หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 224 วันตัดสินความตายของจูซื่อ (1)

หวนคืนชะตาแค้น

มู่​หรง​ซี​โบกมือ​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ไม่ต้อง​หรอก​ ​ต่อให้​ตอนนี้​เขา​รู้​ก็​คง​ไม่กล้า​ทำ​อะไร​บุ่มบ่าม​ ​คน​ของ​มู่​หรง​เสีย​และ​มู่​หรง​จ้าว​กำลัง​จับตาดู​เขา​อยู่​”​ ​กู้​ซิ่ว​ถิง​พยักหน้า​เห็นด้วย​ ​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ไม่ต้อง​กังวล​ไป​หรอก​ ​ก่อนหน้านี้​ข้า​เอง​ก็​เคย​กำชับ​กับ​องค์​ชาย​เจ็ด​ไว้​ ​เขา​ต้อง​คุ้มกัน​จู​เปี้ยน​เป็น​อย่างดี​แน่นอน​ ​หาก​จู่ๆ​ ​ตอนนี้​เรา​เข้าไป​ก้าวก่าย​ ​ในทางกลับกัน​จะ​ทำให้​คนอื่น​นึก​สงสัย​เรา​มากกว่า​”

มู่​หรง​ซี​เอ่ย​พลาง​ยิ้มพราย​ ​“​เวลานี้​มู่​หร​งอ​วี​้​น่าจะ​รู้​แล้ว​กระมัง​ว่า​มี​คน​แอบ​วางแผน​ทำร้าย​เขา​อยู่​”​ ​ความจริง​ยุแหย่​ให้​พวก​ลูกน้อง​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​หันมา​เข้าข้าง​ศัตรู​ ​เขา​ก็​น่าจะ​รู้​แล้ว​ว่า​เป็นฝี​มือ​ใคร​ ​แต่​ต่อให้​เดา​ได้​แล้ว​จะ​อย่างไรเล่า​ ​เขา​ไม่มี​หลักฐาน​ ​และ​ยิ่ง​ไม่มี​ความสามารถ​ใด​จะ​มาต​่​อก​รกับ​ตน​ได้​ ​ลำพัง​แค่​มู่​หรง​เสีย​และ​มู่​หรง​จ้าว​ก็​ทำให้​เขา​วุ่นวาย​มาก​พอแล้ว

กู้​ซิ่ว​ถิง​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​เช่นนั้น​…​ตอนนี้​จะ​ส่ง​หลักฐาน​เรื่อง​ที่​จู​ซื่อ​แอบ​ทำร้าย​ท่าน​อา​หญิง​เข้า​วัง​ไป​เลย​หรือไม่​เล่า​”​ ​ความจริง​หลักฐาน​มี​ไม่​มาก​นัก​ ​ในเมื่อ​เรื่อง​เกิดขึ้น​เมื่อ​สิบ​กว่า​ปีก่อน​แล้ว​ ​แต่​หาก​เอา​มา​เชื่อมโยง​กับ​เรื่อง​ที่​มู่​หรง​ซี​ถูก​วางยา​คง​ง่าย​ขึ้น​มาก​ ​ถ้า​ไม่ใช่​เพราะ​จู​หมิง​เยียน​ ​และ​ถ้า​ไม่ใช่​เพราะ​มู่​หร​งอ​วี​้​วางยา​มู่​หรง​ซี​ ​บางที​พวกเขา​ก็​อาจจะ​ไม่รู้​สาเหตุ​การตาย​ของ​กู้​ฮองเฮา​ไป​ชั่วชีวิต​เลย​ก็ได้

มู่​หรง​ซีพ​ยัก​หน้า​ ​คิ้ว​ที่​ผูก​กัน​เป็น​ปม​ก็​คลาย​ลง​ไม่น้อย​ ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​เสด็จ​แม่​เสด็จ​สวรรคต​ได้​สิบ​กว่า​ปี​แล้ว​ ​แต่​บุตรชาย​อย่าง​ข้า​กลับ​ไม่รู้​แม้กระทั่ง​สาเหตุ​การตาย​ของ​นา​…​ข้า​ช่าง​อกตัญญู​ยิ่งนัก​”​ ​หลังจาก​กู้​ฮองเฮา​เสด็จ​สวรรคต​ ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​มู่​หรง​ซี​และ​มู่​หร​งอ​วี​้​ก็​ยิ่ง​สนิทสนม​กัน​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​นอกจาก​กู้​ซิ่ว​ถิง​แล้ว​ ​เขา​แทบจะ​นับ​มู่​หร​งอ​วี​้​เป็นหนึ่ง​ใน​พี่น้อง​ที่​เขา​เชื่อใจ​มาก​ที่สุด​ก็​ว่า​ได้​ ​กระทั่ง​เห็นแก่หน้า​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​ ​เขา​เอง​ก็​ให้ความสำคัญ​กับ​จู​ซื่อ​ไม่น้อย​เหมือนกัน​ ​บัดนี้​พอ​มาคิด​ๆ​ ​ดูแล​้ว​ ​เขา​ไม่​เพียงแค่​อกตัญญู​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​โง่เขลา​มาก​อีกด้วย

“​พี่ชาย​ ​ท่าน​อา​หญิง​ไม่มีทาง​โทษ​ท่าน​หรอก​”​ ​ ​กู้​ซิ่ว​ถิง​เอ่ย​พลาง​ถอนหายใจ​เสียง​เบา​ ​“​ผ่าน​มาตั​้ง​หลาย​ปี​ ​พวกเรา​เอง​ก็​ไม่มีใคร​เดา​ความคิด​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​ได้​เหมือนกัน​”

สามารถ​หลอก​มู่​หรง​ซี​และ​กู้​ซิ่ว​ถิง​ได้​ ​กระทั่ง​หลอก​ทุกคน​ใน​ตระกูล​กู้​ได้​ ​คง​ต้อง​ยอมรับ​ว่า​เจ้าตัว​แสบ​อย่าง​มู่​หร​งอ​วี​้​แสดงละคร​ตบตา​ได้​แยบยล​นัก​ ​หรือ​บางที​…​ตอนแรก​อาจจะ​ไม่ได้​เสแสร้ง​ ​ในเมื่อ​คนที​่​เติบโต​มาจาก​ใน​วัง​เช่น​พวกเขา​ ​ถ้าหาก​มี​ความคิด​แอบแฝง​อยาก​เข้ามา​ตีซี้​คง​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่ายดาย​ขนาด​นั้น​ ​คง​กล่าว​ได้​แค่​ว่า​…​ใจ​คน​ยาก​แท้​หยั่งถึง

“​ท่าน​อ๋อง​ ​ฝ่า​บาท​มี​รับสั่ง​ให้​เข้าเฝ้า​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​องครักษ์​ของ​จวน​ผิง​อ๋อง​นอก​ประตู​รีบ​พุ่งพรวด​เข้ามา

มู่​หรง​ซี​ฉีก​ยิ้ม​แต่ง​แต้ม​ใบหน้า​ ​หยัด​กาย​ลุกขึ้น​เอ่ย​ด้วย​ท่าที​สบาย​ๆ​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​”

พระตำหนัก​เฉียน​ชิง​เป็น​สถานที่​ปรึกษาหารือ​เรื่อง​งาน​ราชการ​ใน​แคว้น​หวา​ ​ยาม​ปกติ​ตอน​ประชุม​ราชสำนัก​ช่วง​เช้า​ถึง​จะ​มี​คน​ปรากฏ​กาย​อยู่​ที่นี่​ ​เพียงแต่​ตอนนี้​ล่วงเลย​เวลา​ประชุม​ราชสำนัก​ตอนเช้า​มานา​นมาก​แล้ว​ ​ทว่า​ใน​พระตำหนัก​เฉียน​ชิง​ยังคง​มี​คน​ยืน​อยู่​ไม่น้อย​ ​กระทั่ง​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ก็​ยังคง​นั่ง​อยู่​ด้านบน​ด้วย​ท่าที​เกรี้ยว​โกรธ​เช่นกัน

“​ทูล​ฝ่า​บาท​ ​ผิง​อ๋อง​ขอ​เข้าเฝ้า​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ขันที​เฝ้า​ประตู​เอ่ย​กราบทูล​ตรงหน้า​ประตู​อย่างระมัดระวัง

ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​เงยหน้า​ขึ้น​มาตรัส​เสียง​เรียบ​ ​“​ให้​เข้ามา​”

มู่​หรง​ซีสวม​ชุด​ผ้าแพร​ธรรมดา​สีฟ้า​อ่อน​ค่อยๆ​ ​สาวเท้า​เดิน​เข้ามา​ ​เมื่อ​เทียบ​กับ​คนใน​พระตำหนัก​ที่​สวม​ชุด​ทางการ​ยิ่งใหญ่​หรือ​กระทั่ง​องค์​ชาย​คนอื่นๆ​ ​ที่​สวม​ชุด​ตำแหน่ง​ชิน​อ๋อง​กลับ​ขับ​ให้​เขา​ดู​แปลกตา​ไม่น้อย​ ​ตรง​หว่าง​คิ้ว​แต่ง​แต้ม​รอยยิ้ม​อ่อนล้า​จางๆ​ ​ยิ่ง​เขา​แบ่งแยก​ความต่าง​ชัดเจน​ขนาด​นี้​ก็​ยิ่ง​เหมือนว่า​พวกเขา​มากั​นค​นละ​เวลา​อย่าง​สิ้นเชิง​

“​กระหม่อม​มู่​หรง​ซี​ ​ถวายบังคม​ฝ่า​บาท​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​มู่​หรง​ซี​ถลก​ชายผ้า​ขึ้น​แล้ว​ก้มลง​เอ่ย​ทำความเคารพ​อย่างนอบน้อม

ทุกคน​ที่นั่ง​อยู่​ต่าง​อดสูด​หายใจ​เฮือก​หนึ่ง​ไม่ได้​ ​ถึงแม้​ผิง​อ๋อง​จะ​ไม่ได้​เข้ามา​ใน​ราชสำนัก​หลาย​ปี​แล้ว​ ​แต่​ก็​คง​ไม่​ถึงขั้น​ลืม​กฎระเบียบ​หรือ​ขนบธรรมเนียม​หรอก​กระมัง​ ​แม้แต่​คำ​ว่า​เสด็จ​พ่อ​ยัง​ไม่​ปริ​เสียง​เรียก​สัก​คำ​ ​ผิง​อ๋อง​มี​ความกล้า​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ

ใน​พระตำหนัก​ตก​อยู่​ใน​ความสงบ​ ​ทุกคน​ต่าง​มองหน้า​กัน​ ​องค์​ชาย​ทั้งหลาย​ขมวดคิ้ว​มอง​มู่​หรง​ซีที​่​กำลัง​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​ ​กระทั่ง​มู่​หรง​จ้าว​ที่​ใจกล้า​บ้าบิ่น​ยัง​แอบ​เหลือบมอง​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​แวบ​หนึ่ง​ ​เพราะ​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ระเบิดอารมณ์​ขึ้น​มา​ในเวลานี้

“​ลุกขึ้น​เถิด​”​ ​ผ่าน​ไป​นาน​ ​ในที่สุด​ก็ได้​ยิน​เสียง​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวาดัง​ขึ้น​ ​ทว่า​พระองค์​กลับ​มิได้​ทรง​กริ้ว​อย่างที่​คาด​เอาไว้​ ​มู่​หรง​ซี​หยัด​กาย​ลุกขึ้น​ ​“​ขอบ​พระทัย​ฝ่า​บาท​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

หลังจาก​ลุกขึ้น​ ​มู่​หรง​ซีก​ลับ​ไม่ได้​รีบร้อน​พูด​อะไร​ ​เพียงแค่​กวาดตา​มอง​ทุกคน​ใน​นั้น​อย่าง​ช้าๆ​ ​รอบ​หนึ่ง​ ​มู่​หรง​เค​่​อสี​หน้า​สุขุม​เยือกเย็น​ ​องค์​ชาย​สาม​และ​องค์​ชาย​ห้า​ไม่สน​ใจ​อะไร​ทั้งสิ้น​ ​สีหน้า​นิ่ง​ขรึม​ของ​มู่​หรง​เสีย​ ​สีหน้า​ได้ใจ​ของ​มู่​หรง​จ้าว​ ​และ​สีหน้า​เรียบ​ตึง​ที่​แฝง​ไป​ด้วย​ท่าที​ลนลาน​กระวนกระวายใจ​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้

“​น้อง​สอง​”​ ​มู่​หรง​เค​่อ​เอ่ย​ทัก​เสียง​ขรึม​สื่อ​ให้​เขา​มายื​นข​้าง​ตน​ ​มู่​หรง​เค​่อ​ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​คนที​่​นิ่งเงียบ​มาต​ลอด​อย่าง​น้อง​สอง​ ​จู่ๆ​ ​วันนี้​ถึง​นึก​ทำตัว​ผิดปกติ​เหิมเกริม​ราวกับ​กำลัง​ท้าทาย​ความอดทน​ของ​เสด็จ​พ่อ​อยู่​ก็​มิ​ปาน​ ​แต่​เขา​ไม่​อยาก​เห็น​สีหน้า​กริ้ว​เช่นนั้น​ของ​เสด็จ​พ่อ​แล้ว​จริงๆ​ ​ไม่ว่า​จะ​ทำ​ใส่​ตน​หรือไม่ก็​ตาม

มู่​หรง​ซีสาว​เท้า​เดิน​ไป​ยืน​ด้านหลัง​มู่​หรง​เค​่​ออย​่าง​ช้าๆ​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​กวาดตา​มอง​เหล่า​องค์​ชาย​ด้านล่าง​แวบ​หนึ่ง​ ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​มาค​รบ​แล้ว​หรือ​”

มู่​หรง​จ้าว​เหลือบมอง​มู่​หร​งอ​วี​้​แล้ว​เอ่ย​ตอบ​ ​“​เสด็จ​พ่อ​ ​เสด็จ​พ่อ​เรียก​พวกเรา​มา​ในเวลานี้​มีเรื่อง​อัน​ใด​รับสั่ง​อย่างนั้น​หรือ​”

ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​แค่น​เสียงเย็น​ชาต​รัส​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​นี่​ช่าง​ขยัน​ดีจริง​ๆ​”

ครั้น​ได้ยิน​เหมือน​เสด็จ​พ่อ​ไม่ได้​โกรธ​ตน​ ​มู่​หรง​จ้าว​จึง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​การแสดง​ความจงรักภักดี​ต่อ​เสด็จ​พ่อ​ย่อม​เป็นเรื่อง​ของ​ลูก​และ​เหล่า​ขุนนาง​อยู่​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

พวกเขา​เพิ่ง​ได้ยิน​ข่าว​ว่า​ผิง​หนานจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ขอ​พบ​มู่​หรง​เค​่อ​ ​ยัง​ไม่ทัน​ถามไถ่​เรื่องราว​ใดๆ​ ​ก็​ถูก​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​เรียก​เข้า​วัง​แล้ว​ ​แต่​มู่​หรง​จ้าว​รู้ดี​ว่า​จู​เปี้ยน​อยาก​พบ​มู่​หรง​เค​่อ​ ​หลังจากนั้น​มู่​หรง​เค​่​อก​็​ไม่กล้า​ตัดสินคดี​โดยพลการ​แต่​เข้า​วัง​มาก​ราบ​ทูล​เสด็จ​พ่อ​เช่นนี้​ย่อม​ต้อง​เป็นเรื่อง​เกี่ยวพัน​กับ​มู่​หร​งอ​วี​้​อยู่​แล้ว​

พอ​มอง​เหล่า​ขุนนาง​ใน​นั้น​ ​หาก​จะ​กล่าวว่า​เป็น​ขุนนาง​สู้​กล่าวว่า​เป็น​เหล่า​ญาติ​ใน​เชื้อพระวงศ์​เสีย​ยังดี​กว่า​ ​เพราะ​ล้วน​มี​แต่​ขุนนาง​ชั้นสูง​และ​คนใน​เชื้อพระวงศ์​ทั้งสิ้น​โดย​ไม่มี​ขุนนาง​ธรรมดา​สัก​คน​ ​มู่​หรง​จ้าว​รู้แก่ใจ​ดี​ว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​หวาน​่า​จะ​อยาก​จัดการ​เรื่องส่วนตัว​ภายใน​เชื้อพระวงศ์​ ​ทว่า​เขา​กลับ​นึก​แปลกใจ​ว่า​มู่​หร​งอ​วี​้​จะ​โดน​เรื่อง​อะไร​อีก​ ​เขา​ยัง​จำได้​เมื่อวาน​จัง​ชิง​บอกว่า​วันนี้​จะ​มี​ละคร​สนุก​ๆ​ ​ให้​ดู​ ​หรือ​จะ​หมายถึง​เรื่อง​นี้​กัน​นะ

ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​กวาดตา​มอง​มู่​หร​งอ​วี้ด​้ว​ยสาย​ตา​เย็นชา​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​สังหรณ์ใจ​ไม่ดี​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​แต่​สถานการณ์​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ถือว่า​ย่ำแย่​มาก​พอแล้ว​ ​ตอนนั้น​ที่​เขา​ทำร้าย​ตระกูล​กู้​และ​โค่น​อำนาจ​ของ​มู่​หรง​ซีนับ​ว่า​เป็น​เดิมพัน​ที่​อันตราย​ที่สุด​และ​ได้รับ​ผลประโยชน์​มาก​ที่สุด​ใน​ชีวิต​เขา​แล้ว​ ​แม้แต่​เรื่อง​นี้​ยัง​ถูก​เปิดโปง​ ​แล้ว​ตอนนี้​จะ​มีเรื่อง​ที่​แย่มาก​กว่านี​้​อีก​หรือ

“​เอา​ตัว​มา​”​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ตรัส​เสียงเย็น​ยะเยือก​ไร้​สึก​ความรู้สึก​ใดๆ​ ​ราวกับ​คนที​่​ให้​เอา​ตัว​มา​ไม่ใช่​คน​ ​แต่​เป็น​เพียง​สิ่งของ​ที่​ไม่มี​ความเกี่ยวข้อง​ใด​ด้วย​ก็​มิ​ปาน​

หญิงสาว​สวม​ชุด​สีเขียว​อ่อน​คน​หนึ่ง​ถูก​คน​จับตัว​เข้ามา​ใน​โถง​ว่าราชการ​ ​หญิงสาว​ผู้​นั้น​ใบหน้า​สะสวย​ ​ถึงแม้​จะ​ดู​มีอายุ​แต่​ก็​ยังคง​ไว้​ด้วย​ความสง่างาม​ ​สิ่ง​ที่​สำคัญ​กว่านั​้​นก​็​คือ​…​พวกเขา​คุ้นหน้า​คุ้นตา​กัน​เป็น​อย่างดี​ ​นาง​ก็​คือ​มารดา​แท้ๆ​ ​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​ ​อวิ​๋​นกุ​้ย​เห​ริน​ใน​ตอนนี้​…​หรือ​ก็​คือ​จู​ซื่อ

“​ฝ่า​บาท​ ​ฮองเฮา​และ​พระสนม​คนอื่นๆ​ ​มา​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​ให้​พวกเขา​เข้ามา​เถิด​”​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ตรัส​เช่นนั้น​ ​พระตำหนัก​เฉียน​ชิง​แตกต่าง​ออก​ไป​เพราะ​ไม่ใช่​พระตำหนัก​ใช้​บรรทม​ของ​ฮ่องเต้​ ​ ​พระตำหนัก​เฉียน​ชิง​มี​ไว้​ใช้​ประชุม​ว่าราชการ​ตอนเช้า​ ​ปรึกษา​หาเรื่อง​เรื่อง​งาน​ต่างๆ​ ​ของ​ฮ่องเต้​ ​เหล่า​สตรี​จะ​ไม่ได้​รับ​อนุญาต​ให้​เข้ามา​ ​แต่​ก็​มี​กรณี​ยกเว้น​อย่างเช่น​เรื่อง​นี้​ ​ซึ่ง​มี​ความเกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​ใน​อดีต​ของ​เหล่า​พระสนม

หลังจากนั้น​ฮองเฮา​ที่​สวม​ชุด​หงส์​สีเหลือง​ก็​เดิน​เข้ามา​ ​ด้านหลัง​มี​เหล่า​สนม​สวม​ชุด​ทางการ​แต่ละ​ตำแหน่ง​และ​องค์​หญิง​คนอื่นๆ​ ​เดิน​เข้ามา​ด้วย​ ​เดิมที​มู่​ชิง​อี​เป็น​องค์​หญิง​ที่​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​แต่งตั้ง​น่าจะ​ไม่ต้อง​มา​เข้าร่วม​เหมือน​องค์​หญิง​หมิง​เหอ​และ​องค์​หญิง​ไหว​หยาง​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ฮองเฮา​ถึง​ได้​พานา​งมา​ด้วย

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท