หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 207 สภาพที่น่าเวทนาของโหรวเฟย (3)

หวนคืนชะตาแค้น

“​พี่​หญิง​ใหญ่​กำลัง​พูด​เรื่อง​อัน​ใด​กัน​ ​ข้า​ก็​ต้อง​เป็น​ชิง​อี​อยู่​แล้ว​สิ​เจ้า​คะ​”​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บาง​กล่าว

“​ไม่ใช่​…​เจ้า​…​เจ้า​ไม่ใช่​”​ ​มู่​เฟย​หลวน​กัดฟัน​เอย​ ​มู่​ชิง​อี​เม้ม​ริมฝีปาก​คลี่​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​ก็​อาจจะ​ไม่ใช่​ ​หรือ​แค่​…​บางที​ข้า​อาจจะ​กลับมา​จาก​ขุมนรก​เพื่อ​แก้แค้น​พวก​ท่าน​ก็ได้​”​ ​มู่​เฟย​หลวน​ดวงตา​หด​เล็ก​ลง​เพราะ​ความหวาดกลัว​ ​ทว่า​รอยยิ้ม​หวาน​หยดย้อย​บน​ใบหน้า​ของ​มู่​ชิง​อีก​ลับ​ฉีก​กว้าง​มากกว่า​เดิม​

“​เหตุใด​เจ้า​ต้อง​ทำ​เช่นนี้​ด้วย​”​ ​มู่​เฟย​หลวน​เอ่ย​ถาม

มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​เชิง​แปลกใจ​เล็กน้อย​ ​“​ข้า​ทำ​อัน​ใด​ไป​หรือ​ ​พี่​หญิง​ใหญ่​หมายถึง​สภาพ​ของ​ตัวเอง​ใน​ตอนนี้​อย่างนั้น​หรือ​ ​ข้า​ทำ​ลง​ไป​เช่นนี้​ก็​มิใช่​ว่า​เป็นเรื่อง​ปกติ​หรือ​อย่างไร​ ​แน่นอน​ว่า​…​เพื่อ​แก้แค้น​ให้ท่าน​แม่​ ​พี่​หญิง​ใหญ่​วางใจ​เถิด​ ​ฝ่า​บาท​พอ​พระทัย​นัก​ที่​ท่าน​แม่​มีบุ​ตร​สาว​ที่​กตัญญูรู้คุณ​อย่าง​ข้า​ ​ข้า​ต้อง​ขอบคุณ​พี่​หญิง​ใหญ่​ด้วยซ้ำ​ ​ถ้า​ไม่ใช่​เพราะ​พี่​หญิง​ใหญ่​ให้ความร่วมมือ​ ​ข้า​ก็​ไม่รู้​เหมือนกัน​ว่า​จะ​นำ​เรื่องราว​ที่เกิด​ขึ้น​กราบทูล​ฝ่า​บาท​เช่นไร​ดี​ ​บัดนี้​ก็​สบโอกาส​พอดี​มิใช่​หรือ​ ​พี่​หญิง​ใหญ่​หยิบยืม​บารมี​ของ​ท่าน​แม่​มาตั​้ง​หลาย​ปี​ ​ตอนนี้​…​คง​ถึง​เวลา​ลง​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​ท่าน​แม่​แล้ว​กระมัง​”

“​ไม่​…​ข้า​ไม่เอา​…​ข้า​ไม่​…​”​ ​มู่​เฟย​หลวน​ที่​เดิมที​เจ็บ​คอ​จน​แทบ​เปล่งเสียง​ไม่ไหว​กลับ​ตะโกน​ร้อง​เสียงดัง​ลั่น​ ​ทว่า​พอก​รีด​ร้อง​ไป​ได้​ไม่นาน​ก็​เจ็บ​คอ​จน​พูดไม่ออก​ ​มู่​ชิง​อี​คลี่​ยิ้ม​หวาน​ ​“​พี่​หญิง​ใหญ่​เก็บเสียง​ไว้​เถิด​ ​มิเช่นนั้น​เกรง​ว่า​เสียง​อัน​นุ่มนวล​คง​ใช้งาน​ไม่ได้​แล้ว​ ​แต่​…​คิด​ว่าวัน​หน้า​ก็​คง​ไม่มีใคร​อยาก​ชื่นชม​มัน​หรอก​ ​คง​ไม่สำคัญ​อยู่​แล้ว​”

“​เจ้า​…​”

เพราะ​กลิ่นคาว​เลือด​เหม็น​คละคลุ้ง​ใน​ห้อง​จึง​ทำให้​มู่​ชิง​อี​มุ่น​คิ้ว​น้อย​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​มอง​มู่​เฟย​หลวน​อย่าง​เห็นอกเห็นใจ​กล่าว​ ​“​พี่​หญิง​ใหญ่​ดื่มด่ำ​กับ​เวลา​ที่​เหลืออยู่​ให้​ดี​เถิด​ ​อย่า​คิด​จะ​พูด​อะไร​ที่​ไม่​ควร​พูด​ต่อหน้า​พระพักตร์​ฝ่า​บาท​เลย​ ​พี่​หญิง​ใหญ่​พูด​อะไร​ไม่ได้​ทั้งนั้น​และ​ไม่มีเวลา​ให้​พูด​แล้วด้วย​”

เจ้า​คิด​จะ​ฆ่าปิดปาก​ข้า​หรือ​!​ ​มู่​เฟย​หลวน​ถลึงตา​จับจ้อง​สาวน้อย​ใน​ชุด​ขาว​ดั่ง​หิมะ​ตรงหน้า​ด้วย​ความ​เกรี้ยว​โกรธ

มู่​ชิง​อีส​่า​ยศีร​ษะ​เล็กน้อย​ ​“​จะ​เป็น​ข้า​ไป​ได้​เช่นไร​กัน​ ​พี่​หญิง​ใหญ่​ลืม​ไป​แล้ว​กระมัง​ว่า​ใน​วัง​…​พี่​หญิง​ใหญ่​เอง​ก็​มีพัน​ธมิ​ตร​ด้วย​อีก​คน​ ​ในเมื่อ​พี่​หญิง​ใหญ่​อ้าง​ถึง​นาง​ด้วย​ ​พี่​หญิง​ใหญ่​คิด​ว่า​กง​อ๋อง​จะ​จัดการ​เช่นใด​เล่า​”

มู่​เฟย​หลวน​นอน​ใน​ห้อง​ที่​เต็มไปด้วย​ฝุ่น​ ​ใน​ดวงตา​หยาดเยิ้ม​เจ้าเสน่ห์​ใน​วันวาน​กลับ​เต็มไปด้วย​ความสิ้นหวัง​และ​ไม่พอใจ​ ​นาง​ไม่รู้​เลย​ว่า​ตน​พ่ายแพ้​ได้​เช่นใด​ ​อีกทั้ง​ความจริง​ในเวลานี้​ก็​คือ​นาง​มีบาด​แผล​ตามตัว​จน​ต้อง​นอน​แน่นิ่ง​อยู่​ตรงนี้​ทำ​อะไร​ไม่ได้​สัก​อย่าง​ ​นาง​ไม่มี​ลูก​แล้ว​ ​ใบหน้า​พังยับเยิน​ ​ร่างกาย​เอง​ก็​ย่ำแย่​ไม่​แพ้​กัน​ ​แม้แต่​เสียงหวาน​ไพเราะ​ก็​ไม่มี​อีกต่อไป​ ​นาง​ไม่​เหลือ​อะไร​เลย​สัก​อย่าง​ ​นาง​จบสิ้น​แล้ว​ ​มู่​เฟย​หลวน​เปล่งเสียง​ร้องไห้​สะอึกสะอื้น​ใน​ลำคอ​อย่าง​สิ้นหวัง​ภายใน​ห้อง​นั้น

มู่​ชิง​อี​เดิน​ออกจาก​ห้อง​มา​แล้ว​เงยหน้า​มอง​ชายคา​เรือน​ที่​ผุผัง​เหนือศีรษะ​ ​ในขณะเดียวกัน​ก็​มีเสียง​ร้องไห้​คร่ำครวญ​แตก​พร่า​อย่าง​สิ้นหวัง​ดัง​มาจาก​ด้านหลัง​ ​นาง​แหงนหน้า​เหม่อมอง​ท้องฟ้า​ด้วย​ท่าที​สงบ​ ​จากนั้น​หยาดน้ำ​ตาก​็​ค่อยๆ​ ​ไหล​อาบ​แก้ม​มา​เป็น​ทาง​ ​ทุกข์ทรมาน​หรือ​ ​ตอนนั้น​จะ​มี​ใคร​รับรู้​ความทุกข์ทรมาน​ของ​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​แม่​ ​พี่สะใภ้​ ​น้า​หญิง​และ​นาง​บ้าง​เล่า​ ​นี่​ก็​แค่​เริ่มต้น​เท่านั้น

“​เอ๊ะ​?​”​ ​มีเสียง​ร้อง​ตกใจ​ดัง​แว่ว​มาจาก​มุม​ที่​ไม่​ไกล​ของ​ชายคา​เรือน​นี้​ ​มู่​ชิง​อี​หันไป​มอง​ก็​เห็น​มู่​อวิ​๋น​หรง​ยืน​อยู่​ใต้​ชายคา​พลาง​มอง​มาทาง​ตน​ด้วย​สีหน้า​ตื่นตกใจ

“​พี่​หญิง​สาม​มาทำ​อะไร​ที่นี่​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ถาม​เสียง​เรียบ

มู่​อวิ​๋น​หรง​เอ่ย​ด้วย​ท่าที​ลังเล​เล็กน้อย​ ​“​ข้า​…​ข้า​แวะ​มา​เยี่ยม​พี่​หญิง​ใหญ่​”

“​อ้อ​ ​อย่างนั้น​หรือ​ ​เช่นนั้น​ก็​เข้าไป​เยี่ยม​เถิด​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​พลาง​พยักหน้า​ให้​มู่​อวิ​๋น​หรง​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ ​เสียงร้อง​คร่ำครวญ​ของ​มู่​เฟย​หลวน​ยังคง​ดัง​แว่ว​ตามหลัง​มา​ไม่​หยุด​ ​เพียงแต่​จับใจ​ความ​ไม่ได้​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ชั่ว​วินาที​ที่​เดินผ่าน​มู่​อวิ​๋น​หรง​ ​มู่​ชิง​อีก​็​เอ่ย​เสียงทุ้ม​ต่ำ​ ​“​พี่​หญิง​สาม​เป็น​คนฉลาด​…​คง​เข้าใจ​ว่า​อะไร​ที่​ควร​ฟัง​อะไร​ที่​ควร​พูด​ ​พี่​หญิง​สาม​ว่า​…​ใช่​หรือไม่​เล่า​”

มู่​อวิ​๋น​หรง​หน้าซีด​ลง​ชั่วขณะ​แล้ว​รีบ​ถอยกรูด​ไป​อีก​ฝั่ง​ในทันที​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​เสียงสั่น​ ​“​ข้า​…​ข้า​รู้​แล้ว​”

มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​อย่าง​พึงพอใจ​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​พี่​หญิง​สาม​ไม่ใช่​คนเลว​ร้าย​อะไร​ ​อย่า​ทำ​เรื่อง​อะไร​ที่​ไม่จำเป็น​ ​เช่นนั้น​…​พี่​หญิง​สาม​เข้าไป​เยี่ยม​พี่​หญิง​ใหญ่​เถิด​ ​ข้า​ไปล่ะ​”

มู่​อวิ​๋น​หร​งม​อง​แผ่น​หลัง​ที่​เดิน​จากไป​ของ​มู่​ชิง​อี​แน่นิ่ง​ ​ลังเลใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​แต่​ก็​ยังคง​หมุนตัว​เดิน​เข้าไป​ด้านใน​ ​ทว่า​เพิ่ง​เดิน​มาถึง​ประตู​ก็​มีกลิ่น​คาวเลือด​สะ​อิด​สะ​เอียด​ลอยมา​เตะจมูก​ทันที​ ​หลังจาก​เห็น​มู่​เฟย​หลวน​นอนแผ่​อยู่​บน​เตียง​พร้อม​ร่างกาย​ที่​เต็มไปด้วย​รอยคราบ​เลือด​ ​บาดแผล​นับไม่ถ้วน​ ​อีกทั้ง​รอยแผล​เลือด​ซึม​น่ากลัว​บน​ใบหน้า​ที่​ยัง​ไม่​แห้ง​ดี​ ​ฉับพลัน​ก็​เหมือน​มู่​อวิ​๋น​หรง​ตื่นขึ้น​จาก​ฝันร้าย​ ​กรีดร้อง​ตกใจ​ที​หนึ่ง​แล้ว​รีบ​หมุนตัว​วิ่งหนี​ออก​ไป

หลังจาก​กลับมา​ยัง​เรือนรับรอง​หมิง​ฟัง​ ​เนี่ย​อวิ​๋​นก​็​มาดั​กรอ​อยู่​ที่นั่น​ก่อน​แล้ว​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​มู่​ชิง​อี​ไม่ได้​บอกกล่าว​เขา​ก่อน​ก็​ชิง​กลับ​เข้า​วัง​มา​เลย​จึง​สร้าง​ความไม่พอใจ​ให้​กับ​ยอด​ฝีมือ​อันดับ​หนึ่ง​แห่ง​แคว้น​หวา​อย่างมาก​ ​ดังนั้น​พอ​เห็น​มู่​ชิง​อี​เดิน​เข้ามา​เขา​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​เพียงแต่​จับจ้อง​นาง​อยู่​เงียบๆ​ ​มู่​ชิง​อี​เอง​ก็​เหนื่อยหน่าย​ใจ​ไม่น้อย​ ​ไม่ว่า​เช่นไร​เนี่ย​อวิ​๋​นก​็​คือ​คน​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ ​นาง​คิด​ว่า​ต่อให้​จะ​รู้จัก​ตามติด​กัน​มา​หลาย​วัน​แต่​ก็​มิ​อาจ​ทำให้​ยอด​ฝีมือ​ผู้​นี้​หันมา​ทำร้าย​พวก​เดียวกัน​เอง​เพื่อ​ช่วย​นาง​อย่างไร​้​ข้อกังขา​ได้​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​สลัด​เนี่ย​อวิ​๋น​ทิ้ง​แล้ว​แอบ​มา​จัดการ​เรื่อง​ที่​ตน​อยาก​ทำ​อยู่​หลายครั้ง​หลาย​ครา

เนี่ย​อวิ​๋​นก​วาด​ตาม​อง​มู่​ชิง​อี​ด้วย​สีหน้า​ราบเรียบ​ ​สุดท้าย​ดวงตา​ก็​ไป​สะดุด​กับ​แหวน​หยก​บน​นิ้วมือ​ของ​นาง​ ​ทว่า​กลับ​ไม่ได้​พูด​อะไร

มู่​ชิง​อี​ไม่​ชอบ​บรรยากาศ​เช่นนี้​เอา​เสีย​เลย​ ​นาง​ขมวดคิ้ว​กล่าว​ ​“​หัวหน้า​องครักษ์​เนี่ย​ ​ข้า​ไป​กราบทูล​ฝ่า​บาท​ให้​โยกย้าย​ตัว​ท่าน​กลับ​ไป​ติดตาม​ฝ่า​บาท​เหมือนเดิม​ดี​หรือไม่​”​ ​เนี่ย​อวิ​๋​นม​อง​นาง​ด้วย​ท่าที​เคร่งขรึม​แวบ​หนึ่ง​เอ่ย​ ​“​ฝ่า​บาท​ไม่เห็นด้วย​แน่นอน​”​ ​มู่​ชิง​อี​มุ่น​คิ้ว​ ​ใน​ระยะเวลา​อัน​สั้น​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​อาจจะ​ไม่​อยาก​เห็น​หน้า​เนี่ย​อวิ​๋​นก​็​จริง​ ​ ​แต่​ถ้า​เขา​มีสติปัญญา​สักนิด​ย่อม​ไม่มีทาง​ปล่อย​เนี่ย​อวิ​๋น​ไป​แน่นอน​ ​ ​ในเมื่อ​ได้ตัว​ยอด​ฝีมือ​สะท้าน​ฟ้า​เฉกเช่น​เนี่ย​อวิ​๋​นมา​เป็น​องครักษ์​ติดตาม​ ​ใช่​ว่า​ใครๆ​ ​ก็​ทำได้​สักหน่อย​ ​อย่างน้อย​ข้าง​กาย​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​และ​ฮ่องเต้​แคว้น​เป่ย​ฮั่น​ก็​ไม่มี​ยอด​ฝีมือ​เช่นนี้​คอย​ตาม​อารักขา

เนี่ย​อวิ​๋น​เอ่ย​พลาง​จับจ้อง​นาง​ ​“​องค์​หญิง​คิด​อยาก​ทำ​อะไร​ไม่จำเป็น​ต้อง​สนใจ​กระหม่อม​ ​กระหม่อม​ไม่ใช่​คน​ปากสว่าง​ ​ขอ​แค่​…​องค์​หญิง​รับปาก​ว่า​จะ​ไม่​ทำร้าย​ฝ่า​บาท​ก็​พอ​”

มู่​ชิง​อี​ใจ​กระตุก​วูบ​พลาง​มอง​เนี่ย​อวิ​๋น​ด้วย​ท่าที​ตกตะลึง​ ​เนี่ย​อวิ​๋น​เหยียด​ยิ้ม​มุม​ปาก​เล็กน้อย​เอ่ย​ ​“​ถึงแม้​เนี่ย​อวิ​๋น​จะ​มิใช่​คน​ชาญฉลาด​อะไร​ ​แต่​เรื่อง​หลาย​วันที่​ผ่าน​มาทำ​ให้​เนี่ย​อวิ​๋​นพอ​จะเข้า​ใจ​แล้ว​ว่า​องค์​หญิง​ต้องการ​ทำ​สิ่งใด​”

มู่​ชิง​อี​ปิดปากเงียบ​ ​แต่​ท่าที​เงียบขรึม​ผิดปกติ​เช่นนี้​กลับ​เหมือน​เป็นการ​ยอมรับ​แล้ว​ ​มู่​ชิง​อี​หลับตา​ลง​ ​เวลานี้​นาง​ถึง​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​แววตา​ซับซ้อน​ยาม​มอง​มาที​่​นาง​นั่น​หมายความว่า​เช่นไร​ ​นั่น​คือ​…​ความละอายใจ​ ​ความเป็นไปได้​ใน​ข้อนี​้​มู่​ชิง​อี​ไม่เคย​นึกถึง​มาก​่อน​ ​ถึงแม้​เนี่ย​อวิ​๋น​จะ​เป็น​หัวหน้า​องครักษ์​วังหน้า​หลังจากที่​ตระกูล​กู้​ถูก​ทำลาย​ไป​แล้ว​ ​แต่ก่อน​หน้า​นี้​เขา​ก็​เป็น​องครักษ์​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวามา​นาน​เช่นกัน​ ​หาก​เขา​จะ​รู้เรื่อง​ใด​มาบ​้า​งก​็​ใช่​ว่า​จะ​น่าแปลกใจ​อะไร​ ​แต่​ถ้า​…​เขา​มีส่วน​เอี่ยว​กับ​เรื่อง​ของ​น้า​หญิง​ด้วย​ล่ะ​ก็​…​

ครั้น​เหมือน​สังเกตเห็น​ไอ​เย็นยะเยือก​ออกมา​จาก​ตัว​มู่​ชิง​อี​ ​เนี่ย​อวิ​๋​นก​็​หลับตา​ลง​เอ่ย​ ​“​องค์​หญิง​ ​กระหม่อม​ขออภัย​ด้วย​”

มู่​ชิง​อี​ข่มอารมณ์​พยายาม​ทำให้​ตัวเอง​สงบ​ลง​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ขอโทษ​หรือ​ ​เหตุใด​หัวหน้า​องครักษ์​เนี่ย​ถึง​เอ่ย​ออกมา​เช่นนั้น​เล่า​”

เนี่ย​อวิ​๋น​เผย​สีหน้า​เศร้าใจ​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เรื่อง​นี้​ทำให้​เขา​อึดอัด​ใจมา​นาน​มาก​จริงๆ​ ​ตอนนั้น​เนี่ย​อวิ​๋น​เป็น​เพียง​องครักษ์​หนุ่มน้อย​ที่​เพิ่ง​เข้า​วัง​มา​ใหม่​ใน​ทุกๆ​ ​สอง​ปี​ ​ถึงแม้​จะ​มีฝีมือ​เก่งกาจ​โดดเด่น​กว่า​คนอื่น​ ​แต่​เขา​ก็​เริ่ม​มาจาก​องครักษ์​ธรรมดาๆ​ ​คน​หนึ่ง​เท่านั้น​ ​หาก​จะ​บอกว่า​ธรรมดา​เลย​ก็​ไม่เชิง​เช่นนั้น​ ​ในเมื่อ​เขา​แตกต่าง​ไป​จาก​องครักษ์​คนอื่นๆ​ ​เขา​เกิด​มาจาก​ตระกูล​ผู้ดี​ ​ถึงแม้​จะ​ถูก​ขับไล่​ออกมา​จาก​ตระกูล​เนี่ย​แล้วแต่​เขา​ก็​ยัง​มี​อาน​ซีจ​วิ​้​นอ​๋​องค​นก​่อน​ซึ่ง​เป็น​อาจารย์​ของ​เขา​และ​อาน​ซีจ​วิ​้​นอ​๋​องคน​ปัจจุบัน​ซึ่ง​เป็น​ศิษย์​น้อง​ของ​เขา​ ​รวมถึง​เขา​มีฝีมือ​วิทยา​ยุทธ์​แกร่งกล้า​ขั้น​สุดยอด​จึง​มี​ช่วง​หนึ่ง​ที่​เขา​ได้​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​วัง​อย่าง​สุขสบาย​นาน​พอสมควร

ตอนต่อไป

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท