หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 424 จบเรื่องกลับเมือง (1)

หวนคืนชะตาแค้น

​หลังจาก​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ระเบิดอารมณ์​ยกใหญ่​ ​กระทั่ง​ก่น​ด่า​เหล่า​องค์​ชาย​จน​หัวหมุน​กัน​หมด​ ​รวมถึง​ผู้ว่าการ​เมืองหลวง​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ต้อง​ใช้งาน​เขา​ล่ะ​ก็​เกรง​ว่า​คง​ถูก​ส่ง​ไป​อยู่​ใน​คุก​แล้ว

​“​เมื่อวาน​ได้ยิน​ว่า​ใต้เท้า​เมา​จน​ไม่ได้​สติ​ ​ตอนนี้​สร่าง​เมา​หรือยัง​เล่า​”​ ​หรง​จิ​่น​หรี่​ตา​พร้อม​แฝง​รอยยิ้ม​อันตราย​เย็นชา​บน​ใบหน้า​หล่อเหลา

​“​สร่าง​…​สร่าง​แล้ว​…​ท่าน​อ๋อง​โปรด​อภัย​ให้​ด้วย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​หรง​จิ​่น​ยิ้ม​เย็นชา​เอ่ย​ ​“​ข้าว​่า​เจ้า​ยัง​ไม่​สร่าง​เมา​หรอก​กระมัง​!​ ​เมื่อวาน​ข้า​บอก​แล้ว​ว่า​หาก​เจ้า​ยัง​มา​ไม่​ถึง​ภายใน​เวลา​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​ข้า​จะ​ช่วย​ให้​เจ้า​สร่าง​เมา​เอง​ ​ตอนนี้​…​ยัง​ทัน​!​”

​พูด​จบ​ ​หรง​จิ​่​นก​็​ไม่​รอ​ให้​ผู้ว่าการ​ทัน​คัดค้าน​อะไร​ก็​สะบัด​แส้​ใส่​โดย​ตวัด​พุ่ง​ไป​ทาง​ร่าง​ของ​ผู้ว่าการ​ ​หรง​ไหว​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​สีหน้า​ตึง​ทันที​ ​เขา​เห็น​อย่างชัดเจน​ว่า​แส้​เส้น​นี้​ก็​คือ​แส้​เส้น​เดียว​กับ​ที่​หรง​จิ​่น​ใช้​ฟาด​เขา​ใน​วันนั้น​ ​ฉับพลัน​สีหน้า​ก็​ขรึม​ลง​ก่อน​รุดหน้า​เข้าไป​ก้าว​หนึ่ง​หมาย​จะ​พูด​อะไร​บางอย่าง

​หรง​เซ​วี​ยน​และ​หรง​เหยี​่​ยน​ที่​ขนาบ​ข้าง​ซ้าย​ขวา​เขา​อยู่​ด้าน​ข้าง​ต่าง​รั้ง​หรง​ไหว​ไว้​ ​หรง​เหยี​่​ยน​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​เจ้า​หมอนี​่​สมควร​โดน​จริงๆ​ ​ไหว​เอ๋อร​์​ไม่ต้อง​ไป​สนใจ​เขา​หรอก​”​ ​ปกปิด​ก็​ส่วน​ปกปิด​ ​แต่​เรื่อง​ไม่​ถามไถ่​เลย​ก็​ถือว่า​เป็น​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​เช่นกัน​ ​หาก​จัดการ​เรื่อง​นี้​อย่าง​เงียบๆ​ ​ต่อให้​เสด็จ​พ่อ​รู้​ภายหลัง​ก็​คง​ไม่​พูด​อะไร​มาก​ ​แต่​เจ้าบ้านี​่​กลับ​ทำที​ว่า​ไม่เคย​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​เลย​ ​เขา​ไม่​กลัว​เรื่อง​แดง​ขึ้น​มาบ​้าง​หรือ​อย่างไร​ ​หาก​ไม่​จัดการ​เขา​แล้ว​จะ​ไป​จัดการ​ใคร​เล่า

​หรง​ไหว​กัดฟัน​เอ่ย​ ​“​ลงโทษ​ขุนนาง​ชั้นสูง​เช่นนี้​ ​เขา​จะ​โอหัง​เกินไป​แล้ว​กระมัง​”

​หรง​เซ​วี​ยน​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​ก็​แค่​ผู้ว่าการ​คน​หนึ่ง​เท่านั้นเอง​ ​ถือว่า​เป็น​ขุนนาง​ชั้นสูง​อะไร​กัน​ ​ตี​ก็​ตี​ไป​เถิด​”

​หรง​ไหว​กัดฟัน​ ​ความจริง​เขา​ก็​ไม่ได้​เข้าข้าง​ผู้ว่าการ​ผู้​นี้​แต่อย่างใด​ ​ผู้ว่าการ​เอง​ก็​ไม่ใช่​คน​ของ​เขา​ ​ต่อให้​โดน​ตี​หรือ​ตาย​ไป​ก็​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​เขา​ ​แต่​พอ​เห็น​หรง​จิ​่น​ใช้​แส้​ฟาด​ไปมา​เช่นนี้​กลับ​ชวน​ให้​หรง​ไหว​แอบ​นึก​ไม่พอใจ​สัก​เท่าไร​ ​ราวกับ​คนที​่​เกลือก​ลิ​้ง​โดน​ฟาด​อยู่​บน​พื้น​ไม่ใช่​ผู้ว่าการ​แห่ง​เมืองหลวง​ก็​มิ​ปาน

​“​อวี​้​อ๋อง​โปรด​ไว้ชีวิต​กระหม่อม​ด้วย​!​”​ ​เวลานี้​ผู้ว่าการ​ที่​สุขุม​น่าเกรงขาม​ใน​เดิมที​ร้อง​ครวญคราง​อยู่​บน​พื้นที่​เต็มไปด้วย​หิมะ​เย็นยะเยือก​ ​หรง​จิ​่น​เหวี่ยง​สะบัด​แส้​ฟาด​ด้วย​ท่วงท่า​ที่​ไม่เลว​ ​ถึงแม้​ไม่ได้​ใช้​วิทยา​ยุทธ์​แต่กลับ​มีพ​ละ​กำลัง​มากมาย​ออกมา​ไม่ขาดสาย​ ​ไม่ว่า​เขา​จะ​หลบ​ไป​ทาง​ไหน​ก็​หนี​แส้​ยาว​ดั่ง​งู​อสรพิษ​นี้​ไม่​พ้น

​เขา​สัมผัส​ได้​ถึง​ความเจ็บปวด​แสบ​ร้อน​ที่​ปะทุ​ขึ้น​เป็นระยะ​ถึงแม้​จะ​มี​ผ้าแพร​หนากั​้​นอยู​่​ก็ตาม​ ​นอกจาก​ร้อง​โอดครวญ​ ​ผู้ว่าการ​ก็​อับจน​หนทาง​แล้ว​จริงๆ​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ไว้ชีวิต​กระหม่อม​ด้วย​เถิด​…​ฉิน​อ๋อง​ช่วย​ด้วย​…​จวง​อ๋อง​ ต​วน​อ๋อง​ช่วย​กระหม่อม​ด้วย​ ​กระหม่อม​สำนึกผิด​แล้ว​”

​รอก​ระ​ทั่ง​ความโกรธ​ของ​หรง​จิ​่น​ทุเลา​ลง​แล้ว​ ​หรง​เซ​วี​ยน​ถึง​เปิดปาก​เอ่ย​ ​“​น้อง​เก้า​ ​พอแล้ว​ ​ไว้ชีวิต​เขา​เถิด​”

​เดิมที​หรง​จิ​่น​เอง​ก็​ไม่ได้​อยาก​เอา​เขา​ถึงตาย​อยู่​แล้ว​เลย​แค่น​เสียงเย็น​ชาก​่อน​เก็บ​แส้​กลับ​ไป​ ​จากนั้น​ก็​เตะ​เขา​ให้​พ้น​ทาง​ก่อน​เอ่ย​ ​“​เห็นแก่หน้า​พี่​รอง​ ​หาก​ครั้งหน้า​ข้า​ยัง​เจอ​คน​ไร้ประโยชน์​ที่​ไม่รู้​ว่า​ตน​ควร​ทำ​เรื่อง​ใด​อีก​ ​ข้า​จะ​โบย​ให้​ตาย​เลย​”

​ผู้ว่าการ​คุกเข่า​ลงพื้น​ ​ตัวสั่น​สะท้าน​แต่​ไม่กล้า​ขยับ​สักนิด​ ​“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​กระหม่อม​สำนึกผิด​แล้ว​ ​ขอบ​พระทัย​ใน​บุญคุณ​ของ​ท่าน​อ๋อง​ ​ขอบ​พระทัย​ใน​บุญคุณ​ของ​ท่าน​อ๋อง​”

​หรง​จิ​่​นม​อง​แส้​ใน​มือ​แวบ​หนึ่ง​ด้วย​ท่าที​รังเกียจ​ ​จากนั้น​ก็​โยน​ลง​บน​พื้น​หิมะ​อีก​ฝั่ง​ ​บน​พื้น​หิมะ​สีขาว​โพลน​พลัน​ถูก​ย้อม​ไป​ด้วย​คาวเลือด​ทันที​ ​เขา​ฟาด​แส้​ใส่​ผู้ว่าการ​ครั้งนี้​แตกต่าง​จาก​ที่​เขา​ฟาด​แส้​ใส่​หรง​ไหว​ครั้งก่อน​ ​เพราะ​ครั้งก่อน​หรง​จิ​่น​ไม่ได้​ใช้กำลัง​ภายใน​และ​ออม​แรง​ไว้​บ้าง​ ​ทว่า​ครั้งนี้​ผ้าแพร​บน​ร่าง​ของ​ผู้ว่าการ​ที่นั่ง​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​กลับ​ถูก​แส้​ฟาด​จน​ขาดวิ่น​เต็มไปหมด​ ​ชุด​ผ้าแพร​สีแดง​เข้ม​นั้น​ย้อม​ไป​ด้วย​เลือด​ ​ซึ่ง​เห็นได้ชัด​ว่า​เจ็บ​หนัก​ไม่เบา

​แต่​ครั้งนี้​เพราะ​คุกเข่า​อยู่​ต่อหน้า​หรง​จิ​่น​ ​ถึงแม้​จะ​เจ็บ​ไป​ทั่วทั้ง​ร่าง​แต่​เขา​ยังคง​นั่ง​แน่นิ่ง​ไม่​ขยับ​ ​ใคร​ไม่รู้​บ้าง​ว่า​อวี​้​อ๋อง​เป็น​ดั่ง​ราชา​ปีศาจ​ขึ้นชื่อ​ทั้ง​นอก​และ​ใน​เมืองหลวง​ ​ต่อให้​วันนี้​หรง​จิ​่น​จะ​ฟาด​แส้​ตี​เขา​จนตาย​ตรงนี้​ ​แต่​เกรง​ว่า​คง​ถูก​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ตำหนิ​ไม่​กี่​ประโยค​เท่านั้น​ ​แม้แต่​การ​ลงโทษ​สักนิด​ก็​ไม่มี​ ​ต่อให้​ตาย​ก็​เป็นการ​ตาย​ที่​เสียเปล่า

​หรง​ไหว​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​กลับ​รู้สึก​ขัดตา​ ​เอ่ย​เย้ยหยัน​ ​“​อวี​้​อ๋อง​วางอำนาจ​บาตรใหญ่​นัก​ ​ถือว่า​เสด็จ​ปู่​ทรงโปรด​ปราน​เลย​ใช้​แส้​ฟาด​ใส่​ขุนนาง​ราชสำนัก​ต่อหน้า​คน​มากมาย​เช่นนี้​ ​ไม่รู้​ว่า​ใคร​ให้​สิทธิ์​นี้​กับ​เจ้า​กัน​”

​หรง​จิ​่น​เลิก​คิ้ว​เหลือบมอง​เขา​แวบ​หนึ่ง​ก่อน​ยิ้ม​เย็นชา​เอ่ย​ ​“​เจ้า​ก็​บอก​เอง​แล้ว​มิใช่​หรือว่า​ข้า​เป็น​คนโปรด​ของ​เสด็จ​พ่อ​ ​ย่อม​เป็น​เสด็จ​พ่อ​ให้​สิทธิ​นั้น​แก่​ข้า​อยู่​แล้ว​ ​เจ้า​ไม่พอใจ​หรือ​”

​หรง​ไหว​เผย​ความ​เกรี้ยว​โกรธ​พาด​ผ่าน​ดวงตา​ ​เขา​คิด​จะ​ตอกกลับ​แต่​ถูก​หรง​เหยี​่​ยน​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ปราม​ไว้​ก่อน​ ​มู่​ชิง​อี​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​หรง​จิ​่น​เดิน​ออกมา​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​ไม่​ควร​เสียมารยาท​ต่อหน้า​คน​มากมาย​ขนาด​นี้​ ​กลับ​ไป​ค่อย​ว่า​กัน​เถิด​”

​หรง​จิ​่น​แค่น​เสียง​เบา​แล้ว​ไม่สน​ใจ​หรง​ไหว​อีก

​หรง​เซ​วี​ยน​กลับ​เอ่ย​ถาม​อย่างแปลกใจ​ ​“​เหมือน​ที่พักอาศัย​ใน​หมู่บ้าน​นี้​จะ​ถล่ม​ไป​เจ็ด​แปด​ส่วน​ใน​สิบ​แล้ว​ ​แล้ว​เมื่อคืน​น้อง​เก้า​พัก​อยู่​ที่ไหน​กัน​”​ ​มู่​ชิง​อี​มอง​ผู้ว่าการ​ที่​ไร้​เรี่ยวแรง​ข้าง​กาย​หรง​ไหว​ด้วย​สีหน้า​เหมือน​จะ​ยิ้ม​แต่​ก็​ไม่​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​เรื่อง​นี้​…​คง​ต้อง​ขอบคุณ​ใต้เท้า​ ​ตระกูล​เจ้าสัว​เฉิน​เป็น​คนใน​ครอบครัว​ของ​ใต้เท้า​ ​เมื่อคืน​กระหม่อม​กับ​ท่าน​อ๋อง​ไป​พัก​ที่นั่น​หนึ่ง​คืน​ ​ซ้ำ​ยัง​ซื้อ​ข้าวสาร​อาหารแห้ง​มาจาก​เจ้าสัว​เฉิน​ไม่น้อย​ ​ท่าน​อ๋อง​อย่า​ลืม​คืนเงิน​จำนวน​นี้​ให้​จวน​อวี​้​อ๋อง​เล่า​ ​มิเช่นนั้น​…​หาก​วันหน้า​ท่าน​อ๋อง​ของ​เรา​อยาก​ซื้อ​อะไร​เกรง​ว่า​คงจะ​ลำบาก​แล้ว​”

​ผู้ว่าการ​ที่​ถูก​มู่​ชิง​อี​จับจ้อง​เช่นนั้น​ก็​อด​ตัวสั่น​สะท้าน​ไม่ได้​ ​เขา​คิดไม่ถึง​ว่า​หนุ่มน้อย​ข้าง​กาย​อวี​้​อ๋อง​จะ​มีสาย​ตา​ที่​เย็นยะเยือก​ได้มาก​ขนาด​นี้​ ​สายตา​ที่จับ​จ้อง​เขา​เย็นชา​อำมหิต​เสีย​กว่า​อวี​้​อ๋อง​ที่​อารมณ์​คุกรุ่น​เสียอีก

​“​มิ​…​มิบั​งอาจ​ ​คุณชาย​พูด​เรื่อง​น่าขัน​แล้ว​”​ ​ผู้ว่าการ​เอ่ย​อย่าง​กล้า​ๆ​ ​กลัว​ๆ​ ​ถึงแม้​เขา​จะ​เป็น​ขุนนาง​และ​กู้​หลิว​อวิ​๋น​เป็น​ประชาชน​ธรรมดา​ ​แต่​อย่า​ว่าแต่​สถานะ​หัวหน้า​ผู้ดูแล​ข้าง​กาย​อวี​้​อ๋อง​เลย​ ​เพราะ​ตอนนี้​แม้แต่​บ่าว​รับใช้​ธรรมดาๆ​ ​เขา​ยัง​ไม่​ควร​ล่วงเกิน​ด้วยซ้ำ

​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บาง​เอ่ย​ ​“​เหตุใด​พูดจา​น่าขัน​เช่นนั้น​เล่า​ ​เมื่อวาน​เจ้าสัว​เฉิน​ใจกล้า​ขาย​ข้าวสาร​อาหารแห้ง​ทั้งหมด​ให้​ข้า​กับ​ท่าน​อ๋อง​ใน​ราคา​ยี่สิบ​เหวิน​ต่อ​ลิตร​…​เจ้าสัว​เฉิน​ช่าง​หัว​พ่อค้า​นัก​ ​ไม่​แปลกใจ​ที่สามา​รถ​สร้าง​จวน​หรูหรา​เช่นนี้​ได้​”​ ​ระหว่าง​ที่​พูด​พวกเขา​ก็​เดิน​มาถึง​ประตู​จวน​ของ​ตระกูล​เฉิน​พอดี​ ​นับว่า​เป็น​จวน​ที่​ดี​ ​เทียบ​แล้ว​ไม่​ต่าง​จาก​จวน​เศรษฐี​ใน​เมืองหลวง​สัก​เท่าไร

​หรง​เหยี​่​ยน​มอง​มู่​ชิง​อี​แล้ว​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​หัวหน้า​ผู้ดูแล​กู้​วางใจ​เถิด​ ​เงิน​ที่​ใช้​ซื้อ​เสบียง​เหล่านั้น​ไปรา​ชสำ​นัก​ย่อม​คืน​ครบ​จำนวน​แน่นอน​ ​ข้า​ต้อง​ขอบคุณ​หัวหน้า​ผู้ดูแล​กู้​กับ​น้อง​เก้า​ที่​เป็น​ธุระ​ให้​ชาวบ้าน​เหล่านี้​”

​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“ต​วน​อ๋อง​ชม​กัน​เกินไป​แล้ว​ ​พวกเรา​ก็​แค่​ช่วย​เท่าที่​ช่วย​ได้​เท่านั้น​”

​ครั้น​เห็น​รอยยิ้ม​บาง​ของ​หนุ่มน้อย​ชุด​ขาว​ ​หรง​เหยี​่​ยน​ก็​ผุด​ความคิด​บางอย่าง​ขึ้น​มา​ ​หนุ่มน้อย​ตรงหน้า​หล่อเหลา​ซึ่ง​หา​เห็น​ได้​ยาก​มาก​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​บุคลิก​การ​วางตัว​เย็นชา​เช่นนี้​กลับ​ยิ่ง​หา​เห็น​ได้​ยาก​เข้าไป​ใหญ่​ ​สิ่ง​สำคัญ​กว่านั​้​นก​็​คือ​ถึงแม้​คำพูดคำจา​ของ​หนุ่มน้อย​ผู้​นี้​จะ​เย็นชา​ไป​บ้าง​แต่กลับ​รู้จัก​เห็นอกเห็นใจ​ชาวบ้าน​ ​หาก​ดึง​เข้า​เป็น​พวก​ได้​ ​วันหน้า​หนุ่มน้อย​ผู้​นี้​คง​อนาคต​ไกล​แน่นอน

เพียงแต่​น่าเสียดาย​…​ที่​ช้า​ไป​หนึ่ง​ก้าว ​หรง​เหยี​่​ยน​ลอบ​บ่น​เสียดาย​ใน​ใจ

​พอ​เข้า​จวน​ตระกูล​เฉิน​แล้ว​ ​มู่​ชิง​อีก​็​สั่ง​ให้​คน​ไป​เอา​ตัว​เจ้าสัว​เฉิน​มา

​“​ใต้เท้า​…​ใต้เท้า​ ​ท่าน​ต้อง​ให้ความเป็นธรรม​กับ​ข้า​!​”​ ​เจ้าสัว​เฉิน​ร้องเรียก​ผู้ว่าการ​พลาง​วิ่ง​พุ่ง​เข้ามา​โดย​ไม่​คิด​มอง​อะไร​สักนิด

​ครั้น​เห็น​ทุกคน​และ​ผู้ว่าการ​ที่​ร่าง​อาบ​ไป​ด้วย​เลือด​และ​ใบหน้า​ซีดเซียว​อย่างชัดเจน​แล้วก็​อด​ผงะ​ไป​ไม่ได้​ ​หรง​เซ​วี​ยน​และ​หรง​เหยี​่​ยน​นั่ง​บน​เก้าอี้​ตัวหลัก​ใน​โถง​ ​ถัด​ลงมา​มี​หรง​จิ​่น​และ​หรง​ไหว​นั่ง​ขนาบ​ข้าง​ซ้าย​ขวา​ ​ส่วน​ข้าง​กาย​หรง​จิ​่น​ยัง​มี​หนุ่มน้อย​ชุด​ขาว​ที่​กักขัง​คน​ทั้ง​ตระกูล​เขา​ไว้​ด้วย​ ​ทว่า​ใต้เท้า​ผู้ว่าการ​แห่ง​เมืองหลวง​บุตร​เขย​ของ​เขา​กลับ​ยืน​กลาง​โถง​ด้วย​ท่าที​กล้า​ๆ​ ​กลัว​ๆ​ ​โดย​ไม่มี​แม้แต่​ที่จะ​นั่ง​ด้วยซ้ำ

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท