หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 540 เลือดนองที่ว่าการเฟิ่งเทียน (2)

หวนคืนชะตาแค้น

ใน​ความจริง​เป็นไปได้​ที่จะ​มี​ความคิด​เช่นนี้​ ​เหตุผล​ส่วนใหญ่​เป็น​เพราะ​ทุกคน​ไม่ได้​ถือว่า​กู้​หลิว​อวิ​๋น​เป็น​อัครมหาเสนาบดี​โดย​สมบูรณ์​ ​มิเช่นนั้น​ ​ต่อให้​ไม่ใช่​กู้​หลิว​อวิ​๋น​ ​แต่​การ​ที่​อัครมหาเสนาบดี​ถูก​คนใน​ราชวงศ์​สังหาร​ภายใต้​การปกครอง​ของ​ฮ่องเต้​ก็​ไม่ใช่​เรื่องเล็ก​ ​แม้ว่า​จะ​ไม่​ลงมือ​ถึงขั้น​นั้น​ ​แต่​ก็​ไม่มีทาง​ที่จะ​ยุติ​ง่ายๆ​ ​เพียงแต่​ใน​สายตา​ของ​หรง​เหยี​่​ยน​และ​คนอื่นๆ​ ​แม้ว่า​พวกเขา​จะ​ยอมรับ​ใน​ความเก่งกาจ​ของ​กู้​หลิว​อวิ​๋น​ ​แต่กลับ​เห็น​ว่า​เขา​เป็น​คนที​่​ประจบประแจง​จนได้​รับ​ความ​เอ็นดู​มากกว่า​ผู้​ที่​เหมาะ​ที่จะ​เป็น​อัครมหาเสนาบดี​ชั้นสูง

หรง​จิ​่​นลูบ​คิ้ว​พลาง​เหลือบมอง​หรง​ฮ่า​วที​่​อยู่​ข้างล่าง​ ​กล่าว​ด้วย​ความ​เหลืออด​ว่า​ ​“​ไป​ถาม​ซิว​่า​คน​มากั​นครบ​แล้ว​หรือยัง​”​ ​การ​ได้ยิน​ข่าว​ชิง​ชิง​ถูก​ลอบสังหาร​กลางดึก​ทำให้​หรง​จิ​่น​ไม่พอใจ​เป็นอย่างมาก​ ​รู้สึก​แย่​ราวกับว่า​สมบัติ​ชิ้น​เดียว​ที่​ไม่มี​สิ่งใด​เทียบ​ได้ที่​เขา​ได้​ครอบครอง​เป็นเจ้าของ​และ​รัก​ยิ่งกว่า​ตัวเอง​เกือบจะ​พังทลาย​ ​ความจริง​แล้ว​การ​ที่​หรง​จิ​่น​ไม่ได้​ชักดาบ​ออกมา​ทันทีที่​ถึงที่​ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ก็​นับว่า​เขา​อดทน​มาก​แล้ว

เจี่ยง​ปิน​รับคำ​สั่ง​แล้ว​รีบ​ออก​ไปดู​ ​ท่าทาง​รวดเร็ว​ราวกับ​สายลม​จน​ดู​ไม่​ออก​เลย​ว่า​เป็น​ชาย​สูงอายุ

หลังจากนั้น​ไม่นาน​เจี่ยง​ปิน​ก็​กลับมา​รายงาน​ ​“​กราบทูล​ฝ่า​บาท​ ​มากั​นครบ​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​คน​เหล่านั้น​…​ถูก​ควบคุมตัว​อยู่​ด้านนอก​เพื่อ​รอคำ​สั่ง​”

“​ดีมาก​”​ ​หรง​จิ​่​นพ​ยัก​หน้า​อย่าง​พอใจ​ ​มอง​ไป​ยัง​ห้องโถง​อัน​กว้างขวาง​พลาง​กล่าวว่า​ ​“​ที่นี่​เล็ก​เกินไป​ ​ออก​ไป​คุย​ข้างนอก​ดีกว่า​ ​เอา​เสื้อคลุม​ให้​อัครมหาเสนาบดี​กู้ด​้วย​”​ ​แม้​ห้องโถง​ของ​ที่ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​กว้างขวาง​ต่อให้​ยืน​กัน​หลาย​สิบ​คน​ก็​ไม่​แออัด​ ​แต่​ไม่มี​ที่ว่าง​สำหรับ​คน​จำนวนมาก​ที่อยู่​ข้างนอก​ ​ดังนั้น​องค์​ชาย​เก้า​จึง​ไม่ถือสา​ที่จะ​ลด​สถานะ​เพื่อ​ออก​ไป​ข้างนอก

“​ไม่ต้อง​หรอก​”​ ​มู่​ชิง​อี​ยกมือ​ขึ้น​ห้าม​เจี่ยง​ปิน​ที่​กำลัง​รีบ​หันไป​หยิบ​เสื้อคลุม​ ​นาง​เพียงแค่​ขี้​หนาว​ใน​ฤดูหนาว​ ​แต่​ตอนนี้​กลางเดือน​สี่​แล้ว​หาก​ยัง​รู้สึก​หนาวเย็น​อยู่​ก็​คง​ต้อง​ไป​พบ​หมอก​ระ​มัง​ ​หรง​จิ​่​นม​อง​ดู​นาง​อย่างละเอียด​ ​ตรวจดู​ให้​แน่ใจ​ว่า​สีหน้า​แดงก่ำ​ของ​นาง​ไม่ได้​มาจาก​ความ​หนาว​ ​จากนั้น​ถึง​ได้​โบกมือ​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​พลาง​จับมือ​มู่​ชิง​อี​เดิน​ออก​ไป​ด้านนอก

เมื่อ​เห็น​เขา​ลุกขึ้น​ ​หรง​เหยี​่​ยน​กับ​หรง​ซิง​ก็​ลุกขึ้น​ตาม​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​หลังจากที่​หรง​จิ​่น​เดินลง​บันได​มาก​ลับ​ไป​หยุด​ยืน​อยู่​ข้าง​หรง​ฮ่าว​ ​ภายใต้​สายตา​ประหลาดใจ​ของ​ทั้ง​สาม​คน​ ​หรง​ฮ่าว​พลัน​ถูก​เตะ​ออกจาก​ห้องโถง

“​ท่าน​!​”​ ​ในที่สุด​หรง​ซิง​ก็​ไม่​สามารถ​ระงับ​ความโกรธ​ได้​อีกต่อไป

“​น้อง​สิบ​”​ ​หรง​เหยี​่​ยน​รีบ​คว้า​หรง​ซิง​ที่​ท่าทาง​เดือดดาล​พลาง​ส่ายหน้า​ ​หรง​จิ​่น​หันมา​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​เรียบ​เฉย​เอ่ย​ถาม​ ​“​ทำไม​”

หรง​ซิง​กัดฟัน​เอ่ย​ ​“​แม้ว่า​หรง​ฮ่า​วจะ​ทำผิด​แต่​ก็​เป็น​หลาน​แท้ๆ​ ​ของ​ฝ่า​บาท​ ​ฝ่า​บาท​ทำ​เช่นนี้​หมายความว่า​อย่างไร​”

หรง​จิ​่น​แสยะ​ยิ้ม​ ​“​ก็​ยัง​ไม่​ตาย​ไม่ใช่​หรือ​ ​รอ​เขา​ตาย​ก่อน​เจ้า​ค่อย​มา​โวยวาย​กับ​ข้า​ ​อีก​อย่าง​ ​พ่อ​แท้ๆ​ ​ยัง​ไม่​เดือดร้อน​เลย​ ​เจ้า​จะ​เดือดร้อน​ไป​ทำไม​”

“​ฝ่า​บาท​”​ ​หรง​เหยี​่​ยน​ก้าว​ขึ้นไป​บัง​หรง​ซิง​พลาง​กล่าว​ด้วย​ความเคารพ​ ​“​น้อง​สิบ​อารมณ์ร้อน​ ​ขอ​ฝ่า​บาท​โปรด​ประทาน​อภัย​ด้วย​”

“​เหอะ​!​”​ ​หรง​จิ​่น​เค​่น​เสียง​แล้ว​จับมือ​มู่​ชิง​อี​เดิน​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​ท่าทาง​หยิ่งยโส​ทำให้​หรง​ซิง​กระทืบเท้า​ด้วย​ความโกรธ​ ​“​พี่​สี่​ ​ท่าน​ดู​สิ​…​”

“​ฉึก​”​ ​อาวุธ​ลับ​ที่​มอง​แทบ​ไม่เห็น​ผ่านหน้า​ของ​หรง​ซิง​อย่าง​ฉิวเฉียด​ ​หรง​ซิง​รู้สึก​เย็นวาบ​บน​ใบหน้า​ ​ยกมือ​ขึ้น​เช็ด​ก็​พบ​ว่า​มี​เลือด​สีแดง​ ​หรง​จิ​่​นที​่​เดิน​ไป​ถึง​หน้า​ประตู​แล้ว​หันกลับ​มา​ ​มอง​เขา​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​“​หรง​ซิง​ ​ควบคุม​ปาก​ตัวเอง​ให้​ดี​ ​มิเช่นนั้น​ข้า​จะ​ทำให้​อ้า​ปาก​พูด​ไม่ได้​อีก​!​”

ใบหน้า​ของ​หรง​ซิง​ซีด​ขาว​ลง​ทันที

ด้านนอก​ ​บรรดา​ผู้มีอำนาจ​ทั่วทั้ง​แคว้น​เย​่ว​์​ยืน​รอ​อยู่​ที่​ลาน​กว้าง​ด้วย​ความ​เป็นกังวล​และ​สับสน​ ​หลังจากที่​บรรดา​เด็กหนุ่ม​ที่​เห็นได้ชัด​ว่า​เป็นคุณ​ชาย​ของ​แต่ละ​จวน​อ๋อง​ถูก​ข้าหลวง​ของ​ที่ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ควบคุมตัว​ให้​คุกเข่า​อยู่​หน้า​ประตู​ ​สีหน้า​ของ​ทุกคน​ก็​เคร่งขรึม​มากกว่า​เดิม​ ​สิ่ง​ที่​ทำให้​คน​ประหลาดใจ​ยิ่งกว่า​ก็​คือ​หนึ่ง​ใน​นั้น​มี​ฟู่​เอิน​โหว​หรง​ไหว​ที่​ถูก​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​กักบริเวณ​มา​เป็นเวลา​นาน​แล้ว​อยู่​ใน​นั้น​ด้วย​ ​ใน​ชั่วขณะหนึ่ง​ทุกคน​แอบ​คาดเดา​ใน​ใจ​ว่า​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​คืนนี้​อาจ​ไม่​ง่าย

ในขณะที่​ทุกคน​กำลัง​ตก​อยู่​ใน​ความ​มึนงง​ ​ประตู​ที่​เดิมที​ปิด​สนิท​อยู่​ก็​ถูก​เปิด​ออก​อย่างกะทันหัน​จาก​ด้านใน​พร้อม​วัตถุ​สีดำ​พุ่ง​ออกมา​ ​ทุกคน​พลัน​ตกใจ​พากั​นรี​บถอย​หนี​ออก​เป็น​วงกว้าง​ ​เมื่อ​สิ่ง​นั้น​ตกลง​พื้น​พร้อมกับ​เสียงร้อง​ ​ทุกคน​จึง​มองเห็น​ชัดเจน​ว่าที่​แท้​นั่น​คือ​หรง​ฮ่าว​คุณชาย​สอง​จวนต​วน​อ๋อง

“​น้อง​สอง​ ​เจ้า​อยู่​ที่นี่​ได้​อย่างไร​”​ ต​วน​อ๋อง​ซื่อ​จื่อ​รีบ​เข้าไป​ถาม

หรง​ฮ่าว​ถูก​เตะ​ออกมา​อย่างกะทันหัน​ ​เจ็บปวด​จน​ไม่​สามารถ​พูด​ออกมา​ได้​อยู่นาน​ ​เพียงแต่​จ้องมองต​วน​อ๋อง​ซื่อ​จื่อ​ที่อยู่​ตรงหน้า​ด้วย​ตาเขม​็ง

“​มากั​นครบ​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”​ ​ด้านใน​ ​หรง​จิ​่​นกั​บมู​่​ชิง​อี​เดิน​เรียง​กัน​ออกมา​ ​คน​หนึ่ง​สวม​ชุด​ขาว​คน​หนึ่ง​สวม​ชุด​ดำ​ ​รูปร่างหน้าตา​งดงาม​เหมือนกัน​แต่​ให้ความรู้​สึก​ที่​แตกต่าง​กัน​สิ้นเชิง​ ​หรง​จิ​่​นที​่​สวม​ชุด​ดำ​เป็น​เหมือน​การจุ​ติ​ใน​คืน​อัน​มืดมิด​ ​ให้ความรู้​สึก​เย็นชา​ผสม​กลิ่นคาว​เลือด​ ​ส่วน​กู้​หลิว​อวิ​๋น​ใน​ชุด​ขาว​ทำให้​คน​รู้สึก​ถึง​ความอ่อนโยน​พลอย​อบอุ่น​ใน​หัวใจ​ ​สะอาด​และสง่า​งาม​เหมือน​สายลม​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่​พัดผ่าน​ใบหน้า​ ​แม้ว่า​ทั้งสอง​คน​จะ​แตกต่าง​กัน​แต่​เมื่อยื​นอยู​่​ด้วยกัน​กลับ​ทำให้​คน​รู้สึก​ถึง​ความกลมกลืน​และ​เหมาะสม​อย่าง​น่าประหลาด​ใจ​ ​ราวกับ​แสงสว่าง​กับ​ความมืด​ ​กลางวัน​กับ​กลางคืน​ ​ดวงอาทิตย์​อัน​อบอุ่น​กับ​ดวงจันทร์​อัน​หนาวเหน็บ​ ​ดูเหมือน​จะ​แตกต่าง​กัน​อย่าง​สิ้นเชิง​แต่​ไม่​สามารถ​ขาด​ใคร​คนใดคนหนึ่ง​ไป​ได้

“​ถวายบังคม​ฝ่า​บาท​!​”​ ​ทุกคน​กล่าว​ขึ้น​อย่าง​พร้อมเพรียง

ข้างใน​มี​องครักษ์​สอง​สาม​คน​ยก​เก้าอี้​สอง​ตัว​ออกมา​ ​ตัว​หนึ่ง​วาง​อยู่​บน​ขั้นบันได​นอก​ห้องโถง​ที่ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ ​อีก​ตัว​หนึ่ง​วาง​ไว้​ทางขวา​ใน​ตำแหน่ง​ที่ต่ำ​ลงมา​หนึ่ง​ขั้น

หรง​จิ​่​นนั​่ง​ลง​อย่างเงียบเชียบ​ ​ขมวดคิ้ว​อย่าง​ไม่พอใจ​เล็กน้อย​เมื่อ​เห็น​มู่​ชิง​อีนั​่ง​ใน​ตำแหน่ง​ที่ต่ำ​กว่า​ตัวเอง​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่พอใจ​ที่​ชิง​ชิง​ไม่​สามารถ​นั่ง​ข้าง​เขา​ได้​ ​แต่​ก็​รู้​ว่านี​่​ต้อง​เป็นความ​ตั้งใจ​ของ​ชิง​ชิง​จึง​ไม่ได้​พูด​อะไร

“​ลุกขึ้น​เถิด​”​ ​หลังจาก​ผ่าน​ไป​นาน​หรง​จิ​่​นก​็​เปิดปาก​พูด​ขึ้น

ทุกคน​แอบ​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​“​ขอบ​พระทัย​ฝ่า​บาท​”​ ​กล่าว​ขอบ​พระทัย​พลาง​ลุกขึ้น

หรง​จิ​่​นพิง​พนักเก้าอี้​ ​เคาะ​นิ้ว​เรียว​ของ​เขา​บน​ที่​วาง​แขน​เก้าอี้​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​กล่าว​อย่าง​สบาย​ๆ​ ​ว่า​ ​“​รู้​หรือไม่​ว่า​เหตุใด​จึง​ให้​พวก​เจ้า​มาที​่​นี่​”

ทุกคน​มองหน้า​กัน​ ​กล่าว​พร้อมกัน​ว่า​ ​“​ขอ​ฝ่า​บาท​โปรด​ชี้แจง​ด้วย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

หรง​จิ​่น​แสยะ​ยิ้ม​ ​“​หรง​ฮ่าว​ ​บอก​ไป​สิว​่า​เจ้า​ทำ​อะไร​ลง​ไป​”

ในขณะนี้​หรง​ฮ่า​วนับ​ว่า​อาการ​ดีขึ้น​มาบ​้าง​ ​เขา​รู้​ว่า​เหตุการณ์​ไม่​ค่อย​ดีนัก​เมื่อ​เห็น​สถานการณ์​ด้านนอก​ประตู​เลย​ส่งสายตา​ไป​ยัง​หรง​เหยี​่​ยน​เพื่อ​ขอความช่วยเหลือ​ ​หรง​เหยี​่​ยน​ขมวดคิ้ว​พลาง​ส่ายหน้า​อย่าง​หมดปัญญา​ ​หรง​ฮ่าว​พลัน​หน้าซีด​ ​รู้​ได้​ทันที​ว่า​บิดา​อาจจะ​ทอดทิ้ง​ตน​แล้ว​ ​จึง​ได้​รู้สึก​ลุกลน​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ฝ่า​บาท​…​กระหม่อม​ ​กระหม่อม​ถูก​ใส่ความ​…​กระหม่อม​ถูก​ใส่ความ​!​”

“​ดี​เสีย​จริง​!​”​ ​หรง​จิ​่น​จับจ้อง​หรง​ฮ่า​วอ​ย่าง​เย็นชา​ ​สอง​พยางค์​นี้​ดูเหมือน​จะ​ถูก​เค้น​ออกมา​รอด​ไรฟัน​ของ​เขา​ ​จ้อง​หรง​ฮ่า​วอ​ยู่​นาน​ก่อน​จะ​ถาม​ว่า​ ​“​หมายความว่า​…​เจ้า​ไม่ได้​ลอบสังหาร​อัครมหาเสนาบดี​?​”

หรง​ฮ่าว​พยักหน้า​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​พลาง​ตอบ​ ​“​กระหม่อม​ถูก​ใส่ความ​…​กระหม่อม​ไม่ได้​เป็น​คน​ทำ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​…​”

“​เช่นนั้น​เสื้อผ้า​ที่​เจ้า​สวมใส่​จะ​อธิบาย​ว่า​อย่างไร​ ​คุณชาย​สอง​จวนต​วน​อ๋อง​พา​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​ที่​สวม​ชุด​ดำ​เดินเล่น​รอบ​ๆ​ ​เมืองหลวง​ตอนกลางคืน​?​ ​ตง​ฟังซ​วี่​ ​เจ้า​ออกมา​เดี๋ยวนี้​!​ ​”​ ​หรง​จิ​่​นก​ล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​เย็นชา

ใน​ฝูงชน​ ​ตง​ฟังซ​วี่​ที่​เดิมที​ยืน​ดู​ละคร​อย่าง​สบาย​อารมณ์​สีหน้า​เปลี่ยน​ทันที​ ​เดิน​ออกมา​ด้วย​สีหน้า​ขมขื่น​พลาง​คุกเข่า​ลง​อย่างว่า​ง่าย​ ​“​กระหม่อม​ตง​ฟังซ​วี่​คำนับ​ฝ่า​บาท​!​”

หรง​จิ​่น​เลิก​คิ้ว​ถาม​ ​“​อัคร​เสนาบดี​ของ​ข้า​ถูก​ล้อม​โดย​มือสังหาร​หลาย​สิบ​คนใน​เมืองหลวง​ ​เรื่อง​นี้​…​กองทัพ​อวี​่​หลิน​ของ​เจ้า​จะ​อธิบาย​กับ​ข้า​อย่างไร​”​ ​ตง​ฟังซ​วี่​รู้สึก​ลำบากใจ​ ​เขา​จะ​ไปรู​้​ได้​อย่างไร​ว่า​บรรดา​องค์​ชาย​กับ​หลาน​คนอื่น​ใน​เชื้อพระวงศ์​เกิด​บ้า​อะไร​ขึ้น​มาถึง​ได้​กล้า​ลอบสังหาร​อัครมหาเสนาบดี​คน​ปัจจุบัน​ใน​เมืองหลวง​ ​แม้ว่า​กองทัพ​อวี​่​หลิน​จะ​มีอำนาจ​มาก​ใน​เขตเมือง​หลวง​ ​แต่​บรรดา​องค์​ชาย​และ​บรรดา​หลาน​ๆ​ ​เหล่านี้​ก็​เป็น​คนใน​ราชวงศ์​ ​มักจะ​มีสิท​ธิ​พิเศษ​บางอย่าง​ที่​คนอื่นๆ​ ​ไม่มี​เสมอ​ ​โดยเฉพาะ​ใน​ครั้งนี้​ ​ถึงขั้น​มี​คน​ลอบสังหาร​กู้​หลิว​อวิ​๋น​แต่​กองทัพ​อวี​่​หลิน​กลับ​ไม่ได้​รับ​ข่าว​ใด​เลย

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท