หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 164 คุณชายอวิ๋นอิ่น (4)

หวนคืนชะตาแค้น

เกอ​ซู​ฮั่น​สีหน้า​ขรึม​ลง​ ​ใน​ฐานะ​ที่​เขา​เป็น​เลี่ย​อ๋อง​แห่ง​เป่ย​ฮั่น​จึง​ย่อม​ไม่ใช่​คน​อารมณ์​เย็น​สัก​เท่าไร​มาตั​้ง​แต่ไหนแต่ไร​แล้ว​ ​อวิ​๋​นอิ​่น​ไม่เห็น​ใคร​ใน​สายตา​เช่นนี้​ย่อม​ชวน​ให้​เขา​เดือดดาล​เป็นธรรมดา​ ​จึง​เอ่ย​ยิ้ม​เย็นชา​ว่า​ ​“​ดี​ ​ข้า​จะ​ดู​ว่า​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่น​เก่ง​มาจาก​ไหน​ถึง​เห็น​ข้า​ขัดหู​ขัดตา​เช่นนี้​ได้​!​”

ในเมื่อ​คุย​กัน​ไม่ได้​ ​พวกเขา​สอง​คนเล​ยลง​ไม้​ลงมือ​กัน​โต้งๆ​ ​ไป​เลย

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​โผล่​ศีรษะ​ออกจาก​รถม้า​แล้ว​มองออก​ไป​ด้านนอก​อย่างระมัดระวัง​ ​องครักษ์​แห่ง​เป่ย​ฮั่น​ต่าง​ล้อมรอบ​รถม้า​เพื่อ​ปกป้อง​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ไว้​นาน​แล้ว​ ​เห็น​เพียง​ร่าง​ของ​พวกเขา​สอง​คน​ตะลุมบอน​ใส่​กัน​อย่างว่องไว​จน​ชวน​ให้​ทุกคน​ตาลาย​กัน​ไป​หมด​ ​ถึงแม้​องครักษ์​ของ​เป่ย​ฮั่น​จะ​มีย​อด​ฝีมือ​มากมาย​แต่​หาก​อยาก​จะ​ดู​ให้​ชัด​เต็ม​สอง​ตา​เกรง​ว่า​คง​กินแรง​พวกเขา​ไม่น้อย

เกอ​ซู​ฮั่น​ชักดาบ​คู่​กาย​แสง​วาววับ​ที่​พก​ติดตัว​ออกมา​ ​ขณะเดียวกัน​ใน​แขน​เสื้อ​ของ​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่​นก​็​มีแสง​เงิน​พาด​ผ่าน​ ​ใน​มือ​เขา​เอง​ก็​กุม​มีด​สั้น​กระทัดรัด​ขนาด​หนึ่ง​ไม้บรรทัด​เล่ม​หนึ่ง​เช่นกัน​แต่กลับ​เห็น​เพียง​แสงสี​แดง​บน​ปลาย​มีด​อัน​แหลมคม​รำไร​ที่​ทำให้​พอ​รู้​ว่า​มีด​เล่ม​นี้​เป็น​มีด​สังหาร​ที่​เคย​ใช้​ฆ่า​คน​มา​แล้ว​นับไม่ถ้วน

เกอ​ซู​ฮั่น​ผ่าน​มา​หลาย​ศึก​จึง​ใช้​วิทยา​ยุทธ​ต่อสู้​อย่างตรงไปตรงมา​ไม่เคย​ลอบทำร้าย​ใคร​อยู่​แล้ว​ ​ทว่า​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่​นก​ลับ​ต่างกัน​ออก​ไป​ ​กระบวน​ท่า​วิทยา​ยุทธ​ของ​เขา​เปลี่ยนแปลง​ยาก​จะ​คาดเดา​ได้​ ​อีกทั้ง​ทุก​กระบวน​ท่า​อันตราย​ราวกับ​ผี​ไร้​เงา​ก็​ไม่​ปาน

เดิมที​เกอ​ซู​ฮั่น​เดือดดาล​เพราะ​จู่ๆ​ ​ก็​ถูก​ดัก​จู่โจม​ ​แต่​หลังจาก​ลงมือ​แล้ว​ความ​เกรี้ยว​โกรธ​ภายในใจ​ก็​ค่อยๆ​ ​มลาย​หาย​ไป​ ​ยิ่ง​ชอบใจ​ที่​มี​คู่ต่อสู้​ที่​ฝีมือ​สูสี​กัน​ ​เดิมที​เขา​มา​แคว้น​หวา​เพื่อ​หาย​อด​ฝีมือ​มาป​ระ​ลอง​สัก​ยก​ ​แต่​เขา​ยัง​ไม่ทัน​ท้า​ประลอง​กับ​เนี่ย​อวิ​๋น​ ​คืนนี้​เนี่ย​อวิ​๋​นก​็​ถูก​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​จับตัว​ไป​เสีย​แล้ว​ ​ส่วน​จะ​รอด​ออกมา​ได้​หรือไม่​เป็นเรื่อง​ที่​ยัง​ไม่รู้​ด้วยซ้ำ​ ​บัดนี้​ได้​เจอ​กับ​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่​นก​็​นับว่า​สม​ดั่ง​ใจ​แล้ว

พวกเขา​สอง​คน​ปะทะ​กันต​รง​กลาง​ถนนใหญ่​ ​ถึงแม้​เวลานี้​จะ​อยู่​ใน​ช่วง​กลางดึก​แต่​เพราะ​เสียง​ต่อสู้​เลย​ทำให้​ผู้คน​ไม่น้อย​แห่​กัน​ออกมา​มุง​ดู​ ​มีเสียง​ขบวน​ฝีเท้า​พร้อมเพรียง​ดัง​แว่ว​มาจาก​มุม​ไกลๆ​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​คนที​่​ทำหน้าที่​ดูแล​อารักขา​เมืองหลวง​ตาม​เสียง​มา​ ​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่น​เอง​ก็​เข้าใจ​ดี​ว่าวิ​ทยา​ยุทธ​ของ​เขา​กับ​เกอ​ซู​ฮั่น​พอ​ๆ​ ​กัน​ ​หาก​จะ​สู้​กันต​่อ​ไป​ผลลัพธ์​ก็​แค่​ดู​ว่า​ใคร​จะ​ตาย​ได้​อนาถ​กว่า​กัน​เท่านั้นเอง​ ​อีก​อย่าง​เมืองหลวง​แคว้น​หวา​ไม่ใช่​สถานที่​ที่​เหมาะ​แก่​การสู้​กัน​เอาเป็นเอาตาย​ ​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่น​แค่น​เสียง​เบา​ที​หนึ่ง​แล้ว​ใช้​ปลาย​มีด​สั้น​ประกาย​แสงสี​แดง​อัน​แหลมคม​ใน​มือ​ฟัน​ไป​ที่​แผ่น​อก​ของ​เกอ​ซู​ฮั่น​ ​เกอ​ซู​ฮั่น​ก็​ไม่น้อย​หน้า​แกว่ง​ดาบ​ปัด​มีด​สั้น​ของ​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่​นอ​อก​ ​จากนั้น​ก็​ยกมือ​ข้าง​ซ้าย​ขึ้น​ปล่อย​หมัด​ซัด​เขา​ไป​ที​หนึ่ง​เช่นกัน

คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่น​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ ​เขา​ถอย​ตัว​ไป​ด้านหลัง​หลาย​สิบ​ก้าว​ ​กวาดตา​มอง​คนที​่​พุ่ง​มาทาง​นี้​แวบ​หนึ่ง​อย่าง​เย็นชา​แล้ว​ถึง​ลอยตัว​หนี​ไป

เกอ​ซู​ฮั่น​ก้ม​มอง​แผ่น​อก​ที่​ถูก​ฟัน​จน​เลือด​ซึม​ออกมา​แวบ​หนึ่ง​พลาง​มุ่น​คิ้ว​ ​ครั้น​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​เห็น​เขา​ไป​แล้ว​เลย​รีบ​ลง​จาก​รถม้า​วิ่ง​ไปหา​ทันที​ ​“​ท่าน​พี่​สิบเอ็ด​ ​ท่าน​พี่​เป็น​เช่นใด​บ้าง​เพ​คะ​”​ ​พอ​เห็น​รอยแผล​เลือด​ซึม​ตรง​ทรวงอก​ของ​เกอ​ซู​ฮั่น​ก็​ยิ่ง​ตกใจ​จน​หน้าซีด​ ​“​ท่าน​พี่​สิบเอ็ด​ ​ท่าน​พี่​บาดเจ็บ​แล้ว​”

เกอ​ซู​ฮั่น​ส่าย​ศีรษะ​กล่าว​ ​“​แค่​แผล​ภายนอก​ ​ไม่เป็นไร​หรอก​ ​เขา​เอง​ก็​บาดเจ็บ​เช่นกัน​”

เกอ​ซู​ฮั่น​แหงนหน้า​มอง​ทิศทาง​ที่​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่น​จากไป​แวบ​หนึ่ง​ ​เกอ​ซู​ฮั่น​หลุบ​ตาลง​พลาง​ครุ่นคิด​บางอย่าง​ ​หมัด​สุดท้าย​เดิมที​เขา​น่าจะ​หลบ​ได้​สิ​ถึง​จะ​ถูก​ ​แต่​เกอ​ซู​ฮั่น​รู้สึก​ได้​ว่า​ตอนที่​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่​นคิด​จะ​หลบ​แล้ว​ค่อย​ซัด​เขา​กลับ​อย่างหนัก​หน่วง​อีก​สัก​หมัด​กลับ​นิ่ง​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ​ ​ถึงแม้​จะ​ไม่เข้าใจ​ว่า​เป็น​เพราะเหตุใด​แต่​เกอ​ซู​ฮั่น​ก็​ไม่ได้​คิด​อะไร​มาก​นัก​ ​ถึง​การสู้​กัน​ครั้งนี้​จะ​ไม่​ถือว่า​เป็น​ที่​น่าพอใจ​สัก​เท่าไร​แต่​ก็​นับว่า​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่​นมี​ฝีมือ​การต่อสู้​สม​ดั่ง​คำ​ร่ำ​ลือ​จริงๆ​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​อายุ​ยังน้อย​ ​เกรง​ว่า​คง​รับมือ​ได้​ยาก​กว่า​หนา​นกง​เจ​วี​๋ย​แห่ง​แคว้น​เย​่ว​์​เสียอีก​

“​เลี่ย​อ๋อง​ ​ท่าน​ไม่เป็นไร​ใช่​หรือไม่​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​หัวหน้า​องครักษ์​เมืองหลวง​รีบ​ปรี่​เข้ามา​หา​ ​ครั้น​เห็น​แผ่น​อก​ของ​เกอ​ซู​ฮั่น​มีบาด​แผล​ก็​ตกใจ​ยกใหญ่​แล้ว​รีบ​สั่ง​คน​ให้​ตาม​ไล่​ล่า​ตัว​คนร้าย​มา

เกอ​ซู​ฮั่น​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​เจอ​สหาย​เลย​ประลอง​กัน​สักหน่อย​เท่านั้น​”

สีหน้า​ที่​ตื่นตระหนก​ของ​หัวหน้า​องครักษ์​ใน​ตอนแรก​พลัน​ดู​ลำบากใจ​ขึ้น​มา​ ​สหาย​แบบ​ไหน​กัน​โผล่​มา​ฟัน​ท่าน​ตอนดึก​ดื่น​เช่นนี้​ ​อีก​อย่าง​เมืองหลวง​มีคำ​สั่ง​ว่า​ห้าม​ประลอง​กัน​!​ ​คง​ไม่ใช่​ว่า​ท่าน​เป็น​คน​แคว้น​อื่น​แล้ว​จะ​แหก​กฎ​หรอก​กระมัง

ณ​ ​จวน​ซู่​เฉิง​โหว

มู่​ชิง​อีก​ลับ​มาถึง​เรือน​หลาน​จื่อ​ ​บ่าว​รับใช้​ทั้งสอง​รู้สึก​ดีอกดีใจ​โล่งอก​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​พวก​นาง​เข้า​วัง​เลย​กลัว​ว่า​จะ​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​ให้​คุณหนู​ของ​ตน​จึง​ระมัดระวัง​ไม่กล้า​พูด​อะไร​มาก​นัก​ ​ตอนนี้​ไม่​ง่าย​เลย​กว่า​จะ​ได้​กลับมา​ถึง​จวน​เลย​รีบ​พูด​ชดเชย​ใน​ช่วงเวลา​ตลอดทั้ง​วันที่​ไม่ได้​พูด​ให้​สมใจ​ ​มู่​ชิง​อี​คลี่​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​แล้ว​ไม่ได้​สนใจ​พวก​นาง​อีก​ ​มอง​อู๋​ซิน​ที่อยู่​เรือน​ทั้งวัน​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​วันนี้​เรือน​หลาน​จื่อ​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือไม่​”​

อู๋​ซิน​เอ่ย​อย่างนอบน้อม​ ​“​ทุกอย่าง​ปกติ​ดี​ ​ไม่มี​เรื่อง​อัน​ใด​ขอรับ​”

มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​อย่าง​วางใจ​ ​ถึงแม้​เมื่อวาน​ตน​จะ​ถูก​แต่งตั้ง​เป็นจ​วิ​้น​จู่​จน​ทำให้​คน​มากมาย​เหนือ​ความคาดหมาย​ ​แต่​ตน​ก็​เป็น​เพียง​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​ ​คาด​ว่า​คง​ไม่มีใคร​จงใจ​มาหา​เรื่อง​นาง​เพราะ​เรื่อง​นี้​หรอก​กระมัง

ขณะ​ขบคิด​อยู่​นั้น​ก็​มีเสียง​โอดครวญ​ดัง​แว่ว​มาจาก​ใน​ห้องนอน​ ​มู่​ชิง​อี​อด​ปรายตา​มอง​ไม่ได้​ ​เวลา​เช่นนี้​คนที​่​กล้ามา​เรือน​นาง​อย่าง​ไม่​เกรงกลัว​สิ่งใด​ ​ใน​เมืองหลวง​แห่ง​นี้​นอกจาก​องค์​ชาย​เก้า​คง​ไม่มีใคร​แล้ว

นาง​มอง​อู๋​ซิน​ที่​ยืน​อยู่​อีก​ฝั่ง​แวบ​หนึ่ง​ ​อู๋​ซิน​พยักหน้า​ด้วย​ท่าที​เคร่งขรึม​ซึ่ง​บ่งบอก​ว่า​คน​ด้านใน​เป็นอดีต​เจ้านาย​เขา​จริงๆ

มู่​ชิง​อี​ถอนหายใจ​ลุกขึ้น​แล้ว​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ ​ทว่า​ทุกอย่าง​ที่​เห็น​กลับ​ทำให้​นาง​ตกใจ​ยกใหญ่​ ​คนที​่​ใน​ยาม​ปกติ​มัก​เอนกาย​ด้วย​ท่าที​เกียจคร้าน​อยู่​บน​เตียง​ของ​นาง​หรือ​นั่ง​บน​เก้าอี้​แล้ว​มอง​นาง​เหมือน​จะ​ยิ้ม​แต่​ก็​ไม่​ยิ้ม​ทว่า​บัดนี้​กลับ​นอน​ผม​ยุ่ง​กระเซอะกระเซิง​กอง​อยู่​ที่​พื้น​ ​อีกทั้ง​มู่​ชิง​อีก​็​เห็น​ร่องรอย​เลือด​สีแดง​เข้ม​บน​พื้น​ตั้งแต่​แวบ​แรก​แล้ว

“​หรง​จิ​่น​?​”​ ​มู่​ชิง​อี​เดิน​เข้ามา​ ​ยื่นมือ​ออก​ไป​หมาย​จะ​ประคอง​เขา​ขึ้น​ ​ทว่า​นาง​เป็น​เพียง​สาวน้อย​ร่าง​บาง​อายุ​เพียง​สิบ​หก​คน​หนึ่ง​เท่านั้น​ ​ต่อให้​หรง​จิ​่น​จะ​เป็น​บุรุษ​อ่อนแอ​ขี้โรค​แต่​ก็​สูง​กว่านา​งมาก​โข​ ​พอล​อง​ไป​ได้​สักพัก​หนึ่ง​ก็​ค้นพบ​ว่านา​งมิ​อาจ​ย้าย​ร่าง​หรง​จิ​่น​ไป​ได้​ ​มู่​ชิง​อี​เลย​ตัดสินใจ​เรียก​อู๋​ซิน​มาช​่วย

ครั้น​เห็น​หรง​จิ​่​นนอน​หายใจ​โรย​ริน​อยู่​ที่​พื้น​ ​อู๋​ซิน​ก็​สีหน้า​เปลี่ยน​เล็กน้อย​แล้ว​ช่วย​มู่​ชิง​อี​ประคอง​เขา​ขึ้น​มา​วาง​ไว้​บน​เตียง​ ​จากนั้น​ก็​กด​ข้อมือ​ดู​เส้น​ชีพจร​ ​ในเวลานี้​หรง​จิ​่​นบาด​เจ็บ​หนัก​จน​สลบ​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ​มิเช่นนั้น​ชั่ว​วินาที​ที่​อู๋​ซิน​แตะต้อง​ตัว​เขา​คง​ถูก​เขา​สะบัด​กระเด็น​ลอย​ไป​ไกล​แล้ว​ ​ถึงแม้​จะ​เป็น​เช่นนั้น​อู๋​ซิน​เพิ่ง​คว้า​ข้อมือ​ของ​เขา​มา​ ​ดวงตา​ที่​ปิด​อยู่​ใน​ตอนแรก​ก็​เบิกโพลง​ในทันที​ ​แววตา​ดุดัน​และ​โหดเหี้ยม​ทำเอา​อู๋​ซิน​อด​สะท้าน​เฮือก​ใน​ใจ​ไม่ได้

“​ไปให้พ้น​!​”​ ​มือ​ข้าง​ซ้าย​ยกขึ้น​ ​จากนั้น​แสงสี​เงิน​ก็​ลอย​ไป​ทาง​อู๋​ซิน​อย่างรวดเร็ว​ ​อู๋​ซิน​ตกใจ​สะดุ้งโหยง​แล้ว​รีบ​กระโดด​หลบ​ ​แต่​ชั่ว​วินาที​นั้น​เขา​รู้สึก​ว่า​แผ่น​หลัง​ของ​ตน​กลับ​ชุ่ม​ไป​ด้วย​เหงื่อ​แล้ว

มู่​ชิง​อีสี​หน้า​ขรึม​ลง​เล็กน้อย​แล้ว​ใช้​มือ​กด​ร่าง​หรง​จิ​่​นที​่​หมาย​จะ​ลุกขึ้น​นั่งลง​กลับ​ไป​ดังเดิม​ ​“​อาการ​ปางตาย​ขนาด​นี้​แล้วยัง​จะ​ทรมาน​อะไร​ตัวเอง​อีก​”​

อู๋​ซิน​ตื่นตระหนก​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​เขา​อยาก​กล่าว​เอ่ย​เตือน​มู่​ชิง​อี​แต่กลับ​ไม่ทัน​แล้ว​ ​หรง​จิ​่น​เป็น​คน​อารมณ์ร้อน​ ​หาก​ได้รับบาดเจ็บ​หรือ​ป่วย​อยู่​ก็​ยิ่ง​อารมณ์​แย่​ลง​ไป​อีก​ ​ปกติ​เขา​ระมัดระวัง​ไม่​ให้​คนอื่น​โดน​ตัว​เขา​เสมอ​ ​ถึงแม้​หรง​จิ​่​นมัก​จะ​เล่น​กับ​มู่​ชิง​อี​อย่าง​ไม่​ถือตัว​ ​แต่​อู๋​ซิน​ไม่​มั่นใจ​ว่ายา​มที​่​บาดเจ็บ​หนัก​ขนาด​นี้​จะ​เป็น​เช่นนั้น​หรือไม่​ ​น่าเสียดาย​ที่​เตือน​มู่​ชิง​อี​ไม่ทัน​แล้ว​ ​ขณะที่​เขา​คิด​ว่า​จะเข้า​ไป​ดึง​ตัว​มู่​ชิง​อี​ออกมา​หาก​หรง​จิ​่​นลง​ไม้​ลงมือ​จริงๆ​ ​ทว่า​กลับ​เห็น​หรง​จิ​่​นมุ​่​นคิ​้ว​มอง​นาง​แวบ​หนึ่ง​แล้ว​ล้ม​ตัว​ลง​ไป​นอน​อีกครั้ง​ ​ผ่าน​ไป​สักพัก​เขา​ก็​ปิด​ตาล​งอย​่าง​ช้าๆ

ตอนต่อไป

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท