หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 301 องค์ชายเก้าผู้ที่ถนัดก่อเรื่องทำร้ายคนอื่นแต่กลับไม่มีผลดีอะไรกับตัวเอง (4)

หวนคืนชะตาแค้น

หนา​นก​งอ​วี​้​กำ​ตั๋วเงิน​อย่าง​รู้สึก​ผิด​แล้ว​ยิ้ม​เฝื่อน​ ​“​เป็น​ข้า​ที่​คิดเล็กคิดน้อย​เอง​”​ ​เขามอง​ตั๋วเงิน​ใน​มือ​พลาง​มอง​ไป​ที่​ม้า​สีขาว​ดุจ​หิมะ​ ​ภายในใจ​กลับ​ลังเลใจ​ยาก​จะ​ตัดสินใจ​ได้​ ​ยืม​เงิน​จำนวน​มหาศาล​กับ​คนที​่​เพิ่ง​รู้จัก​ย่อม​รู้สึก​ไม่ดี​อยู่​แล้ว​ ​แต่​หาก​เขา​พลาด​เจ้า​ม้า​สีขาว​ตัว​นี้​ไป​คง​เสียใจ​ไป​ชั่วชีวิต

“​บุรุษ​ผู้​มี​ความทะเยอทะยาน​มัก​ทำ​สิ่งใด​รวดเร็ว​ว่องไว​ ​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ทำ​อะไร​เชื่องช้า​นัก​เล่า​”​ ​มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​ถาม

หนา​นก​งอ​วี​้​ครุ่นคิด​อยู่นาน​ ​ในที่สุด​ก็​กัดฟัน​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​ได้​ ​ขอบใจ​หลิว​อวิ​๋​นมาก​ ​ข้า​จะ​พยายาม​รีบ​คืนเงิน​เจ้า​อย่างแน่นอน​”​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บาง​ ​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​ข้า​เชื่อใจ​หนา​นก​งอยู​่​แล้ว​”

พอ​มีเงิน​อยู่​ใน​มือ​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ก็​ดู​ตื่นเต้น​สดใส​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​เนื่องจาก​เขา​เป็น​คนที​่​ชอบ​ม้า​อย่างแท้จริง​จึง​ไม่​ตระหนี่ถี่เหนียว​เรื่อง​การ​ซื้อ​ม้า​ราคา​สูงลิ่ว​เช่นนี้​เลย​สักนิด​ ​พอ​มีเงิน​สอง​หมื่น​กว่า​ตำลึง​ที่​ยืม​มา​แล้ว​ ​อีกทั้ง​เดิมที​ใน​ตัว​เขา​เอง​ก็​ยัง​มีอยู่​อีก​ราวๆ​ ​แปด​เก้า​พัน​ตำลึง​ ​ตอนนี้​เขา​เลย​มีเงิน​ประมาณ​สาม​หมื่น​กว่า​ตำลึง​ได้

ม้า​รูปงาม​ย่อม​เป็นที่ต้องการ​ของ​คน​มากมาย​ ​ส่วน​เจ้าของ​ม้า​เอง​ก็​อยาก​ขาย​ได้ราคา​ดี​ ​เพราะเหตุนี้​ใน​การแข่งขัน​ประมูล​ ​หาก​ใคร​ให้ราคา​สูง​ถึง​จะ​ได้​ม้า​ไป​ครอบครอง

เจ้าของ​ม้า​เพิ่ง​เริ่ม​เปิด​การประมูล​ ​ด้านนอก​ก็​มีเสียง​ดัง​อึกทึก​ดัง​แว่ว​มา​ว่า​ ​“​องค์​ชาย​เก้า​เสด็จ​!​”

ทุกคน​ต่าง​ชะงัก​ไป​ ​นอกจาก​รูปโฉม​ของ​องค์​ชาย​เก้า​แล้ว​ ​ชื่อเสียง​ทาง​ด้าน​อื่น​ใน​เมืองหลวง​กลับ​ไม่​ค่อย​เท่าไร​ ​อีก​อย่าง​ไม่มีใคร​เคย​ได้ยิน​มาก​่อ​นว​่า​องค์​ชาย​เก้า​จะ​ชื่นชอบ​ม้า​ด้วย

ยัง​ไม่ทัน​ได้สติ​ก็​เห็น​บุรุษ​รูปงาม​สวม​ชุด​ผ้าแพร​สีดำ​ปัก​ลาย​รอยเท้า​มังกร​สี่​นิ้ว​พร้อม​คลุม​ผ้า​เนื้อ​บาง​สีขาว​บริสุทธิ์​ทับ​มา​อีก​ชั้น​เดิน​ย่างกราย​เข้ามา​อย่าง​ช้าๆ

ไม่ว่า​ชื่อเสียง​ของ​หรง​จิ​่น​จะ​เสื่อมเสีย​แค่ไหน​ ​แต่กลับ​ไม่มีใคร​ปฏิเสธ​ได้​ว่า​หน้าตา​ของ​เขา​โดดเด่น​เหนือ​ใคร​จริงๆ​ ​ถึงแม้​สีหน้า​จะ​โหดร้าย​และ​กลิ่นอาย​เย็นยะเยือก​ทั่ว​ร่าง​จะ​ยังคง​ยาก​จะ​กลบ​ใบหน้า​หล่อเหลา​ของ​เขา​ได้​ ​แม้แต่​บุรุษ​ด้วยกัน​เอง​ยัง​พากั​นม​อง​ตา​ตะลึง​ค้าง​ ​มู่​ชิง​อี​แต่งกาย​เป็น​บุรุษ​ก็​นับว่า​หล่อเหลา​มาก​เช่นกัน​ ​แต่​เพราะ​อายุ​ยัง​วัยเยาว์​นัก​ ​อีกทั้ง​ถึงอย่างไร​นาง​ก็​เป็น​สตรี​จึง​มักจะ​แผ่​กลิ่นอาย​อ่อนหวาน​สง่างาม​อยู่​ร่ำไป​ ​สู้​หรง​จิ​่น​ไม่ได้​ ​ต่อให้​เขา​ไม่​ทำ​อะไร​แค่​ยืน​เฉยๆ​ ​ก็​เหมือน​ใช้​สายตา​แหลมคม​เชือดเฉือน​คน​ได้​แล้ว

“​คารวะ​อวี​้​อ๋อง​”​ ​ทุกคน​ต่าง​ลุกขึ้น​ทำความเคารพ​ ​ก่อนหน้านี้​ตอนที่​หรง​จิ​่น​ไม่มี​ตำแหน่ง​ ​เหล่าตระกูล​ทรงอิทธิพล​ใน​เมืองหลวง​ต่าง​เรียก​เขา​ว่า​องค์​ชาย​เก้า​ ​แต่​บัดนี้​ถูก​แต่งตั้ง​เป็น​อวี​้​อ๋อง​แล้ว​ ​ดังนั้น​จึง​เรียก​ตาม​ตำแหน่ง

หรง​จิ​่​นก​วาด​ตาม​อง​ทุกคน​ด้วย​แววตา​เรียบ​เฉย​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ตามสบาย​เถิด​”

จากนั้น​ก็​กวาด​แววตา​ดุดัน​มองผ่าน​ร่าง​ของ​มู่​ชิง​อี​ไป​อย่าง​ช้าๆ​ ​ก่อนที่​สายตา​จะ​ไป​หยุด​อยู่​ที่​ร่าง​ของ​หนา​นก​งอ​วี​้​ที่อยู่​ข้าง​กาย​นาง​ ​ทว่า​ต่อให้​ถูก​สายตา​ของ​อวี​้​อ๋อง​มอง​คาดโทษ​เช่นนั้น​ ​แต่​หนา​นก​งอ​วี​้​กลับ​ไม่สน​ใจ​เลย​สักนิด​ ​นิสัย​ของ​องค์​ชาย​เก้า​เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย​ ​ตอนแรก​อาจ​ยิ้ม​หน้าบาน​แต่​ชั่ว​วินาที​ต่อมา​อาจจะ​เปลี่ยนเป็น​สีหน้า​อยาก​ฆ่า​คน​ก็​ย่อม​ได้​ ​ทุกคน​ใน​เมืองหลวง​ต่าง​คุ้นชิน​กัน​หมด​แล้ว​ ​ถือว่า​ตอนนี้​องค์​ชาย​เก้า​อารมณ์ไม่ดี​ก็​แค่นั้น

หรง​จิ​่​นอา​รมณ์​ไม่ดี​อยู่​จริงๆ​ ​ชิง​ชิง​มาถึง​เมืองหลวง​ได้​หลาย​วัน​แล้วแต่​กลับ​ไม่​มา​เยี่ยมเยียน​หา​เขา​เลย​ ​วันนี้​ไม่​ง่าย​เลย​กว่า​จะ​ได้​ออก​จวน​ ​เขา​กำลัง​คิด​ว่า​จะ​แสร้งทำ​เป็น​เจอ​นาง​โดยบังเอิญ​สักหน่อย​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่านาง​จะ​ชิง​มาต​ลาด​ม้า​สถานที่​เหม็น​ๆ​ ​เช่นนี้​เป็นเพื่อน​หนา​นก​งอ​วี​้​เสีย​แล้ว​ ​แบบนี้​จะ​ให้​องค์​ชาย​เก้า​ร่าเริง​ได้​เช่นไร

เขา​เดิน​วางมาด​มานั​่ง​ลง​ข้าง​กาย​มู่​ชิง​อี​ ​หรง​จิ​่น​ไม่สน​ใจ​อะไร​ทั้งสิ้น​ ​เพียง​เหลือบมอง​เจ้าของ​ม้า​แวบ​หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ ​“​เหตุใด​ยัง​ไม่​เริ่ม​อีก​เล่า​”

“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​จะ​เริ่ม​บัดเดี๋ยว​นี้​เลย​”​ ​เจ้าของ​ม้า​ขานรับ​ระรัว​อย่าง​เริงร่า​ ​แม้แต่​องค์​ชาย​ยัง​เสด็จ​มาด​้วย​ตัวเอง​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ม้า​ของ​เขา​ล้ำค่า​เพียงใด​ ​คน​ขาย​ม้า​ลอบ​คำนวณ​ใน​ใจ​ว่า​จะ​เปิด​ประมูล​ด้วย​ราคา​สูง​กว่า​เดิม​หน่อย​ดี​หรือไม่​ ​เพียงแต่​พอ​เห็นท่า​ที​หงุดหงิด​ของ​องค์​ชาย​เก้า​แล้ว​ ​ถึงอย่างไร​เขา​ก็​ไม่มี​ความกล้า​นั้น

ราคา​ขั้นต่ำ​ของ​เจ้า​ม้า​สีขาว​อยู่​ที่หนึ่ง​หมื่น​ห้า​พัน​ตำลึง​ ​แต่เพียง​ไม่นาน​ก็​เริ่ม​มี​คน​ประมูล​ดัน​ราคา​สูง​ขึ้น​อีก​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​เอง​ก็​เข้าร่วม​ประมูล​ด้วย​อย่างรวดเร็ว​ ​คิ้ว​ทั้งสอง​ข้าง​ขมวด​แน่น​พลาง​จับจ้อง​ม้า​ตรงหน้า​ที่อยู่​ไม่​ไกล​นัก​ตาเขม​็ง​ ​รวมถึง​แผ่​กลิ่นอาย​ราวกับ​หาก​ประมูล​ไม่สำเร็จ​ก็​พร้อม​จะ​สละ​ชีวิต​อย่างไร​อย่างนั้น

“​สอง​หมื่น​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​”

“​สอง​หมื่น​สอง​พัน​ตำลึง​”

“​สอง​หมื่น​ห้า​พัน​ตำลึง​”

“​สาม​หมื่น​ตำลึง​”

“​สาม​หมื่น​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​”​ ​หลังจาก​ราคา​ทะลุ​ไป​ที่สาม​หมื่น​ตำลึง​คน​ก็​เริ่ม​น้อยลง​เรื่อยๆ​ ​ทุกคน​แค่​อยาก​ซื้อ​ไว้​เป็นหน้าเป็นตา​ก็​เท่านั้น​ ​แต่​เรื่อง​สร้าง​หน้า​สร้าง​ตา​ใช่​ว่า​จะ​ขึ้นอยู่กับ​ม้า​แค่​ตัว​เดียว​ ​หาก​ราคา​สูง​มากเกินไป​ย่อม​ยอมแพ้​อยู่​แล้ว​ ​มี​เพียง​คนที​่​รัก​ม้า​เท่านั้น​ที่จะ​ยอม​ทุ่มเงิน​ไม่อั้น​เช่นนี้

“​สาม​หมื่น​หนึ่ง​พัน​ห้า​ร้อย​ตำลึง​”​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​กัดฟัน​เอ่ย​ ​จากนั้น​ก็​มอง​คน​รอบข้าง​อย่าง​หวาดระแวง​ ​ตอนนี้​เหลือ​ไม่​กี่​คนที​่​ประมูล​แล้ว​ ​พลัน​ก็​แอบ​นึก​ดีใจ​ไม่น้อย

“​สาม​หมื่น​สอง​พัน​ตำลึง​”

หนา​นก​งอ​วี​้​ยิ่ง​เคร่งเครียด​เข้าไป​ใหญ่​ ​“​สาม​หมื่น​สอง​พัน​สอง​ร้อย​ตำลึง​”

“​สาม​หมื่น​สอง​พัน​ห้า​ร้อย​ตำลึง​”

“​สาม​หมื่น​สี่​พัน​ตำลึง​”​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​กัดฟัน​แน่น​ ​ตัดใจ​เสนอ​ราคา​เพิ่ม​อีก​หนึ่ง​พัน​ห้า​ร้อย​ตำลึง​ ​ครั้งนี้​เขา​ทุ่ม​สุดตัว​แล้ว​จริงๆ​ ​หาก​อีก​ฝ่าย​ยัง​เพิ่ม​เงิน​อีก​ล่ะ​ก็​ ​เขา​คง​ทำได้​แค่​ยอมแพ้

ผ่าน​ไป​พักใหญ่​กระทั่ง​ไม่มีใคร​ประมูล​ต่อ​แล้ว​ ​แต่​หนา​นก​งอ​วี​้​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ผ่อน​ลมหายใจ​ ​จู่ๆ​ ​คนที​่​นั่ง​อยู่​ข้าง​กาย​มู่​ชิง​อีก​็​เปิดปาก​ขึ้น​อย่าง​ผ่อนคลาย​ว่า​ ​“​สาม​หมื่น​สี่​พัน​หนึ่งร้อย​ตำลึง​”

“​เจ้า​…​”​ ​หาก​ไม่ใช่​คนที​่​เปิดปาก​คือ​หรง​จิ​่น​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​คง​สบถ​ด่า​ยกใหญ่​ไป​แล้ว​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ลึก​และ​ทุ่มเงิน​ก้อน​สุดท้าย​ทั้งหมด​ของ​ตน​ ​“​สาม​หมื่น​สี่​พัน​ห้า​ร้อย​ตำลึง​”

“​สาม​หมื่น​สี่​พันหกร้อย​ตำลึง​”​ ​หรง​จิ​่​นก​ล่าว​ด้วย​ท่าที​สบาย​ๆ

“​อวี​้​อ๋อง​ชอบ​ม้า​ตั้งแต่​เมื่อไร​หรือ​”​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​เกรี้ยว​โกรธ

องค์​ชาย​เก้า​เลิก​คิ้ว​ ​“​ข้า​บอก​ตั้งแต่​เมื่อไร​ว่า​ข้า​ชอบ​”

ถ้า​ไม่​ชอบแล้ว​เจ้า​จะ​เสียเงิน​มากมาย​ขนาด​นี้​ซื้อ​มัน​มา​ไว้​ทำไม​กัน​เล่า​ ​ทุกคน​ต่าง​มอง​ไป​ที่​ร่าง​อ๋อง​รูปงาม​ใน​ชุด​ผ้าแพร​สีดำ​พร้อมกัน​โดย​มิได้​นัดหมาย

หรง​จิ​่​นม​อง​หนา​นก​งอ​วี​้​พลาง​ฉีก​ยิ้ม​เห็น​ฟัน​สีขาว​วาววับ​อย่าง​ชอบใจ​ ​“​เห็น​ว่า​ไม่เลว​ดี​ ​ถ้า​ฆ่า​เอา​มากิ​นค​งอ​ร่อย​น่าดู​”​ ​เพียงแต่​ดู​จาก​ท่าทาง​แล้ว​ไม่​เหมือน​คน​อยาก​กิน​เนื้อ​ม้า​แต่​อยาก​กิน​เนื้อ​ของ​หนา​นก​งอ​วี​้​มากกว่า

หาก​หรง​จิ​่​นอยา​กกิน​เนื้อ​ของ​หนา​นก​งอ​วี​้​จริงๆ​ ​ไม่แน่​หนา​นก​งอ​วี​้​คง​ไม่​โมโห​ขนาด​นี้​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ไม่สน​สถานะ​สูง​ต่ำ​พลัน​ถลึงตา​จับจ้อง​หรง​จิ​่​นอย​่าง​โกรธเคือง​ ​“​ท่าน​อ๋อง​จงใจ​หรือ​”

หรง​จิ​่น​เลิก​คิ้ว​ ​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ใช่​!​”

“​ท่าน​อ๋อง​เห็น​หนา​นก​งอ​วี​้​ขัดหู​ขัดตา​อย่างนั้น​หรือ​”

“​ใช่​!​”​ ​หรง​จิ​่น​ยอมรับ​อย่างตรงไปตรงมา

“​ท่าน​อ๋อง​จะ​แย่ง​ม้า​สีขาว​ตัว​นี้​ให้​ได้​ใช่​หรือไม่​”

หรง​จิ​่​นพ​ยัก​หน้า​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​ท่าที​จริงจัง​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​ไม่ว่า​เจ้า​จะ​เสนอ​ราคา​เท่าไร​ ​ข้า​ก็​จะ​เสนอ​มากกว่า​หนึ่งร้อย​ตำลึง​”​ ​นี่​แสดงให้เห็น​ว่า​เขา​จะ​แย่ง​อย่างโจ่งแจ้ง​ ​แต่​หนา​นก​งอ​วี​้​กลับ​จนใจ​ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน​เอ่ย​ ​“​ถ้า​ข้า​เสนอ​แสน​ตำลึง​เล่า​”

หรง​จิ​่น​ยิ้ม​ตาหยี​กล่าว​ ​“​เจ้า​ลอง​เสนอ​ดูก​็​รู้​แล้ว​มิใช่​หรือ​”

“​ข้า​…​”​ ​กระนั้น​หนา​นก​งอ​วี​้​ก็​พูดไม่ออก​ ​เขามอ​งม​้า​สีขาว​ดุจ​หิมะ​ใน​คอก​อย่าง​อาลัยอาวรณ์​พลัน​รู้สึก​ปวดใจ​สุดขีด

“​ดูท่าทาง​หนา​นก​งอ​วี​้​จะ​ไม่​อยากได้​แล้ว​ ​เป็น​อย่างไรเล่า​ ​น้องชาย​ ​ไป​ทาน​เนื้อ​ม้าย​่าง​เป็นเพื่อน​ข้า​ไหม​เล่า​”​ ​ครั้น​เห็น​หนา​นก​งอ​วี​้​ยอมจำนน​ ​หรง​จิ​่​นก​็​ยื่นมือ​ข้าง​หนึ่ง​ออกมา​โอบ​ไหล่​ของ​มู่​ชิง​อี​อย่าง​อารมณ์ดี​พลาง​ยิ้ม​ทะเล้น

มู่​ชิง​อี​ยกมือ​ขึ้น​สะบัด​แขน​ของ​เขา​ออก​ ​“​ขอบ​พระทัย​ท่าน​อ๋อง​ ​แต่​กระหม่อม​ไม่​ทาน​เนื้อ​ม้า​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท