หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 389 สาวงามดั่งบุปผาถูกขวางกั้นด้วยกลีบเมฆ (4)

หวนคืนชะตาแค้น

​หนา​นก​งอ​วี​้​ยิ้ม​อย่าง​หมดปัญญา​เอ่ย​ ​“​ท่าน​พ่อ​กับ​พี่ใหญ่​กำลัง​จัดการ​เรื่อง​นี้​กัน​อยู่​ ​ข้า​เอง​ก็​ช่วย​อะไร​ไม่ได้​มาก​ก็​เลย​ว่าง​เช่นนี้​ ​ว่าแต่​หลิว​อวิ​๋น​ ​ตอนนี้​เจ้า​เป็น​หัวหน้า​ผู้ดูแล​จวน​อวี​้​อ๋อง​ ​คงจะ​มีเรื่อง​มากมาย​กระมัง​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​นั่งลง​ฝั่ง​ตรงข้าม​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​ไม่เห็นด้วย​ ​“​จวน​อวี​้​อ๋อง​จะ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ได้​ ​เกรง​ว่า​ทั้งเมือง​หลวง​จะ​ไม่มี​ที่ใด​ว่าง​เท่า​จวน​อวี​้​อ๋อง​อีกแล้ว​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​หยิบ​ตั๋วเงิน​กอง​หนึ่ง​มา​วาง​ไว้​ตรงหน้า​มู่​ชิง​อี​แล้ว​เอ่ย​ ​“​เรื่อง​คราว​ที่แล้ว​ ​ต้อง​ขอบคุณ​หลิว​อวิ​๋น​เป็นอย่างมาก​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​มู่​ชิง​อี​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​เรื่อง​นี้​ก็​เป็น​หรง​จิ​่​นที​่​เอาเปรียบ​หนา​นก​งอ​วี​้​ ​แม้ว่า​หรง​จิ​่น​จะ​คืน​ตั๋วเงิน​ต่อมา​ใน​ภายหลัง​ ​แต่​ตอนนี้​เมื่อ​เห็น​หนา​นก​งอ​วี​้​คืน​ตั๋วเงิน​ให้​ตัวเอง​ด้วย​ใบหน้า​จริงจัง​ ​ก็​อด​รู้สึก​ผิด​เล็กน้อย​ไม่ได้

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ ​“​หลิว​อวิ​๋น​ไม่จำเป็น​ต้อง​เกรงใจ​ ​ใน​เมืองหลวง​ ​อวี​้​อ๋อง​ก็​กระทำการ​เช่นนี้​มาตั​้ง​แต่ไหนแต่ไร​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เรื่อง​คราว​ที่แล้ว​ก็​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​หลิว​อวิ​๋น​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​มู่​ชิง​อีก​็​ไม่ได้​ปฏิเสธ​ ​รับ​ตั๋วเงิน​มา​โดยที่​ไม่ได้​นับ​จำนวน​ ​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ ​“​หนา​นก​งอ​วี​้​รีบร้อน​พบ​ข้า​เพื่อ​เรื่อง​นี้​อย่างนั้น​หรือ​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ส่ายหน้า​ ​ยิ้ม​อย่าง​หมดปัญญา​พลาง​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​กับ​เจ้า​ก็​นับว่า​เป็น​สหาย​กัน​ ​หรือว่า​หาก​ไม่มี​ธุระ​ก็​ไม่​สามารถ​ออกมา​คุย​กันได​้​อย่างนั้น​หรือ​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​“​หัวหน้า​ผู้ดูแล​จวน​อวี​้​อ๋อง​กับ​คุณชาย​สอง​สกุล​หนา​นก​งอย​่าง​นั้น​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​พลาง​เลิก​คิ้ว

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​มอง​มู่​ชิง​อี​อย่าง​หมดปัญหา​ ​หาก​เป็น​เพียง​หนา​นก​งอ​วี​้​กับ​กู้​หลิว​อวิ​๋น​ ​พวกเขา​ย่อม​เป็น​สหาย​ที่สามา​รถ​พูดคุย​เกี่ยวกับ​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ได้​ ​แต่​หาก​เป็นคุณ​ชาย​สอง​ตระกูล​หนา​นก​งกับ​หัวหน้า​ผู้ดูแล​จวน​อวี​้​อ๋อง​ ​ใคร​จะ​เชื่อ​ว่า​มิตรภาพ​ระหว่าง​พวกเขา​จะ​ไม่มี​อะไร​อย่าง​อื่น​แอบแฝง​จริงๆ​ ​แม้แต่​พี่ใหญ่​ของ​เขา​ก็​…

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ส่ายหน้า​เอ่ย​ ​“​ข้า​อยาก​จะ​ขอ​ฮ่องเต้​ไป​ประจำการ​ที่​ชายแดน​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​มู่​ชิง​อี​ไม่ได้​พูด​ต่อ​ ​นาง​สามารถ​มองออก​ว่า​หนา​นก​งอ​วี​้​ไม่ใช่​คนที​่​เหมาะสม​กับ​การวางแผน​ ​แต่​การ​อยู่​ใน​ตระกูล​หนา​นก​งก​ลับ​เป็นการ​กำหนด​ว่า​เขา​ไม่​สามารถ​หลบหนี​จาก​สิ่ง​เหล่านี้​ได้​ ​การ​ไป​ประจำการ​ที่​ชายแดน​นับว่า​เป็นการ​หลบหนี​อย่างหนึ่ง​กระมัง​ ​เพียงแต่ว่า​ไม่รู้​ว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​จะ​เห็นด้วย​หรือไม่

“​หนา​นก​งอ​วี​้​ไม่ต้องการ​อยู่​ใน​เมืองหลวง​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​ถาม​เบา​ๆ​

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ยิ้ม​อย่างลำบาก​ใจ​ๆ​ ​พลาง​กล่าวว่า​ ​“​จะ​ว่า​ข้า​ขี้ขลาด​ก็ดี​ ​โง่เขลา​ก็ดี​ ​แต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​กลอุบาย​ใน​เมืองหลวง​เหล่านี้​…​ข้า​อยาก​จะ​สู้​จน​ตัว​ตาย​ใน​สนามรบ​มากกว่า​ ​ตอนนี้​จื้อ​อ๋อง​สิ้นพระชนม์​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​สถานการณ์​ใน​เมืองหลวง​…​คง​วุ่นวาย​”​ ​แม้ว่า​ตระกูล​เดิม​ของ​ฮองเฮา​จะ​ค่อยๆ​ ​เสื่อมถอย​ ​แต่​ก็​ยัง​มี​อัคร​เสนาบดี​ฝ่ายซ้าย​อยู่​ใน​ราชสำนัก​ ​แต่​อำนาจ​ของ​ตระกูล​หนา​นก​งก​ลับ​เอียง​ไป​ทาง​กองทัพ​อยู่​เสมอ​ ​แม้ว่า​หนา​นก​งอี​้​จะ​เป็น​ขุนนาง​ระดับสูง​อยู่​แล้ว​ ​แต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​ตระกูล​โจว​ซึ่ง​เป็น​ขุนนาง​พลเรือน​มาต​ลอด​ ​เกรง​ว่า​จะ​ยัง​ด้อย​กว่า​เล็กน้อย​ ​หาก​ตระกูล​โจว​ยืนกราน​ที่จะ​โต้กลับ​ ​เกรง​ว่า​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ตระกูล​หนา​นก​งคง​จะ​สูญเสีย​ไม่น้อย​ ​แม้ว่า​หนา​นก​งอ​วี​้​จะ​ไม่ได้​วางใจ​ท่าน​พ่อ​กับ​พี่ชาย​ของ​ตัวเอง​ ​แต่​หาก​อยู่​ที่​เมืองหลวง​เขา​เอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​ตัวเอง​สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​บ้าง​ ​ไม่​สู้​ทำเป็น​ไม่เห็น​จะ​ดีกว่า

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​“​หาก​หนา​นก​งอ​วี​้​ชอบ​ขี่ม้า​ใน​สนามรบ​ ​ไม่​สู้​ลอง​ไป​ขอร้อง​กับ​ฮ่องเต้​ดู​ ​ไม่แน่​ฮ่องเต้​อาจจะ​ตอบ​ตกลง​ก็​เป็นได้​”​ ​ไม่ว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​จะ​ป้องกัน​ตระกูล​หนา​นก​งอย​่าง​ไร​ ​ก็​ไม่​สามารถ​เปลี่ยนแปลง​อิทธิพล​ของ​ตระกูล​หนา​นกง​ใน​กองทัพ​แคว้น​เย​่ว​์​ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​สถานการณ์​ใน​แคว้น​เย​่ว​์​กับ​แคว้น​หวา​ก็​ไม่ได้​แตกต่าง​กัน​เท่าไร​นัก​ ​ขุนนาง​พลเรือน​ขัดขวาง​อำนาจ​ขุนนาง​ทหาร​จน​ค่อยๆ​ ​เสื่อมถอย​ลง​ ​นอกจาก​แม่ทัพ​หนา​นกง​เจ​วี​๋ย​ที่​มีชื่อเสียง​ใน​ราชสำนัก​แล้ว​ ​ก็​มี​แม่ทัพ​ที่สามา​รถ​ใช้งาน​ได้​เพียง​ไม่​กี่​คน​ ​ตอนนี้​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​แคว้น​เป่ย​ฮั่น​เริ่ม​แข็งแกร่ง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​และ​ผู้ปกครอง​แคว้น​เป่ย​ฮั่น​ก็​อยู่​ใน​ช่วง​วัย​หนุ่ม​เช่นกัน​ ​แต่​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​กลับ​อายุ​มาก​แล้ว​ ​แคว้น​เย​่ว​์​ไม่​สามารถ​ขาด​ตระกูล​หนา​นกง​ได้

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ก็​มีสี​หน้า​เปล่งประกาย​ ​แม้แต่​ท่าน​พ่อ​และ​พี่ชาย​ของ​เขา​ก็​ไม่เห็นด้วย​กับ​ความต้องการ​ที่จะ​ไป​ประจำการ​ที่​ชายแดน​ของ​เขา​ ​ไม่ใช่​ว่า​ตระกูล​หนา​นกง​ต้องการ​ละทิ้ง​อำนาจ​ทางทหาร​แล้ว​กลายเป็น​ขุนนาง​พลเรือน​ ​แต่​เป็น​เพราะ​ตอนนี้​สถานการณ์​ใน​ราชสำนัก​นั้น​ซับซ้อน​ ​พี่ใหญ่​ต้องการ​ให้​เขา​อยู่​ช่วย​งาน​ใน​เมืองหลวง​ ​ส่วน​ท่าน​พ่อ​กลับ​คิด​ว่า​ต่อให้​เขา​อยาก​จะ​ไป​ประจำการ​ที่​ชายแดน​ในเวลานี้​ฮ่องเต้​ก็​ไม่มีทาง​ที่จะ​พระราชทาน​อำนาจ​ทางทหาร​ให้​เขา​มาก​นัก​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​เกรง​ว่า​จะ​ถูก​ผู้อื่น​ควบคุม​อีกด้วย

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​“​ขอบคุณ​หลิว​อวิ​๋น​เป็นอย่างมาก​”​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​กล่าว​อย่างจริงใจ

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​ ​ท้ายที่สุด​แล้ว​เรื่อง​ของ​หนา​นก​งอ​วี​้​ให้​ขึ้นอยู่กับ​การตัดสินใจ​ของ​เขา​เอง​จะ​ดีกว่า​ ​บางที​เขา​อาจจะ​ทำ​เพื่อ​หนี​จาก​การต่อสู้​อัน​วุ่นวาย​ที่อยู่​ตรงหน้า​ ​แต่​นิสัย​และ​ความทะเยอทะยาน​ของ​หนา​นก​งอ​วี​้​นั้น​ไม่​เหมาะกับ​สิ่ง​เหล่านี้​เลย​ ​การถู​กกั​กตัว​ไว้​ใน​เมืองหลวง​ ​เกรง​ว่า​แม้แต่​บุตร​ของ​แม่ทัพ​ที่​มีชื่อเสียง​ก็​อาจจะ​ถูก​ทำลาย​ได้

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​“​ไม่พูดถึง​เรื่อง​นี้​แล้ว​ ​ข้า​เลี้ยง​สุรา​หลิว​อวิ​๋น​สัก​หนึ่ง​จอก​ดี​หรือไม่​”​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ ​“​คราว​ที่แล้ว​ก็​บอก​แล้ว​ว่า​จะ​เลี้ยง​สุรา​หลิว​อวิ​๋น​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​หลิว​อวิ​๋น​จะ​ยุ่ง​จน​ไม่มีเวลา​ ​วันนี้​ข้า​ได้​นำ​สมบัติ​ล้ำค่า​ที่​ท่าน​พ่อ​เก็บ​ไว้​เป็นเวลา​นาน​มา​พอดี​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​มู่​ชิง​อีก​ล่า​วอ​ย่าง​ช่วยไม่ได้​ว่า​ ​“​แม้ว่า​ข้า​จะ​ดื่ม​ไม่เก่ง​ ​แต่​ก็​พอ​ดื่มได้​สัก​แก้ว​สอง​แก้ว​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ดีมาก​!​”​ ​รีบ​เรียก​คน​มา​เปลี่ยน​จอก​สุรา​ทันที​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​นำ​ไห​สุราชั​้น​ดี​มา​จริงๆ​ ​กลิ่นหอม​จางๆ​ ​ของ​สุรา​ฟุ้งกระจาย​ออกมา​เมื่อ​เขา​เปิด​ฝา​ไห​ออก

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​มู่​ชิง​อี​หลับตา​แล้ว​สูดกลิ่น​หอม​ของ​สุรา​ใน​อากาศ​ ​กล่าว​ชม​ว่า​ ​“​สุรา​เซียง​เสวี​่ย​หอมกรุ่น​ใน​แคว้น​หวา​เป็นที่รู้จัก​ใน​ฐานะ​สุรา​ที่​มีชื่อเสียง​อันดับ​หนึ่ง​ใน​แคว้น​หวา​ ​เต็มไปด้วย​กลิ่นหอม​อบอวล​อย่างแท้จริง​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​คิดไม่ถึง​ว่า​ผู้​ที่​อายุ​น้อย​อย่าง​หลิว​อวิ​๋น​จะ​มีความรู้​เรื่อง​สุรา​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​หาก​พูดถึง​สุรา​ ​สุรา​แคว้น​เย​่ว​์​ของ​พวกเรา​นั้น​รสชาติ​ดีกว่า​ ​แต่ว่า​สุรา​เซียง​เสวี​่ย​ของ​แคว้น​หวา​ก็​มีรส​ชาติ​ที่​เป็น​เอกลักษณ์​เช่นกัน​ ​ข้า​รู้​ว่า​หลิว​อวิ​๋น​เป็น​คน​แคว้น​หวา​ ​ดังนั้น​จึง​ตั้งใจ​นำมา​โดยเฉพาะ​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​รู้​มานาน​แล้ว​ว่า​หนา​นก​งอ​วี​้​รักการ​ดื่ม​สุรา​ ​ที่​จวน​ของ​ข้า​ก็​มีสุ​ราชิง​จู๋​แคว้น​เย​่ว​์​กับ​สุรา​ดอก​เหมย​ปี้​สี่​อยู่​สอง​สาม​ไห​ถูก​เก็บ​ซ่อน​ไว้​เป็นเวลา​สามสิบ​กว่า​ปี​แล้ว​ ​กลับ​ไป​จะ​ให้​คน​นำมา​ส่ง​ให้​เจ้า​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​“​เอ๋​?​”​ ​หนา​นก​งอ​วี่​ตา​เป็นประกาย​ ​สุราชิง​จู๋​เป็น​สุรา​ที่​มีชื่อเสียง​ทางตะวันตก​เฉียง​ใต้​ของ​แคว้น​เย​่ว​์​ ​เป็น​ที่​ทราบ​กัน​ดี​ใน​เรื่อง​ความสดชื่น​ ​แต่​เนื่องจาก​ผลิต​ใน​เมือง​เล็ก​ๆ​ ​ที่​เรียกว่า​ชิง​จู๋​เท่านั้น​ ​ใน​แต่ละ​ปี​จึง​ผลิต​เพียง​สาม​ร้อย​ไห​เท่านั้น​ ​และ​สุรา​ที่​มีอายุ​การ​หมัก​สามสิบ​ปีนั​้น​ยิ่ง​หา​ได้​ยาก​ ​ส่วน​สุรา​ดอก​เหมย​ปี้​สี่​นั้น​ยิ่ง​หา​ได้​ยาก​กว่า

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​พลาง​กล่าวว่า​ ​“​ผู้อาวุโส​และ​ท่าน​พี่​ใน​จวน​เดิมที​ชอบ​ดื่ม​สุรา​อยู่​แล้ว​ ​เดิมที​สุรา​เหล่านี้​จะ​ถูก​ส่งกลับ​ไป​ที่​แคว้น​หวา​ ​ตอนนี้​…​คง​ทำได้​เพียง​เอา​มาม​อบ​ให้ท่าน​แล้ว​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ยัง​รู้​ด้วยว่า​ตระกูล​กู้​เกือบจะ​ถูก​กำจัด​เมื่อ​ไม่​กี่​ปีก่อน​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​ปลอบใจ​มู่​ชิง​อี​อย่างไร​ ​ทำได้​เพียง​ถือ​จอก​สุรา​อย่าง​เหม่อลอย​ ​มู่​ชิง​อี​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​หยิบ​จอก​สุรา​ขึ้น​มาช​นกับ​จอก​สุรา​ของ​เขา​เบา​ๆ​ ​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ข้า​คออ่อน​จริงๆ​ ​จะ​ดื่ม​เพียง​จอก​นี้​ ​ส่วนที่เหลือ​เชิญ​หนา​นกง​ตามสบาย​เถิด​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ชนแก้ว​กับ​เขา​ ​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ ​“​เจ้า​วางใจ​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​ข้า​ไม่เคย​เกลี่ย​กล่อม​ผู้อื่น​ให้​ดื่ม​สุรา​ ​หาก​ข้า​ชักชวน​ให้​ผู้อื่น​ดื่ม​ ​ตัวเอง​ก็​จะ​ได้​ดื่ม​น้อยลง​ ​เช่นนั้น​ข้า​ต้อง​ขอ​ขอบคุณ​หลิว​อวิ​๋น​แล้ว​ ​แม้ว่า​พวกเรา​จะ​รู้จัก​กัน​เพียง​ไม่​กี่​วัน​ ​แต่​ข้า​กับ​รู้สึก​ว่า​หลิว​อวิ​๋น​เป็น​เหมือน​สหาย​มากกว่า​คนใน​เมืองหลวง​เหล่านี้​เสียอีก​”​ ​ทายาท​ของ​ตระกูล​ผู้สูงศักดิ์​ใน​เมืองหลวง​ ​ทุกคน​ล้วน​มี​เบื้องหลัง​และ​อำนาจ​อยู่​ด้านหลัง​ ​ทุกคน​ล้วน​มี​ความทะเยอทะยาน​และ​ความคิด​ของ​ตัวเอง​ ​ไหน​เลย​จะ​มี​ใคร​นับว่า​เป็น​สหาย​ที่แท้​จริง​ ​หาก​จะ​บอกว่า​เป็น​สหาย​ก็​เป็น​เพียง​สิ่ง​ที่สามา​รถ​ขาย​ได้​ง่าย​ก็​เท่านั้น

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​ใน​ใจ​ก็​รู้สึก​ผิด​อยู่​บ้าง​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​จะ​ไม่มีวัน​มีความสุข​ใน​เมืองหลวง​ ​เพราะ​หัวใจ​ของ​เขา​สะอาด​เกิน​กว่า​จะ​ทน​ต่อ​สิ่งสกปรก​ได้​ ​แม้ว่า​นาง​จะ​ไม่ได้​ผูกมิตร​กับ​เขา​เพราะ​ผลประโยชน์​อะไร​ ​แต่​หาก​ในอนาคต​มีโอกาส​ที่สามา​รถ​ใช้​เขา​ได้​ ​ก็​ยาก​ที่จะ​บอก​ได้​ว่านาง​จะ​ใช้​เขา​หรือไม่​ ​คน​เช่นนี้​หาก​เกิด​ใน​ครอบครัว​ของ​คนธรรมดา​คาด​ว่า​คงจะ​มีความสุข​ยิ่งกว่า

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​มีเสียง​ควบ​ม้า​ดัง​มาจาก​นอก​หอ​ ​มู่​ชิง​อี​เงยหน้า​มอง​ไป​ทาง​หน้าต่าง​ด้วย​ความสงสัย​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​กลับ​ไม่ได้​รู้สึก​แปลกใจ​อะไร​เอ่ย​ ​“​วันนี้​เป็น​วัน​เคลื่อน​พระศพ​ของ​จื้อ​อ๋อง​และ​วันที่​จวง​อ๋อง​เสด็จ​กลับ​เมืองหลวง​ ​ดูเหมือนว่า​คงจะ​ไม่ได้​ดื่ม​สุรา​อย่าง​อิ่มหนำสำราญ​แล้ว​ ​ข้า​ยัง​ต้อง​ไป​จวน​จื้อ​อ๋อง​”

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท