสียเถิด​ ​ในเมื่อ​ฝ่า​บาท​ไม่มีทาง​แต่งตั้ง​ท่าน​เป็น​องค์​หญิง​อยู่​แล้ว​”

​“​พอแล้ว​!​”​ ​มู่​ฉัง​หมิง​กวาดตา​มอง​มู่​ชิง​อี​ด้วย​สายตา​ราบเรียบ​แวบ​หนึ่ง​แล้ว​ตัดบท​มู่​อวิ​๋น​หรง​ที่​กำลัง​คิด​จะ​โต้ตอบ​กลับ​ไป

​ฉับพลัน​สะใภ้​ซุน​ที่อยู่​ด้านหลัง​พวกเขา​ก็​เปิดปาก​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​เหตุใด​หลิง​เอ๋อร​์​ยัง​ไม่​ออกมา​อีก​นะ​ ​ตั้งแต่​บ่าย​วันนี้​มาก​็​ไม่เห็น​เขา​อีก​เลย​”​ ​ตอนนี้​ทุกคน​ถึง​จับผิด​สังเกต​ได้​ ​ค่ำคืน​ดึกดื่น​ขนาด​นี้​แล้วแต่​กลับ​ไม่มีใคร​เห็น​เงา​หัว​ของ​มู่​หลิง​เลย​ ​มู่​ฉัง​หมิง​ขบคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​เพราะ​แม้แต่​ตอน​ดูการ​แสดง​พลุ​ด้านนอก​พระตำหนัก​เมื่อ​ครู่​ก็​เหมือน​จะ​ไม่เห็น​มู่​หลิง​เช่นกัน

​มู่​อวิ​๋น​หรง​เอง​ก็​นิ่ง​แล้ว​ลังเล​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​หรือว่า​พี่​รอง​…​ยัง​ไม่​ออกมา​จาก​ใน​วัง​เจ้า​คะ​”

​มู่​เชิ​นม​อง​มู่​ชิง​อี​แวบ​หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​จะ​เป็นไปได้​เช่นใด​ ​พวกเรา​เดิน​ออกมา​ก็​รั้งท้าย​แล้ว​ ​อีก​เดี๋ยว​ประตู​วัง​ก็​จะ​ปิด​แล้ว​”

​“​หรือว่า​เขา​กลับ​ไป​ก่อน​แล้ว​”​ ​มู่​ฉัง​หมิง​มุ่น​คิ้ว​เอ่ย​ ​พวกเขา​นั่ง​อยู่​ด้านใน​พระตำหนัก​กัน​หมด​แต่​มี​เพียง​มู่​หลิง​คนเดียว​เท่านั้น​ที่นั่ง​อยู่​ด้านนอก​ ​คง​นึก​ไม่​ชอบใจ​ขึ้น​มา​เลย​กลับ​ไป​ก่อน​ก็​มี​ความเป็นไปได้​ ​สะใภ้​ซุน​เอ่ย​อย่าง​กังวล​ว่า​ ​“​แต่ว่า​…​รถม้า​ของ​จวน​เรา​ก็​อยู่​ครบ​ ​ท่าน​พี่​…​หลิง​เอ๋อร​์​จะ​อยู่​ใน​วัง​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ ​หาก​หลังจาก​ประตู​วัง​ปิด​แล้วยัง​อยู่​ใน​นั้น​จะ​ต้อง​รับโทษ​ใหญ่​ ​สะใภ้​ซุน​เลย​นึก​เป็นห่วง​ขึ้น​มา

​มู่​ฉัง​หมิง​ขมวดคิ้ว​ขบคิด​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​กลับ​ไป​ก่อน​ ​ข้า​จะ​กลับ​ไปดู​เอง​”

​ถึงแม้​สะใภ้​ซุน​จะ​เป็นกังวล​แต่​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ ​มู่​ฉัง​หมิง​หมุนตัว​เดิน​เข้าไป​ทาง​ประตู​วัง​ ​ส่วน​คนอื่นๆ​ ​ถูก​บ่าว​รับใช้​ประคอง​พา​ขึ้นรถ​ม้า​เตรียม​กลับ​จวน​ ​ก่อน​ขึ้นไป​มู่​ชิง​อี​มอง​เงา​แผ่น​หลัง​ของ​มู่​ฉัง​หมิง​ที่​กำลัง​เดิน​เข้า​วัง​ไป​แวบ​หนึ่ง​พร้อม​ยก​ยิ้ม​มุม​ปาก​บาง​ๆ​ ​มู่​หลิง​…​จะ​ถูก​หา​ตัว​เจอ​หรือไม่​นะ

​คืนนี้​สถานที่​คึกคัก​ไม่ได้​มี​เพียง​ใน​วัง​หลวง​เท่านั้น​ ​ยาม​ที่​งานเลี้ยง​สนุกสนาน​รื่นเริง​ที่สุด​ใน​วัง​ ​คุก​ใหญ่​ใน​เมืองหลวง​ก็​มี​แขก​พิเศษ​คน​หนึ่ง​มา​เยือน​เช่นกัน​

​จู​หมิง​เยียน​นั่ง​อยู่​ตรง​มุม​หนึ่ง​ใน​คุก​ที่​มืด​สลัว​อย่าง​โดดเดี่ยว​ ​แววตา​หยิ่งผยอง​สุกใส​ใน​อดีต​กลับ​มืดมัว​มอง​อะไร​ไม่ชัด​เจน​นาน​แล้ว​ ​ใบหน้า​สะสวย​แปรเปลี่ยน​ดู​ซูบผอม​อ่อนแรง​เพราะ​ความกังวล​หวาดกลัว​ใน​หลาย​วัน​มานี​้​ ​นับตั้งแต่​พระ​ชายา​ผิง​หนา​นอ​อก​ไป​ใน​วันนั้น​กลับ​ไม่ได้​พาท​่าน​เจ้าอาวาส​ที่​เปรียบเสมือน​ดั่ง​ยามา​ช่วย​จู​หมิง​เยียน​เลย​ ​เหตุ​เพราะ​ใต้เท้า​เซ่า​ไม่​อนุญาต​ ​ศาล​อิง​เทียนฝู​่​เป็น​สถานที่ศักดิ์สิทธิ์​แล้ว​จะ​มีสิ​่ง​ชั่วร้าย​มา​แผ้วพาน​ได้​เช่นใด​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​นักบวช​ยัง​เคย​กล่าว​ไว้​ว่า​หาก​คนเรา​ทำผิด​มัก​จิตใจ​ฟุ้งซ่าน​ ​อีกทั้ง​ผิง​หนานจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ก็​ไม่​อนุญาต​เพราะ​เรื่อง​ของ​จู​หมิง​เยียน​ทำให้​จวน​ผิง​หนานจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ตกเป็น​เป้า​สาย​ตน​คน​ไม่น้อย​แล้ว​ ​หาก​โวยวาย​ว่า​เป็นเรื่อง​ผีสาง​นางไม้​อีก​ ​ต่อให้​จู​หมิง​เยียน​จะ​ไม่รู้​ว่า​มี​ผี​จริง​ไหม​ ​แต่​เกรง​ว่า​คนนอก​คง​เดา​กัน​ไป​ว่า​จวน​ผิง​หนานจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ทำ​เรื่อง​ไม่ดี​ไว้​แน่

​แต่​ภายในใจ​ของ​จู​หมิง​เยียน​เอาแต่​คิด​ว่า​เป็น​วิญญาณ​ร้าย​ของ​กู้​อวิ​๋น​เกอด​ตาม​หลอกหลอน​จน​หวาดกลัว​หนัก​กว่า​เดิม​ ​ทรมาน​มา​หลาย​วัน​จน​นาง​สติล​่​อง​ลอย​ ​กระทั่ง​แม้แต่​เรี่ยวแรง​อาละวาด​ยัง​ไม่มี

​คืนนี้​เป็น​งานเลี้ยง​ฉลอง​วันคล้ายวันพระราชสมภพ​ครบ​ห้าสิบ​ชันษา​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ ​เดิมที​นาง​ควร​ได้​ออกงาน​เลี้ยง​ใหญ่โต​อยู่​ท่ามกลาง​สายตา​อิจฉาริษยา​ของ​บรรดา​สตรีทุ​กคน​ใน​ฐานะ​พระ​ชายา​กง​ ​ใน​วัง​ฉลอง​กัน​อย่าง​รื่นเริง​แต่​นาง​กลับ​ถูก​ขัง​อยู่​ใน​คุก​เป็น​นักโทษ​ตกต่ำ​เช่นนี้​ ​ทั้งหมด​นี้​เกิดขึ้น​ภายใน​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​เพียงเดือน​กว่า​เท่านั้น​…​หลังจาก​กู้​อวิ​๋น​เกอ​ตาย​ไป​…​ยัง​ไม่​พ้น​หนึ่ง​เดือน​ดี​ ​นาง​ก็​ตก​อยู่​ใน​สภาพ​นี้​แล้ว​!

​ถึงแม้​จะ​เป็น​อากาศ​ใน​เดือน​ห้า​เดือน​หก​แต่​ใน​คุก​กลับ​หนาวเย็น​ยะเยือก​ ​จู​หมิง​เยียน​เหม่อมอง​ห้อง​ที่ว่างเปล่า​อย่าง​หวาดกลัว​พลาง​กระชับ​กอด​ตัวเอง​เพื่อ​รับ​ไออุ่น​อย่าง​ระแวง

​ด้านนอก​ประตู​ ​ทหาร​เฝ้า​คุก​นำ​บุรุษ​ร่าง​สูงโปร่ง​ใน​ชุด​คลุม​สีดำ​พร้อม​สวม​หมวก​เหวย​เม่า[1]บน​ศีรษะ​ทำให้​เห็น​ใบหน้า​ไม่ชัด​นัก​เดิน​เข้ามา​พร้อม​ผุด​รอยยิ้ม​ชั่วร้าย​ ​ค่ำคืน​นี้​ใน​เมืองหลวง​เต็มไปด้วย​เรื่อง​น่ายินดี​ ​แม้แต่​ทหาร​อารักขา​หน้า​คุก​ก็​ถูก​ปล่อยตัว​กลับ​ไป​กว่า​ครึ่ง​ ​ส่วน​ทหาร​ที่​เหลือ​ไว้​เฝ้า​หน้า​คุก​ก็​น้อย​เต็มที​ ​โชคดี​ที่​นักโทษ​กักขัง​ใน​คุก​อิง​เทียนฝู​่​ไม่ใช่​ผู้ต้องโทษ​ร้ายแรง​อะไร​ ​ส่วนมาก​เป็น​นักโทษ​ทะเลาะวิวาท​หรือ​ขโมย​ของ​เล็กน้อย​เท่านั้น​ที่​ถูกจับ​เข้ามา​ ​อีกทั้ง​ไม่มีใคร​บ้า​กล้าหาญ​มาช​่ว​ยนัก​โทษ​แหกคุก​แน่นอน​

​“​พลั่ก​”​ ​ประตู​คุก​ถูก​เปิด​ออกจาก​ด้านนอก​ ​แต่​เพราะ​เป็น​ค่ำคืน​เงียบสงัด​จึง​เสียงดัง​มาก​เป็นพิเศษ​ ​จู​หมิง​เยียน​แหงนหน้า​ขึ้น​อย่าง​งงงวย​มอง​ไป​ทาง​ประตู​

​ยามค่ำคืน​แบบนี้​จะ​มี​ใคร​โผล่​มาที​่​นี่​ได้​เล่า

——————————–

[1]หมวก​เหวย​เม่า​ เป็น​หมวก​ปีก​กว้าง​ ​มี​ผ้า​ยาว​ตาข่าย​คลุม​ปิดหน้า​ลงมา​ถึง​คอ

ตอนต่อไป

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท