บทที่ 12 ดินแดนแห่งนักปราชญ์
บทที่ 12 ดินแดนแห่งนักปราชญ์
ซูโย่วอี๋ มักจะออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลาสองชั่วโมงเพื่อให้ได้เม็ดช็อกโกแลตสามเม็ด วิธีรับเม็ดช็อกโกแลตนั้นง่ายมากจนสุนัขจิ้งจอกไม่ยอมบอกเธอ นี่มันกำลังฆ่าเธอทางอ้อมหรือยังไง
ซูโย่วอี๋สั่งให้ลงชื่อเข้าใช้วันนี้ด้วยความโกรธและรับช็อคโกแลตทันทีหนึ่งเม็ด
สุนัขจิ้งจอกนั่งอยู่อีกฝั่งของโซฟาและแสร้งทำเป็นดูโทรทัศน์ แต่ถึงอย่างนั้นดวงตาสีน้ำเงินเข้มของมันก็เหลือบมองเธอเป็นครั้งคราว
ปุ่มที่สอง [การจับฉลาก]
เธอคิดว่ามันเป็นระบบจับฉลากธรรมดา ๆ แต่เธอก็ต้องตกใจเมื่อคลิกเข้ามาแล้วพบว่ารางวัลนั้นมันน่าเหลือเชื่อ
รางวัลแบ่งออกเป็นสี่ส่วน แต่ละส่วนคิดเป็นหนึ่งในสี่ของพื้นที่ นั่นคือ ความน่าจะเป็นในรับรางวัลมีค่าเท่ากัน ได้แก่ [พัฒนาพรสวรรค์] [เพิ่มทักษะ] [ไอเทมพิเศษ] และ[การสนับสนุน]
มีการแบ่งย่อยมากมายในแต่ละตัวเลือก ตัวอย่างเช่น ใน [เพิ่มทักษะ] มีทักษะการร้องเพลงและการเต้น รวมถึงทักษะที่ค่อนข้างไร้ประโยชน์ เช่น การซ่อมจักรยานและการทำไอศกรีม และยังมีทักษะแปลก ๆ อีกเพียบ ส่วนจะได้อะไรนั้นขึ้นอยู่กับโชค
[พัฒนาพรสวรรค์] พรสวรรค์เป็นสิ่งที่ได้รับมาจากธรรมชาติตั้งแต่กำเนิด
ซูโย่วอี๋ค้นกองรางวัลประเภทร้องเพลงในหัวข้อนั้น เธอมีพรสวรรค์ในด้านนี้ ซึ่งบางคนไม่สามารถร้องเสียงสูงหรือต่ำได้ เพราะช่วงเสียงมีจำกัด
[ความยืดหยุ่นของร่างกาย 100%] ก่อนหน้านี้ก็เป็นพรสวรรค์เช่นกัน
[ไอเทมพิเศษ] เป็นของที่ซื้อโดยเม็ดช็อกโกแลต ส่วนใหญ่ที่อยู่ในตัวเลือกนี้ มียาหลายชนิด ทั้งยาเสริมความงาม ยาอายุวัฒนะหลายกุมาร ยานำโชคหนึ่งวัน และแน่นอนทั้งหมดจ่ายด้วยเม็ดช็อคโกแลต
พวกมันล้วนเป็นของดี แม้จะต้องจับสลากเพื่อสุ่มเลือก ก็ไม่ส่งผลต่อเธอมากนัก ยังไงก็มีโอกาสของดีมาอยู่ในครอบครอง
เธอมองไปที่ปุ่มสองปุ่มที่ติดกัน ซึ่งน่าประหลาดใจมาก อะไรอยู่ในปุ่มที่เหลืออีกกัน?
ซูโย่วอี๋กำลังจะกดปุ่มเพื่อตรวจสอบ ทันใดนั้นสุนัขจิ้งจอกก็พูดขึ้นมาว่า [ซู่จู่ คุณเหนื่อยไหม ฉันเห็นคุณดูมันมานานแล้ว? ไม่พักสักหน่อยล่ะ]
หลังจากผูกระบบมาเป็นเวลานาน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์กระวนกระวายถึงขนาดนี้ เธอจึงคลิกปุ่มสุดท้ายทันที
[ร้องเรียน: เมื่อระบบไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือทำอะไรนอกเหนือหน้าที่ ขอแนะนำให้ซู่จู่รายงานผ่านปุ่มร้องเรียน อัตราการร้องเรียนเชื่อมโยงกับประสิทธิภาพของระบบในเดือนปัจจุบัน ซู่จู่ควรพิจารณาให้ดี]
เมื่อเห็นอย่างนั้นใบหน้าของซูโย่วอี๋ก็ปรากฏรอยยิ้มที่ทำให้สุนัขจิ้งจอกรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
[ซู…ซู่จู่ ได้โปรดอย่ามองแบบนั้น ถ้าคุณมีอะไรก็บอกฉันตรง ๆ]
มือของซูโย่วอี๋ทำท่าจะคลิกปุ่มร้องเรียน สุนัขจิ้งจอกตกใจมาก มันปัดหางหนาของมัน มันพยายามผลักมือของเธอออกไป [ซู่จู่ ถ้าคุณมีอะไรบอกฉัน อย่าหุนหันพลันแล่น]
เดิมทีซูโย่วอี๋แค่อยากแกล้งสุนัขจิ้งจอก ไม่ได้อยากจะเรียกร้องจริง ๆ “เอาล่ะ งั้นก็ต้องแนะนำ [ถุงของขวัญสำหรับสมาชิกใหม่]”
ขาสุนัขจิ้งจอกก้าวไปข้างหน้า [ฉันลืมบอกไปว่า [ถุงของขวัญสำหรับสมาชิกใหม่] เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับซู่จู่และสามารถได้รับโอกาสในการเข้าสู่อาณาจักรลับของระบบ]
“อาณาจักรลับ?” ซูโย่วอี๋ถามอย่างสงสัย
สุนัขจิ้งจอกดูเคร่งขรึมและพูดว่า [ใช่ อาณาจักรลับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในระบบ แม้แต่ผู้จัดการระบบทั้งหมดยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป ฉันไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น คุณทำได้เพียงเข้าไปตรวจสอบด้วยตัวคุณเองเท่านั้น]
“ไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้อง?”
“ไม่เลย” เมื่อเห็นว่าสุนัขจิ้งจอกเริ่มเล่นตลกอีกครั้ง ซูโย่วอี๋ก็ยกมือขึ้นและเตรียมบ่น
“บอกฉันมา” ขนจิ้งจอกพุ่งออกมาหยุดเธอในพริบตา [ฉันเคยติดต่อกับระบบอื่นมาก่อนบ้าง ซู่จู่บางคนไม่ได้รับอะไรเลยหลังจากเข้าสู่อาณาจักรลับ บางคนก็ระบบจบลง และโอกาสเพียงอย่างเดียวที่จะเข้าสู่อาณาจักรลับนี้คือ [ถุงของขวัญสำหรับสมาชิกใหม่] และบางรางวัลที่ได้รับก็ไม่ใช่ของดี แน่นอน ข้างในนั้นไม่ได้มีแต่ความสำเร็จ]
[แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวของซู่จู่ และเราไม่สามารถเปิดเผยได้]
ซูโย่วอี๋พยักหน้าอย่างครุ่นคิด “[ถุงของขวัญสำหรับสมาชิกใหม่] ของฉันจะหมดอายุเมื่อไหร่”
“คืนนี้สองทุ่ม”
ตอนนี้นาฬิกาชี้ไปที่หกโมงครึ่ง และเธอเหลือเวลาอีกประมาณสามชั่วโมง
“รีบพาฉันไปเดี๋ยวนี้”
เสียงของซูโย่วอี๋ต่ำลง และเธอรู้สึกเพียงว่าดวงตาของเธอกะพริบ จากนั้นก็อยู่ในพื้นที่ของระบบแล้ว มันเป็นพื้นที่สีขาวโพลน มีเพียงทางเดินที่ทอดยาว
ท่ามกลางความเงียบ
ซูโย่วอี๋เดินตามสุนัขจิ้งจอกอย่างระมัดระวัง “คุณอยู่ในสถานที่แบบนี้ทุกวันหรือเปล่า”
เสียงของสุนัขจิ้งจอกอย่างไม่ใส่ใจ “ใช่”
ซูโย่วอี๋อยู่ในอารมณ์ที่ซับซ้อน แม้ว่าสุนัขจิ้งจอกจะไม่ใช่มนุษย์ แต่สถานที่แห่งนี้ก็ดูเหี่ยวเฉา สถานที่เช่นนี้มันว่างเปล่าเกินไป
“ในอนาคต คุณสามารถดูโทรทัศน์ได้หรือนอนบนโซฟาได้เท่าที่ต้องการเลยนะ”
สุนัขจิ้งจอกมองกลับมาที่เธออย่างไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอย่างไร
“ถึงแล้ว”
ประตูทองสัมฤทธิ์สูงจนมองไม่เห็นด้านบนปรากฏอยู่ตรงหน้า มันแกะสลักด้วยลวดลายประณีต และมีคำว่า ‘อาณาจักรลับ’ สลักไว้
ห่างออกไปไม่กี่เมตร สุนัขจิ้งจอกก็หยุดและพูดว่า [ฉันเข้าไปใกล้ไม่ได้ คุณต้องเดินต่อไปเอง]
ซูโย่วอี๋ก้าวไปข้างหน้า
เธอถอนหายใจออกมาในทุกย่างก้าว ซึ่งทำให้เธอเคร่งเครียดโดยไร้สาเหตุ
ที่หน้าประตู ซูโย่วอี๋รู้สึกกดดันจนเกือบจะร้องไห้ออกมา
ด้วยมือที่สั่นเทา เธอผลักประตูเปิดออกและก้าวไปข้างหน้า
ที่นอกประตู สุนัขจิ้งจอกมองไปที่ประตูด้วยท่าทางกังวล มันไม่ก้าวไปไหนจากที่ที่มันยืนอยู่เลยแม้แต่น้อย
ภายในประตูเงียบสงบ การถอนหายใจก็หายไป
ที่ทางเข้า มีดอกไอริสบานสะพรั่ง และเหล่าผีเสื้อ หญ้าพลิ้วปลิวไสว และมีกลิ่นหอมจาง ๆ จากระยะไกล มีเนินหินสูงต่ำ มีหุ่นยนต์วิ่งผ่านดูยุ่งเหยิง
ซูโย่วอี๋ไม่ลืมว่าเธอกำลังมองหาถุงของขวัญใบใหญ่ หรือมันจะซ่อนอยู่ในหญ้า?
เธอเดินตรงเข้าไปข้างใน ทันใดนั้นก็มีเสียงสดใสเหมือนระฆังดังขึ้น
[ดินแดนแห่งนักปราชญ์เต็มไปด้วยโอกาส]
[เดินหน้าเท่านั้น ห้ามถอยหลัง]
[เวลาที่เหลือ: 00:59:54]
ซูโย่วอี๋มองไปยังคำที่ปรากฏขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ลดลงเรื่อย ๆ ความรู้สึกรีบร้อนของเธอก็เกิดขึ้นเอง
ไม่แปลกใจเลยที่บางคนจะกลับมามือเปล่า ตอนนี้เธอยังสับสนเกี่ยวกับถุงของขวัญที่ว่านั่นอยู่เลย
ไปดูดีกว่า…
เมื่อเดินเข้าไปในสนามหญ้า ซูโย่วอี๋ก็ค่อย ๆ เดินและสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างระมัดระวัง
หินที่เธอเพิ่งเห็นไม่ใช่หิน แต่เป็นป้ายหลุมฝังศพ
หุ่นยนต์พวกนั้นกำลังกวาดฝุ่นและถอนวัชพืชรอบ ๆ หลุมฝังศพ
หุ่นยนต์ต้องทำความสะอาดทุ่งหญ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุดนานแค่ไหนแล้ว?
ซูโย่วอี๋มองไปที่หลุมศพแรก และคนที่ตายคือศากยมุนี หกร้อยยี่สิบสามถึงห้าร้อยสี่สิบสี่ปีก่อนคริสตกาล
…หลุมศพผู้ก่อตั้งพระพุทธศาสนา
พระศพของพระศากยมุนีอยู่ในสุสานนี่เหรอ?
เมื่อหลายพันปีก่อน?
นี่มันไร้สาระเกินไป
ซูโย่วอี๋ยืนอยู่หน้าหลุมฝังศพและมองอยู่พักหนึ่ง จู่ ๆ ถุงของขวัญที่ควรจะเป็นวัตถุ หรือกล่องสี่เหลี่ยมสีแดงผูกโบว์กลับปรากฏขึ้นในใจของเธอ